เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ประสบการณ์ของแม่

เรื่องนี้อยากเล่าเก็บเอาไว้ เป็นประสบการณ์ส่วนตัว ที่อาจเรียกความมั่นใจของใครหลายๆคนกลับมา

ตั้งแต่เล็กๆ พ่อดิชั้นสอนมาว่า อย่าย่อท้อ คนเราเกิดมาสมอง ความฉลาด แตกต่างกันไป
แต่สิ่งที่จะทำให้เกิดความแตกต่างนั่นคือ "ความพยายาม" พ่อของดิชั้นเองไม่ได้เกิดมาร่ำรวย สอบเข้าเรียนได้มหาลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งแต่ต้องอาศัยอยู่วัดเพราะไม่มีเงินที่จะไปเช่าห้องอยู่เหมือนคนอื่นเค้า แต่พ่อก็ไม่เคยย่อท้อ เรียนจบจนรับราชการ หน้าที่สุดท้ายก่อนที่จะ retire คือ รองผู้ว่าราชการจังหวัด

พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนพ่อเรียนอยู่ พ่อมีความสนใจในภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีเงินไปซื้อหนังสือพิมพ์หรือหนังสือดีๆอ่านเหมือนคนอื่นเค้า พ่อเล่าว่า อาศัยอ่านตามถุงกล้วยแขก อ่านตามห้องสมุด จนทุกวันนี้พ่อคุยกับฝรั่งได้ ถึงจะไม่คล่องแคล่ว แต่เอาตัวรอดได้ดี บางทีคำศัพท์ที่พ่อใช้ เป็นศัพท์ขั้นสูงถึงตัวดิชั้นเองก็ยัง "ทึ่ง"

ตัวดิชั้นเองตั้งแต่เด็ก มีพ่อนี่แหละ เป็น idol ส่วนตัวมาตลอด พ่อคอยปลูกฝังว่าต้องมีความพยายาม เมื่อเรามีความพยายามแล้วความสำเร็จมันก็อยู่ไม่เกินเอื้อม เพราะหน้าที่ราชการของพ่อ ทำให้ครอบครัวของเราต้องอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง ย้ายที่อยู่กันทุกสี่ปี ตัวพ่อและแม่เชื่อว่าครอบครัวต้องอยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นไปไหนไปด้วยกันตลอด ส่วนการศึกษานั้น พ่อเชื่อมั่นในระบบการศึกษาของรัฐ เพราะฉะนั้น ดินชั้นและพี่สาวจึงเรียนโรงเรียนของรัฐบาลมาตลอด ถ้าใครได้ผ่านระบบการศึกษาของรัฐบาลมาตั้งแต่สมัยก่อน (รุ่นของดิชั้น) การเรียนการสอนสมัยนั้น A B C D เนี่ยไม่ได้เริ่มเรียนกันตั้งแต่ อนุบาล กว่าจะได้เริ่มท่อง A B C ก็โน่น ป. 5 เวลาเรียนก็ท่องเอา สำเนียงก็เอาตามครู ซึ่งหวังเถอะนะคะจะเหมือนเจ้าของภาษาเค้า พอเริ่มจับผลัดจับผลูเรียนมาจนถึง มัธยมปลาย ได้เข้ามาเรียนโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งแถบหัวลำโพง ก็เลือกเรียนสายวิทยาศาสตร์ เพราะภาษากับตัวเองเหมือนน้ำกับน้ำมันไม่เข้ากันเลยจริงๆ เข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องใช้-ภาษา เมื่อไรที่มีวิชาภาษาอังกฤษก็ถูๆไถๆ เอาตัวรอดแบบเฉียดฉิวมาได้ตลอด

เรียนจบ พ่อประกาศมาแบบสายฟ้าฟาด "จะส่งไปเรียนทำโท" เอ่อ แล้วจะไปคุยกับเค้าได้ยังไง พ่อส่งไปเรียนติวภาษาอังกฤษในสมัยนั้น โรงเรียนกวดภาษาของอาจารย์สงวน สมัยก่อนดังมาก ไม่รู้สมัยนี้ยังดังอยู่หรือเปล่า เรียนอยู่สักพัก ไปลองสอบโทเฟลดู แหมม ไม่อยากจะบอกคะแนนค่ะ อายเพราะความเก่งของตัวเอง ได้คะแนนมา 490 ประมาณนี้ เรียนอยู่อีกพัก สอบไปอีกครั้งสองครั้ง พ่อบอกไม่ไหวแล้วกว่าคะแนนจะกระเตื้องคงเหนียงยานไม่ได้ไปเรียนแน่ๆ จัดการส่งลูกมาเรียนทันที

ทุกอย่างผ่านไปมันไวจริงๆ เก้าปีที่แล้วดิชั้นเลยได้มีโอกาศมาเรียนที่อเมริกา มาเรียนครั้งแรก นอกจาก เขียนไม่เก่ง ฟังไม่เก่ง ยังพูดไม่ได้อีกแนะ เจอฝรั่งนอกจากจะพูดไม่ได้ ปากไม่อ้า แถมขายังสั่นอีกแนะ แต่ดิชั้นเองไม่เคยย่อท้อ เริ่มรวบรวมความกล้า ขยันพูดกับฝรั่ง ขยันฟัง คำไหนฟังไม่ทัน ไม่เคยอายบอกเค้าไปตรงๆไม่เข้าใจ ไม่เคยปล่อยเลยไปด้วยรอยยิ้มกลบเกลือน
หนึ่งปีผ่านไป เชื่อว่าตัวเองแน่ ลองสอบโทเฟลอีกรอบ 560 ยิ้มแก้มแทปปริ(ถึงจะได้ไม่ถึง 640 ก็เถอะ) ทีนี้แหละเข้ามหาลัยได้แล้ว

