เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

เก่งมากจำได้ด้วย/เคยเรียนที่นี่/on in ยังสับสน

1. เก่งมากหนูจำได้ด้วย Good remember.

2. พรุ่งนี้อย่าลืมเอาตัวปั้มรูปดาวมาด้วยนะ  Tomorow you not forget star stamp.

3. หนูจำได้ไหมตอนเราไปเที่ยวกระบี่กันเรานั่งรถตู้และนั่งเครื่องบินด้วยกันไง We're sit on a van / We're sit on an airplane.

4. เฮียพี(ลูกพี่ลูกน้อง)เคยเรียนที่โรงเรียนนี้นะ (คือนั่งรถผ่านโรงเรียนเก่าของหลานชาย)

5. เราจะไปวัดกัน จะได้ไปให้อาหารปลาที่ท่าน้ำและไปไหว้พระ(ต้องจุดธูปและถวายดอกไม้ด้วยค่ะ) ปิดทองคำเปลวที่องค์พระ(สำคัญมากต้องปิดทองทุกครั้งไม่งั้นไม่ยอมกลับบ้าน) และเสี่ยงเซียมซีกันนะ

**ข้อ 5 นี่อาจจะยาวหน่อยค่ะแต่ลูกสาวเป็นอย่างนี้จริงๆ ปัจจุบันก็บอกเค้าว่า stick the golden sheel ค่ะ(เถไถไปก่อน ไม่ดีเลย เดี๋ยวแก้ยากนะเนี่ย เรา ขอความกรุณาทุกคนด้วยค่ะ**

6. เงยหน้าหน่อยค่ะ มี้มองไม่เห็นฟันหนูเลยแปลงให้ไม่ถูกเดี๋ยวไม่สะอาดนะ  look up I can't see your teeth. It's not clean.

 

Views: 1210

Replies to This Discussion

ขอสอบถามวิธีการใช้ประโยคในรูป Won't you , don't you
ว่าใช้เมื่อไหร่ มีความหมายว่าอย่างไร คะ ขอรบกวนด้วยนะคะ
ตอบตามที่เข้าใจน่ะครับ

โดยปกติการใช้ question tags หรือสั้นๆ tags นั้น มักจะใช้ตามหลังประโยคบอกเล่าที่มีความหมายในทางตรงกันข้ามกับ tags หมายความว่าถ้าประโยคบอกเล่าที่นำหน้า tag เป็นบอกเล่าแล้ว ตัว tag เองก็ต้องเป็นปฏิเสธ (อันนี้พูดตามไวยกรณ์ครับ อาจจะมีท่านอื่นแย้งเป็นอย่างอื่นอีกก็เป็นได้ครับ) แต่ถ้าประโยคนั้นๆ เป็นปฏิเสธ ตัว tag เองก็จะอยู่ในรูปของบอกเล่าครับ ลองมาดูตัวอย่างน่ะครับ

You really like watching a movie, don't you? (คุณชอบดูหนังนิ หรือไม่ใช่)
He'll be going out with you tonight, won't he? (เขาจะไปเที่ยวกะแก ใช่ป่ะ)
You don't like the way he talks, do you? (นายไม่ชอบเวลาที่หมอนั่นพูด ใช่ป่ะ)
You won't be late tomorrow, will you? (พรุ่งนี้คุณจะไม่มาสาย ใช่มั้ย)

มาว่าถึงเหตุผลที่ใช้น่ะครับ คำตอบคือ ผมไม่ทราบหรอก แต่การพูดลักษณะนี้มันให้ความรู้สึกว่าภาษามันมีสีสัน ถ้าหากจะเทียบเคียงกันระหว่างการพูดแบบปกติและแบบใช้ tag ทั้ง ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ ก็ตามนี้ครับ

คุณหิวข้าวมั้ย กับ ผมว่าคุณต้องหิวข้าวแน่ๆเลย จริงมั้ย
เขาคงจะชอบเล่นกีฬา กับ เขาไม่ชอบเล่นกีฬาหรอก เอ๋.....หรือว่า ชอบน้า
Do you like watching a movie? VS You like watching a movie, don't you?
Will he be going out with you tonight? VS He'll be going out with you tonight, won't he?

ถามว่าจะใช้เมื่อไหร อันนี้ก็น่าจะขึ้นอยู่กับผู้พูดครับ ผมจะลองเปรียบเทียบประโยคตัวอย่างข้างต้นหนึ่งคู่น่ะครับ เผื่ออาจจะทำให้เข้าใจอารมณ์ในการพูดได้มากขึ้น

Will he be going out with you tonight? นี่เธอ คืนนี้เขาจะไปกับเธอรึป่าว (ผู้พูดไม่คาดเดาอะไรทั้งนั้น แต่ถามว่าผู้ชายคนนั้นจะไปเที่ยวหรือไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนของเธอ)

He'll be going out with you tonight, won't he? (ผู้พูดคาดว่าผู้ชายคนนี้ต้องไปกับเพื่อนของเธอ แต่ก็ถามหาคำยืนยันครับ)

ยังมีเรื่องของโทนเสียงที่ใช้ด้วยที่สามารถเปลี่ยนความหมายให้ต่างออกไปจากกรณีปกติ อันนี้ต้องลองฟังจาก การ์ตูนหรือ เจ้าของภาษาน่ะครับ
เจ้าของภาษานิยมการใช้ Question Tag ด้วยใช่มั้ยค่ะ
ส่วนตัวอ๊อบไม่ค่อยถนัดปากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็กำลังหัดๆอยู่
เท่าที่ฟังจากหนังหรือละคร ก็ได้ยินค่อนข้างบ่อยครับ
ขอยกมือถามค่ะคุณ Patiwat รัตน์อ่านนิยายเล่มนึงแล้วมันมีอย่างเนี้ยะอ่ะค่ะ
"You got my message, did you?" he says. "About luggage?"
"Yes, I did. Here it is." ....

