เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ประโยคตัวอย่างภาษาอังกฤษ (1) English Sentences (1)+mp3

  1. A good student absorbs knowledge swiftly and well. นักเรียนที่ดีซึมซับความรู้เป็นอย่างดีและรวดเร็ว
  2. All foreign nationals are being advised to leave the country. ชาวต่างชาติทุกคนได้รับคำแนะนำให้ออกนอกประเทศ
  3. Allow me to introduce myself. ขออนญาตให้ฉันแนะนำตัวหน่อย
  4. And what exactly do you want in return? และจริงๆ แล้วคุณอยากได้อะไรตอบแทนคืน
  5. Anything special at school today? มีอะไรพิเศษที่โรงเรียนหรือเปล่า?
  6. Are you certain of this? คุณแน่ใจหรือ?
  7. Are you doing this on company time? คุณทำสิ่งนี้ในเวลาทำงานหรือ?
  8. As soon as he accepts this, he lives life happy. ทันทีที่เขายอมรับสิ่งนี้ เขาก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
  9. Ask me to do something intelligent. ขอร้องให้ฉันทำบางสิ่งที่เข้าท่าหน่อยเถอะ
  10. Because from now on I will make my own decisions! เพราะว่าต่อแต่นี้เป็นต้นไปฉันจะตัดสินใจด้วยตัวของฉันเอง
  11. But first and foremost, you are fired. แต่อย่างแรกที่สำคัญที่สุดคุณถูกไล่ออกแล้ว
  12. But how can my own people do this to each other? แต่ทำไมพวกเรากันเองทำสิ่งนี้ต่อกันได้
  13. But I’ll have to check my schedule to see when I’m available. แต่ฉันต้องเช็คดูตารางเวลาก่อนว่าจะว่างพบคุณได้เมื่อไหร่
  14. But if you ain’t, don’t blame me. แต่ถ้าไม่ก็อย่าได้ตำหนิฉัน
  15. But sometimes you wanna hang out. แต่บางครั้งคุณก็อยากออกไปสังสรรค์บ้าง
  16. Call me if you need a rescue. โทรหาฉันถ้าอยากให้ช่วยเหลือ
  17. Call me twice a day โทรหาฉันสองครั้งต่อวัน
  18. Calm down, don’t act like this! สงบหน่อย อย่าทำอย่างนั้น
  19. Calm down, don’t be so sad. สงบหน่อย อย่าเศร้าโศกมากนัก
  20. Can I have a word with you? ขอฉันพูดอะไรกับคุณสักนิดได้ไหม?
  21. Can I have my food, please? ขอฉันทานอาหารหน่อยได้ไหม?
  22. Can I persuade you to take a sandwich? ฉันจะเกลี้ยกล่อมคุณให้ทานแซนวิชได้ไหม?
  23. Can I talk to you in a while? ขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม
  24. Can this wait till we get home? สิงนี้จะรอจนกว่าเราจะถึงบ้านได้ไหม
  25. Can we reason with him? เราจะชี้แจงเหตุผลกับเขาได้ไหม?
  26. Can we stay a couple more minutes? เราจะอยู่ต่ออีกสักหน่อยได้ไหม?
  27. Can you babysit my dog for me? คุณช่วยดูแลหมาของฉันให้หน่อยได้ไหม?
  28. Can you give me a minute? ขอเวลาฉันสักครู่ได้ไหม?
  29. Can you turn off that music, please? คุณช่วยปิดเพลงนั่นให้หน่อยได้ไหม?
  30. Come in and take a seat! เข้ามาและก็นั่งลง
  31. Could we rain check until lunch? เราเลื่อนออกไปจนถึงเวลาอาหารเที่ยงได้ไหม?
  32. Could you please check? คุณช่วยกรุณาตรวจสอบให้หน่อยได้ไหม?
  33. Couldn’t you give me just one more chance? คุณจะให้โอกาสฉันอีกครั้งเดียวไม่ได้หรือ?
  34. Do not make me wait for you! อย่าทำให้ฉันต้องคอยคุณ
  35. Do we understand each other? พวกเราเข้าใจกันและกันหรือเปล่า
  36. Do you find it hard to hide the fact that you’re broke? คุณพบว่ามันเป็นการยากที่จะซ่อนความจริงที่ว่าคุณถังแตกใช่ไหม?
  37. Do you have any idea who this woman is? คุณทราบหรือไม่ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?
  38. Do you have any thoughts of your own on this matter? คุณมีความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือไม่?
  39. Do you know how long it takes for those to decompose? คุณรู้หรือไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการย่อยสลาย
  40. Do you see me as your brother? คุณเห็นฉันเป็นพี่ชายใช่ไหม?
  41. Do you still remember your promise? คุณยังจำสัญญาของคุณได้ไหม?
  42. Does it hurt much? มันเจ็บมากไหม?
  43. Doesn’t that mean anything to you? นั่นไม่ได้มีความหมายใดๆ กับคุณเลยหรือ?
  44. Don’t argue with me! อย่ามาเถียงกับฉัน
  45. Don’t come back to me when you’ve changed your mind. อย่าได้กลับมาหาฉันอีกล่ะถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา
  46. Don’t come near! Don’t approach me! อย่าเข้ามาใกล้ อย่าเข้ามาใกล้ฉัน
  47. Don’t discourage him. อย่าทำให้เขาเสียกำลังใจ
  48. Don’t forget the rules. อย่าลืมกฏนะ
  49. Don’t make me regret my decision. อย่าทำให้ฉันเสียใจต่อการตัดสินใจนี้
  50. Don’t move an inch. อย่าขยับแม้แต่นิด
  51. Don’t turn your back on that. อย่าเพิกเฉยต่อสิ่งนั้น
  52. Don’t waste anymore time. อย่าเสียเวลาอีกเลย
  53. Don’t you dare talk to anyone about this! อย่าได้บังอาจบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้
  54. Don’t you remember what we learned? คุณจำสิ่งที่พวกเราเรียนรู้ไม่ได้หรือ?
  55. Enjoy it while you can. สนุกกับมันในขณะที่คุณทำได้
  56. Everybody! Head down to the basement. ทุกคนมุ่งหน้าลงไปที่ใต้ถุนตึก
  57. Everyone here is a total stranger. ทุกคนในที่นี้ล้วนแต่เป็นคนแปลกหน้าทั้งสิ้น
  58. For your own safety, you need to sit down. เพื่อความปลอดภัยของคุณ คุณต้องนั่งลง
  59. Forgive me if we kept you waiting. ขอโทษด้วยถ้าพวกเราทำให้คุณคอย
  60. From now on, he is to be left alone. ปล่อยเขาไว้ตามลำพังจากนี้เป็นต้นไป
  61. Get out of my sight before I lose my temper. ไปให้พ้นจากสายตาก่อนที่ฉันจะโกรธ
  62. Get out of town as soon as you can. ออกไปจากเมืองเร็วเท่าที่จะเร็วได้
  63. Give me one good reason. ขอเหตุผลดีๆ สักข้อสิ
  64. Go ahead and do whatever you were doing. ก้าวต่อไปและทำในสิ่งที่ได้ทำมา
  65. Go and get me something to eat. ออกไปหาอะไรมาให้ฉันกินหน่อย
  66. Good to have you. ดีใจที่คุณมา
  67. Good work for a man as young as he was. งานที่ดีสำหรับคนหนุ่มเท่าเขา
  68. Have a good rest! พักผ่อนมากๆ นะ
