เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

1. get car accident ได้รับอุบัติเหตุ โดนรถชน ใช้ได้กับรถทุกชนิดหรือเปล่า

   เช่น รถจักรยานชน มอเตอร์ไซด์ชน รถไฟชน

2. He drove into the tree / He crashed his car into the tree  เขาขับรถชนต้นไม้

3. You fell off the bike, and you aslo have got a small bruise and big bruise on your legs.  หนูขี่จักรยานล้มและมีทั้งแผลใหญและเล็กที่ขา

4. I will put on antiseptic solution and bandage your legs.  แม่จะใส่ยาและติดพลาสเตอร์ให้

5. Don't let your bruises get the water. Otherwise, they will become infected and it will take so long to cure them. อย่าให้แผลโดนน้ำ เดี่ยวจะติดเชื้อเป็นหนอง และจะหายช้า

6. When the scab is formed, it almost will be gone.  เมื่อแผลตกสะเก็ด มันก็เกือบจะหายแล้ว

7. ขอถามการใช้ let & leave 

     Let it cool down, let it dry    ปล่อยให้เย็นลง   ปล่อยให้แห้ง

     Leave me alone  ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว   อย่างประโยคนี้จะใช้ let แทน leave ได้ไหมค่ะ

   เช่น อย่าให้คุกกี้โดนลม เดี่ยวจะไม่กรอบ  ใช้ leave หรือ let ค่ะ 

          Don't leave some cookies to be exposed the wind, it won't be crispy.

   

Views: 33584

Replies to This Discussion

1.ใช้ had ค่ะ ถ้าเกิดแล้ว

I had a car accident this morning. 

ถ้าโดนรถชนในขณะเดินอยู่ ก็ I got hit by a car.

3.bruise/bruises คือ แผลฟกช้ำค่ะ ถ้าแผลเลือดออก ใช้ wound/wounds

5.You should keep your wounds away from water until they're healed. Otherwise, they'll get infected. 

7.ถูกแล้วค่ะ ใช้ leave

Don't leave cookies uncovered. They'll get soggy. หรือ they won't be crispy. นิ่มๆ ไม่กรอบ

  

1. get car accident ได้รับอุบัติเหตุ โดนรถชน ใช้ได้กับรถทุกชนิดหรือเปล่า

   เช่น รถจักรยานชน มอเตอร์ไซด์ชน รถไฟชน

-> 1.1. "accident"  = อุบัติเหตุทั่ว ๆ ไป  ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะใช้ have an accident  ซึ่ง accident ทั้งแรง ทั้งไม่แรง  (เช่นบังเอิญขับชนกระถาง, แค่เฉี่ยวกัน) ชนคน หรือไม่ชนคน ใช้ได้กับ vehicles ทุกชนิด รวมทั้ง train, plane, ship

     

     1.2. "crash"   คือ accident อย่างหนึ่ง  ที่ vehicle หรือ train, plane, ship ชนเข้ากับบางสิ่ง ที่อาจจะเป็น รถอีกคัน, ต้นไม้, กำแพง, บ้าน, เสาไฟ, ฯลฯ  แล้วเกิดความเสียหาย หรือพาหนะนั้นพัง  เช่น

    -  20 passengers were killed in a bus crash.   The bus crashed into a tree this morning. (ผู้โดยสาร 20 คนเสียชีวิตในอุบัติเหตุรถบัส  รถบัสชนกับต้นไม้เมื่อเช้านี้) 

    -  A recent Russian-made plane crash in Indonesia killed all people on board.  (อุบัติเหตุเครื่องบินรัสเซียตกที่อินโดนีเซียทำให้ผู้โดยสายเสียชีวิตหมด) 

    -  The crash of Titanic is well-known across the world. (อุบัติเหตุเรือ Titanic เป็นอุบัติเหตุที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี)

    -  There were 2 helicopter crash in Kanchanaburi last year. (มีอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก 2 ครั้งที่กาญจนบุรีปีที่แล้ว)

    แต่หากเป็นชนคน  จะใช้ "accident" และหากเป็น verb ก็ใช้ "hit"  เช่น 

    - A car accident took place last night in front of our house.  The car crashed into a power pole after hitting a man who was walking nearby. (มีอุบัติเหตุรถยนต์เกิดขึ้นหน้าบ้านเมื่อคืน  รถเก๋งชนเข้ากับเสาไฟหลังชนคนที่กำลังเดินอยู่ใกล้ๆ)

