เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

มีใครในนี้บ้างค่ะ ที่ต้องออกจากงานประจำมาเลี้ยงลูก

ตอนนี้ พ่อน้องแอนยอมให้ลาออกจากงานเพื่อมาเลี้ยงลูกเอง เลยอยากทราบว่ามีใครที่ลาออกมาเลี้ยงลูกเองบ้างค่ะ

Views: 1263

Replies to This Discussion

เข้ามาอ่านกระทู้แล้วสงสารน้องจังเลย!!!!!!เป็นอีกคนนึงที่ลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกอย่างเดียวเลยค่ะตอนแรกที่ออกก็ยังงง ๆ กับชีวิตว่าออกทำไม แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าผลลัพธ์ที่ออกมาพัฒนาการลูกดีมาก คุ้มแล้วที่ออกมา เลี้ยงลูกเองดีกว่า สบายใจกว่าเยอะค่ะ นี่ขนาดเราอยู่บ้านเลี้ยงเองน่ะค่ะเปลี่ยนพี่เลี้ยงไป 3 คนแล้วค่ะ เพราะแต่ละคน ติดทีวีบ้าง ติดโทรศัพท์บ้าง นอนหลับบ้าง สารพัด เคยคิดว่าถ้าฝากเลี้ยงโดยที่ไม่มีเราอยู่จะเป็นยังงไง เพราะอยู่บ้านสวน 3 คนพ่อ แม่ ลูก ไม่มีผู้ช่วยเลย เพราะพ่อต้องไปทำงาน ตอนนี้เลยใช้วิธี จ้างรายวันมาทำงานบ้านส่วนเรื่องลูกเรารับผิดชอบเอง ทุกอย่างก็ดีขึ้น ค่ะ เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ สู้ต่อไป ทาเคชิ
แอมก็เคยโพสหัวข้อนี้ค่ะและเป็นอีกคนค่ะที่อยากลาออกมากๆแต่ยังเสียดายงานที่ทำอยู่ จากเรื่องที่เล่ามาคิดว่าออกมาเลี้ยงเองดีกว่าค่ะ เพราะอย่างของแอมมีคนช่วยเลี้ยงคือพ่อกะแม่ของแอมเองเลยไว้ใจสุดๆไม่ค่อยมีปัญหาอะไร อย่างมากก็ตีกันเรื่องเลี้ยงหลานค่ะ สมัยใหม่กับสมัยเก่าน่ะค่ะเลยมีขัดแย้งกันบ้าง ยังไงก็สู้ๆนะคะ
ออกจากงานมาเลี้ยงน้องเจเอง ตั้งแต่เตรียมตัวท้องเลยค่ะ

เล่าย้อนค่ะ ... ตอนนั้นทำงานเยอะมากกันทั้งคู่ คุณพ่อน้องเจเลยถามว่าตกลงเลือก "งาน" หรือ "ลูก" ให้คิดดี ๆ แล้วให้คำตอบ ถ้ายังเลือกงาน ก็จะยังไม่มีลูก แต่ถ้าเลือกลูก ต้องยอมเสียสละงาน ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าเลือก "ลูก" เพราะรอ (ปีสมพงษ์) มาตั้ง 3 ปี ถ้าตอบว่างานไป ก็คงทำงานต่อและยังไม่มีน้องเจเหมือนวันนี้ เหตุผลที่คุณพ่อน้องเจบอกให้เลือก เพราะว่าอยากให้ทำอะไรก็ดีไปเลย ไม่อยากให้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เพราะเค้ารู้ดีว่าเวลากันทำงาน จะทุ่มเทจนไม่ลืมหูลืมตา

