6 ตุลาคม 2553
ครบหนึ่งปีเต็มแล้วที่เริ่มสอนภาษาอังกฤษน้องคิด ... ก็ล้มลุกคุลกคลานมาพอสมควร แต่จะเป็นแค่ประมาณ 6 - 8 เดือนแรกนะคะ เพราะพอเดือนหลัง ๆ เราจะเริ่มผ่อนคลาย และคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้น
ที่จริงว่าจะเขียนตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่ยุ่ง ๆ เลยเพิ่งมีเวลามาอัพเดตค่ะ จริง ๆ อยากจะเขียนทุกเดือน แต่ตอนนี้น้องคิดเป็นโคอาล่า คอยเกาะแข้งเกาะขา เกาะหน้าเกาะหลัง ปีนไปปีนมาเวลาเปิดคอม เลยตัดใจไม่ค่อยเล่น รีบเปิดรีบปิด
ถ้าใครอยากเริ่ม ควรจะเริ่มตอนที่ลูกยังพูดไม่ได้นะคะ หรือตอนที่กำลังหัดพูดเป็นคำหรือสองคำ เพราะว่าเด็กจะทวนคำพูดสุดท้ายของเรา เหมาะแก่การสอนคำศัพท์เป็นอย่างมาก (แต่ถ้าลูกพูดเก่งแล้วก็ไม่เป็นไร อาจจะต้องทุ่มเทมากกว่านิดนึง)
ตอนนี้น้องคิดฟังภาษาอังกฤษออกประมาณ 70 - 80% (เกิดจากความขี้เกียจของแม่ด้วยหละ) พร้อมด้วยคลังศัพท์ภาษาอังกฤษน่าจะประมาณ 100 กว่าคำหรือมากกว่านี้ เพราะว่าไม่เคยนับค่ะ แต่สิ่งรอบตัวรอบบ้านรู้จักหมดแล้ว (ยกเว้นที่แม่ไม่รู้เท่านั้นเอง อิอิ บางคำติดอยู่นานกว่าจะได้เปิดหาว่าคือคำว่าอะไร คำไหนไม่รู้ก็จะพูดประโยคนั้น ๆ เป็นภาษาไทยไปเลยค่ะ)
ส่วนภาษาไทยก็พอ ๆ กัน ตอนแรกว่าจะสอนแต่ภาษาอังกฤษไปเลย แต่มันตึงเครียดในครอบครัวเหลือเกินเพราะแม่นึกศัพท์ไม่ค่อยออก อีกทั้งน้องคิดก็ซนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการดุลูกมากกว่า ก็เลยใช้ทั้งสองภาษาไปเลย
เรียกว่าครอบครัวเราเป็น One Time One Language (OTOL) เพราะบางครั้งไปบ้านตายาย น้องคิดสื่อสารกับญาติผู้ใหญ่ไม่ได้ ก็เลยอาศัยวันที่ไปบ้านตายาย สอนภาษาไทยไปเลย (บางทีก็ลามติดมาที่บ้าน)
ที่จริงมีเรื่องเล่าเยอะมากเลยค่ะ แต่เนื่องจากไม่ได้เขียนต่อเนื่องเลย เอาเป็นสรุปละกันนะคะ
*** ที่บอกว่าสอนลูกพูดภาษาอังกฤษเหมือนสอนลูกใส่เสื้อผ้า อยากให้มีแนวคิดตามนี้ค่ะ ***
- วันแรก ๆ ที่เราใส่เสื้อผ้าให้ลูก เราต้องเอาคอเสื้อสวมหัว เสร็จแล้วเอามือสอดเข้าแขนเสื้อสองข้าง
- ส่วนกางเกง ถ้าลูกเริ่มยืนได้ เค้าจะเกาะไหล่เราแล้วเราเอาขากางเกงใส่เข้าไปทีละข้าง
- ปกติเราก็คอยบอกลูกว่า "ใส่เสื้อนะ- put on the shirt, raise your hand" "ใส่กางเกงนะ - put on the pants, lift your leg"
- คอยสังเกตนะคะ หลายเดือนผ่านไป ลูกเราจะเอาหัวมาให้ใส่เอง ยกมือขึ้นสวมเข้าไปในแขนเองทีละข้าง เอามือเกาะไหล่เราเอง แล้วยกขาขึ้นใส่กางเกงทีละข้างเอง
- รองเท้า เราเองคิดว่ามันใส่ยากเนอะ ... เราก็สอนถอดก่อน พอดีซื้อแบบที่เป็นแปะ ๆ มา ก็สอนให้ดึง แรก ๆ ดึงเสร็จถอดไม่เป็น ก็สอนให้เอามือสอดเข้าไปด้านหลังแล้วดึง ... พอสอนถอดได้ ก็สอนเอาไปเก็บ
- สำหรับการใส่ ไม่คิดว่าจะทำได้ ... แรก ๆ ก็ทำให้ มีอยู่วันนึง น้องคิดอยากไปเดินเล่นข้างนอก ออยบอกว่า If you want to go outside, you've to put on your shoes. พูดแล้วก็เดินไปหลังบ้าน กลับมาอีกทีน้องคิดใส่รองเท้าเสร็จไปหนึ่งข้างแล้ว ... นั่นหมายถึงเค้าฟังเราออกด้วยค่ะ
*** นี่แหละคือการสอนแบบไม่ได้สอน ***
*** ข้อสำคัญคือการ "ทำซ้ำ - repeat" พูดทุกวัน กรอกหูเข้าไปเลยค่ะ คำเดิม ๆ ประโยคเดิม ๆ ***
ออยสังเกตจากคำศัพท์ที่สอนน้องพร้อมกับสอนใส่เสื้อผ้า หยิบเสื้อก็บอกว่า shirt หยิบกางเกงก็บอกว่า pants (ตอนนี้เรียกรวม ๆ ไปก่อน เสื้อกล้าม เสื้อมีแขน กางเกงขาสั้น ขายาว กางเกงใน เรียกรวมกันไปหมดเลย เดี๋ยวค่อยมาแยก
*** พอซัก 1 - 2 อาทิตย์ที่ป้อนคำศัพท์ใหม่แล้ว ก็ลองเริ่มพูดเป็นประโยค เช่น ***
1. Where is the shirt? พร้อมกับทำท่ามองหา (ระหว่างนั้นสอนคำว่า table, chair, etc.)
2. Is it under the table? Chair? ... ทำเป็นเล่นเกมส์
3. พอหาเจอก็บอกให้ลูกหยิบขึ้นมา Pick up the shirt, please.
4. อย่าลืม Thank you. (คำนี้ควรจะสอนทุกวัน สอนมาเกือบปี น้องคิดเพิ่งพูดเองเมื่อเดือนที่แล้วเองค่ะ ได้รับของจากเราก็พูด แต่น้องคิดพูดได้แค่คำว่า "กิ้ว, mom"
ไว้มาเขียนใหม่นะคะ น้องคิดวิ่งหนีไปแล้วค่ะ
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้