    1.3. "Collision" เป็น accident อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งยานพาหนะ, plane, train, ship จำนวน 2 หรือมากกว่า 2 ชนกันเอง  เช่น:

    -  All passengers were killed in a mid-air collision (of 2 planes). (ผู้โดนสายเสียชีวิตหมดในอุบัติเหตุเครื่องบิน 2 ลำชนกันกลางอากาศ)

    -  3 boats collided on a river.  (เรือ 3 ลำชนกันในแม่น้ำ) 

          collision จะความหมายแคบกว่า crash เพราะเกี่ยวข้องกับยานพาหนะชนกันเอง   ดังนั้นประโยคที่ใช้ collision จะใช้ crash แทนในประโยคก็ได้   

2. He drove into the tree / He crashed his car into the tree  เขาขับรถชนต้นไม้

->  ถูกแล้วครับ  drove into ก็แปลตรงตัวว่าขับรถไปชนต้นไม้

3. You fell off the bike, and you aslo have got a small bruise and big bruise on your legs.  หนูขี่จักรยานล้มและมีทั้งแผลใหญและเล็กที่ขา

Bruise(s) = แผลฟกช้ำ   และหากจะบอกขี่จักรยานล้มแล้วมี "แผลถลอก"  ใช้ "abrasion"  และ ทำให้ถลอกใช้ "scrape" หรือ "graze" เช่น:

  - You fell off the bike and you have got a small abrasion and a large abrasion on your legs.  หรือจะใช้ scrape ก็เป็น   ".....you scraped/grazed your legs (a bit หรือ severely = อย่างรุนแรง)

ขอเสริมให้  "รอยข่วน"  = "scratch (v.,n.)"ทำให้เกิดรอยแผลเล็ก ๆ เช่นโกนหนวดแล้วมีดโกนบาด = "nick (v.)" เช่น 

  - I nicked my chin while shaving this morning.    หากใช้เป็น noun ก็เป็น  I got a tiny cut from shaving this morning.

 

4. I will put on antiseptic solution and bandage your legs.  แม่จะใส่ยาและติดพลาสเตอร์ให้

->  I will put antiseptic solution on your abrasions/wounds/scratches and bandage your leg (up).

5. Don't let your bruises get the water. Otherwise, they will become infected and it will take so long to cure them. อย่าให้แผลโดนน้ำ เดี่ยวจะติดเชื้อเป็นหนอง และจะหายช้า

->  Don't expose the scratches to water.  Otherwise, they will become infected and they will take a long time to heal.  (so long เป็นการเน้นซึ่งจะใช้ในประโยคคำถามเพื่อเน้นว่าทำไมมันนานอย่างนี้ มากกว่าครับ เช่น  Why does it take so long to heal?)

6. When the scab is formed, it almost will be gone.  เมื่อแผลตกสะเก็ด มันก็เกือบจะหายแล้ว

->  When the scab is formed, the scratch will be almost gone.      (almost จะวางไว้หลัง verb ช่วยเป็นหลักครับ)

7. ขอถามการใช้ let & leave 

     Let it cool down, let it dry    ปล่อยให้เย็นลง   ปล่อยให้แห้ง

     Leave me alone  ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว   อย่างประโยคนี้จะใช้ let แทน leave ได้ไหมค่ะ

   เช่น อย่าให้คุกกี้โดนลม เดี่ยวจะไม่กรอบ  ใช้ leave หรือ let ค่ะ 

          Don't leave some cookies to be exposed the wind, it won't be crispy.

->  "leave"  ที่แปลว่า "ปล่อยมันไว้ให้..."  = "leave something to do something"  ใช้แทน let ในความหมายใกล้เคียกันได้ในบางประโยคเช่น:

     - Let it cool down, let it dry -->  Leave it to cool down, leave it to dry.

     แต่ Leave me alone ใช้ Let ไม่ได้ครับ

    

      -  ส่วนประโยค Don't leave some cookies to be exposed the wind, it won't be crispy.  ไม่ต้องใช้ leave หรือ let เพราะ "expose"  มีความหมายว่า "ปล่อยให้สัมผัสกับ"   อยู่แล้ว ดังนั้นใช้เป็นอย่างนี้ได้เลย 

"Don't expose cookies on the plate without cover, they won't be crispy.  They will go limp (หรือ go soft)."  