เข้ามหาลัยได้แล้ว อาทิตย์แรกที่เข้ามหาลัย เจอผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ Michael แปดปีผ่านมาผู้ชายคนนี้มีส่วนมากมายที่ทำให้ภาษาของดิชั้นดีขึ้น อาทิตย์แรกที่เจอกัน เราคุยโทรศัพย์กันได้นานทุกคืน คืนละสองสามชั่วโมง ที่น่าตลกคือ เค้ามาสารภาพทีหลังว่า ไม่ได้เข้าใจเลยว่าเรานั้นพูดอะไร ดิชั้นเริ่มบอกเค้าว่านอกจากแนะนำแล้วว่าสมควรที่จะพูดอย่างไร เมื่อพูดผิด ให้จับผิดทันทีแล้วแก้ให้ด้วย แรกๆก็อาย แต่พอทำไปก็ชิน ไม่เท่าไรดิชั้นก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง คนรอบข้างเริ่มเข้าใจเรามากขึ้น ทีนี้ดิชั้นก็เริ่มลามไปถึงเพื่อนรอบข้าง บอกเพื่อนๆดิชั้นพูดผิดตรงให้ให้แก้ให้ จนบางทีเพื่อนๆถึงขนาดเอาไปล้อ

แปดปีผ่านไป ดิชั้นได้ยินคำชมจากคนรอบข้าง หรือ คนไข้บ่อยๆว่า "ภาษาดิชั้นดี" ที่พูดนี้ไม่ได้เป็นการอวด แต่อยากจะบอกทุกคนว่า ความพยายามของดิชั้นไม่ได้เสียเปล่า ความสำเร็จอาจจะมากับเวลาที่ยาวนาน ถ้ายังไม่เห็นพัฒนาการในเวลาสั้นๆ อย่าย่อท้อ ทุกวันนี้ดิชั้นก็ยังเรียนรู้ทุกวัน มีอะไรใหม่ๆให้ได้รู้

คำนึงที่ดิชั้นได้ยินจากเพื่อนรุ่นพี่ใน English club นี้โดนใจดิชั้นมาก "practice makes perfect"

สำหรับเพื่อนๆที่พยายามเรียนรู้ภาษาอังกฤษอยู่ อย่าย่อท้อนะคะ หวังว่าประสบการณ์เล็กๆน้อยๆของดิชั้นเอง จะเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆได้ "ฝันให้ไกล ไปให้ถึง" ค่ะ

Views: 314

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by oilburry on January 31, 2011 at 8:49pm
อ่านแล้ว ซึ้งจังเลยค่ะ
Comment by srewilai on January 28, 2011 at 10:35am

เป็นบทความที่สร้างกำลังใจให้คนที่กำลังท้อได้ดีมากค่ะ

ขอบคุณนะคะ

Comment by Fondly on January 27, 2011 at 1:56pm

อ่านแล้ว ฮึด ขึ้นอีก เฮือก

 

ขอบคุณคา

Comment by เกษม สิริภัทรคุณ on January 26, 2011 at 10:46pm

      อ่านแล้วคิดถึงความหลัง อาศัยข้าวก้นบาตร 18 ปี

          ความจนไม่ใช่อุปสรรค ชีวิตลิขิตเอง

Comment by ภัททิยา มีสัตย์ on January 13, 2011 at 11:12am

ขอบคุณนะค่ะ สำหรับข้อความดีๆ กำลังใจดีๆ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงจับต้นชนปลายกันค่ะ ไม่รู้จะรอดเนี่ย แต่จะสู้ต่อไปค่ะ สู้ๆ ^_^

Comment by แม่ติ๊ก&น้องต้นกล้า on December 23, 2010 at 2:54pm
จะสู้ต่อคะเพื่อวันข้างหน้า ...ของลูกและตัวเราเองด้วย
Comment by นางสาวธนภรณ์ เชื้อเพ็ง on October 1, 2010 at 11:45am
เห็นด้วยค่ะ ถ้าได้สัมผัสจะทำให้รู้เยอะขึ้น แต่ถ้าเราไม่ได้สัมผัสอ่ะ ลืมหมดค่ะ

แม่น้องนิ
Comment by แม่น้องเอวา on August 17, 2010 at 7:15am
ขอบคุณมากค่ะ ในเวลาที่เราอ่อนแอหรือหวั่นไหวกับอุปสรรค์ของชีวิตถ้าได้อ่านเรื่องราวดีๆสักเรี่องหรือได้พูดคุยกับใครที่ผ่านพ้นขว้างหนามและอุปสรรค์นั้นมาได้ เราจะพบว่าเราไม่ได้เดินทางเพียงลำพัง สู้ๆ
Comment by Tanaporn P on August 12, 2010 at 1:43am
ได้กำลังใจไปอีกกระบุงโกย
Comment by แม่น้อง audy on August 10, 2010 at 12:05pm
ชอบในเรื่องของความพยายามค่ะ สำคัญที่สุดน่ะค่ะ มันเป็นจุดเรื่มต้นของความสำเร็จ ถ้าเรามีความพยายาม ในส่วนตัวแล้วเมื่ออ่านก็ทำให้คิดได้ว่า เราทิ้งความพยายามไปมาก ถ้าเราท่องเอาไว้ในใจตลอดเวลา ก็จะกระตุ้นให้ตัวเอง เรียนรู้อยู่เสมอค่ะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service