เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

กำแพงความยากต่างระดับมีมาให้เราทดสอบตลอดเส้นทาง

สวัสดีผู้ใหญ่บ้านและพี่สาวใหญ่แห่งหมู่บ้านแห่งนี้ และ รวมถึงสมาชิกทั้งเก่าใหม่ที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล ด้วยค่ะ 
ห่างหายจากการเขียนบล็อกไปนานมากกกก จริงๆ .. วันนี้อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆที่เกิดขึ้นระหว่างทางของบ้านเราน่ะค่ะ ระหว่างทางบนถนนสายนี้ มีเรื่องราวและบททดสอบจิตใจที่มีมาเรื่อยๆจริงๆ .. เราเคยคิดว่าเราทำได้ ทำให้ลูกๆของเราพูดภาษาที่สองได้จากความรู้สึก .. แม้จะถูกบ้างผิดบ้าง แต่อย่างน้อยก็สลับโหมดได้อย่างคล่องแคล่ว และ ไม่พูดปะปนสองภาษาในประโยคเดียวกัน .. ส่วนเรื่องคำศัพท์ ก็ต้องค่อยๆเพิ่มเติมกันไป ทีละเล็กละน้อย อย่างไม่ต้องไปรีบเร่ง เพราะตัวแม่เองยังคงต้องเปิดดิกชันนารี่ อยู่บ่อยๆๆๆ แต่ในระหว่างทางที่เราคิดว่าเราทำได้นั้น มิใช่ว่าจะราบรื่นปราศจากอุปสรรคไปซะหมด วันนี้เลยคิดว่าจะนำประสบการณ์ความยากและอุปสรรคที่พบ มาแบ่งปันให้สมาชิกในหมุ่บ้านฟังบ้างเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของครอบครัวเราค่ะ


อุปสรรคแร หรือ บททดสอบจิตใจที่จะยกมาแบ่งปันวันนี้ก็คือ เรื่องเวลาที่นับวันจะน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากลูกใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่รร. ที่เป็น รร.ไทย ไม่ใช้ภาษาอังกฤษมากนัก ..ทำให้เค้ามีเวลาฝึกปรือ วิทยายุทธ์ที่บ้านน้อยลงเรื่อยๆ ..  เราพยายามก้าวข้ามอุปสรรคนี้ด้วยการบังคับตัวเองผู้สอนให้คงเส้นคงวาให้มากที่สุด หรือ ที่ผุ้ใหญ่บ้านของเราเรียกว่า "ความถี่" นั่นเอง .. ผลที่ได้ แรกๆก็ดึงกลับมาได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำให้แอบเครียดอยู่ไม่น้อย .. แต่ในที่สุด เราก็ค้นพบว่า "อย่าเครียดเลย มีเวลาเท่าไหนก็ทำเท่านั้นแหละ" ทำให้มีความสุขที่สุด .. ท่าจะดีกว่า ..หลังจากคิดได้อย่างนี้เราก็มีความเครียดน้อยลงค่ะ และก็พบว่าทำต่อไปได้มีความสุขเหมือนเดิม แม้เวลาจะน้อยลงก็ตาม ..

