เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
28 มกราคม 2554
และแล้วก็ได้เวลาฉลองครบรอบ 1 ปีสำหรับการเป็นสมาชิกของหมู่บ้านเด็ก 2 ภาษาของครอบครัวเรา
...แม่อ้อ พ่ออาร์ต และฟ้าใส...
1 ปีที่ผ่านมาเราทำอะไรกันบ้าง
3 เดือนแรกพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า “มั่วมาก” สะเปะสะปะ พูดไทยคำ อังกฤษคำ แปลให้ลูกด้วยความหวังดี กลัวลูกไม่รู้เรื่อง และอื่นๆ อีกสารพัด แม้นักเรียนตัวน้อยของเราจะไม่เคยมีอาการต่อต้านภาษาที่ 2 ทั้งๆ ที่พ่อแม่เริ่มสอนตอนเค้าอายุ 3 ขวบเต็ม แต่การเรียนการสอนของเราก็แทบจะเรียกได้ว่าย่ำอยู่กับที่ คิดไม่ออกว่าจะพูดกับลูกว่าอะไร จนสุดท้ายตัดสินใจเข้าร่วม workshop 2 ภาษาของคุณบิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านของเรา จนเข้าใจขั้นตอนการสร้างเด็ก 2 ภาษาชัดเจนขึ้น จึงกลับมาเริ่มใหม่ ตั้งแต่อ่าน A B C นับ 1-10 ออกเสียงให้ชัด มีเสียงคำท้ายให้ครบ เรียนใหม่เกือบทั้งหมดค่ะ
เราเดินไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคง ตามคำแนะนำของผู้ใหญ่บิ๊กและบรรดารุ่นพี่ในหมู่บ้านนี้ และแล้วผลก็เริ่มปรากฏ ฟ้าใสค่อยๆ พูดได้ทีละคำ 2 คำ ประโยค 2 ประโยค คุณพ่อคุณแม่ก็ยิ้มกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ
ครอบครัวเราใช้ระบบ OTOL คือ หนึ่งเวลา หนึ่งภาษา หรือสะดวกตอนไหนก็พูดตอนนั้น ไม่ค่อยจะเข้มข้นเท่าไหร่ เอาแบบสบายๆ ไม่เครียด อาจจะหย่อนยานไปสักหน่อย แต่ผลก็ออกมาน่าพอใจค่ะ
เราจัดสิ่งแวดล้อมหลายๆ อย่างให้เอื้อต่อการเรียนภาษาอังกฤษของลูก ได้แก่ ดู Caillou, Wonder Pets, Mommy and Me, Phonic Kids อ่านหนังสือนิทานให้ฟัง เล่นเกมคำศัพท์ ดูการ์ตูนและเล่นเกมภาษาอังกฤษในอินเตอร์เน็ต ฟังเพลงภาษาอังกฤษในรถ โดยรวมคือให้ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวลูกด้วยว่าเวลานั้นเค้าอยากพูดไทย อ่านหนังสือนิทานภาษาไทยหรือเปล่า เอาตัวเด็กเป็นศูนย์กลางค่ะ ไม่ใช่ความต้องการของพ่อแม่เพียงอย่างเดียว
เราไม่เคยลืมที่จะสอนภาษาไทยที่ถูกต้อง ยังให้ความสำคัญกับภาษาไทยมากค่ะ ถ้าเรายังพูดไทยไม่ชัด ออกเสียง ร เรือ ล ลิง ควบกล้ำไม่ได้ อย่างนี้ถือว่าไม่ผ่านค่ะ ตอนนี้ฟ้าใสเพิ่ง 4 ขวบเต็ม ภาษาไทยบางคำเค้าก็ยังไม่รู้จัก บ้านเราไม่สนับสนุนให้ใช้ไทยคำ อังกฤษคำ ถ้าช่วงไหนจะพูดภาษาไทยก็ไทยล้วน ถ้าจะอังกฤษก็อย่าเอาไทยมาปนให้เสียบุคลิก เพราะเราคิดว่าการพูดไทยคำ อังกฤษคำไม่ใช่เรื่องเท่ห์เลย แต่กลับเหมือนคนที่ทำอะไรไม่ดีสักอย่างมากกว่า
