เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ยืนยันคะ...ว่าทุกคนทำได้

สวัสดีคะ กิ้มห่างหายไปจากการเขียนบล็อคนานมาก …

.....เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปร่วมงานพบปะเพื่อนๆครอบครัว2สองภาษาหลายๆครอบครัว ทำให้อยากเขียนเล่าเรื่องราวความรู้สึก และ คำถามที่มักจะถูกถามถึงเสมอ แต่เนื่องด้วยเวลาจำกัด และความตื่นเต้นบนเวที ทำให้ตอบได้ไม่หมดเท่าที่เราอยากจะตอบ ขอใช้บล็อคนี้เป็นการบอกเล่าเลยนะคะ

...เริ่มแรกจากคำถามตามสคริปที่ทีมงานเตรียมถามเลยนะคะ (แต่พออัดจริง ไม่ตามสคริปเลย ฮ่าๆ)
 -ตอนนั้นเริ่มฝึกลูกคิดอะไรบ้าง?
>>ตอนแรกไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้ เพราะตอนที่ทราบเรื่องราวของเด็กสองภาษาผ่านการบอกเล่าของเพื่อนทางโทรศัพท์ ยังพูดไปกับเพื่อนเลยว่า " ฉันเนี่ยน๊ะจะสอนภาษาอังกฤษลูก ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย" แต่เพื่อนก็บอกว่า ให้กลับไปดูรายการชีพจรโลกย้อนหลังแล้วจะเข้าใจ

หลังจากนั้นกิ้มเข้าไปดูรายการย้อนหลัง, ซื้อหนังสือ เด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ เล่ม1มาอ่าน, และเข้าเวป 2pasa.com ถึงได้พอเห็นภาพแนวคิด และคิดว่าควรจะเริ่มลองทำดู โดยเริ่มเริ่มจากประโยคในหนังสือ

-คุณกิ้มเป็นคุณแม่ท่านหนึ่งที่เมื่อก่อนกลัวฝรั่ง ปฏิกิริยาตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?
>>เจอฝรั่งแล้วไม่กล้าสบตา กลัวว่าเค้าจะถามอะไร เลี่ยงได้ก็เลี่ยง, อย่างเวลาอยู่ในชั้นเรียนภาษาอังกฤษ แค่ยกมือเกาศรีษะยังไม่กล้าเลย กลัวครูถาม555

-พบปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง?
>> ปัญหาแรก  เราไม่เข้าใจแนวคิดดีพอ ทำให้กดดันตัวเอง เครียด อยากจะพูดภาษาอังกฤษให้ได้100%เหมือนตอนพูดภาษาไทย ทำไมเราจำไม่ได้สักที ศัพท์คำนี้ก็เคยรู้แล้วนี่นา พูดติดๆขัดๆตลอดเวลา จนหงุดหงิดตัวเองและรู้สึกเหนื่อยมาก โดยลืมคิดว่าพื้นฐานภาษาอังกฤษตัวเองก็ไม่ได้ดี  แต่ใจร้อนจะเร่งการพูดได้ดั่งใจในเวลาอันรวดเร็ว....ลืมไปว่า ภาษาต้องอาศัยเวลาในการสะสมความถี่ไปเรื่อยๆ

     แต่ต่อให้คนที่ภาษาอังกฤษดีก็เถอะค่ะ ถ้าเราพูดประโยคยาวๆ คล่องปรื๋อ เร็วป๊าด  อาจจะฟังดูเพราะ สำเนียงดีค่ะ แต่ลูกก็คงยังฟังไม่ทันหรอกค่ะ ในช่วงเริ่มแรก  และไม่มีเวลาพอที่จะเลียนแบบ  เพราะแต่ละคำผ่านไปเร็วเหลือเกิน.....คือ  ถ้าเรามาคิดย้อนเหมือนภาาไทย เรายังเน้นพูดทีละคำ  ช้าๆ  ชัดๆอยู่นานเป็นปีๆ 

>>  ปัญหาที่สอง คือ ความอาย เคอะเขิน ที่จะพูด...ด้วยความที่ภาษาเราก็ไม่ดี  ทำให้ไม่มีความมั่นใจในการพูด  โดยเฉพาะเวลาต่อหน้าคนอื่นและในที่สาธารณะ....แต่พอเราทำไปสักระยะ  เราจะชิน และด้วยความที่ตั้งใจที่จะพูดกับลูกโดยไม่สนใจคนอื่น และหาความมั่นใจด้วยการทำการบ้าน เตรียมความพร้อม เตรียมประโยค คำศัพท์ที่เราคิดว่าเราจะพูดกับลูก  สะสมไปเรื่อยๆ และ บางทีกิ้มก็จะคิดว่าเราคุยกับลูก 2 คน (คนอื่นไม่เกี่ยว  อยากฟังก็ฟังไป ฉันจะสำเนียงดีไม่มีก็เรื่องของฉัน อิอิ)

 

-ในที่สุด  คิดว่าอะไรที่ทำให้เราทำได้สำเร็จ?