     - "limp" [หรือ soft ก็ได้]=  คุ๊กกี้  ที่กลายเป็นนิ่ม ไม่น่ากิน  ไม่กรอบเหมือนเดิม  ซึ่งใช้กับ แซนวิช หรือ ขนมปังที่ไม่เหนียว หยุ่น (stiff & firm) เหมือนเดิมเช่น   limp sandwiches     ส่วนจะบอกว่าขนมที่ว่ากลายเป็นแบบนี้ไปแล้วก็ใช้ "go/become limp [soft]"

     - "soggy" (ขออนุญาติเสริมจากคุณPhitchapa นะครับ) ก็แปลว่านุ่มยวบเหมือนกัน แต่จะนุ่มนิ่มไม่น่ากินเพราะเปียกชื้น  

        และ soggy ใช้กับสิ่งของอย่างอื่น ๆ ก็ได้เช่น  soggy tissue/paper = กระดาษเละ ๆ เพราะเปียกน้ำ,  soggy leaves/grasses =  ใบไม้/หญ้าเปียก ๆ ยวบ ๆ

ยังไม่เคลียร์ค่ะ

 1.  Cross the road carefully, you might get car accident.  ข้ามถนนดีๆ  คุณอาจจะโดนรถ(ทุกชนิด)ชนได้

    He got car accident yesterday.  เขาโดนรถ(ทุกชนิด)ชนเมื่อวานนี้  ( เขาไม่ใช่คนขับรถ เขาอาจจะเดินอยู่ หรือยืนอยู่ตามสถานที่ต่างๆ)

    ถ้าเขานั่งมาในรถ เป็นผู้โดยสารอยู่ในรถ แล้ว รถเกิดอุบัติเหตุ He got car accident ได้ไหม

    ถ้าเขาเดินหรือยืนอยู่  แล้วโดนรถมอเตอร์ไซด์ชน  พูดว่าอย่างไร

 

 -  He had an accident yesterday.  เขาเกิดอุบัติเหตุเมื่อวานนี้

    ( เขาเป็นคนขับรถ (ทุกชนิด) แล้วเกิดชนคน ต้นไม้ เฉี่ยวคน หรือสิ่งของต่างๆ)

 

 7.  Don't expose cookies on the plate without cover, they won't be crispy .

     หรือใช้ว่า   Don't leave some cookies on the place without cover  ได้ไหมค่ะ

ยังไม่เคลียร์ค่ะ

 1.  Cross the road carefully, you might get car accident.  ข้ามถนนดีๆ  คุณอาจจะโดนรถ(ทุกชนิด)ชนได้

    He got car accident yesterday.  เขาโดนรถ(ทุกชนิด)ชนเมื่อวานนี้  ( เขาไม่ใช่คนขับรถ เขาอาจจะเดินอยู่ หรือยืนอยู่ตามสถานที่ต่างๆ)

 

-->  You might get car accident หรือ He got car accident yesterday   น่าจะเป็น You might have a car accident หรือ  He had a car accident yesterday  เพราะ "get" ที่ตามด้วย noun  = receive, obtain, contract, develop  เช่น  "I got a flu." = I contracted a flu.

     แต่ "accident"  เป็นเหตุการณ์ หรือ situation อย่างหนึ่งซึ่งจะใช้  "have"  หรือ "get into"  เหมือนกับ  "trouble"  ที่หมายถึง เหตุการณ์ที่ยุ่งยาก /ปัญหา ก็จะใช้ว่า  "I have a trouble with my boss/ I've got a trouble../I got into a trouble...."   ซึ่งหากใช้ "get" กับ accident ก็น่าจะเป็น  "He got into a car accident yesterday."   (เช็คกับ Longman dictionary ก็ได้ข้อมูลมาว่าใช้ "have "  กับ accident ในแบบที่อธิบายมาครับ)

    

    ถ้าเขานั่งมาในรถ เป็นผู้โดยสารอยู่ในรถ แล้ว รถเกิดอุบัติเหตุ He got car accident ได้ไหม

->  อันนี้ก็เป็น  He got into/had a car accident (while he was in her car).

    ถ้าเขาเดินหรือยืนอยู่  แล้วโดนรถมอเตอร์ไซด์ชน  พูดว่าอย่างไร

 ->  He had an accident.  He was walking and suddenly a bike hit him and knocked him to the ground. 