พอตัดสินใจแล้วก็เริ่มหาข้อมูลคุณแม่มือใหม่ แล้วก็ดูว่าจะทำงานพิเศษอะไรได้บ้าง และก็ได้ธุรกิจเสริมมาตัวนึงค่ะ ตอนนี้กันขายชุดคลุมท้อง Motherintrend.com และขยายมาเปิดร้านสุกี้เจอีกร้าน แต่เป็นงานของเราเอง ซึ่งทำให้เรามีเวลาอยู่กับลูก ทำกิจกรรมกะลูกได้ตลอด ตอนนี้กำลังจะขยายเสื้อผ้าแฟชั่นสวย ๆ ค่ะ

สรุปว่าตอนนี้ออกมาทำงานของตัวเอง แล้วก็แบ่งเวลางาน แบ่งเวลาให้น้องเจและกิจกรรมที่ควรส่งเสริม แบ่งเวลาให้ครอบครัวตัวเองและคุณพ่อน้องเจด้วยค่ะ เวลาแต่ละวันเลยอาจจะดูน้อยไป แต่ก็ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ช่วงนี้สัดส่วนงานน้อยลงนิดนึง น้องเจเพิ่งขึ้น อ.1 ก็แบ่งเวลาที่ทำงานมาดูการบ้าน แล้วเสริมทักษะบ้างเล็กน้อยค่ะ :)
เป็นคนนึงที่ออกจากงานมาเลี้ยงลูกเอง ปีครึ่งแล้ว ตอนแรกก็เคว้งเหมือนกัน จากที่เคยออกจากบ้านทุกวัน (เห็นว่าตอนนี้ออกจากงานแล้วใช่ไหมเอ่ย) จะเจอลูกก็เสาร์ อาทิตย์ ตัวเล็กก็ยังกินนมแม่อยู่อีก ออกเลยดีกว่า สงสารลูก ตอนที่ออกไม่ได้บอกสามีหรอกว่าลาออก บอกแต่ว่าเค้าให้ออก ถ้าเค้ารู้ว่าลาออกก็โดนด่าแน่