>>ความมุ่งมั่น ตั้งใจจริง พยายามทำอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยพื้นฐานความรักที่พ่อแม่ทุกคนมีอยู่แล้ว มาเป็นแรงผลักดันให้เราไม่ยอมแพ้... จากวันแรกที่เราคิดว่า "เราคงทำไม่ได้"  เพราะภาษาอังกฤษเราไม่ดี  แต่เราต้องคิดใหม่ว่า " เราต้องทำให้ได้...เราต้องทำได้"  ....โดยไม่ใช้เวลามาตัดสินว่าทำได้ หรือ ไม่ได้.....ไม่ได้อยู่ที่เวลา หรือ ใครใช้เวลาเท่าไร่ แต่ละคน แต่ละครอบครัว ก็มีจุดสมดุลแตกต่างกันไป  หาความสมดุล  ทำไปแบบมีความสนุก ไม่เครียด ...แล้ววันหนึ่งเราจะค้นพบความสุข  ภาคภูมิใจแบบที่เงินหาซื้อไม่ได้

....ทุกวันนี้ก็ยังไม่เก่ง พูดติดๆขัดๆตลอด  แต่อย่างน้อย เรากล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษแบบไม่เคอะเขิน

ที่สำคัญ ขอย้ำ  ว่าต้องเริ่มทำ  ไม่ใช่ปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ด้วยข้ออ้างที่ว่า  ไม่เก่งอังกฤษ ภาษาอังกฤษอ่อน....เพราะกิ้มเอง  เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคนที่ไม่เก่งอับงกฤษ(เรียนพื้นฐานภาษาอังกฤษมาตามระบบ  จบแบบอ่านเขียน ท่องจำ เดาข้อสอบเอาตัวรอด   แต่ไม่สามารถพูดสื่อสารได้  จะพูดประโยคง่ายๆ ยังนึกไม่ออก ....คิดว่ามีอีกหลายคนที่ไม่ต่างจากนี้)   แต่ด้วยความพยายามทำอย่างต่อเนื่อง  วันละนิดวันละหน่อย  สะสมความถี่ไปเรื่อยๆ  จนสามารถพูดได้คล่องปากในพื้นที่ปลอดภัยของเรา

...ระยะหลัง  พอคนเห็นเราพูดกับลูก มักจะพูดว่า ภาษาอังกฤษาคุณแม่ดี เลยทำได้...แล้วก็บ่นพึมพำว่าตัวเองไม่เก่งอังกฤษ...หึหึ( หาข้ออ้างให้ตัวเอง ที่จะไม่ทำมากกว่า ฮ่าๆๆ)....ก่อนอื่นกิ้มรู้สึกขอบคุณเค๊านะคะที่ชื่นชม และมองภายนอกว่าเราเก่ง(แต่จริงๆ เรามีพื้นที่ปลอดภัยของเราอยู่ อิอิ)   และหารู้ไม่ว่า   เส้นทางที่เราเดินทางมา  มันมีต้นทุน คือ เราใช้ความพยายามความมุ่งมั่นไปเท่าไหร่  เราไม่ได้เก่ง หรือพูดได้แบบนี้ ตั้งแต่เริ่มต้น  มาดูตอนเราเริ่มต้นสิ....เราเริ่มทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่รู้จักแค่แนวคิด แล้วบอกว่า  เออนีเนอะ ทำได้ก็กดี แล้วก็เดินจากไป.... แต่เราคิดที่จะเริ่มทำ และฝึกฝนเรื่อยมาต่างหาก

"ขอให้เสียเวลาในการทำความเข้าใจแนวคิดให้ลึกพอ แล้วค่อยๆเริ่มไปทีละก้าวนะคะ  เชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอนคะ ขอยืนยัน"

ขอขอบคุณพื้นที่ตรงนี้ www.2pasa.com ที่เปิดโอกาสให้พวกเราที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ได้เแลกเปลี่ยนทัศนะ เล่าเรื่อง แชร์ประสบการณ์ ช่วยเหลือแบ่งปันกัน รวมถึงให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ขอบคุณมากที่สุด ... สำหรับคุณบิ๊ก ผู้บุกเบิกแนวคิดที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันให้ผู้อื่นได้เดินตาม

ขอบคุณมากเป็นพิเศษ...สำหรับพี่ตุ๊กตา  กองหลังกองหนุนที่มากพลัง เป็นแรงสำคัญให้น้องๆและสมาชิกได้มีโอกาสรู้จักกัน และคอยให้กำลังใจด้วยดีเสมอมา