 

 -  He had an accident yesterday.  เขาเกิดอุบัติเหตุเมื่อวานนี้

    ( เขาเป็นคนขับรถ (ทุกชนิด) แล้วเกิดชนคน ต้นไม้ เฉี่ยวคน หรือสิ่งของต่างๆ)

 ->  ใช่ครับ  หรือ หากชนแบบแรงโดนชนคน หรือ ต้นไม้ จะพูดขยายความเพิ่มอีกประโยคก็ได้ว่า He had an accident yesterday.  He crashed (his car) into a man/a tree.

 

 7.  Don't expose cookies on the plate without cover, they won't be crispy .

     หรือใช้ว่า   Don't leave some cookies on the place without cover  ได้ไหมค่ะ

->  ได้ครับ

ขอย้ำเพื่อความแน่ใจนะคะ

1. แสดงว่า   have a car accident   เกิดอุบัติเหตุทางยานพาหนะ ซึ่งอาจจะเป็นการขับไปชน  หรือโดนชน ก็ได้

                 แล้วดูที่ประโยคขยายว่า เขาเป็นคนขับไปชน  หรือเขาเป็นคนที่โดนชน

       He had a car accident yesterday, he drove into the tree. เขาเกิดอุบัติเหตุโดยขับรถชนต้นไม้

       He had a car accident yesterday, the bike hit him.  เขาเกิดอุบัติเหตุโดยเขาโดนจักรยารชน 

7. ถ้าใช้ Don't expose some cookies to the air.   ได้ไหมคะ

    ขอเพิ่ม   We should expose the wounds to the air, they will be dry early.

                 We should expose the wounds without cover, they will be dry early.

                เราควรจะเปิดแผลบ้าง  แผลจะแห้งเร็วขึ้น

( สงสัยว่า expose something to the air  & expose something withot cover ความหมายแทนกันได้หรือเปล่า) 

 

 

1. แสดงว่า   have a car accident   เกิดอุบัติเหตุทางยานพาหนะ ซึ่งอาจจะเป็นการขับไปชน  หรือโดนชน ก็ได้

                 แล้วดูที่ประโยคขยายว่า เขาเป็นคนขับไปชน  หรือเขาเป็นคนที่โดนชน

       He had a car accident yesterday, he drove into the tree. เขาเกิดอุบัติเหตุโดยขับรถชนต้นไม้

       He had a car accident yesterday, the bike hit him.  เขาเกิดอุบัติเหตุโดยเขาโดนจักรยารชน

-----------------------

->  ใช้ครับ  คำหลักคือ "accident"  = อุบัติเหตุ  ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดว่าอุบัติเหตุเป็นยังไง หากจะอธิบายเพิ่มในรายละเอียดก็อยู่ที่เราว่าจะใช้คำที่เกี่ยวข้องหรือประโยคอื่น ๆมาอธิบายเพิ่มเติมครับ

------------------------

7. ถ้าใช้ Don't expose some cookies to the air.   ได้ไหมคะ

    ขอเพิ่ม   We should expose the wounds to the air, they will be dry early.

                 We should expose the wounds without cover, they will be dry early.

                เราควรจะเปิดแผลบ้าง  แผลจะแห้งเร็วขึ้น

( สงสัยว่า expose something to the air  & expose something withot cover ความหมายแทนกันได้หรือเปล่า) 

------------------------------------

-> 1. Don't expose some cookies to the air.  ได้ครับ

    2. We should expose the wounds to the air, they will be dry early. 

        อันนี้จริง ๆ ก็ไม่ผิดนะครับ  แต่หากจะให้ดีขึ้นน่าจะเป็น  "We should expose the wounds to air (so that), they will dry soon." (ขออธิบายรายละเอียดเยอะหน่อยนะครับ) 

         2.1.  "air" หากหมายถึงอากาศที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วๆ ไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่า air ในห้องนี้ ในรถนี้ ก็ไม่ต้องมี the ครับ (เหมือนกันกับกรณีคำ water, fire, nature)         

         2.2.  "dry"  มีทั้งเป็นแบบ adj. และ verb  ต่างกันในรายละเอียดว่า dry [adj.] = ไม่เปียก(not wet) ซึ่งใช้บ่งบอก "สภาพตอนนั้น ๆ"  ส่วน dry [v.] = ทำให้แห้ง  ซึ่งใช้ในกรณีอะไรที่เปียก แล้วทำให้มันแห้ง   เช่น   "The rag is not dry (=it's wet).  Take it out and dry it on the washing line."    ดังนั้นกรณีเดียวกัน  แผลที่ยังสดอยู่ จะทำให้แห้ง ก็ใช้ dry ที่เป็น verb จะตรงกว่าครับ