อุปสรรคที่สอง คือ การสอนภาษาอังกฤษของรร. ก็คือ สอนไปแปลไป .. ตอนแรกๆ พยายามอย่างยิ่งค่ะ (พยายามจนเครียด . อีกแล้ว) .. ที่จะต่อต้าน .. ไม่แปล .. แต่พบว่า ต้านไม่ไหวค่ะ .. ย้ำ ..ต้านไม่ไหวจริงๆ ..เพราะลูกเรียนแบบนั้นแหละค่ะ แบบที่เราไม่อยากได้ แต่เค้าต้องเรียนมันที่รร. ..  เราก็พยายามก้าวข้ามอุปสรรคนี้ด้วยการ ปล่อย ..ปล่อยให้เค้าเรียนไปตามแบบที่เค้าต้องเรียน และ เรียนเหมือนเพื่อนๆที่รร. .. ส่วนทางเราก็ สอนให้เค้าเรียนแบบเราต่อไป .. สอนแบบไม่แปลของเราต่อไป  .. ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องท่องศัพท์ที่รร.มอบหมายให้มา เราก็ให้เค้าท่อง ท่องแต่ภาษาอังกฤษ อย่างเดียวเลย .. ไม่แปลให้เค้าฟังเลย...ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าก็ต้องอ่านคำแปล แต่เราจะไม่พูดถึงเลย .. ถ้าคำไหนเค้ายังไม่ได้อ่านคำแปล และเป็นศัพท์ค่อนข้างใหม่ เราจะถือโอกาสแปลเลยค่ะ แปลเป็นภาษาอังกฤษ ตามแบบฉบับของเรา ทั้ง ทำท่า ทั้งยกตัวอย่าง ทั้งอธิบาย.. .. (และไม่ลืมที่จะกำชับลูกด้วยว่า เวลาสอบแบบ Dictation ในห้องเรียน ต้องอย่าลืมเขียนคำแปลไปด้วยนะลูก ^ ^ เดี๋ยวจะอดได้คะแนน) ...  เราพบว่าเราผ่านอุปสรรคข้อนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นมากนักค่ะ 

อุปสรรคที่สาม ที่จะยกมาพูดในวันนี้ คือ .. การเรียนภาษาอังกฤษที่รร. ในเรื่องไวยกรณ์ ... ข้อนี้นับว่ายากจริงๆค่ะ และทำใจยากด้วยที่จะไม่สอนไวยกรณ์ ... ตอนแรกๆ ไม่สอนค่ะ ใช้ให้ลูกดูเลย .. แต่ก็พบว่าไม่ได้ผลค่ะ เพราะเด็กเรียนไวยกรณ์ เหมือนที่เมื่อก่อนเราก็เรียนนั่นแหละค่ะ .. ... และประกอบกับเด็กของเราก็อยู่ในช่วงฝึกหัด ไวยกรณ์บางครั้งก็ผิดๆถูกๆ อยู่  have has - go went gone -  there is , there are  etc.   เค้ายังมีสับสน และใช้ไม่ถูกอยู่บ้าง .. ทำให้เราไม่กล้าปล่อยเว้นข้ามที่จะไม่สอนตามบทเรียนเค้า .. 
เราก้าวข้ามผ่านอุปสรรคข้อนี้ด้วยการ  .. ตัดสินใจสอนตามบทเรียนค่ะ .. สอนไวยกรณ์นั่นแหละค่ะ สอนไปตามที่เค้าจะเอาไปสอบในรร.ให้ได้คะแนนดีๆ ... แต่ .... สอนแบบเราคือ สอนไวยกรณ์โดยอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ... ค่อยๆ สอนไป ยกตัวอย่างกันไป.. เราพบว่า เราค่อยๆก้าวผ่านทีละความยากของอุปสรรคข้อนี้ได้เช่นกันค่ะ .. 

มาถึงวันนี้ อุปสรรคระหว่างทางจริงๆมีมากกว่านี้ แต่ในเนื้อหาบล็อกนี้คงยกตัวอย่างมาแบ่งปันเพียงแค่นี้ก่อน ที่คนอ่านจะเบื่อซะก่อนค่ะ .. ถึงแม้ระหว่างทางจะมีอุปสรรคมากมายให้เราเหนื่อยและท้อเป็นระยะ... แต่ครอบครัวของเราก็ยังคงประคับประคองทุกๆก้าวการสอนให้คงอยู่ในระบบตามผุ้ใหญ่บ้านต่อไปค่ะ .. อาจจะต้องนำมาปรับเปลี่ยนแปลงบ้างตามความเหมาะสมค่ะ .. 