  69. Have no fear. Tell us the truth! ไม่ต้องกลัว บอกความจริงกับเรามา
  70. Have you lost your mind? คุณเสียสติหรือเปล่า
  71. Have you seen any children yet? คุณเจอเด็กๆ บ้างหรือยัง?
  72. He better call and he better have a good explanation. เขาควรโทรมาและควรมีคำอธิบายที่ดีด้วย
  73. He does not deserve me! เขาไม่คู่ควรกับฉัน
  74. He doesn’t stay here no more. เขาไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว
  75. He dumped me before all my friends. เขาบอกเลิกกับฉันต่อหน้าเพื่อนๆ ของฉัน
  76. He got what he deserved. เขาได้ในสิ่งที่สมควรได้
  77. He stands up for the right thing. เขายืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
  78. Here comes my favorite part. มาแล้วส่วนที่ฉันชอบมากที่สุด
  79. Here’s a little something to help you get started. นี่คือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ บางสิ่งที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้
  80. He’s about this high. เขาสูงประมาณนี้
  81. He’s not taking this seriously. เขาจะไม่ทำสิ่งนี้อย่างจริงจัง
  82. He’s obsessed with you. เขาหลงใหลในตัวคุณ
  83. He’s staying in our house as my personal guest. เขาจะพักอยู่ที่บ้านเราในฐานะแขกส่วนตัว
  84. He’s the one that attacked me. เขาคือคนที่ทำร้ายฉัน
  85. Hey, don’t make excuses. เฮ้ อย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย
  86. How deep do we need to go? พวกเราต้องลงไปลึกแค่ไหน?
  87. How did you find me? คุณหาฉันเจอได้อย่างไร?
  88. How long ago was your last relationship? สัมพันธภาพครั้งล่าสุดของคุณนี่มันนานแค่ไหนแล้ว?
  89. How long have you had your license? คุณได้ใบขับขี่มานานแค่ไหน?
  90. How many times do I have to tell you to knock? กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ฉันต้องบอกนายให้เคาะประตู?
  91. How many times have I told you? ฉันบอกแกกี่ครั้งกี่หนแล้ว
  92. How much lab training have you had? คุณได้รับการฝึกในห้องปฏิบัติการมามากแค่ไหน
  93. How much trouble do you think I would get into? ปัญหามากแค่ไหนที่คุณคิดว่าฉันจะเจอ
  94. How well do you guys know each other? พวกนายรู้จักกันดีแค่ไหน
  95. However, it does present an opportunity. อย่างไรก็ตามมันก็ได้เสนอโอกาสให้
  96. I ain’t afraid of him. ฉันไม่กลัวเขา
  97. I ain’t supposed to be here. ฉันไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่
  98. I always enjoy chatting with you. ฉันชอบคุยกับคุณเสมอ
  99. I am his father! I should have protected him! ฉันเป็นพ่อเขา ฉันควรปกป้องเขา
  100. I am honoured by your proposal. ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติกับข้อเสนอของท่าน
  101. I am honoured you have traveled so far to see me. ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ท่านเดินทางมาไกลเพื่อมาพบข้าพเจ้า
  102. I am unable to get to the phone right now. ฉันไม่สามารถเข้าถึงโทรศัพท์ได้ในตอนนี้
  103. I and the staff will do everything we can to help you. ผมและทีมงานจะทำทุกสิ่งเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยคุณ
  104. I asked her to come here to consult on the case. ฉันขอให้เธอมาที่นี่เพื่อให้คำปรึกษาในคดีนี้
  105. I asked him to let me cook. ฉันขอร้องเขาขอให้ฉันเป็นปรุงอาหาร
  106. I bet she’s just saying that to annoy me. ฉันแน่ใจว่าเธอพูดเพียงเพื่อทำให้ฉันโกรธ
  107. I came here to tell you a story. ฉันมาที่นี่เพื่อเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง
  108. I can have it done by Monday. ฉันสามารถทำมันเสร็จได้ภายในวันจันทร์
  109. I can honestly say…I’m a changed man. ฉันสามารถกล่าวจริงใจได้ว่า ฉันเป็นคนใหม่แล้ว
  110. I can tell from your face that you won’t. จากใบหน้าของคุณบอกได้ว่าคุณไม่กลับแน่
  111. I cannot believe my eyes. ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย
  112. I can’t believe they picked me to replace her. ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเขาเลือกฉันมาแทนที่เธอ
  113. I can’t believe you’re saying this. ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคุณพูดอย่างนี้
  114. I can’t do this without you. ฉันทำสิ่งนี้โดยไม่มีคุณไม่ได้
  115. I can’t spend all day talking to people. ฉันไม่สามารถใช้เวลาทั้งวันพูดคุยกับผู้คนได้หรอกนะ
  116. I can’t stand the tension either. ฉันไม่สามารถทนต่อความตึงเครียมด้วยเช่นกัน
  117. I can’t take that risk. ฉันเสี่ยงอย่างนั้นไม่ได้หรอก
  118. I cooked us something tasty. ฉันทำอาหารอร่อยบางอย่างสำหรับเรา
  119. I couldn’t sit there anymore waiting for you. ฉันไม่สามารถนั่งรอคุณอยู่ตรงนั้นได้อีกต่อไปแล้ว
  120. I did something really silly. ฉันได้ทำบางสิ่งที่งี่เง่ามากจริงๆ
  121. I didn’t authorize you to leave. ฉันไม่ได้อนุญาตให้คุณออกไป
  122. I didn’t mean to be eavesdropping. ฉันไม่ได้ตั้งใจที่แอบฟัง
  123. I didn’t mean to make you feel mad. ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณรู้สึกโกรธ
  124. I do believe those first two years were the worst for him. ฉันเชื่อว่าสองปีนั้นเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเขา
  125. I don’t care who’s responsible! ฉันไม่สนใจว่าใครรับผิดชอบ
  126. I don’t even know his name. ฉันไม่รู้แม้กระทั่งชื่อเขา
  127. I don’t generally go out with people in my building. โดยปกติแล้วฉันจะไม่ออกไปข้างนอกกับคนที่อยู่ในตึกเดียวกัน
  128. I don’t have much time for that. ฉันไม่มีเวลามากพอสำหรับเรื่องนั้น
  129. I don’t like stories, but I’ll listen anyway. ฉันไม่ชอบเรื่องเล่า แต่อย่างไรก็ตามฉันก็จะฟัง
  130. I don’t need therapy. ฉันไม่ต้องการการบำบัด
