เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
น้องไม่สบายเป้นหวัดนานนะค่ะเลยต้องล้างจมูก
1ก่อนกลั้นหายใจให้หายใจเข้าลึกๆก่อน
2ระหว่างล้างจมูกด้วยน้ำเกลือหนูต้องกลั้นหายใจและร้องอ้า…ห้ามหายใจเข้าเพราะจะสำลักได้
3การล้างจมูกที่ถูกวิธีน้ำเกลือจะไหลออกจมูกข้างที่เราไม่ได้ฉีดน้ำเกลือเข้าไปและน้ำเกลืออาจจะไหลออกทางปากด้วย
4หลังจากล้างจมูกเสร็จแล้วให้สั่งน้ำมูกและบ้วนน้ำที่ไหลลงคอทิ้ง
5จากนั้นหนูต้องอบจมูกประมาณ5ถึง10 นาที(อบจมูกคือสูดไอระเหยของน้ำร้อนผสมกับยาค่ะ)
6หนูต้องพ่นยาที่จมูกข้างละครั้งสลับซ้ายขวาทำแบบนี้ 2รอบ
7ถ้าหนูทำทุกขั้นตอนต่อเนื่องกันการรักษาจึงจะได้ผลดีกว่าการข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง
8หนูต้องกินยาติดต่อกันจนหมด
9การล้างจมูกคือการล้างสิ่งสกปรกในจมูกให้ออกไป
10ถ้าหนูจะนั่งเขียนอะไรให้ไปนั่งเขียนที่โต๊ะ(น้องชอบนอนเขียนหนังสือค่ะ)
11สงสัยการใช้supposeค่ะว่าควรใช้ตอนไหนและแปลว่าอะไรอย่างประโยคที่ว่า
A :Is there anything else you forgot?
B:We were supposed to come together.ในประโยคนี้เปลี่ยนsupposeไปใช้shouldได้ไหมค่ะ
12 สงสัยการใช้ ownค่ะ ใช้เมื่อเราต้องการเน้นความเป้นเจ้าของหรือเปล่าค่ะWho would like to color your own pictures?
หากประโยคนี้ไม่มีownได้ไหมจะทำให้ความหมายเปลี่ยนไปเลยหรือเปล่าค่ะ Who would like to color your pictures?
-ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ
Tags:
ขอแชร์ด้วยนะครับ
1ก่อนกลั้นหายใจให้หายใจเข้าลึกๆก่อน
-> Before holding your breath, take a deep breath first.
2ระหว่างล้างจมูกด้วยน้ำเกลือหนูต้องกลั้นหายใจและร้องอ้า…ห้ามหายใจเข้าเพราะจะสำลักได้
-> While you're rinsing your nose, you have to hold your breath and at the same time, say ahh.... Don't breathe during this time because you will be choking.
3การล้างจมูกที่ถูกวิธีน้ำเกลือจะไหลออกจมูกข้างที่เราไม่ได้ฉีดน้ำเกลือเข้าไปและน้ำเกลืออาจจะไหลออกทางปากด้วย
-> If you do it right, the saline solution will come out of the other side your nose and sometimes out of your mouth too.
4หลังจากล้างจมูกเสร็จแล้วให้สั่งน้ำมูกและบ้วนน้ำที่ไหลลงคอทิ้ง
-> After rinsing is done, blow your nose and spit out all the remaining solution.
5จากนั้นหนูต้องอบจมูกประมาณ5ถึง10 นาที(อบจมูกคือสูดไอระเหยของน้ำร้อนผสมกับยาค่ะ)
-> Then, you have to inhale the vapour for about 5 to 10 minutes.
6หนูต้องพ่นยาที่จมูกข้างละครั้งสลับซ้ายขวาทำแบบนี้ 2รอบ
-> You have to spray each side of your nose alternately 2 times.
7ถ้าหนูทำทุกขั้นตอนต่อเนื่องกันการรักษาจึงจะได้ผลดีกว่าการข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง
-> You will get good results if you follow every step of the treatment without skipping any.
8หนูต้องกินยาติดต่อกันจนหมด
-> You have to finish the whole course of medication.
9การล้างจมูกคือการล้างสิ่งสกปรกในจมูกให้ออกไป
-> Rinsing your nose makes your nose completely clean.
10ถ้าหนูจะนั่งเขียนอะไรให้ไปนั่งเขียนที่โต๊ะ(น้องชอบนอนเขียนหนังสือค่ะ)
-> If you want to write, write at the table. Don't write lying down.
11สงสัยการใช้supposeค่ะว่าควรใช้ตอนไหนและแปลว่าอะไรอย่างประโยคที่ว่า
A :Is there anything else you forgot?
B:We were supposed to come together.ในประโยคนี้เปลี่ยนsupposeไปใช้shouldได้ไหมค่ะ
-> "to be supposed to" คือ "ควรจะ" อย่างหนึ่งเหมือนกับ should แต่ความหมายเฉพาะเจาะจงกว่า should โดยหมายถึง ควรจะทำบางอย่าง เพราะมีกฎเกณฑ์บอกไว้, เพราะหน้าที่กำหนดไว้ตามหน้าที่ หรือ เพราะถูกบอกถูกสั่งว่าให้ทำ เช่น We we supposed to come together จะหมายถึง อาจจะมีบางคน หรือบางอย่างบอกไว้ หรือเราตกลงกันไว้ว่าต้องมาด้วยกัน
ใช้ should แทนก็ได้ เพียงแต่ were supposed to จะมีความหมายเจาะจงมากกว่า should ที่มีความหมายทั่ว ๆ ไปมากกว่าครับ
12 สงสัยการใช้ ownค่ะ ใช้เมื่อเราต้องการเน้นความเป้นเจ้าของหรือเปล่าค่ะWho would like to color your own pictures?
หากประโยคนี้ไม่มีownได้ไหมจะทำให้ความหมายเปลี่ยนไปเลยหรือเปล่าค่ะ Who would like to color your pictures?
-> ไม่ต่างกันครับ own(adj.) ในประโยคเป็นการเน้นเจาะจงว่าเป็นภาพของเขาเท่านั้นครับ ถึงไม่มี แต่มี your กำกับก็ได้ความหมายเหมือนๆ กันครับ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by