เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
คนรอบข้างที่ทำงานเขาเห็นเราเตรียมการสอนลูก (คือดิฉันเป็นพยาบาลค่ะ) พอมีเวลาก็จะอ่านหนังสือซ้อมที่พูดกับลูก ก็จะมีคนแอบพูดกันว่า เกินไปหรือปล่าว อัดให้ลูกมากไป เดี๋ยวไปโรงเรียนเด็กจะขี้เกียจมั่ง เวลาเราซื้ออะไรที่เป็นสื่อการสอนให้ลูก เขาก็จะมองเราแปลกๆ ตอนนี้ลูกอายุได้2 ปี 4 เดือนแล้ว พูดได้เป็นประโยคแล้ว และ ศัพท์ต่างๆได้มากพอสมควร มากกว่าเด็กอนุบาล 2 เสียอีก กลับกลายเป็นว่าเราผิดปกติหรือที่สอนลูกแบบนี้
Tags:
เราต้องเชื่อมั่นตัวเองก่อนนะค่ะ คนรอบข้างเค้าไม่เข้าใจไม่เป็นไร แต่คนในครอบครัวสำคัญมากต้องเข้าใจกันค่ะ ดิฉันก็เหมือนกันค่ะ แต่ดีตรงที่สามีเข้าใจเราและแนวการสอน เลยไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเราไปฟังคนอื่นเราก็ไม่สำเร็จหรอกนะค่ะ ภาษาเริ่มต้นที่บ้านดีแล้วค่ะ แล้วน้องก็จะเก่งและดูเด่นไม่เหมือนใครในอนาคตค่ะ เมื่อเค้าสนทนากับเราได้หรือพูดกับฝรั่งได้เราจะมีความสุขมากเลย ยิ่งภูมิใจตัวเองไม่ใช่ฝรั่งหรือสามีฝรั่งแต่สอนลูกให้พูดได้ จงภูมิใจตัวเองค่ะ ว่าเราคิดถูกต้องแล้ว เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
อ
อย่ายอมแพ้ครับสู้ๆ แต่ของผมนี้ สนุกดี ครับปู่ย่าตา ยาย ชอบพูด กับหลสนเป็นภาษาอังกฤษ พอหลานทำได้ ก็สนุกสนานกันใหญ่เลยครับ
ผม มองว่า ผู้ใหญ่บางคนใช้คำว่ายัดเยียดไม่ถูกน่ะครับ
ผมยกตัวอย่สงคำนี้ให้ดูนะครับ ยัดเยียดคือเหมือนการบังคับให้ทำตามหรือทำตามความต้องการของอีกฝ่ายโดยไม่ได้เกิดจากความเต็มใจ ยกตัวอย่างเด็กประถม ที่หลังจากเลิก จาก ร.ร. ต้องเรียนพิเศษอีกสามชั่วโมง สองวิชาโดยที่พ่อแม่เคยถาม ลูกบ้างไหมว่สชอบหรือไม่ยัดเยียดให้ลูกเรียนเพื่อไม่ให้แพ้ครอบครัวอื่น เมื่อผลการเรียนของเด็กออกมาคะแนนสอบไม่ดีทั้งๆที่ให้เด็กเรียนพิเศษ อัน นี้คือยัดเยียด
แต่ถ้าสิ่งที่เราสอนหรือเด็กเต็มใจไม่ปฎิเสธหรือบอกว่าไม่อยากพูดภาษาอังกฤษ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเรายัดเยียดนะครับ ไม่งั้นพวกลูกครึ่งคนจีน เขาก็โดนยัดเยียดสิครับ
อย่าได้แคร์ค่ะ เราทำเพื่อลูก และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ ทุกกำลังใจเห็นผลจริงๆคะ ล่าสุดพาน้องไปเที่ยวที่ทำงาน เพื่อนที่ทำงานตกใจว่าพูดได้ขนาดนี้เลยเหรอ ชอบใหญ่เลย แม่ก็พลอยหายเหนื่อยเลยค่ะ