ท้ายนี้ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ครอบครัวที่พบเจออุปสรรค ต่างๆ (อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนครอบครัวของเรา)  และ ครอบครัวทุกๆครอบครัวที่เพิ่งเริ่มแต่มุ่งมั่นสร้างลูกๆสองภาษากันต่อไปค่ะ .. .. สู้สู้ค่า... ^ ^

เก๋ .. (แม่น้องพริม น้องพูม) 

Views: 1485

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by mom_jenita on June 25, 2012 at 9:17pm

ขอบคุณมากเลยค่ะพี่เก๋ที่แชร์ ยิ่งโตยิ่งมีด่านทดสอบนะคะ เจ้าขาคงต้องเจอแบบนี้เหมือนกันค่ะ ดีจังเลยมีพี่สาวนำทางให้เดินตาม :)

Comment by Jija on June 25, 2012 at 2:22pm

อืมม์ น่าคิดนะเก๋ อีกไม่นานกันต์ก็คงต้องเจอเหมือนกัน ขอบใจนะจ๊ะ ที่มาแชร์

Comment by wewan on June 25, 2012 at 1:55pm

ยังนึกเลยว่า เมื่อลูกไปโรงเรียนต้องเจอแบบนี้ จะเป็นอย่างไร ขอบคุณสำหรับเรืองราวที่ได้เล่าสู่กันฟังนะคะ เมื่อถึงวันที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ คงจะเป็นประโยชน์ในการปรับเอาไปใช้

Comment by แม่หนูนานา on June 25, 2012 at 1:34pm

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ คงจะเจอในไม่ช้านี้เหมือนกัน

Comment by คุณแม่น้องอิ่ม & เอม on June 25, 2012 at 10:26am

อืม..พอได้อ่านแล้วทำให้คิดค่ะ คุณเก๋ เรื่องท่องศัพท์ ทุกวันนี้อิ่มจะมีสมุดจดศัพท์กลับมาให้ท่อง คุณครูให้เด็กจดตามลงในสมุด เช่น grandfather = คุณปู่, คุณตา แต่สิ่งที่เหมี่ยวสอนคือ พูดคำว่า grandfather แล้วให้อิ่มเขียนตามคำบอก โดยไม่ได้ให้เขียนคำแปลต่อท้ายเหมือนที่คุณครูให้มาค่ะ เพราะเรารู้ว่า grandfather คืออะไร
เจออย่างนี้ต้องกลับไปย้ำอีกทีว่า เวลาคุณครูให้เขียนที่โรงเรียนต้องเขียนความหมายที่เป็นภาษาไทยต่อท้ายด้วย เดี๋ยวจะอดคะแนน ^__^

Comment by แม่น้องกุน & น้องญาญ่า รักในหลวง on June 22, 2012 at 10:36pm

ปัญหาและอุปสรรคของเก๋ไม่ต่างจากพี่เลยนะ ข้อ หนึ่ง และสอง (ตัวคนเดียวก็สาหัสละ) ข้อสามนี้ยังมาไม่ถึง คงต้องเจอแน่ๆ

ระดับเก๋ถือว่าเก่งแล้วคะ น้องสองคนยังไม่ทิ้งภาษาไปก่อนถ้าแม่เข้มแข็ง ก้าวข้ามผ่านไปได้อยุ่แล้วละ พี่เชื่อมั่นในตัวเก๋คะ

Comment by Sweetie_TK on June 22, 2012 at 10:03pm

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ คนอ่านไม่เบื่อเลยค่ะ

Comment by Prim & Poom on June 21, 2012 at 11:12pm

ขอบคุณจ้ากิ้ม ... ชมเกิ้นนนนน ... กระท่อนกระแท่นกันไปล่ะจ้ะ .. 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจเช่นเคยจ้ะ .. พี่ก็ล่าสุดได้ดูคลิปอาเจ้ยาโย .. โอ้โฮ ... เจ๋งมั่กๆ ต้องยกนิ้วให้แม่กิ้มเลยล่ะ ...  ^ ^

