วิธีแก้ปัญหาให้ได้ผลไม่ใช่คิด แต่เป็นลงมือทำ
ดิฉันเคยคิดมาตลอดว่าการสอนภาษาญี่ปุ่น (ภาษาที่ 3) ให้ลูกเป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน คิดมาตลอดตั้งแต่ลงมือสอน แต่การลงมือสอนของดิฉันเป็นในลักษณะที่ว่า เปิดหนังสือภาพ ไม่ใช่นิทานนะคะ เหมือนพจนานุกรมภาพ แล้วให้ลูกชี้ ตัวเองก็บอกศัพท์เป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะว่าลูกก็เรียนรู้ศัพท์ไทย กะ อังกฤษ ได้ดีโดยวิธีนี้
ความที่ลูกเป็นเด็กชอบอ่านหนังสือมาก วันๆหยิบแต่หนังสือมาให้อ่าน (ก่อนจะรู้จักคายู ลิตเติ้ลไอน์สไตน์ และดอร่า) เราพูดอะไรเขาไม่ค่อยสนใจ แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เคยเห็นในหนังสือมาสักครั้ง หรือเคยเห็นในการ์ตูนสักครั้ง พอเราพูดอีกทีเขาจะจดจำ สนใจมากๆ ตามตำราเปี๊ยบเลยที่ว่า เด็กสนใจความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เป็นของจริง กับ จินตนาการ ทำให้เราเคยชินกับการสอนเด็กแบบนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การสอนภาษาญี่ปุ่นของเราไม่ได้ผล
ที่จริงวิธีนี้ อาจจะเพียงพอถ้าพูดถึงการสอนภาษาอังกฤษ เพราะเราเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาลหรือป.๔ แทบไม่ต้องทวน มันจารึกในสมองแล้ว แต่ถ้าเป็นภาษาที่ 3 ซึ่งเราไม่ได้ใช้งานในชีวิตประจำวัน อย่างดิฉันเป็นแม่บ้าน ตั้งแต่คลอดลูกจนลูก 2 ขวบก็ไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นอีกเลย มันเริ่มจะมีปัญหาละ
การสอนศัพท์จากหนังสือ เราเพียงแต่อ่านให้ลูกฟัง สมองเราไม่ได้จดจำสิ่งที่เราอ่านลงไป ดังนั้นพอจะเริ่มพูดญี่ปุ่นในชีวิตประจำวันบ้าง มันก็ติดขัด นึกศัพท์ไม่ออกสักคำ ส่วนใหญ่จะนึกคำกริยาไม่ออก เพราะภาษาญี่ปุ่นมีวิธีผันคำกริยาหลายแบบมาก แต่บางทีประโยคที่ยังจำได้เราก็พูดรัวเร็วเชียว พยายามเลียนแบบสำเนียงคนญี่ปุ่น แต่ตัวเองฟังแล้วก็รู้สึกหลอกๆหลอนๆยังไงไม่รู้ ได้แต่คิดว่า น้ำเสียงเราไม่ได้แสดงว่าเราเข้าใจสิ่งที่เราพูดเลยนะ แล้วลูกจะเข้าใจไหมน้า..... แต่ก็ปลอบตัวเองว่า ฟังบ่อยๆ เขาก็ต้องจำได้เองแหละ