เป็นกำลังใจให้จ้า อาจจะเบื่อบ้างที่เห็นแต่หน้าลูก แต่ก็เพื่อลูกเนอะ อดทนกันไป

ตอนนี้คนโตไปโรงเรียน คนเล็กไปเนอสเซอรี่ใกล้บ้าน (คนโตเค้าเคยอยู่) แม่จะทำอะไรดีหละเนี่ย มองไปไม่เห็นใครเลย เล่นnetดีกว่า 55555 ก็ค่อยๆดูเอาแล้วกันนะคะ ว่าจะทำงานอะไรต่อไปดี สู้ สู้คะ
ญา ก็ต้องออกมาเลี้ยงลูกเหมือนกัน ตอนแรก 1 เดือน ครึ่งก้ต้องไปทำงานแล้ว อยู่บริษัททัวร์ที่นี่เขาไม่ได้ให้หยุดเยอะเท่าไหร่ ก็กะว่าจะอยู่จนได้ แต๊ะเอีย ค่ะ ให้อากง อาม่า พ่อแม่สามีเลี้ยงให้ที่บ้าน เพราะอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่ปั้มนมให้ลูกทุกวันนะ แต่ไปทำงานได้แค่ 2 เดือนกว่าเอง ก็ต้องออกมาเลี้ยงลูกแล้ว เพราะอากง อาม่า เลี้ยงอันซิน 2 เดือนกว่า เข้าโรงพยาบาลคนละรอบ อาม่า ไปหาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ 40,000กว่า ไม่ได้นอนพักด้วยนะ ตอนนั้นหายใจไม่ออก ความดันขึ้น เพราะไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ อายุประมาณ 70 แต่ปกติ แข็งแรงมาก ๆ ออกกำลังกายทุกวัน ไปเทียวเมืองนอกก็สบาย ๆ ส่วน อากงนะ 71 ปี ก็ไปนอนโรงพยาบาลธนบุรี 1 อยู่ 2 คืน ก็เกือบ 30,000 เหตุผลคือ อันซินทั้งวันไม่ยอมนอน ไม่ยอมกินนม( กินน้อยกว่าก่อนที่ญา จะไปทำงาน ) ต้องให้อุ้มตลอด และ 2 คนนะ เขาก็แก่แล้วไง อันซินทั้งวันร้องแบบไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้น บางวันตอนกลางวันต้องนั่งมอร์ไซรับจ้างมาดูลูกไง ตอนยังไม่มาลูกก็ร้องจะเป็นจะตาย แต่พอแม่มา ก็หยุดร้อง กินนมนอน พอแม่ไป ก็ร้องต่อ เหมือนรู้อะ เวลาไหนแม่อยู่เวลาไหนแม่ไม่อยู่ แต่ทุกเย็นที่เลี้ยงเองตอนกลับบ้านมาจากที่ทำงานนะ ยอมกินนม ยอมนอน ไม่ต้องอุ้มมาก ไม่งี่เง่า อาจมีเป็นบางคืนเท่านั้น สรุปแล้วทำงานเดือนนึงไม่ถึง 20,000 บาท แฟนบอกออกเหอะ เพราะ 2 เดือนกว่า จ่ายไป ร่วม 70,000 แล้ว เลยจำใจจริง ๆ ปกติก็เป็นคนไม่ชอบอยู่บ้านอยู่แล้ว ช่วง 1-2 เดือนแรกนะ นั่งร้องไห้ จะเป็นบ้าเอา แต่แฟนไม่รู้นะ เพราะต้องอยู่กับแม่แฟนอะ คือไม่ค่อยสนิทกันมาก และเขาเองก็จะมายุ่ง กับเราบ่อย ๆ เหมือนยังเห่อหลานอยู่อะ แล่วเราก็มีภาวะเครียดไง เหมือนไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวเลย เหนื่อยด้วยเลี้ยงลูก กลางคืนก็ต้องให้นม เบื่ออาหารอีก ก่อนท้องนะ หนัก 47 แต่พอท้องหนักขึ้นมา 22 โล ลูกเอาไป 2.97 โล เหลือที่แม่อีก 19 โล ไปทำงาน 2 เดือน ลดไป 4 โลมั้ง แต่อยู่บ้านไม่ถึง 3 เดือน เหลือ 47 เหมือนเดิม คิดกันเอาเหอะ ตอนนั้นสภาพจิตใจหนักหนาสาหัสแค่ไหน ท้อสุด ๆ เหมือนอยากไปไหนไกล ๆ เลยนะ อยากเอาลูกไปด้วยอยากทิ้งแฟนเลยอะ เรามีปัญหาก็ไม่อยากเล่าให้แม่เราฟังด้วย และก็ไม่เล่าให้ใครฟังทั้งนั้น เป็นคนอย่างนี้มาตั้งตั้งแต่เด็ก แก้ทุกอย่างด้วยเวลา และ ความเข้มแข็งของหัวใจ และอยู่กับตัวเองในกระจก นั่งร้องไห้ก็มีนะ ดูหน้าตัวเองในกระจก ดูความอ่อนแอของตัวเอง และลุกขึ้นสู้ต่อ มีใครเป็นบ้าอย่างเราไหมอะ
ไม่รู้ตอนนี้ยังแนะทันไหม น้อยเพิร์ธก็นอน 10 โมง ดื่น 12 โมง อีกทีก็ 3 โมงเย็นถึง 5 โมงเย็นคะ เด็กถ้านอนเยอะๆ จะโตเร็วคะสมองเค้าก็จะพัฒนาเร็วด้วย เลี้ยงลูกเองเหมือนกันแต่เอาไปทำงานด้วยถึง 1.5 ขวบ กินนมแม่คะเลยต้องเอาไปเพราะนมน้อยปั๊มไม่ไหว ตอนหลังก็จ้างพี่เลี้ยงต่างชาติมา (พม่า) เดือนละ 4500 กินอยู่ใช้จบที่เรา สารพัดจะเจอ ตอนช่วงแรกๆ ให้คุณแม่มาเป็นพี่เลี้ยงให้ ซักประมาณ 2 เดือนก็ลองให้เลี้ยงน้องเอง ตอนนั้นยังไม่ติดกล้องนะคะ แอบกลับบ้านมาเจอกำลังสับคอน้องอยู่คะ ถามเค้าว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าบอกว่าก้างปลาติดคอน้อง น้องร้องลั่น เราเห็นลูกเจ็บ ก็ยิ่งโมโห ถามความจริงเข้าบอกน้องไม่ยอมกิน เครียดเลยทำไป จนต้องติดกล้อง ดูผ่านไปที่ทำงาน จึงรู้ถึงความน่าสงสารของลูกว่า ตอนเค้าจะนอน เค้าเอาหมอนเอาผ้าห่มมานอนเอง พี่เลี้ยงไม่สนใจ ดูแต่หนัง (น้องตอนนั้น 1 ขวบ 8 เดือนเอง) ก็ตัดสินใจกับแฟนว่าเอาไงดี เพราะมีอีกหลายเรื่องมากมาย ก็คุยกับพี่เลี้ยงว่าถ้า โกหก ดูหนัง ไม่สนใจน้อง รังแกน้อง จะไม่จ้างแล้ว ตอนหลังเค้าก็ดีขึ้น แต่ไม่ทั้งหมดเหมือนบางครั้งต้องยอม เพราะ ถ้าไม่จ้างเค้า คนไทยขอบอก เรื่องเยอะมาก เดี๋ยว ธุระทางบ้าน เดี๋ยวเบิกเงิน เดี๋ยวสามีมีปัญหา เดื่ยวขอหยุด เดี่ยวออก น้อยใจ สารพัดคะก็ผ่านมาได้นะ แต่ดีที่คุณแม่มาดูบ้าง เดือนนึง 2 ครั้ง แว๊บๆ บังเอิญที่บ้านเหลือแต่ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชาย แม่แฟนเพิ่งเสียไป ได้อย่างเสียอย่างเพราะถ้าไปอยู่ โรงเรียน ก็มีพี่เลี้ยงไม่กี่คนดูไม่ทั่วหรอก เดี๋ยวก็ไม่สบาย เรื่องอุบัติเหตุเลิกพูดเพราะคงเป็นเรื่องปกติคะ ยังไงลองพิจารณาดูนะคะ แต่ไม่อยากให้ลาออกจากงานเลย เศรษฐกิจแบบนี้ ช่วยกันก่อนดีกว่า แป๊บ เดียว เดี๋ยว ก็ ผ่าน แล้ว นะคะอดทนตอนกลับจากที่ทำงานก็พยายามหากิจกรรมทำร่วมกับน้อง ก็จะยิ่งหายเหนื่อยน้องก็อบอุ่น คะ
เราลาออกจากงานประจำมาเลี้ยงลูกเอง ด้วยความตั้งใจของเราเองจ้ะ
เพราะว่า ลูกเราอุตส่าห์คลอดมา ก็เลยคิดว่า เลี้ยงเองดีกว่า จะได้โตขึ้นมาเหมือนอย่างที่เราปั้นเอง
ไม่ใช่แบบที่พี่เลี้ยง หรือ nursery ปั้นให้ค่ะ