  131. I don’t need your advice or your charity. ฉันไม่ต้องการคำแนะนำหรือความเอื้อเฟื้อจากคุณ
  132. I don’t wanna hear about you getting into trouble. ฉันไม่อยากได้ยินว่านายเจอปัญหาอีก
  133. I don’t want to waste much time. ฉันไม่อยากเสียเวลามาก
  134. I feared you would not come. ฉันกลัวว่าคุณจะไม่มา
  135. I feel I’ve been very clear on this point. ฉันรู้สึกว่าฉันชัดเจนในประเด็นนี้
  136. I feel like I’ve known you forever. ฉันรู้สึกเหมือนกับว่ารู้จักคุณมาชั่วชีวิต
  137. I gave up drinking. ฉันเลิกดื่มแล้ว
  138. I gave you that key for emergencies. ฉันให้กุญแจกับคุณสำหรับเหตุฉุกเฉิน
  139. I got rejected last week. ฉันถูกปฏิเสธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  140. I got the sack of my father. ฉันถูกพ่อไล่ออกจากงาน
  141. I got to check my schedule. ฉันต้องเช็คดูกำหนดการของฉัน
  142. I gotta get back to work. ฉันต้องกลับไปทำงานแล้ว
  143. I hate people that talk too much. ฉันเกลียดคนที่พูดมากเกินไป
  144. I have certain conditions. ฉันมีเงื่อนไขบางอย่าง
  145. I have heard father praise your skills. ฉันได้ยินมาว่าพ่อยกย่องทักษะของคุณ
  146. I have no real teaching experience. ฉันไม่มีประสบการณ์การสอนจริง
  147. I have protected him from all harm. ฉันปกป้องเขาจากอันตรายทั้งปวง
  148. I have someone who is very eager to meet you. ฉันมีใครบางคนที่อยากจะพบกับคุณมาก
  149. I haven’t been to a party by myself in a long time. ฉันไม่เคยไปงานปาร์ตี้ด้วยตนเองนานแล้ว
  150. I hear good things about you. ฉันได้ยินสิ่งดีๆ เกี่ยวกับคุณ
  151. I hope you didn’t hurt yourself. ฉันหวังว่าคุณคงไม่ได้ทำร้ายตัวเอง
  152. I hope you find what you’re looking for. ฉันหวังให้คุณเจอสิ่งที่คุณกำลังหาอยู่
  153. I hope you won’t be disappointed. ฉันหวังว่าคุณจะไม่ผิดหวัง
  154. I hope you’re satisfied. ฉันหวังว่าคุณจะพอใจ
  155. I knew that he is not good the second I met him. ฉันรู้ว่าเขาไม่ดีตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอเขาแล้ว
  156. I know it’s a big inconvenience for everyone. ฉันทราบว่ามันลำบากมากสำหรับทุกคน
  157. I know you don’t like a change of taste. ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบเปลี่ยนรสนิยม
  158. I know you’ll love my baby the same way I would. ฉันรู้ว่าคุณจะรักลูกฉันเช่นเดียวกับที่ฉันรัก
  159. I know you’re there. I can hear you breathing. ฉันรู้ว่านายอยู่ที่นี่ ฉันสามารถได้ยินเสียงหายใจนาย
  160. I look so much younger than everyone. ฉันดูอายุน้อยกวาทุกคนมาก
  161. I lost everything! What is left? ฉันสูญเสียทุกสิ่งไปหมด ยังเหลืออะไรอีกหรือ?
  162. I lost my temper. ฉันอารมณ์เสีย
  163. I made that fish curry you love. ฉันทำแกงปลาที่คุณชอบ
  164. I need you to do me one last favor. ฉันอยากให้คุณช่วยอย่างหนึ่งเป็นครั้งสุดท้าย
  165. I need you to sign off on this letter. ฉันอยากให้คุณช่วยลงชื่อบนจดหมายฉบับนี้
  166. I never had any help or advice from him. ฉันไม่เคยได้รับความช่วยเหลือหรือคำแนะนำใดๆจากเขาเลย
  167. I read a couple of your short stories when I was in college. ผมเคยอ่านเรื่องสั้นสองสามเรื่องของคุณเมื่อตอนที่เรียนในมหาวิทยาลัย
  168. I saw it with my own eyes. ฉันเห็นมันกับตา
  169. I saw this guy twice today. ฉันเจอผู้ชายคนนี้สองครั้งแล้ววันนี้
  170. I think he did it just to feel normal again. ฉันคิดว่าเขาทำมันเพียงเพื่อให้รู้สึกเหมือนปกติอีกครั้ง
  171. I think I had a class with you. ฉันคิดว่าฉันมีชั้นเรียนร่วมกับคุณนะ
  172. I think I need a little time just to figure things out. ฉันคิดว่าฉันต้องการเวลาสักหน่อยเพื่อคิดเรื่องต่างๆ ให้ตก
  173. I think you should know I don’t generally do that. ฉันคิดว่าคุณควรจะรู้ไว้ว่าโดยปกติแล้วฉันไม่ทำอย่างนั้น
  174. I think you should turn around, go back. ฉันคิดว่าคุณควรที่จะหันหลังกลับไปซะ
  175. I thought she died in childbirth. ฉันคิดว่าเธอเสียชีวิตจากการให้กำเนิดบุตร
  176. I thought you were gonna take a few days off. ฉันคิดว่าคุณจะหยุดงานสักสองสามวัน
  177. I told myself I could pass any test a man could pass. ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันสามารถผ่านการทดสอบใดๆที่มนุษย์สามารถผ่านได้
  178. I told you to cooperate with these people. ฉันบอกคุณแล้วให้ร่วมมือกับคนเหล่านี้
  179. I understand you’re a man that knows how to get things. ฉันเข้าใจว่านายเป็นคนที่รู้ว่าจะหาของต่างๆ มาได้อย่างไร
  180. I want to kill him, I lost my temper completely. ฉันอยากจะฆ่าเขา ฉันสูญเสียอารมณ์โดยสิ้นเชิง
  181. I want you to gain their trust. ฉันอยากให้คุณได้ความไว้วางใจของพวกเขา
  182. I want you to know if anything should ever happen to me. ฉันอยากให้คุณรู้ว่าถ้าอาจมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับฉัน
  183. I want you to take a week off. ฉันอยากให้คุณหยุดงานสักสัปดาห์
  184. I was only doing my duty. ฉันแค่ทำตามหน้าที่
  185. I will bring pain to him and to you. ฉันจะทำให้คุณและเขาเจ็บตัวแน่
  186. I will help you solve the riddle. ฉันจะช่วยคุณไขปริศนานี้
  187. I will never forgive you. ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณเลย
  188. I will tell everyone the truth about what’s going on. ฉันจะบอกความจริงกับทุกคนเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
  189. I wish to meet him before I consent to marry. ฉันปรารถนาที่จะพบเขาก่อนที่จะยินยอมแต่งงาน
  190. I wonder if he even cared. ฉันสงสัยว่าเขาสนใจใยดีฉันบ้างไหม
  191. I wonder if he ever loved me. ฉันสงสัยว่าเขาเคยรักฉันบ้างหรือเปล่า
  192. I wouldn’t ask you to. ฉันก็จะไม่ขอให้คุณทำ
  193. I wouldn’t want you getting in any trouble. ฉันไม่อยากให้คุณเจอปัญหาใดๆ