บางคนคงทราบว่าฟ้าใสเรียน 2 ภาษาที่โรงเรียนด้วย ทำให้พัฒนาการภาษาที่ 2 ไปเร็ว ใช่ค่ะ ครูต่างชาติที่โรงเรียนช่วยได้มากทีเดียว โดยเฉพาะทักษะการฟัง ส่วนการพูดคงต้องพึ่งที่บ้านเป็นหลัก เพราะครู 1 คนกับเด็ก 25 คนคงเทียบไม่ได้กับที่พ่อแม่สอนลูกแค่คนเดียว เรายังเชื่อมั่นว่าความเอาใจใส่ของพ่อแม่ยังสำคัญเป็นอันดับ 1 อย่ายกภาระให้ครูเพียงอย่างเดียว อย่าได้นิ่งนอนใจว่าลูกเราเรียน 2 ภาษาที่โรงเรียนแล้ว กลับบ้านมาพูดไทยอย่างเดียวก็ได้ เพราะเรื่องของภาษาต้องฝึกฝนและใช้อย่างสม่ำเสมอ
เราจะพูดคุยกับคุณครูชาวต่างชาติของฟ้าใสบ่อยๆ สอนควบคู่กันไป ทำให้ผลออกมาดี บางครั้งแม่ก็ถามในส่วนที่แม่ไม่รู้เอง ติดขัดตรงไหนก็ถามครูตลอด เหมือนกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง ครูพี่เลี้ยงและครูประจำชั้นบอกว่าฟ้าใสชอบคุยกับครูต่างชาติ เป็นเด็กที่มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก หรือแม้แต่ครูต่างชาติเองก็ชมว่าฟ้าใสเป็นเด็กที่พูดภาษาอังกฤษได้ชัดที่สุดในห้อง
นี่คือคำบอกเล่าของคุณครูชาวต่างชาติของฟ้าใสที่มีต่อเพื่อนๆ ค่ะ (ตัดมาจาก facebook ของ teacher ค่ะ)
Fasai makes her Teacher Anne proud of her
...she's a thai little girl who pronounces english words clearly..im sure mommy and daddy will be proud for having her as a daughter..and of course her Teacher Anne is really amaze of this wonder child
นับเป็นความภูมิใจของครอบครัวเรามากค่ะ
ต้องขอบคุณบรรดารุ่นพี่และเพื่อนๆ ที่เดินร่วมทางกันมา ช่วยแก้ไขสิ่งผิด ช่วยติเพื่อก่อ เป็นกำลังใจกันมาตลอด และขอให้สมาชิกใหม่ๆ อย่าได้ท้อนะคะ หาจุดที่พอดีสำหรับครอบครัวเรา ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับครอบครัวอื่น ถ้าเราทำได้ไม่ดีเท่าเขาก็อย่าเครียด เพราะพื้นฐานและความพร้อมของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ขอให้เดินไปด้วยกัน ช้าบ้าง เร็วบ้าง อดทนเพื่อลูก และเรียนรู้ด้วยกันอย่างมีความสุขค่ะ
Comment
อ่านแล้ว ปลื้มใจแทนแม่อ้อค่ะ 2ภาษายังทำให้เค้ามั่นใจในตัวเองขึ้นด้วย จะพยายามต่อไปค่ะ อุปสรรคอยู่ที่ตัวเองซะส่วนใหญ่
เป็นหนูน้อยตัวอย่างและคุณแม่คนเก่ง ในบ้านหลังนี้ที่อบอุ่น เอ...ว่าแต่หนูน้อยคนเก่งตอนนี้ผมสั้นใช่เปล่าน่า
