หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม
ฟ.ฟัน
พอดีวันนี้หลิงหลิงมีนัดกับหมอฟัน..เลยทำให้นึกขึ้นมาได้ว่าติดค้างเรื่องราวเกี่ยวกับฟันที่คุณพ่อมือใหม่บอกว่าช่วยมาเล่าสู่กันฟังบ้าง บางทีอาจจะมีประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นบ้าง...
เพราะฟันหน้าบน 4ซี่ของเพ่ยเพ่ย เริ่มมีคราบเหลืองๆจับจนสังเกตุได้ชัดเมื่ออายุราว 1.4ปี เอาเล็บสะกิดก็สามารถหลุดออกมาได้บ้าง ก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นคราบอาหาร (ขี้ฟัน) ก้เลยไม่ได้เอะใจอะไรกันมาก แต่คุณป้าของเพ่ยเพ่ยทนไม่ได้ แนะให้ไปหาคุณหมออยู่เนืองๆ แต่เราก็ยังไม่ได้พากันไปหาหมอสักที จนวันหนึ่งได้ผ่านคลีนิคฟันที่เคยมีคนแนะนำ เลยแวะเข้าไปค่ะ คุณหมอดูเสร็จก็บอกว่าเป็นคราบขี้ฟันครับ (เห็นมั๊ยล่ะ) ให้เอาผ้ากอสพันนิ้วแม่แล้วถูๆก็ออกครับ หมอไม่คิดเงินด้วย กลับบ้านแล้วก็ทำตามที่คุณหมอแนะนำ แต่ทุกครั้งที่ทำ เพ่ยจะร้องเสียงดังเลย แล้วคราบมันก็ไม่หลุดออกมาด้วยสิ !!
มีโอกาสแวะไปคลีนิคแห่งที่ 2 คุณหมอตรวจแล้วบอกว่า..น้องฟันผุค่ะแม่ อ้าว!เราก็คุ้นกับการที่ฟันผุจะต้องสีดำไง ใช่หรือหมอ แล้วทำไงดีคะ หมอให้แวะมาอีกครั้งเพื่อให้หมออีกท่านดู แล้วก็ให้เอาคอตตอลบัทชุบน้ำยาบ้วนปากเด็กถูทำความสะอาดไปก่อน เพื่อเสริมฟลูออไรด์
เพื่อความสบายใจและชัวร์ ไปคลีนิคที่ใหญ่ขึ้น เป็นแห่งที่3 หมอตรวจแล้วบอกว่าอืม..ไม่น่าจะใช่ฟันผุค่ะ แต่เกิดจากการทานฟลูออไรด์มากไป ทำให้ฟันเหลืองเป็นคราบแบบที่เห็น เอางี้มาอีกครั้ง จะนัดหมอเด็กเฉพาะให้เลย
สัปดาห์ต่อมา ย้อนกลับไปที่คลีนิคเดิมอีกครั้ง เพื่อพบหมอเด็กเฉพาะ เพราะใจชื้นแล้วว่าลูกอาจจะฟันไม่ผุ ผลตรวจบอกว่ายืนยัน 100% ผุแน่นอนค่ะ โอยสงสารเพ่ยเพ่ยจัง 1.4ปี ฟันผุ 4ซี่เลย ทำไงดีคะหมอ หมอแนะนำว่าทำได้ 2 วิธี คือ1.ขูดที่ผุออกแล้วอุด แต่จะไม่แข็งแรง หรือ2. ครอบฟันเหล็ก ที่เราจะเห็นกันเป็นสีเงินวาวๆ และ 3. ทำเหมือนข้อสอง แต่เพื่อความสวยงาม จะเจาะโลหะเงินวาวๆด้านหน้าออกและอุดด้วยสารสีขาวให้ ทั้งนี้โดยมีเงื่อนไขว่า วิธีที่1 ต้องฉีดยาชาและสามารถทำได้เพียงครั้งละ 1-2 ซี่เท่านั้น หมายถึงต้องมาทำหลายครั้งและทุกครั้งก็ต้องจับมัดไว้ด้วย เพื่อป้องกันการดิ้น โอๆๆๆๆ...ส่วนวิธีที่2และ3 จะทำเพียงครั้งเดียว แต่ต้องวางยาสลบ ส่วนเรื่องความเสี่ยง..ไม่รับประกัน แต่จากประสบการณ์หมอก็ยังไม่เคยเจอปัญหาค่ะ....อึ้งค่ะ