  194. I’d like to invite you to lunch. So we can discuss it. ฉันอยากจะเชิญคุณมาทานอาหารเที่ยงด้วย เราจะได้พูดคุยเรื่องนี้กัน
  195. I’d love to stay here chatting. ฉันอยากจะอยู่พูดคุยที่นี่
  196. If he does not show up for the competition. ถ้าเขาไม่มาปรากฏตัวในการแข่งขัน
  197. If you get into a jam, you can call me. ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากก็โทรหาฉันได้
  198. If you get the forms, I’ll prepare them for you. ถ้าคุณได้แบบฟอร์มนั้นมา ฉันจะช่วยจัดเตรียมมันให้
  199. If you have any questions, I’m sure that he has the answers. ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ ฉันแน่ใจว่าเขามีคำตอบเหล่านั้นให้คุณ
  200. If you like someone, then you can put up with such things here. ถ้าคุณชอบใครสักคน เช่นนั้นคุณก็จะอดทนต่อสิ่งต่างๆนั้นได้
  201. If you need me I can be back here in no time. ถ้าคุณต้องการฉันฉันจะกลับมาที่นี่โดยด่วน
  202. I’ll be right by your side the whole time. ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดเวลา
  203. I’ll call you when we get closer. ฉันจะโทรหาคุณอีกครั้งเมื่อพวกเราใกล้มาถึงแล้ว
  204. I’ll pretend I don’t know them. ฉันจะแสร้งว่าไม่รู้จักพวกเขา
  205. I’m about to use you as protection. ฉันกำลังจะใช้คุณเป็นเครื่องป้องกัน
  206. I’m actually not sure, I’ll talk to you later. จริงๆ แล้วฉันไม่ค่อยแน่ใจ ฉันจะพูดคุยกับคุณทีหลัง
  207. I’m afraid I don’t know exactly what this book is about. เกรงว่าฉันไม่ทราบจริงๆว่าหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร
  208. I’m exactly where I’m supposed to be. ฉันอยู่ในที่ที่ฉันควรจะอยู่แล้วจริงๆ
  209. I’m finally ready to get to know you better. ในที่สุดฉันก็พร้อมที่จะรู้จักคุณมากขึ้น
  210. I’m free tomorrow night if you want to get together. ฉันจะว่างคืนพรุ่งนี้ถ้าคุณอยากจะพบปะสังสรรค์กัน
  211. I’m going to ask you questions, and you’re gonna answer them. ฉันกำลังจะถามคำถามคุณ และคุณก็จะตอบคำถามนั้น
  212. I’m going to take a vacation. ฉันกำลังจะไปหยุดพักผ่อน
  213. I’m going to take a vacation. ฉันกำลังจะลาพักร้อน
  214. I’m gonna do some work on the computer. ฉันจะทำงานบางอย่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
  215. I’m gonna get you some help. ฉันกำลังจะช่วยคุณ
  216. I’m gonna go get some dessert. ฉันกำลังจะไปเอาของหวาน
  217. I’m gonna go grab the paper. ฉันกำลังจะไปหยิบหนังสือพิมพ์
  218. I’m here to do business with him. ฉันมาที่นี่เพื่อทำธุรกิจกับเขา
  219. I’m innocent. Just like everybody else here. ฉันบริสุทธิ์ เหมือนกับคนอื่นๆ ที่นี่
  220. I’m known to locate certain things from time to time. ฉันเป็นที่รู้จักในด้านการหาของบางอย่างเป็นบางครั้ง
  221. I’m no longer a danger to society. ฉันไม่ได้เป็นอันตรายต่อสังคมอีกต่อไป
  222. I’m not familiar with that story. ฉันไม่คุ้นเคยกับเรื่องนั้น
  223. I’m not giving up my career. ฉันจะไม่ทิ้งอาชีพของฉัน
  224. I’m starting to doubt your resolve! ฉันกำลังสงสัยถึงวิธีแก้ปัญหาของคุณ
  225. I’m terribly sorry to disappoint you. ฉันเสียใจอย่างที่สุดที่ทำให้คุณผิดหวัง
  226. Is there another way? มีทางอื่นด้วยหรือ
  227. Isn’t that a little personal? นั่นไม่เป็นเรื่องส่วนตัวไปหน่อยหรือ?
  228. Isn’t that the same thing? นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวกันหรอกหรือ?
  229. It all depends on you. ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ
  230. It chills my blood just to look at you. แค่มองดูคุณเลือดในกายฉันก็หนาวสะท้านแล้ว
  231. It is hard to fill a cup which is already full. มันยากที่จะเติมเต็มถ้วยที่เต็มอยู่แล้ว
  232. It is so nice to finally meet you in person. ดีจริงๆ ที่ในที่สุดก็ได้พบคุณเป็นการส่วนตัว
  233. It is such an honor to meet you. รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบคุณ
  234. It is what they do that makes them good or bad. มันคือสิ่งที่พวกเขาทำที่ทำให้พวกเขาดีหรือไม่ดี
  235. It means you have no choice. มันหมายความว่าคุณไม่มีทางเลือก
  236. It reminds me every day what’s waiting out there. มันเตือนใจฉันทุกวันถึงสิ่งที่กำลังรอคอยอยู่ที่นั่น
  237. It seems you made a friend in prison. ดูเหมือนคุณจะได้เพื่อนคนหนึ่งในคุก
  238. It sure seems like we got a lot in common. แน่นอนมันดูเหมือนเรามีอะไรหลายอย่างเหมือนกัน
  239. It took me a long time to find out. ฉันใช้เวลาตั้งนานกว่าจะเจอ
  240. It would make me popular. มันอจทำให้ฉันเป็นที่ชื่นชอบ
  241. It’s a place where your mom and I used to hang out a lot. มันเป็นที่ที่แม่และพ่อเคยออกมาเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง
  242. It’s always a pleasure to cook for you both. ยินดีเสมอที่ได้ปรุงอาหารให้คุณทั้งสอง
  243. It’s better than spending that time in jail, isn’t it? มันก็ดีกว่าการไปใช้เวลาช่วงนั้นในคุก มิใช่หรือ?
  244. It’s gonna ruin your reputation. มันกำลังจะทำลายชื่อเสียงคุณนะ
  245. It’s important for everyone not to panic. สำคัญที่ทุกคนจะต้องไม่แตกตื่น
  246. It’s just a couple of weeks. มันก็แค่สองสามสัปดาห์
  247. It’s kind of complicated. มันค่อนข้างซับซ้อน
  248. It’s lighter and stronger at the same time. มันทั้งเบากว่าและแข็งแรงกว่า
  249. It’s my anniversary and I want it to be perfect. มันเป็นวันครบรอบแต่งงานของฉัน ฉันอยากทำให้มันไม่มีที่ติ
  250. It’s nice that you see me so much now. ดีที่ตอนนี้คุณไปมาหาสู่ฉันมาก
  251. It’s not about money and popularity. มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินทองและชื่อเสียง
  252. It’s not something you can teach. มันไม่ใช่บางสิ่งที่คุณสอนได้
  253. It’s right behind you. มันอยู่ข้างหลังคุณนั่นไง
  254. It’s time for us to be heading home. ถึงเวลาที่เราต้องบ่ายหน้ากลับบ้านแล้ว
  255. It’s time to terminate the mission. ถึงเวลายุติภารกิจนี้แล้ว
  256. It’s you who should be in bed. เป็นคุณต่างหากที่ควรไปนอนได้แล้ว
  257. I’ve arranged a press conference for tomorrow. ฉันเตรียมการแถลงข่าวสำหรับพรุ่งนี้แล้ว
  258. I’ve been looking all over for you. ฉันมองหาคุณทั่วทุกหนแห่ง
  259. I’ve been looking for someone like you. ฉันกำลังมองหาใครบางคนอย่างคุณ
  260. I’ve been waiting for this day my entire life. ฉันรอคอยวันนี้มาตลอดทั้งชีวิต
  261. I’ve got a full schedule. I’m very busy. ฉันมีตารางเวลาแน่นเอี๊ยด ฉันยุ่งมากเลย
  262. I’ve seen it three times this month. ฉันได้ดูมันสามครั้งแล้วในเดือนนี้
  263. Just don’t let it happen again. อย่าให้มันเกิดขึ้นอีกแล้วกัน
  264. Just keep your mouth shut and let him do the talking. แค่ปิดปากเงียบไว้แล้วปล่อยให้เขาเป็นคนพูด
  265. Just pretend to be my girlfriend for a couple of months. แค่แสร้งทำเป็นแฟนฉันสักสองสามเดือน
  266. Just promise your daddy one thing. สัญญากับพ่อสักข้อนะลูก
  267. Just relax and let your mind go blank. แค่ผ่อนคลายและปล่อยใจให้ว่างเปล่า
  268. Just take a deep breath. แค่หายใจลึกๆ
  269. Keep away from the fence. ถอยห่างจากรั้ว
  270. Let me demonstrate. ขอฉันสาธิตให้ดูนะ
  271. Let me smell it one more time. ขอฉันดมอีกครั้ง
  272. Let me take you out on Friday night. ขอผมพาคุณไปข้างนอกคืนวันศุกร์นะ
  273. Let us ignore it no more. ขอพวกเราอย่าได้ทำเป็นเพิกเฉยต่อมันอีกต่อไป
  274. Let’s get out of here. ออกไปจากนี่กันเถอะ
  275. Let’s go up to my office, so we can sort this out. พวกเราขึ้นไปที่ห้องทำงานฉันเถอะ เพื่อเราจะได้คิดให้กระจ่าง
  276. Let’s raise the child together! มาเลี้ยงเด็กๆ ด้วยกันเถอะ
  277. Let’s sneak out of here now! พวกเราหลบออกไปจากที่นี่ตอนนี้เถอะ
  278. Listen to what I have to say. ฟังในสิ่งที่ฉันต้องจำต้องพูดนี้
  279. Listen, I’ll try to keep this brief. ฟังนะ ฉันพยายามจะพูดโดยย่อ
  280. Look you give yourself no credit. ดูสิ คุณทำให้ตัวเองไม่น่าเชื่อถือ
  281. Look, I got a bit of bad news for you. นี่ ฉันมีข่าวร้ายเล็กน้อยจะบอกคุณ
  282. May I know the purpose of this visit? ขอทราบวัตถุประสงค์การมาเยือนครั้งนี้ได้ไหม?
  283. Maybe we can go out for coffee sometime. พวกเราอาจออกไปทานกาแฟกันบ้างเป็นบางครั้ง
  284. Maybe you should go check on your mom. บางทีคุณควรไปดูแม่คุณหน่อยนะ
  285. Most of our children are rejects from other schools. เด็กๆ ของเราส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธจากโรงเรียนอื่น
  286. Most of them can hardly read. พวกเขาส่วนใหญ่อ่านหนังสือแทบไม่ออก
  287. My dad died of a heart attack. พ่อฉันเสียชีวิตจากหัวใจวาย
  288. My work raises too many questions? งานของฉันสร้างข้อกังขามากมายเกินไปหรือ?
  289. Never forgive him for what he did to me. ไม่มีทางให้อภัยสิ่งที่เขาได้ทำกับฉัน
  290. No man has ever done this for me before. ไม่มีผู้ชายคนไหนเคยทำอย่างนี้ให้ฉันมาก่อน
  291. No more slave and master here. ที่นี่จะไม่มีทาสและไม่มีนายอีกต่อไป
  292. No one else has my number. ไม่มีใครอีกที่มีเบอร์โทรของฉัน
  293. None of them can handle it. ไม่มีใครเลยที่จะรับมือกับมันได้
  294. Not that that matter to us. ไม่ใช่สิ่งนั้นที่มีความสำคัญกับพวกเรา
  295. Nothing else matters. ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว
  296. Now I know why my cell phone bills are so high. ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมบิลค่าโทรศัพท์ถึงได้แพงมากนัก
  297. Now I’m being replaced by a young lady. ตอนนี้ฉันกำลังถูกแทนที่ด้วยเด็กสาวคนหนึ่ง
  298. Now there’s nothing to be worried about. Am I right? ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ฉันพูดถูกไหม?
  299. Now, you can be part of the action. ตอนนี้คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการนี้
  300. One of these people is gonna save the world. หนึ่งในผู้คนเหล่านี้กำลังจะกอบกู้โลก
  301. Only if these are met, will I marry you. ถ้าเพียงแต่สิ่งเหล่านี้ได้รับการสนองตอบ ฉันก็จะแต่งงานกับคุณ
  302. Please call me as soon as you get this message. โปรดโทรหาฉันทันทีที่คุณได้รับข้อความนี้
  303. Please instruct your students to leave my boy alone to train. โปรดบอกนักเรียนของคุณให้ปล่อยเด็กของฉันตามลำพังเพื่อฝึกฝน
  304. Please let me go home. ได้โปรดปล่อยฉันกลับบ้านเถอะ
  305. Please repeat what you just told me. ได้โปรดพูดซ้ำสิ่งที่คุณเพิ่งบอกกับฉัน
  306. Please take off your shoes. โปรดถอดรองเท้าออกด้วย
  307. Please, don’t come here and make judgments on me. ได้โปรดอย่ามาที่นี่และมาพิพากษาผม
  308. Please, I can’t help you unless you talk to me. ได้โปรดเถิด ฉันจะช่วยคุณไม่ได้ถ้าคุณไม่ยอมพูดคุยกับฉัน
  309. Ready to have a good time? พร้อมจะสนุกกันหรือยัง
  310. Recently, I realized one philosophy of life. เมื่อเร็วๆ นี้ฉันได้ตระหนักถึงปรัชญาข้อหนึ่งของชีวิต
  311. Remember to pay me back! จำไว้ว่าต้องจ่ายคืนฉันด้วย
  312. Respect that fact every second of every day. คำนึงข้อเท็จจริงนั้นทุกวินาทีทุกวัน
  313. She gets more beautiful every time I see her. เธอสวยขึ้นทุกทีที่ได้เจอกัน
  314. She is the most celebrated editor in the business. เธอเป็นบรรณาธิการที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในวงการธุรกิจ
  315. She’s got skin problems. เธอมีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณ
  316. So I must, once again, summon your parent. ดังนั้นเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ฉันต้องเรียกพ่อแม่คุณมาพบ