เห็นพี่เลี้ยงลูกของพี่สาว ชอบแอบคุยโทรศัพท์ทั้งวัน น้องไม่กินข้าวก็บีบปากให้กิน
แอบตี หยิก ลูกพี่สาว เห็นแล้วกลุ้ม เลี้ยงเองดีกว่าค่ะ

เหนื่อยนิดค่ะ 2 ขวบก็เข้าอนุบาลแล้วค่ะ
รับรองเหนื่อยแต่มีความสุขค่ะ
อย่างเวลาตอนเย็น พาเขาไปเดินเล่น คุยกันกระหนุงกระหนิง ชี้ดูนก ดูท้องฟ้า เดินร้องเพลงกัน
วิ่งแข่งกัน เดินไปซื้อขนม เข้าเซเว่นกัน เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดเลยค่ะ
จริงๆนะ
ยกมือด้วยคนคะ เกตออกจากงานมาเลี้ยงน้องหนูดีได้ 5 เดือนแล้ว เหนื่อยดีคะ แต่มีความสุข คงไม่มีงานอะไรที่จะทำได้ดีเท่ากับการเป็นแม่อีกแล้ว
เป็นคนนึงค่ะ ที่ลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกตอนครบ 6 เดือน เลี้ยงเอง 3 เดือนแรกที่ลางานอีก สาม เดือนไปฝากเลี้ยง ค่ะ แต่เพราะว่า ไม่ไว้ใจใครเลี้ยงลูกเรา แถมลูกก็ ชอบแพ้โน่นนี่ และกินนมแม่ด้วย สอนคนเลี้ยงเค้าก็ทำรำบาก ในการแกถุงนมมาแช่ มาใส่ขวดให้ลูกเรา ลูกเราผอมไปตั้งเยอะเราเลยไม่เอาแล้วออกมาเลี้ยงเองดีกว่า จนปัจจุบันน้องได้ 1 ปี 8 เดือนแล้วค่ะ คุณแม่ถึง กลับมาทำงานใหม่อีกรอบเพราะว่าตอนนี้ไปฝากเนอรส์ฯ ได้แล้ว เค้าจะสนุกสานค่ะ ช่วงนี้ มีเพื่อน ฝึกการเข้าสังคมไปด้วย ทีแรกเราก็ไม่อยากให้ไปแต่ใครๆ ก็บอกว่ายังไงเราก็ต้องไปทำงาน ให้ลูกไปตอนนี้ดีแล้ว คิดไปคิดมาตอนนี้ก็คิดว่าดีนะค่ะ เค้าตจะได้ปรับตัวในการไปโรงเรียนได้ง่ายขึ้น เข้ากับคนอื่นง่ายขึ้น เพราะสังเกตุว่าอยู่กับเราทั้งวันทั้งคืน เค้าจะกลัวคนแปลกหน้า (แถวบ้านไม่มีญาติพี่องค่ะ อยู่บ้านจัดสรร ) ..พอไปฝากเลี้ยงดีขึ้นเยอะเลย อีกอย่าง ช่วงเดือนแรกของการไปฝาก (เดือนนี้แหละ) จะป่วยบ่อยแต่ไม่เยอะเท่าคนอื่นๆ เพราะน้องได้นมแม่ อันนี้คิดเข้าข้างตัวเองนะ...คุณหมอบอกว่าโรคเนอร์ส เดี๋ยวก็หาย ไปรับภูมิ 55555 เราว่าดีนะ เพราะว่าต่อไปถ้าไปโรงเรียนจริงไ จะได้ไม่ตจ้องขาดเรีนยบ่อยเดี๋ยวเรียนไม่ทันพื่อนๆ ไปตอนนี้ดีแล้ว....เป็นความคิดเนและประสบการณืของตัวเองนะค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณแม่เต็มเวลา และไม่เต็มเวลาทุกคนค่ะ..รู้ว่าบางทีอยู่กับลูกทั้งวันก็เครียด ยิ่งเคยทำงานด้วย เพราะว่าบางทีเราก็อยากที่จะเป็นส่วนตัวอยากสวย อยากงาม อยากไปช็อปปิ้ง แต่วิธีแก้ก็คิดว่าลูกนี่แหละประสบการณ์ชีวิตที่เราหาซื้อไม่ได้ และ เรียกกลับคืนมาไม่ได้ค่ะ ตอนนี้เป็นเวลาดีที่สุดที่จะกอบโกยการได้อยู่กับลูกค่ะ มีแต่คนอิจฉาที่เราได้อยู่กับลูกนะจะบอกให้

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service