กลับบ้านเปิดเวป..ค้นๆๆๆไปเรื่อยๆจนเจอโรงพยาบาลดังแห่งหนึ่ง คุณหมอเด็กเฉพาะ ประสบการณ์มากกว่า20 ปี เลยชวนพ่อมือใหม่ไปลุยกัน..คำตอบของหมอก็คือ วิธีที่1และ3 ทำไมได้ค่ะ ต้องวิธีที่ 2เท่านั้น และไม่รับประกันความเสี่ยงเช่นกัน แต่คุณหมอก็ย้ำให้มั่นใจว่ายังไม่เคยเกิดเคส ค่าใช่จ่ายเบ็ดเสร็จเจ็ดหมื่นกว่า ได้แต่มองตากันปริบๆ ค่ารักษายังพอทน แต่เรื่องความเสี่ยงในการวางยาเด็กวัย 1.6 ปี
พ่อมือใหม่พยายามยื้อเวลาเพราะเห็นว่าลูกยังเล้กเกินไป ไม่อยากเสี่ยง เพียรพาลูกไปหาคุณหมอบ่อยๆเพื่อดูความคืบหน้าของฟันที่ผุ จนคุณหมอบอกว่า ถ้าไม่ครอบฟัน ไม่ต้องมานะคะ ใจร้ายจริงๆ ไม่เป็นลูกหมอบ้างก็แล้วไป (แอบคิด)
กลับมาเริ่มต้นใหม่ เอาไงดี..ลองอีกสักครั้ง ไปอีกโรงพยาบาล นัดคุณหมอฟันเด็กเฉพาะ..ก็บอกหมอไปเลยว่าจะพาลูกมาครอบฟันค่ะ คุณหมอตรวจราวสัก 5 นาทีแล้วบอกว่าฟันผุมากค่ะ แต่ไม่ต้องครอบ !! หมายความว่าไม่ต้องวางยาสลบ !! เหตุผลเพราะเป็นเพียงการผุภายนอก ไม่ทะลุถึงเนื้อใน เหมือนกับเราเป็นแผลที่ผิวหนังเช่นนั้น แต่ต่างกันที่แผลอันนี้จะไม่หาย แต่เราสามารถประคองอาการได้ ดดยการหมั่นดูแลอย่างถูกต้อง และเคลือบฟลูออไรด์อย่างเข้มข้นทุก 4-6เดือน หากไม่มีการผุเพิ่มก็รอจนฟันน้ำนมนี้หลุดไปเอง แต่ถ้าผุเพิ่มก็วางแผนการรักษากันต่อไป...
เลยเป็นเรื่องเตือนใจจากคุณพ่อมือใหม่เลยค่ะว่า
ใครว่าลูกทานแต่นมแม่ฟันไม่ผุ..ไม่ใช่เรื่องจริง
เวลาจะหาคุณหมอ ควรหาคุณหมอเฉพาะด้านจริงๆ และแยกด้วยว่าเป็นหมอเด็กกับหมอผู้ใหญ่
หากเป็นกรณีต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อการตัดสินใจและมีความเสี่ยงร่วมอยู่ด้วย..ควรจะมีการปรึกษามากกว่า1 ท่านและมากกว่า 1โรงพยาบาลนะคะ
ฟันผุของเด็กเล้ก..จะแสดงออกมาในคราบสีเหลืองมากกว่าจุดสีดำแบบผู้ใหญ่นะคะ
การให้ฟลูออไรด์เด็กควรอยู่ในคำแนะนำของทันตแพทย์ ไม่ใช่แพทย์ทั่วไป
และการกินหรือกลืนฟลูออไรด์มากเกินไปไม่ว่าจะทางตรง (ยาเม็ด/ยาน้ำ) หรือทางอ้อม (ยาสีฟัน) จะมีผลกระทบต่อฟันแท้ในอนาคตของลูกนะคะ
เพราะฟันหน้าบน 4ซี่ของเพ่ยเพ่ย เริ่มมีคราบเหลืองๆจับจนสังเกตุได้ชัดเมื่ออายุราว 1.4ปี เอาเล็บสะกิดก็สามารถหลุดออกมาได้บ้าง ก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นคราบอาหาร (ขี้ฟัน) ก้เลยไม่ได้เอะใจอะไรกันมาก แต่คุณป้าของเพ่ยเพ่ยทนไม่ได้ แนะให้ไปหาคุณหมออยู่เนืองๆ แต่เราก็ยังไม่ได้พากันไปหาหมอสักที จนวันหนึ่งได้ผ่านคลีนิคฟันที่เคยมีคนแนะนำ เลยแวะเข้าไปค่ะ คุณหมอดูเสร็จก็บอกว่าเป็นคราบขี้ฟันครับ (เห็นมั๊ยล่ะ) ให้เอาผ้ากอสพันนิ้วแม่แล้วถูๆก็ออกครับ หมอไม่คิดเงินด้วย กลับบ้านแล้วก็ทำตามที่คุณหมอแนะนำ แต่ทุกครั้งที่ทำ เพ่ยจะร้องเสียงดังเลย แล้วคราบมันก็ไม่หลุดออกมาด้วยสิ !!