  317. So I work real hard each and every day. ดังนั้นฉันจึงทำงานหนักจริงๆ ในแต่ละวันและทุกๆ วัน
  318. So if you wouldn’t mind getting to the point. ถ้าคุณไม่ว่าอะไรช่วยเข้าสู่ประเด็นหน่อย
  319. Some of us have got a schedule to keep. พวกเราบางคนมีกำหนดการที่ต้องทำ
  320. Some other time, then. ถ้างั้นคราวหน้าแล้วกัน
  321. Some people have been trying to keep us apart. บางคนพยายามที่จะแยกเราจากกัน
  322. Sooner or later, you always have to wake up. ไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องตื่นขึ้นมาเสมอ
  323. Talk with me for just a while. คุยกับฉันเดี๋ยวเดียวก็ยังดี
  324. Tell her to leave town. บอกเธอให้ออกไปจากเมือง
  325. Tell her what else you did. บอกกับเธออีกสิว่าคุณได้ทำอะไรบ้าง
  326. Thank you for all you have done. ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่คุณได้ทำให้
  327. Thanks to a wise teacher like you. ขอบคุณครูผู้หลักแหลมอย่างคุณ
  328. That bridge is the only way across. สะพานนั่นเป็นทางข้ามไปทางเดียว
  329. That hurts my feelings when you say stuff like that. นั่นทำร้ายความรู้สึกฉันมากเมื่อคุณพูดอย่างนั้นออกมา
  330. That is all I really need to know. นั่นคือทั้งหมดที่ฉันอยากทราบจริงๆ
  331. That shouldn’t be hard for you. นั่นคงไม่ลำบากสำหรับคุณ
  332. That sounds very nice. ฟังดูเข้าทีนะ
  333. That was my first impression of the man. นั่นคือความประทับใจครังแรกของผมที่มีต่อชายคนนี้
  334. That would save you some money. นั่นจะช่วยประหยัดเงินให้คุณได้บ้าง
  335. That you’ll never, ever lose sight of what’s really important. ว่าลูกจะต้องมองให้เห็นสิ่งที่มีความสำคัญจริงๆ
  336. That’s my final answer. นั่นคือคำตอบสุดท้ายของฉัน
  337. That’s not a suggestion, it’s an order. นี่ไม่ใช่คำแนะนำ แต่เป็นคำสั่ง
  338. That’s not what worries me. นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฉันกังวล
  339. That’s what I’m worried about. นั่นคือสิ่งที่ฉันกังวลถึง
  340. That’s what we’re trying to find out. นั่นคือสิ่งที่พวกเรากำลังตรวจสอบอยู่
  341. The best idea right now is to stay in their homes. ความคิดที่ดีที่สุดในตอนนี้คือให้พวกเขาอยู่กับบ้าน
  342. The local authorities are not totally on our side. เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ได้เข้าข้างเราเลยสักนิด
  343. The one thing I swore I would never do. นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้สาบานว่าจะไม่ทำมันอีก
  344. The quickest way to a man’s heart, is through his stomach. วิธีที่เร็วที่สุดที่จะเข้าถึงหัวใจผู้ชายก็คือเสน่ห์ปลายจวัก
  345. The staff and I will remain here as we attempt to communicate. ทีมงานและฉันจะยังคงอยู่ที่นี่เนื่องจากเราต้องพยายามติดต่อสื่อสาร
  346. There are other ways to do this, okay? มีหนทางอื่นๆ ให้ทำอยู่ ตกลงไหม?
  347. There is no time or place like it. ไม่มีเวลาหรือสถานที่อย่างนี้แล้ว
  348. There is nothing gonna stop me now. ไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งฉันได้ในตอนนี้
  349. There is nothing I can do about it. ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยเกี่ยวกับมัน
  350. There is time to salvage the situation. มีเวลาที่จะกอบกู้สถานการณ์
  351. There’s a room prepared for you. มีห้องหนึ่งเตรียมไว้ให้คุณแล้ว
  352. There’s nothing of this in the guidebook. สิ่งเหล่านี้ไม่ปรากฏอยู่ในหนังสือนำเที่ยว
  353. There’s nothing they can teach you in college. ในวิทยาลัยไม่มีอะไรที่พวกเขาจะสอนคุณได้
  354. There’s something that we’ve been avoiding all day. มีบางสิ่งที่พวกเราหลีกเลี่ยงมาทั้งวัน
  355. They can’t find a way to get through it. พวกเขาไม่เจอหนทางที่จะผ่านพ้นมัน
  356. They don’t even speak anymore. พวกเขาไม่แม้แต่จะพูดคุยกันอีก
  357. They wanna tell you how brilliant you are. พวกเขาอยากจะบอกคุณว่าคุณช่างปราดเปรื่องแค่ไหน
  358. They’ll try to corrupt you. พวกเขาจะพยายามติดสินบนคุณ
  359. They’re trying to buy respectability. พวกเขาพยายามที่จะซื้อความน่านับถือ
  360. Things went on like that for a while. สิ่งต่างๆ ดำเนินไปเช่นนั้นชัวขณะหนึ่ง
  361. This is a discount card for Chinese restaurant. นี่เป็นบัตรส่วนลดสำหรับภัตตาคารจีน
  362. This is hardly the time to be having that old discussion. นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาโต้เถียงกันเรื่องเก่าๆ นะ
  363. This is my first appointment. นี่เป็นนัดหมายแรกของผม
  364. This is the way we play the game here. นี่คือวิธีที่เราเล่นเกมที่นี่
  365. This is too much learning. นี่มันเรียนมาเกินไปแล้ว
  366. This time you’re being warned! คราวนี้คุณถูกเตือนนะ
  367. This will scare him forever. สิ่งนี้จะทิ้งรอยแผลเป็นให้เขาตลอดกาล
  368. Tired of people calling us losers. เหนื่อยหน่ายกับผู้คนที่เรียกเราว่าผู้แพ้
  369. Tomorrow, you will stay home and mend the nets? พรุ่งนี้เธอจะอยู่ที่บ้านและซ่อมแหใช่ไหม?
  370. Try to stay calm. พยายามสงบหน่อย
  371. Wait for me at the front gate. คอยฉันที่ประตูหน้านะ
  372. We accept your challenge. เรารับคำท้าของคุณ
  373. We are here to make peace. พวกเรามาที่นี่เพื่อสร้างสันติ
  374. We are not here to fight. พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อสู้
  375. We are on a very tight schedule. พวกเรามีกำหนดการแน่นมาก
  376. We can’t get along well. เราไม่สามารถเข้ากันได้ดี
  377. We don’t have a choice. เราไม่มีทางเลือกเลย
  378. We gotta get in the habit of documenting everything. เราต้องสร้างนิสัยบันทึกทุกสิ่ง
  379. We gotta go to a secure location. เราต้องไปในที่ที่ปลอดภัย
  380. We have been given the day off. พวกเราได้รับอนุญาตให้หยุดงาน