การเลี้ยงลูกแต่ละคนไม่เหมือนกันแต่พ่อแม่ทุกคนมีความต้องการเหมือนกันคือ อยากให้ลูกเป็นคนดี คนเก่งและและลูกๆ มีความสุข แต่จะทำอย่างไรล่ะ? วิธีการแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไปแล้วแต่มุมมองหรือแนวความคิด ส่วนตัวดิฉันเองก็โดยทั้งเพื่อนสนิทและแม่ๆ ของเพื่อนลูกพูดให้เหมือนกันว่าเรายัดเยียดลูกเกินไปทุ่มทุนสร้างจังเลยนะเธอ เสียเงินค่าเทอมแพงๆ ให้ลูกไปเรียน รร. สองภาษา เสาร์-อาทิตย์ก็พาลูกไปเรียนพิเศษลูกไม่มีเวลาพักผ่อน แต่เราก็ไม่สนใจเพราะว่าเขาไม่รู้รายละเอียดสิ่งที่เราทำเพราะเขาอยู่แต่ในบ้านส่วนลูกเขาก็ให้เล่นเกมส์ดูทีวีการ์ตูนแต่เรารู้ว่าเราทำอะไรการพักผ่อนไม่ใช่อยู่บ้านอย่างเดียวเพราะการเรียนพิเศษของลูกเราถือว่าเป็นการพักผ่อนเหมือนกันและการเรียนพิเศษเขาก็เป็นคนต้องเองพ่อและแม่ไม่เคยบังคับแต่จะเป็นคนพิจารณาว่าควรหรือไม่ควร เช่น วันเสาร์ขอไปเรียนศิลปะตอนเช้าตอนบ่ายขอเรียนว่ายน้ำเราก็คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีแม่ก็พาไปส่วนวันอาทิตย์ก็ทำกิจกรรมกับครอบครัว ถ้าจะมาเก็บเงินไว้ให้ลูกเรียนตอนโตก่อนเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนเขาบอกเราคงไม่ทำเพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรพรุ่งนี้จะได้อยู่สอนลูกหรือเปล่ายังไม่รู้และถ้าลูกโตขนาดนั้นเขามีความคิดเป็นของตัวเองเขาจะเชื่อฟังเราหรือเปล่าและถ้าเขาไปมีลูกมีเมียก่อนล่ะสิ่งที่เธอคาดหวังมันก็คงล่มสลาย แต่สำหรับฉันยึดคำสุภาษิตที่ว่า "ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"เหมือนการสร้างบ้านเราต้องสร้างฐานที่เสาเข็มให้แข็งแรงก่อนไม่ใช้สร้างหลังคาก่อน เปรียบเหมือนกับเราเลี้ยงลูกเราอยากให้เขาเป็นอย่างเราต้องปลูกฝังเขาตั้งแต่เล็กๆ ส่วนเขาจะเติบโตมาดีเหมือนเราตั้ใจหรือไม่นั้นคือผลรับแต่ถ้ามันไม่เป็นเหมือนเราคาดหวังไว้เราก็จะไม่ได้มานั่งเสียใจภายหลังเพราะนั้นเราได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว จงมั่นใจในสิ่งที่เราทำและทำให้ดีที่สุดสำหรับดวงใจน้อยๆ อีกหนึ่งดวงของเรานะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆๆ
แก้วเปล่าใบที่หนึ่งมีมดตัวน้อยอยู่ในแก้ว ถูกนำไปวางในสภาพอากาศที่เหม็นคล้ายก๊าซไข่เน่า แล้วมีมดตัวน้อยจะได้กลิ่น.........
แก้วใบที่สองใส่น้ำใบเตยหอมชื่นใจมีปลาซิวอยู่หนึ่งตัว ก็ถูกนำไปวางในสภาพอากาศเดียวกัน แล้วปลาซิวตัวจิ๊ดจะได้กลิ่น.......
เด็กถ้าไม่ป้อนข้อมูลที่ดีให้=แก้วใบที่หนึ่ง (เพราะเขาจะถูกป้อนข้อมูลโดยสภาพสังคม ซึ่งมีกลิ่นตุ...ตุ)
เด็กที่พ่อแม่ตั้งใจใส่ข้อมูลที่ดี(ดีที่เป็นคนดีแล้วทุกอย่างจะดี) ก็เป็นโชคดีของปลาซิว.........เสียใจกับมดตัวน้อยด้วยนะ.........
(จริงๆแล้วมดตัวน้อยในแก้วใบที่หนึ่งมีสองตัว......คือพ่อกับแม่อีกมุมหนึ่งไง)
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by