มีโอกาสแวะไปคลีนิคแห่งที่ 2 คุณหมอตรวจแล้วบอกว่า..น้องฟันผุค่ะแม่ อ้าว!เราก็คุ้นกับการที่ฟันผุจะต้องสีดำไง ใช่หรือหมอ แล้วทำไงดีคะ หมอให้แวะมาอีกครั้งเพื่อให้หมออีกท่านดู แล้วก็ให้เอาคอตตอลบัทชุบน้ำยาบ้วนปากเด็กถูทำความสะอาดไปก่อน เพื่อเสริมฟลูออไรด์
เพื่อความสบายใจและชัวร์ ไปคลีนิคที่ใหญ่ขึ้น เป็นแห่งที่3 หมอตรวจแล้วบอกว่าอืม..ไม่น่าจะใช่ฟันผุค่ะ แต่เกิดจากการทานฟลูออไรด์มากไป ทำให้ฟันเหลืองเป็นคราบแบบที่เห็น เอางี้มาอีกครั้ง จะนัดหมอเด็กเฉพาะให้เลย
สัปดาห์ต่อมา ย้อนกลับไปที่คลีนิคเดิมอีกครั้ง เพื่อพบหมอเด็กเฉพาะ เพราะใจชื้นแล้วว่าลูกอาจจะฟันไม่ผุ ผลตรวจบอกว่ายืนยัน 100% ผุแน่นอนค่ะ โอยสงสารเพ่ยเพ่ยจัง 1.4ปี ฟันผุ 4ซี่เลย ทำไงดีคะหมอ หมอแนะนำว่าทำได้ 2 วิธี คือ1.ขูดที่ผุออกแล้วอุด แต่จะไม่แข็งแรง หรือ2. ครอบฟันเหล็ก ที่เราจะเห็นกันเป็นสีเงินวาวๆ และ 3. ทำเหมือนข้อสอง แต่เพื่อความสวยงาม จะเจาะโลหะเงินวาวๆด้านหน้าออกและอุดด้วยสารสีขาวให้ ทั้งนี้โดยมีเงื่อนไขว่า วิธีที่1 ต้องฉีดยาชาและสามารถทำได้เพียงครั้งละ 1-2 ซี่เท่านั้น หมายถึงต้องมาทำหลายครั้งและทุกครั้งก็ต้องจับมัดไว้ด้วย เพื่อป้องกันการดิ้น โอๆๆๆๆ...ส่วนวิธีที่2และ3 จะทำเพียงครั้งเดียว แต่ต้องวางยาสลบ ส่วนเรื่องความเสี่ยง..ไม่รับประกัน แต่จากประสบการณ์หมอก็ยังไม่เคยเจอปัญหาค่ะ....อึ้งค่ะ
กลับบ้านเปิดเวป..ค้นๆๆๆไปเรื่อยๆจนเจอโรงพยาบาลดังแห่งหนึ่ง คุณหมอเด็กเฉพาะ ประสบการณ์มากกว่า20 ปี เลยชวนพ่อมือใหม่ไปลุยกัน..คำตอบของหมอก็คือ วิธีที่1และ3 ทำไมได้ค่ะ ต้องวิธีที่ 2เท่านั้น และไม่รับประกันความเสี่ยงเช่นกัน แต่คุณหมอก็ย้ำให้มั่นใจว่ายังไม่เคยเกิดเคส ค่าใช่จ่ายเบ็ดเสร็จเจ็ดหมื่นกว่า ได้แต่มองตากันปริบๆ ค่ารักษายังพอทน แต่เรื่องความเสี่ยงในการวางยาเด็กวัย 1.6 ปี
พ่อมือใหม่พยายามยื้อเวลาเพราะเห็นว่าลูกยังเล้กเกินไป ไม่อยากเสี่ยง เพียรพาลูกไปหาคุณหมอบ่อยๆเพื่อดูความคืบหน้าของฟันที่ผุ จนคุณหมอบอกว่า ถ้าไม่ครอบฟัน ไม่ต้องมานะคะ ใจร้ายจริงๆ ไม่เป็นลูกหมอบ้างก็แล้วไป (แอบคิด)