Comment by Prim & Poom on June 21, 2012 at 11:10pm

เห็นด้วยกับคุณ rewadee ในเรื่องพยุงการพูดสำหรับไวยกรณ์อะนะคะ ช่วยได้แน่ๆอยู่แล้วเพียงแต่ อุปสรรคอีกนิดนึงก็คือ มิใช่ว่าตลอดเวลาที่เราเป็นผู้สอนเราจะไม่ผิดเลย .. บางทีแม่ก็ผิดค่ะ บางทีเราก็ลืมออกเสียง S เมื่อใช้กับพหูพจน์อะไรแบบนี้อะค่ะ .. หรือ อย่างเช่นกับเจ้าลูกชายคนเล็ก น้องพูม บางทีเราใช้ กิริยาช่อง 2 ไป เค้ากลับคิดไปเลยว่า อ้อ ต้องใช้กิริยาช่องสองนะ เค้าก็เอามาใช้แทนช่อง 1 ไปซะงั้น พอพูดผิดหลายๆครั้งเข้า เราก็ต้องอธิบาย (เป็นอังกฤษ) แต่ก็มันก็เลยไปเข้าข่ายสอนไวยกรณ์น่ะค่ะ ...   ส่วนเรื่องการสอนแบบท่องจำน่ะค่ะ มีส่วนต้องใช้จริงกับเด็กในห้องเรียนค่ะ อย่างเช่นเวลาเค้าต้องเขียนศัพท์ ถ้าเค้าไม่ได้ท่องไป เค้าจะมีปัญหาแน่ๆค่ะ ^ ^  ประเด็นคือ เราแปลให้เค้าเป็นอังกฤษอีกครั้ง ก็พอช่วยได้ค่ะ .. 

ขอบคุณคุณ rewadee อีกครั้งจ้า ... ^ ^

Comment by rewadee on June 21, 2012 at 9:29pm
ขออนุญาตออกความเห็นในข้อที่สามคะ คือถ้าเราสอนไวยกรณ์ตามแบบของผู้ใหญ่บิ๊กแล้วเจอรร สอนอีกแบบ เราว่ามันน่าจะช่วยพยุงการพูดให้ถูกต้่งมากขึ้นหรือเปล่าค่ะ อย่างเช่นเรื่องการพูดพยุงการอ่าน ในทางเดียวกันการสอนไวยกรณ์ตามความรู้สึกน่าจะช่วยพยุงการเรียนไวยกรณ์ตามระบบให้ง่ายขึ้นกลับกันการเรียนไวยกรณ์ตามแบบเรียนก็น่าจะช่วยตอกย้ำและพยุงการพูดไวยกรณ์ตามความรู้สึกได้อย่างถูกต้องเช่นเดียวกันค่ะ
เมื่อก่อนเราเรียนตามแบบเรียน เวลาพูดก็จะคิดเยอะใช่มั้ยค่ะแต่ถ้าเราได้รูปแบบที่ถูกต้องบวกกับใช้ความถี่มากๆ เวลาพูดก็จะคิดน้อยลงในที่สุดก็สามารถเกิดการความรู้สึกได้จิงๆ
ไม่ได้เห็นด้วยกับระบบการสอนแบบแปลหรือท่องจำนะคะแต่เห็นประโยชน์ของการเรียนแบบนี้เหมือนกัน ส่วนตัวเพิ่งเริ่มสองภาษากับลูกแค่สามเดือนเห็นพัฒนาการตลอดคะ เห็นด้วยกับคุณเก๋อย่างมากเรื่องทำไปแบบไม่เครียด มีความสุขลูกก็สนุกไปด้วยคะ รร ของน้องก็สอนอังกฤษน้อยมากก โดนภาษาไทยกลืนก็ไม่เครียดคะ เพราะคิดว่ายังไงก็คงใช้สองภาษได้ดีเท่ากันไม่ได้อยู่แล้ว. ขอยกตัวอย่างหลานพูดได้หลายภาษาเหมือนกันคะ อยู่มาเลเซีย แต่ที่คล่องปากสุดจะเป็นจีนคะ อังกฤษพูดได้ดีรองมา คือต้องมีภาษาใดภาษาหนึ่งเด่นชัดออกมาคะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ
ครอบครัวคุณเก๋เป็นแบบอย่างที่ดีมากๆคะ อ่านจากประสบการณ์แล้วขออนุญาตนำไปใช้บ้างนะคะ ^^

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service