พอครึ่งเดือนก่อน ได้ไปร่วม Playgroup Japanese กับเพื่อนๆ ได้มีโอกาสสวมบทบาทหลายอย่าง ได้ลองเป็นเด็กดู คือ คุณนามิชาวญี่ปุ่นที่มาร่วมเขาอ่านนิทานให้ฟัง เราก็ฟังไม่ค่อยออก เลยพอเข้าใจเด็กๆ (เป็นนิทานสอนนับเลขค่ะ) แล้วก็ได้เป็นผู้ใหญ่ คือ พูดออกคำสั่งกับเด็กที่พูดโต้ตอบได้ให้เขาช่วยทำกิจกรรม มีโอกาสได้ทบทวนภาษาญี่ปุ่นบ้าง ...ทั้งหมดนี้ทำให้เรามองเห็นตัวเองชัดเจนขึ้น ว่าระดับความชำนาญภาษาของเราเนี่ย ตอนนี้มันน้อยมากๆ แบบต้องพูดไปถามไป ให้คนเข้าใจสองภาษาแปลให้ฟังแล้วพูดตาม
กลับบ้านมาทีนี้ มีความต้องการแรงกล้ามากจะทำยังไงเราถึงจะสามารถเข้ากลุ่ม Playgroup ได้ โดยพูดภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ไม่ต้องใช้ภาษาไทยกะเพื่อนๆในกลุ่มได้ (เข้าใจว่าเพื่อนๆในกลุ่มนี่คล่องทุกคน คุณอู่เป็นแอร์ คุณวิทำงานกะคนญี่ปุ่น คุณแต้วทำงานสถานทูต คุณนามิชาวญี่ปุ่น ฯลฯ) ตอนนี้เราเปลี่ยนจุดยืนละ เราตัดสินใจพูดญี่ปุ่นมันไปเลยทั้งวัน พูดกะตัวเองส่วนใหญ่ พูดกะลูกก็พยายามไม่พูดผิด เลยจะพูดช้าหน่อย บางทีนึกคำกริยาไม่ได้ก็นึกไปพูดไป ทำให้ออกมาพูดช้าเหมือนเด็กหัดพูดจริงๆ เราค้นเวบหาเพลงที่สนุกๆมาร้องให้ลูกฟัง (เพลง if we are happyเวอร์ชั่นญี่ปุ่น) เพราะว่าลูกชอบเพลงนี้มาก การเริ่มจากสิ่งที่ลูกชอบน่าจะได้ผลดี แต่คลิปใน Youtube ไม่มีเนื่อ เราเลยต้องค้นเวบอื่นๆ ได้เนื้อเป็นคันจิมา อ่านไม่ออก เราก็เปิดดิกคันจิ (กว่าจะได้- - เฮ้อ เหนื่อย แต่คนอื่นที่อ่านคันจิออกคงว่ากล้วยอ่ะ) แล้วตอนลูกหลับก็หยิบหนังสือมาทวนไวยกรณ์กะศัพท์ที่ลืมๆไปบ้าง (ได้ไม่มาก เล็งอันที่ใช้บ่อยก่อน) แต่ผลออกมาดีมากนะ สำหรับตัวเราเอง คือ พอเราลงมือทำการบ้าน ฝึกฝนตัวเองบ้าง ในทางเดียวกัน มันทำให้เราพร้อมจะสอนลูกมากขึ้น
ที่เคยสับสนว่า จะสอนลูกยังไง เวลาไหนดี แบ่งเวลายังไง จะซื้อของเล่น/หนังสือไรมาช่วยดี ตอนนี้รู้แล้วว่ามันไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง ปัญหาของเราก็คือ เราขาดการทำการบ้าน เราจึงรู้สึกว่ามันยาก---สอนภาษาญี่ปุ่นมันยากเหลิอเกิน- - แต่พอเราทำการบ้าน มันก็กลายเป็นเรื่องง่ายๆขึ้นมาเอง มันค่อยๆง่ายขึ้นทุกวันๆ ที่เราลงมือพูด
เราคิดว่า ถ้าอยากสอนภาษาอะไรให้ลูก เราก็ต้องเรียนไปพร้อมกะลูกด้วย ถ้าสอนแบบเรานั่งนอกวง ให้ลูกไปเรียนกะคนอื่น(หรือของเล่น หรือทีวี) เราคุยกะลุกไม่รู้เรื่องแล้วลูกจะอยากพูดภาษานั้นกะใครใช่ไหม
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้