กลับมาเริ่มต้นใหม่ เอาไงดี..ลองอีกสักครั้ง ไปอีกโรงพยาบาล นัดคุณหมอฟันเด็กเฉพาะ..ก็บอกหมอไปเลยว่าจะพาลูกมาครอบฟันค่ะ คุณหมอตรวจราวสัก 5 นาทีแล้วบอกว่าฟันผุมากค่ะ แต่ไม่ต้องครอบ !! หมายความว่าไม่ต้องวางยาสลบ !! เหตุผลเพราะเป็นเพียงการผุภายนอก ไม่ทะลุถึงเนื้อใน เหมือนกับเราเป็นแผลที่ผิวหนังเช่นนั้น แต่ต่างกันที่แผลอันนี้จะไม่หาย แต่เราสามารถประคองอาการได้ ดดยการหมั่นดูแลอย่างถูกต้อง และเคลือบฟลูออไรด์อย่างเข้มข้นทุก 4-6เดือน หากไม่มีการผุเพิ่มก็รอจนฟันน้ำนมนี้หลุดไปเอง แต่ถ้าผุเพิ่มก็วางแผนการรักษากันต่อไป...
เลยเป็นเรื่องเตือนใจจากคุณพ่อมือใหม่เลยค่ะว่า
ใครว่าลูกทานแต่นมแม่ฟันไม่ผุ..ไม่ใช่เรื่องจริง
เวลาจะหาคุณหมอ ควรหาคุณหมอเฉพาะด้านจริงๆ และแยกด้วยว่าเป็นหมอเด็กกับหมอผู้ใหญ่
หากเป็นกรณีต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อการตัดสินใจและมีความเสี่ยงร่วมอยู่ด้วย..ควรจะมีการปรึกษามากกว่า1 ท่านและมากกว่า 1โรงพยาบาลนะคะ
ฟันผุของเด็กเล้ก..จะแสดงออกมาในคราบสีเหลืองมากกว่าจุดสีดำแบบผู้ใหญ่นะคะ
การให้ฟลูออไรด์เด็กควรอยู่ในคำแนะนำของทันตแพทย์ ไม่ใช่แพทย์ทั่วไป
และการกินหรือกลืนฟลูออไรด์มากเกินไปไม่ว่าจะทางตรง (ยาเม็ด/ยาน้ำ) หรือทางอ้อม (ยาสีฟัน) จะมีผลกระทบต่อฟันแท้ในอนาคตของลูกนะคะ
Views: 2617
Replies to This Discussion
-
Permalink Reply by อรดา พงศ์สุธนะ on -
ขอบคุณมากนะคะ ต้องพาลูกไปตรวจฟันบ้างซะแล้ว
-
Permalink Reply by narisara panturad on
-
โอ้ต้องหมั่นแปรงฟันและไปหาหมอฟันแล้วค่ะ
-
Permalink Reply by บูรณ์ on
-
ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับ ประสบการณ์ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง เป็นประโยชน์มากเลย แม่จะได้ดูแลลูกให้มากกว่านี้ ขอบคุณค่ะ
-
Permalink Reply by แม่น้องเนย on
-
พี่ชายเป็นหมอฟันค่ะ เค้ายังคงแนะนำให้กินฟลูโอไรด์สม่ำเสมอ ทุกวันวันละ 1 เม็ด ใช้ยาสีฟันแต่น้อยๆประมาณแค่เม็ดถั่วเขียว
และที่สำคัญขาดไม่ได้ คือใช้ dental floss ทุกครั้งค่ะ เพราะแปรงฟันยังไงก็ไม่สะอาดพอ บางทีมีเศษหมูหรือเศษอาหารติดอยู่
ที่ฟันลูกเกือบทุกครั้งที่ใช้ dental floss ค่ะ (แต่บางวันก็แอบลืมเหมือนกัน)
-
Permalink Reply by อรดา พงศ์สุธนะ on
-
ขอบคุณนะคะ แม่น้องเนย บางทีก็คิดว่าdental floss นะ สำหรับผู้ใหญ่อย่างเดียว ต้องเอาไปปรับใช้แล้วค่ะ
-
Permalink Reply by ubonsruang on
-
เริ่มให้เด็กกินฟลูโอไรด์กีขวบอ่ะค่ะ
อยากทราบค่ะ
-
Permalink Reply by แม่เพ่ยขอแจม on
-