As he opens the boot, I get into the driving seat and adjust the seat forwards so I can reach the pedals. I've always wanted to drive a convertible! The boot slams, and Luke comes round, a quizzical look on his face.
"You're driving, are you?"
"Part of the way, I thought," " Just to take the pressure off you. You know, it's very dangerous to drive for too long."
"You can drive, can you, in those shoes?" He's looking down at my sandals....."They're new, aren't they?"......

อ่านแล้วก็สงสัยอ่ะค่ะ ว่าทำไม tag มันไม่เป็นรูปปฏิเสธ หรือว่ารูปประโยคเหล่านี้ไม่ใช่ question tag คะ??? หรือใช้ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ... ช่วยให้ความกระจ่างทีค่ะ please
ผมจะลองเดาดู โดยใช้การเปรียบเทียบระหว่างประโยคเป็นคู่ๆ น่ะครับ

You got my message, did you? == I know you got it and want to get cofirmed.
You got my message, didn't you? == You should've got the message, but let's make sure by asking.

You're driving, are you? == I know you are driving and I want your confirmation.
You're driving, aren't you? == I suppose you are driving but may be not, let's ask.

You can drive, can you? == Explained in same sense as above.

They're new, aren't they? == I don't know about your shoes and have never seen this pair, so let's ask.

อย่างที่ทราบกันล่ะครับ ว่าบางทีไวยกรณ์เองก็ไม่สามารถอธิบาย ภาษาที่ใช้พูดกันจริงๆ ไม่ได้ อย่างไรก็ตามต้องออกตัวก่อนน่ะครับว่าไม่แน่ใจว่าจะถูกหรือเปล่า แต่ตอบเท่าที่คิดได้ในขณะที่ตอบครับ (รบกวนขอชื่อหนังสือและผู้แต่งได้มั้ยครับ)
Shopaholic Aboroad by Sophie Kinsella ค่ะ หน้า 50 ค่ะ...
มีเล่มแปลด้วยค่ะ (สาวนักช้อปตะลุยนิวยอร์ก แปลโดยพลอย จริยะเวช)
พระเอกกับนางเอกจะไปเที่ยวตจว.กัน พระเอกฝากข้อความให้นางเอก pack light เพราะว่ารถเก๋งเค้าเข้าอู่

"You got my message, did you?" he says. "About luggage?" คุณได้รับข้อความที่ผมฝากไว้ใช่ไหม เรื่องสัมภาระน่ะ
"Yes, I did. Here it is." ค่ะ นี่ไงคะ

As he opens the boot, I get into the driving seat and adjust the seat forwards so I can reach the pedals. I've always wanted to drive a convertible! The boot slams, and Luke comes round, a quizzical look on his face. พอเขาเปิดท้ายรถเก็บของ ฉันก็เข้าไปนั่งที่คนขับ ปรับที่นั่งไปข้างหน้าจะได้เหยียบคันเร่งถึง อยากขับรถเปิดประทุนมานานแล้ว เสียงปิดท้ายรถดัง ลุคเข้ามาในรถด้วยสีหน้าขำจัด

"You're driving, are you?" คุณจะขับหรือ
"Part of the way, I thought," " Just to take the pressure off you. You know, it's very dangerous to drive for too long." ว่าจะขับสักครึ่งทางค่ะ แค่จะช่วยผ่อนแรงไม่ให้คุณเหนื่อยไงคะ คุณก็รู้นี่ว่าการขับรถนานเกินไปอันตรายมาก

"You can drive, can you, in those shoes?" He's looking down at my sandals....."They're new, aren't they?"
คุณใส่รองเท้่าแบบนั้นขับรถได้หรือ... คู่ใหม่ใช่ไหม

อย่างประโยค You're driving, are you? กะ You can drive, can you? ก็น่าจะเป็นอย่างที่คุณ Patiwat (ขอทราบชื่อไทยได้มั้ยคะ ^_^) อธิบายว่าเพื่อความชัวร์ เพราะปกตินางเอกในเรื่องไม่เคยขับรถเปิดประทุนอะค่ะ แต่อยากขับอวดคนอื่นอะไรเงี้ยะ
ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยตอบข้อสงสัย จะถูกหรือไม่ ไม่เป็นไรค่ะ รัตน์ดีใจที่มีคนใจดีอย่างคุณคอยให้คำแนะนำเสมอค่ะ ^_^
ชื่อไทย ปฏิวัติ ครับ

และจากที่อ่านท่อนที่คุณรัตน์โพสต์เอาไว้ เดาว่านางเองน่าจะเอาแต่ใจตัวเอง ลุคเลยคาดว่ายังไงๆ หล่อนก็ต้องขับ เลยไม่ได้ ใช้ tag ที่ตรงข้ามกับประโยคก่อนหน้าเพื่อเสนอทางเลือก เพราะยังไงๆ หล่อนก็ไม่เปลี่ยนใจ (เดาครับ)
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ ถามไปนิดเดียว ได้ข้อมูลมาประดับความรู้เพียบเลย
Thank you so much. ล้า ลา...
ขอบคุณมากค่ะ Clear.....
เข้ามาอ่านอีกรอบ..เพราะกำลังฝึกเรื่อง tags
ขอบคุณทั้งรัตน์และคุณ ไทย ปฏิวัติคะ
ได้ความรู้มากมายเลยค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service