ขอบคุณน้องเพ่ยเพ่ย...Idol ของเหล่าเด็กๆ ที่ต่างก็อยากเก่งเหมือนพี่เพ่ย อยากให้พี่พ่ยเล่นด้วยคุยด้วยทั้งนั้น

ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้ที่ร่วมเส้นทางที่มีมิตรภาพล้นเหลือ ช่วยกันสร้างสังคมคุณภาพ เด็กๆที่มีคุณภาพ

 

ขอบคุณมากค่ะ // แม่กิ้ม พ่อเป้ พี่ยาโย น้องจาจ้า ^^

 

คลิปยาโย ตอน 3.10 ปี อ่านหนังสือให้น้องฟังค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=_vVIDyflNaw&list=UUAsUZWJyQ1JkKB...

 

คลิปยาโย ตอน 4.3 ปี พูดคุยตอนวาดรูปค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=r2pGlwXVNWA

 

คลิปยาโย ตอน 4.4 ปี  พูดคุย ร้องเพลงแบบแต่งเอง

http://www.youtube.com/watch?v=r2pGlwXVNWA

 

 

Views: 2776

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by พี่ฟ้าใส น้องไออุ่น on June 26, 2012 at 7:14pm

พี่กิ้มเยี่ยมมากเลยค่ะ

Comment by nuntaka chantorn on June 26, 2012 at 1:59pm
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ ให้กันและกันนะคะ
Comment by นายนพดล ชาวสวนแก้ว on June 26, 2012 at 11:27am

ได้อ่านแล้ว ทำให้มีกำลังใจขึ้นมากเลย ถ้าเราไม่มีเพื่อนๆที่ค่อยช่วยเหลือกัน ในแนวความคิดเดียวกันแล้วเราคงไม่มีสิ่งนี้เกิดขึ้นมา กับคำพูด และบทความต่างๆที่เป็นแรงเสริมในการ ทำต่อไปสู้ต่อไปครับ ขอบคุณ ตอนนี้น้องตันกล้าเริ่มฟังคำสั่ง สั้นๆที่ให้ไปทำได้บางแล้ว เช่น เอาไปทิ้งถังขยะ เก็บขึ้นมา เอาไปเก็บ เอาแป้งมาให้พ่อ และน้องก็กำลัง พยายามออกเสียงแล้วครับ วันหนึ่งน้องดูคายุ ตอนเพลงไตล์เตลิน จบ คายุ พูดว่า that me น้องก็พูดตามทันที that me  ทำเอาพ่อกับแม่ที่นั้งดูอยู่ด้วย งงครับ ไม่รู้ เสียงใครของคายุ หรือของลูกชาย แทบแยกไม่ออก เพราะเสียงเด็กคล้ายๆๆกัน 

Comment by คุณแม่น้องอิ่ม & เอม on June 26, 2012 at 9:44am

สำหรับเหมี่ยว มองว่าการถ่ายทอดประสบการณ์ให้ผู้อื่นได้อ่าน ได้เรียนรู้ หรือได้ปฏิบัติตามนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งค่ะ
เสียดายที่วันนั้น เหมี่ยวมีโอกาสได้คุยกับคุณกิ้มแป๊ปเดียว อยากคุยกันมากกว่านี้ แต่ก็รู้สึกดี และอบอุ่นมากค่ะ

Comment by mom_jenita on June 25, 2012 at 9:15pm

พี่กิ้ม หนูยาโย ทำได้จริงๆด้วยค่ะ อีกหน่อยจาจ้าคงตามมาติดๆนะคะ

Comment by แม่เพ่ยขอแจม on June 25, 2012 at 8:04pm
ตามมาขอบคุณตรงนี้อีกครั้งค่ะสำหรับครอบครัวนพเกตุและครอบครัวตั้งธนวัฒน์ที่ร่วมเดินทางไปบนเส้นทางเดียวกันและค่อยแบ่งปันเรื่องราวดีๆให้แก่กันและกันเสมอมาค่ะ
Comment by แม่ข้าวหอม on June 25, 2012 at 4:27pm

ขอบคุณอีกหนึ่งประสบการณ์ ที่อ่านแล้วมีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป ......... หลายครั้งที่หยุดไปเพราะเอาเวลามากดดันตัวเอง

"นี้ 5 เดือนแล้วนะ , นี้ 8 เดือนแล้วนะทำไมยังไม่ดีขึ้น" แล้วก็หาข้ออ้างให้กับตัวเองจริงๆค่ะ "ก็เราไม่เก่ง"แล้วหยุดไปหึๆ 

สู้ๆนะค่ะ 

Comment by MamaNoi&Porjai on June 22, 2012 at 2:17pm
มาช่วยยืนยันค่ะว่าเราทำได้ ^^
และขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวคุณแม่กิ้ม หนูยาโยและจาจ้าน้อย
นะคะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service