ได้อ่านบทความของคุณอ้อ ทำให้จาคิดได้หลายอย่างเกี่ยวกับการสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษา
เพราะสิ่งจากำลังปฎิบัติในการสอนลูก มันชั่งมั่วไปหมดจริงๆค่ะ
เพราะจาเริ่มจะไทยคำอังกฤษคำกับลูก ((มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องจริงๆอย่างที่พี่อ้อบอก))
และจาก็มองเห็นว่า เวลาจาสอนลูกในบางครั้งเป็นการยัดเยียดให้ลูก
ไม่ได้เอาลูกเป็นศูนย์กลาง
ที่สำคัญ จาพูด ร เรือ ล ลิง ก็ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่
ภาษาอังกฤษถือว่าระดับพอใช้
ขาดความมั่นใจในตัวเองเวลาออกเสียง สำเนียง ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด
และกลัวลูกจะจำผิดๆไปจนโต -_-"
และเรื่องของเวลาและความสนใจที่เหมาะสม จาเองก็เห็นว่า
บางครั้งที่สอนเขาก็จะแสดงอารมณ์ออกอย่างชัดเจน
เช่น ถ้าเขาสนใจอะไร เขาจะพยายามชี้ซ้ำๆ แต่เขายังออกเสียงอ้อแอ้ คือพูดได้แค่บางคำค่ะ
แต่จาก็พยายามให้กำลังใจตัวเองด้วย ตามที่พี่อ้อแนะนำ
แต่บางครั้งเขาก็จะวิ่งหนีๆ หนีไปเล่น คือสนใจแปบๆ
ก็สนใจสิ่งอื่นแล้วค่ะ
ในตอนนี้จาเองก็ดูการ์ตูน Caillou's ตามที่พี่อ้อแนะนำ
เพื่อจะเป็นเรียนนำลูก และก็พยายามที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนากับลูก
และเมื่อวานนี้เองนะคะ ที่น้องกัณต์ ยอมพูดตาม คือ ระหว่างเดินไปขึ้นรถ น้องกัณต์
เค้าเห็นแมวเดินมา เค้าก็เรียก "เหมียว เหมียว" จาก็แอบป้อนคำศัพท์เค้าอ่ะคะ
โดยชี้ไปที่แมว แล้ว บอกเค้าว่า "Cat" เค้าก็พูด ตามอ่ะคะ
พอเจอลูกสุนัข เค้าเรียก พร้าวๆๆ ((เพราะลูกสุนัขที่บ้าน ชื่อ มะพร้าว))
จาก็ไม่ใช่ๆๆ Dog , Dog เค้าก็ชี้ไปที่ลูกสุนัขแล้วพูดว่า dog
แค่นี้จาก็ยิ้มแล้วค่ะ เพราะพี่อ้อเคยแนะนำเรื่องคำศัพท์
นี่จะเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งรึเปล่าค่ะ ที่เค้าจะยอมรับในภาษาที่ 2
แต่อย่างจาก็ต้องขอบคุณพี่อ้อ อีกครั้งนะคะ จาจะพยายามและขยันให้มากๆเหมือนพี่อ้อค่ะ ^^v
พี่ฟ้าใสเก่งสุดๆๆๆเลย คุณแม่อ้อก็เก่งมากๆๆเลยค่ะ น้องวินวินยังไม่ถึงไหนเลยค่ะ
แม่อ้อ เก่งอยู่แล้ว..............
น้องฟ้าใสก้อเก่ง น่ารักด้วย
ก้าวต่อไปเรื่อยๆๆๆนะคะ
น่ารัก... เห็นที่คุณครูเขียนมาแล้วน่าชื่นใจแทนแม่อ้อด้วยค่ะ
ไหวสิคะ ขอแค่ใจสู้ ไม่มีอะไรยากเกิน
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้