 

        2.3.  "early" / "soon"  ก็มีความแตกต่างในรายละเอียดคือ 

                 -  "early" คือ เร็วกว่าปกติ แบบเรารู้กำหนดการหรือมีกรอบเวลามาเกี่ยวข้อง [before usual or expected time, ตรงกับข้าม late] 

                     เช่น "Oh, you came home early today." (เพราะโรงเรียนเลิก 15.30)

                 -  "soon"  คือ เร็วกว่าแบบรวดเร็ว หรือเร็ว ๆนี้ แต่ไม่มีกรอบเวลามาเกี่ยวข้อง [ in a short time from now, or a short time after something else happens, quickly] 

                      เช่น  "I'll be home soon." (เดี๋ยวก็กลับบ้าน หลังทำธุระเสร็จ ไม่รู้กี่โมง แต่เร็วละกัน)

                ดังนั้นแผลที่สดที่เราก็ยังไม่รู้ว่าจะแห้งเมื่อไหร่ แต่รู้ว่าหากทำอย่างนี้จะแห้งเร็วก็น่าใช้ "soon" ครับ

(อ้างอิงจาก Longman Dictionary)

-------------------------------------

 

    3. We should expose the wounds without cover, they will be dry early. 

--------------------------------------

->  อันนี้หากใช้แบบประโยคก่อนหน้านี้ดีกว่า โดยไม่ต้องมี "without cover"  

จริง ๆ ประโยคที่ผมยกตัวอย่างด้านบนว่า "Don't expose cookies on the plate without cover"  คือต้องการเน้นว่า ต้องปิดฝาด้วย หากวางคุ๊กกี้ไว้ในจาน   ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องมี without cover ก็ได้หากพูดว่า  "Don't expose cookies to the air that way."      

ตามความหมาย "expose"  ก็บ่งบอกด้วยตัวมันเองแล้วว่า ไม่มีอะไรมาปิดบัง ขึ้นอยู่กับบริบทมากกว่าว่าจะมีวลีอะไรมาเน้นเพิ่มหรือเปล่า เช่น :

     - Don't expose your face to strong sun like that.  You'll get sunburn on your sensitive face.

     - Don't expose your face to strong sun without sunglasses.  It's harmful to your eyes.

ตามนี้นะครับ  :)

       

คุณเอกกลับมาตอบให้ทุกครั้ง   ขอบคุณมากค่ะ   

หายสงสัยแล้วค่ะ   ได้ของแถมเรื่อง early , soon , air , the air  เพิ่งรู้ว่ามีความแตกต่างกัน 

ยินดีครับ  คำถามคุณรัชนีเป็นคำถามดีๆเยอะครับ สังเกตุเก่งด้วย หลาย ๆ ครั้งพออ่านคำถามที่ถามมาก็กระตุ้นให้คิดเพิ่มเติมต่อหรือค้นคว้าต่อด้วย  ผมคิดว่าหลาย ๆ กระทู้ที่คุณรัชนีตอบ หรือถามเป็นประโยชน์จริง ๆ ต่อทุกคนในห้องนี้ครับ 

ไม่ได้ทะลึ่งนะคะ แต่ limp ฝรั่งจะใช้ describe ลักษณะ การไม่แข็งตัวของ จุด จุด จุด เหอๆ

ไม่นิยมใช้กับอาหารค่ะ

limp แปลว่าเป๋ ก็ได้ค่ะ 

I have a limp. แปลว่า เดินเป๋ๆค่ะ เพราะขาเจ็บ

ส่วน cure นั่นหมายถึงการรักษา หรือถูกรักษาด้วยยา และหมอ

แต่ A wound heals itself. แผลมันแห้งและหายเองได้ ค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น จะใช้ limp ก็ได้นะคะ ไม่ผิดแต่อย่างใด 

แต่ definition ของ limp คือ อ่อนลง,ปวกเปียก,นิ่ม,นุ่ม,กระโผลกกระเผลก,ไม่มีแรง ซึ่งใช้กับอวัยวะซะส่วนใหญ่

สุดยอดละเอียดทั้งผู้ถามผู้ตอบเลยคะ คนอ่านเลยพลอยได้ความรู้ไปด้วยเลย ^^

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service