  381. We have to ask you to stay calm. เราต้องขอร้องให้พวกคุณอยู่อย่างสงบ
  382. We haven’t got much of a choice here. พวกเราไม่มีทางเลือกมากนักที่นี่
  383. We just couldn’t wait until Monday to find out. พวกเราไม่สามารถรอจนถึงวันจันทร์เพื่อที่จะหาความจริงได้หรอก
  384. We must deal with the problem now, or else it will be too late. เราต้องจัดการกับปัญหาเดี๋ยวนี้ หรือมิฉะนั้นมันก็จะสายเกินไป
  385. We must help and teach them as best as we can. พวกเราต้องช่วยสอนพวกเขาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
  386. We need to focus on this timeline. เราจำเป็นต้องเพ่งความสนใจไปที่กำหนดเวลานี้
  387. We still have a lot of time to pretend we’re friends. พวกเรายังคงมีเวลามากที่จะแสร้างทำเป็นเพื่อนกัน
  388. We went down there, but it was closed. พวกเราลงไปที่นั่นมาแล้วแต่มันปิด
  389. We’d like to talk to you about taking over his contract. เราอยากคุยกับคุณเกี่ยวกับการรับช่วงสัญญาของเขา
  390. We’ll advise people not to panic. พวกเราจะแจ้งข่าวให้ผู้คนทราบว่าอย่าตื่นตกใจ
  391. We’ll figure out something later, okay? เราจะนึกคิดบางเรื่องทีหลัง โอเคนะ?
  392. We’ll sort this out, I promise. พวกเราจะหาทางออกในเรื่องนี้ ฉันสัญญา
  393. We’re about to graduate soon. พวกเรากำลังจะสำเร็จการศึกษาในไม่ช้านี้
  394. We’re an hour and a half late. เรามาสายไปชั่วโมงครึ่ง
  395. We’re gonna spend a lot of time here. เรากำลังจะใช้เวลาอย่างมากที่นี่
  396. We’re gonna try a little harder. พวกเราจะพยายามหนักขึ้นอีกหน่อย
  397. We’re not supposed to be running! พวกเราไม่ควรวิ่งนะ
  398. We’re stuck together. เรามาติดหนึบอยู่ด้วยกัน
  399. We’re supposed to be at the feast by now! พวกเราควรไปถึงที่งานเลี้ยงแล้วตอนนี้
  400. We’re taking good care of him. พวกเรากำลังดูแลเขาเป็นอย่างดี
  401. We’ve been friends a long time. พวกเราเป็นเพื่อนกันมานาน
  402. What are we gonna do up there? พวกเราจะไปทำอะไรกันที่นั่นน่ะ?
  403. What do I gotta do to prove it to you? ฉันจะต้องทำอย่างไรที่จะพิสูจน์มันให้คุณเห็นได้?
  404. What do you got for me? คุณได้อะไรมาฝากฉัน?
  405. What do you guys want for dinner? พวกนายอยากจะทานอะไรมื้อค่ำนี้?
  406. What do you have planned for tonight? คุณวางแผนอะไรไว้สำหรับคืนนี้
  407. What else will you ban? จะห้ามทำอะไรอีกล่ะ
  408. What exactly do you want in return? จริงๆ แลวคุณอยากได้อะไรตอบแทนคืนล่ะ
  409. What happens if they do become hostile? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกนั้นไม่เป็นมิตร?
  410. What if I wanted to go in with you? ถ้าเผื่อฉันอยากเดินทางไปกับคุณด้วยล่ะ
  411. What will I get in return? ฉันจะได้อะไรตอบแทนคืน?
  412. What you got under your coat? คุณได้อะไรไว้ใต้เสื้อโค๊ตนั่น
  413. Whatever you need, I’m here for you. เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการ ฉันจะอยู่ที่นี่เพื่อคุณ
  414. What’ll you be when you grow up? ลูกโตขึ้นจะเป็นอะไร
  415. When it gets dark, then we move in closer. เมื่อมันเริ่มมืดเราจึงจะเคลื่อนเข้าไปใกล้
  416. When will you get the results? คุณจะทราบผลเมื่อไหร่
  417. When you are at a disadvantage, you give up. เมื่อเจออุปสรรคแกก็ยอมแพ้
  418. Who do you think got you out of jail? คุณคิดว่าใครพาคุณออกมาจากคุก
  419. Who else knows about this? มีใครอื่นรู้เรื่องนี้ไหม?
  420. Who would send you a riddle? ใครกันที่ส่งปริศนามาให้คุณ?
  421. Who’s gonna prove me wrong? ใครจะเป็นคนพิสูจน์ว่าฉันผิด
  422. Why are you always blaming me? ทำไมคุณถึงได้ตำหนิฉันเสมอ
  423. Why are you getting mad at me? ทำไมคุณถึงได้โกรธฉัน?
  424. Why didn’t you attend the conference? ทำไมคุณไม่เข้าร่วมประชุม?
  425. Why don’t you come back a little later? ทำไมนายไม่มาช้ากว่านี้อีกสักหน่อยนะ
  426. Why don’t you just relax? ทำไมคุณไม่ผ่อนคลายบ้าง?
  427. Why don’t you pack some things and come stay with me? ทำไมคุณไม่เก็บของบางอย่างและไปอยู่กับฉัน?
  428. Why is that so hard to believe? ทำไมมันถึงยากที่จะเชื่อมากนัก
  429. Will you be okay here on your own for a little while? คุณจะอยู่ที่นี่ตามลำพังสักชั่วขณะหนึ่งได้ไหม?
  430. With your permission, I’d like to remain at your side. ด้วยคำยินยอมของท่าน ผมอยากจะอยู่เคียงข้างท่าน
  431. Would it be possible to show us around now? เป็นไปได้ไหมที่จะพาพวกเราชมโดยรอบ?
  432. Would you like to go to my place and get to know each other? คุณอยากไปที่พักของฉันและทำความรู้จักกันไหม?
  433. Would you mind if I change the subject for a moment? คุณจะว่าอะไรไหมถ้าฉันจะขอเปลี่ยนเรื่องพูดคุยสักครู่?
  434. Would you mind pouring me a cup of coffee? คุณจะช่วยรินกาแฟให้ฉันสักถ้วยได้ไหม?
  435. You are in a safe place. คุณอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว
  436. You are just being paranoid! คุณหวาดระแวงไปหน่อย
  437. You are not mature enough to take over from me. แกยังไม่โตพอที่จะเข้ารับงานต่อจากฉัน
  438. You are the only person I would want to have my baby. คุณคือคนเดียวที่ฉันอยากจะให้ดูแลลูกฉัน
  439. You broke into our hideout. คุณบุกรุกเข้ามาในที่ซ่อนตัวของเรา
  440. You can do what you do and do it well. คุณสามารถทำสิ่งที่คุณทำและทำมันได้ดี
  441. You can taste the colour with your mind. คุณสามารถรับรู้สีได้ด้วยใจ
  442. You cannot handle the pressure. แกไม่สามารถรับมือกับความกดดันได้หรอก
  443. You can’t make a scene every time someone doesn’t like your food. คุณไม่สามารถตีโพยตีพายทุกๆ ครั้งที่มีใครไม่ชอบอาหารของคุณ
  444. You can’t run away from me! คุณหนีฉันไม่พ้นหรอก
  445. You can’t tell anyone about our deal. Promise? คุณจะบอกใครไม่ได้เกี่ยวกับข้อตกลงของเรา สัญญานะ