ปรึกษาทันตแพทย์เด็กโดยเฉพาะดีกว่าค่ะคุณแม่ เพราะฟลูออไรด์มีประโยชน์ต่อฟันแต่ในขระเดียวกันก็มีผลเสียต่อฟันด้วยเช่นกัน หากรับในปริมาณที่มากเกิน ย้ำว่าต้องเป็นหมอฟันนะคะ คุณหมอที่ตรวจสุขภาพโดยทั่วไปจะไม่เหมาะค่ะ
-
-
คุณแม่น้องเนยคะ อย่าลืมแปรงลิ้นด้วยนะคะ เพราะลิ้นก็เก็บเชื้อโรคและทำให้น้องมีกลิ่นปากได้ด้วย และการฝึกการแปรงลิ้นตั้งแต่เล็กๆจะช่วยให้เกิดความเคยชิน ถ้ามาทำตอนที่น้องโตแล้ว น้องจะต่อต้านและจะมีท่าทีอยากอาเจียนน่ะค่ะ
-
Permalink Reply by แม่น้องเนย on
-
จริงด้วยค่ะคุณแม่น้องเพ่ยเพ่ย เรื่องลิ้นก็ลืมไม่ได้เช่นกัน ยอมรับว่าบางทีเรานั่นแหละลืม บางทีเนยแลปลิ้นรออ่ะ
ปกติจะให้เนยแปรงฟันเองก่อนรอบนึง แล้วเราซ้ำอีกรอบค่ะ
-
Permalink Reply by พี่ไทด์กะน้องทีม on
-
พี่ไทด์เริ่มมีนัดกะคุณหมอฟันตั้งแต่ 1 ขวบเลยค่ะ คุณแม่บ้าเห่อไปหน่อย แต่คุณหมอว่าดีค่ะ ประสบการณ์ที่ไปนะค่ะ วันนั้นไประหว่างรอก็มีคนไข้รุ่นพี่รออยู่ 1 คน พอถึงคิวพี่ไทด์เราก็เข้าไปพบคุณหมอ เราก็ถามนู้นถามนี่ตามประสาคุณแม่อ่ะค่ะ แล้วก็ถามไปถึงคนไข้ก่อนหน้าพี่ไทด์ซะเล้ย คุณหมอเล่าให้ฟังว่าน้องคนตะกี้ฟันผุไปแล้ว 4 ซี่ (อายุ 2 ขวบกว่า) ต๊าย คุณแม่ตกใจมากเลยค่ะ เห็นว่าต้องครอบฟัน ไม่แน่ใจว่าต้องทำยังไง ไทด์ฟันห่างๆค่ะ แต่คุณหมอว่าดีเพราะทำความสะอาดง่าย แล้วพอฟันแท้ขึ้นฟันจะสวยค่ะ(ค่อยยังชั่วหน่อย) แล้วก็ทานฟลูโอไรด์ทุกวันๆละ1เม็ด (แต่สงสัยอร่อยมากบางทีก็แอบหยิบทานเอง รู้สึกว่าจะชอบมาก) ตอนนี้ 3 ขวบแล้ว ฟันยังดีไม่ผุเลยค่ะ (ดีใจ) คุณหมอบอกเคล็ดลับมาค่ะว่าจะต้องแปรงฟัน ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องแปรง บังคับก็ต้องทำเด็กเค้าจะได้รู้ว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ได้ผลดีมากเลยค่ะตอนนี้ไม่มีปัญหาเรื่องแปรงฟันเลยค่ะ...ส่วนเรื่องฟันมีคราบเหลืองเคยเป็นเหมือนกันค่ะ ใช้ผ้าอ้อมชุบน้ำแล้วเช็คก็ออกค่ะ
-
Permalink Reply by พชิรารัชต์ แก้วคำไสย์ on
-
หาหมอที่ไหนคะ อยากพาลูกไปบ้างคะ เพราะตอนนี้ลูกสาวมีฟันผุที่ 2 ซี่หน้าด้านบนแล้วค่ะ
-
-
ขออภัย ไม่ได้การตลาด แต่เห็นว่าคุณหมอแนะนำดีแล้วก็ไม่ได้มุ่งการค้าจนเกินเหตุ เผื่ออยู่แถวๆนี้จะได้แวะไปนะคะคุณแม่ คุณหมอโสภิต มาเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ ที่ รพ.วิภาวดีค่ะ อยู่ใกล้ไม๊คะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.
Powered by