  446. You don’t care whether he lives or die, do you? คุณไม่สนใจไม่ว่าเขาจะอยู่หรือตายไม่ใช่หรือ?
  447. You don’t have to treat your classmate like this. คุณต้องไม่ทำกับเพื่อนร่วมชั้นอย่างนี้
  448. You feel you’ve been rehabilitated? คุณรู้สึกว่าได้รับการพักฟื้นหรือยัง?
  449. You find yourself a good man. หาผู้ชายดีๆ ให้ตัวเองสักคนนะ
  450. You give yourself no credit. คุณไม่ให้เครดิตตัวเองเลย
  451. You got what you wanted, but you lost what you had. คุณได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่คุณก็สูญเสียสิ่งที่มีอยู่
  452. You have got to convince them. คุณต้องโน้มน้าวพวกเขา
  453. You have no idea of consequences of your actions, do you? นี่นายไม่รู้เลยหรือว่าผลการกระทำของนายจะเป็นอย่างไร?
  454. You have to leave, or you’re gonna die. คุณต้องไปมิฉะนั้นคุณจะตาย
  455. You have to make your reputation on being honest. คุณต้องสร้างชื่อเสียงในเรื่องของความซื่อสัตย์
  456. You knew this would happen? คุณรู้แล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นงั้นหรือ?
  457. You know all about him. Help me out. คุณรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเขา ช่วยบอกฉันหน่อย
  458. You know what that means? รู้ไหมว่านั่นหมายความว่าอย่างไร
  459. You let me down. คุณทำให้ฉันผิดหวัง
  460. You look just like your mother when you get upset. ลูกดูเหมือนแม่มากทีเดียวเวลาหงุดหงิดขึ้นมา
  461. You need my help, whether you like it or not. คุณต้องการความช่วยเหลือของฉัน ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม
  462. You need time to adjust yourself. คุณต้องการเวลาเพื่อการปรับตัว
  463. You need to wake up, Tom. ทอม คุณต้องเข้าใจนะ (ตื่นขึ้นมาได้แล้ว)
  464. You pose an interesting proposition. คุณให้ข้อเสนอที่น่าสนใจ
  465. You put too much pressure on him. คุณกดดันเขามากจนเกินไป
  466. You seem to have a lot of rules. ดูเหมือนคุณมีกฏเกณฑ์มากมาย
  467. You should be really proud of him. คุณควรจะภูมิใจในตัวเขาโดยแท้จริง
  468. You shut up when I talk to my boy, understand? คุณช่วยหุบปากตอนที่ฉันพูดกับลูกชายฉันด้วย เข้าใจไหม?
  469. You stayed in bed all day? คุณนอนอยู่บนเตียงทั้งวันเลยหรือ?
  470. You think I haven’t met people like you before? คุณคิดว่าฉันไม่เคยเจอคนอย่างคุณมาก่อนหรือ
  471. You think I’m afraid of you? คุณคิดว่าฉันกลัวคุณหรือ?
  472. You think I’m gonna let you out of my sights again, huh? คุณคิดว่าฉันจะยอมให้คุณออกไปนอกสายตาอีกหรือ หือ?
  473. You want me to make you breakfast? คุณอยากให้ฉันทำอาหารเช้าให้ทานหรือ?
  474. You want to mess it up? คุณอยากทำให้มันเละเทะหรือไง?
  475. You will be adults in a few weeks, with all the responsibilities. คุณจะเป็นผู้ใหญ่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ด้วยความรับผิดชอบเต็มเปี่ยม
  476. You will see that there is nothing to be scared of. คุณจะได้เห็นว่าไม่มีอะไรต้องกลัวเลย
  477. Your courage will lead to victory. ความกล้าหาญของคุณจะนำไปสู่ชัยชนะ
  478. Your daddy should be home from work by now. พ่อของลูกควรจะกลับถึงบ้านแล้วตอนนี้
  479. Your girlfriend seemed pretty offended. ดูเหมือนแฟนคุณไม่คอ่ยพอใจเท่าไหร่
  480. Your mom asked me to take care of you. แม่คุณขอให้ฉันดูแลคุณ
  481. You’re all to blame! ทุกคนต้องได้รับการตำหนิ
  482. You’re gonna do great. คุณจะต้องทำได้ดีเยี่ยม
  483. You’re gonna get me in trouble. คุณกำลังจะสร้างปัญหาให้ฉัน
  484. You’re gonna have everything you’ve ever wished for. คุณกำลังจะได้ทุกสิ่งที่คุณเคยมุ่งมาดปรารถนา
  485. You’re in a restricted area, sir. คุณกำลังอยู่ในเขตห้ามเข้าครับ
  486. You’re joking, you like my cooking? คุณล้อเล่นน่า คุณชอบอาหารที่ฉันทำหรือ?
  487. You’re not asking me to name names, are you? คุณไม่ได้ขอให้ฉันระบุชื่อ ใช่ไหม?
  488. You’re not exactly what you seem, are you? คุณไม่ใช่อย่างที่เห็นใช่ไหม?
  489. You’re not gonna go talk to her? คุณจะไม่ไปพูดกับเธอใช่ไหม?
  490. You’re on the edge of history. คุณกำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์แล้ว
  491. You’re smart enough to know that. คุณฉลาดพอที่จะทราบเรื่องนั้น
  492. You’re so trying to get me into so much trouble. คุณพยายามอย่างเหลือเกินที่จะสร้างปัญหามากมายให้ฉัน
  493. You’re starting to make me nervous. คุณกำลังเริ่มทำให้ฉันหงุดหงิดนะ
  494. You’re supposed to be finding a diplomatic solution. คุณควรจะค้นหาแนวทางแก้ปัญหาทางการทูต
  495. You’re sure you don’t need some more time off? คุณแน่ใจนะว่าไม่อยากหยุดพักมากกว่านี้?
  496. You’re under arrest for smuggling. คุณถูกจับแล้วฐานลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฏหมาย
  497. You’ve got to be kidding me! คุณต้องล้อฉันเล่นแน่
  498. You’ve got to make them happen. คุณต้องทำให้มันเกิดขึ้น
  499. You’ve got to obey the rules. คุณต้องเชื่อฟังกฏระเบียบ
  500. You’ve got to stand for something, or you’ll fall for anything. คุณต้องยืนหยัดเพื่อบางสิ่งมิฉะนั้นคุณจะพลาดหวังกับทุกสิ่ง

Views: 179100

Replies to This Discussion

ไฟล์ใหญ่ กว่า 5 mb เอาลงไม่ได้ ใครรู้บอกหน่อยคะ

ซิปไฟล์แล้ว upload ขึ้นลิงค์เว็ปเลยค่ะ แล้วเอาลิงค์มาแป๊ะ

รบกวนขอด้วยคนนะค่ะ

s.silanee@yahoo.com 

อันนี้มาจากhttp://www.learningpune.com/?p=17017ที่คุณริวโคเคยเอามาแปะไว้

ใช่คะ

ไฟล์เสียง

Attachments:

ขอบคุณคะแม่อั่งเปา อลังการมาก

ขอบคุณคะ ได้ประโยคใหม่ ๆ เพียบเลย

ขอบคุณมากๆ เลยครับ ดีจังเลยครับ

นำไฟล์ mp3 ไปฟัง ในทุกๆ เวลาได้เลยครับ 

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ จะหัดทุกวันเลย เยี่ยมมากค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service