หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ขอสอบถามสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากสอนภาษาญี่ปุ่นลูก แต่ตัวเองไม่เก่งภาษาญี่ปุ่น

กระทู้นี้อยากถามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ที่อยากสอนภาษาญี่ปุ่นลูก แต่ตัวเองไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นน่ะค่ะ ว่าอยากจะได้สื่อการเรียนอะไร รูปแบบไหน

คือว่า วิเองเรียนจบญี่ปุ่นด้านการสอนภาษาญี่ปุ่นมา เคยสอนที่ สสท. ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นก็ทำงานประจำ ไม่ได้ใช้ความรู้การสอนภาษาญี่ปุ่นที่เรียนมาเท่าไหร่

สิ้นปีนี้ ได้ฤกษ์จะลาออกจากบริษัทมาเลี้ยงลูกน่ะค่ะ เลยอยากที่จะทำงานด้านการสอนภาษาญี่ปุ่นที่ชอบด้วย เลยอยากถามทุกท่านว่า อยากให้วิช่วยซัพพอร์ทในด้านไหน รูปแบบไหน ถึงน่าจะสามารถช่วยให้ทุกคนไปสอนภาษาญี่ปุ่นลูกได้น่ะค่ะ

เช่น

อยากได้บทสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ ในบ้าน, คำศัพท์ของใช้ในบ้าน

อยากได้เป็นหนังสือ / วีดีโอ

อยากให้มีคลาสสอนพ่อแม่

อยากให้มี play group

อยากให้อธิบายวิธีใช้ชิมาจิโร่แต่ละฉบับ

อยากได้นิทานภาพภาษาญี่ปุ่น พร้อมคำแปลและอธิบาย ... ฯลฯ

จากประสบการณ์ตัวเองที่สอนลูก

- ตำราเรียนภาษาญี่ปุ่นในปัจจุบัน เน้นสำหรับผู้ใหญ่ ฉะนั้น สถานการณ์, คำศัพท์ จะเป็นเรื่องการเรียน, การทำงาน เป็นส่วนใหญ่ ไม่มีภาษาญี่ปุ่นสำหรับเด็กโดยตรง

- เด็กบางคนที่มีนิสัยขี้อาย จะเรียนรู้ได้ดีกว่าจากพ่อแม่ มากกว่าให้เด็กไปเข้าคลาสเรียนภาษา แม้ว่าจะเป็นคลาสที่เน้นกิจกรรม เล่น ร้องเพลง ก็ตาม

อยากฟังความคิดเห็นของทุกคนค่ะ

Replies to This Discussion

Permalink Reply by Perayaporn on October 11, 2011 at 4:51pm

สวัสดีค่ะ

เป็นคนหนึ่งที่ชอบภาษาญี่ปุ่นมาแต่ไหนแต่ไร เคยเรียนมาบ้างในมหาวิทยาลัย ซึ่งนานมาแล้ว และไม่เคยได้ใช้เลยในการทำงาน ปัจจุบันความรู้ที่มีนั้นก็ริบหรี่เต็มทีแล้วค่ะ สนใจที่จะสอนภาษาญี่ปุ่นให้ลูก แต่ยังไม่ได้เริ่มสักที เห็นด้วยกับคุณวิค่ะว่า ตำราเรียนที่มีอยู่นั้น ส่วนมากจะเน้นสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งก็ต้องอ่านๆ ท่องๆ แล้วก็ย๊าก ยาก ยาก.... จริงๆ

โดยส่วนตัวอยากได้จำพวกคำศัพท์ กับบทสนทนาต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เอาแบบที่คนญี่ปุ่นพูดน่ะค่ะ ถ้ามีสำเนียงประกอบด้วยยิ่งดี อิอิ เพราะกลัวออกเสียงเพี้ยน แล้วก็ ถ้ามีกิจกรรมจำพวก play group สำหรับเด็กๆ ด้วยก็น่าจะดีนะคะ ตอนนี้เห็นมีแต่ภาษาอังกฤษ บางที่เริ่มมีภาษาจีนมาแล้ว แต่ภาษาญี่ปุ่นยังไม่เคยเห็นเลยค่ะ

Permalink Reply by ma ma on October 11, 2011 at 7:57pm

วิจะลาออกเหรอ เหมือนพี่เลยอ่ะ ลาออกมาสองปีกว่าเเล้วล่ะจร้า วิ ว่างเเต่งหนังสือไหมเกี่ยวกับการพูดกับลูกซิ พี่ซื้อเเน่นอนจร้า รวบรวมเป็นพอกเก็ตบุ๊คก็ดีน่ะ ให้เพื่อนคนญี่ปุ่นช่วยตรวจอีกทีก็ดีจร้า ช่วยเเ่ม่เเม่ได้เยอะเลยล่ะ ทีเเรกพี่ก็ว่าจะรวบรวมเป็นหมวดหมู่น่ะ จะได้เปิดดูได้บ่อยๆ

Permalink Reply by แม่น้องยุกิ on October 12, 2011 at 5:15pm

ใช่แล้วค่ะ พี่น้ำ เพราะอยากให้นมแม่นานๆ เหมือนคนแรกด้วย แล้วก็คาดว่าดูเด็ก 2 คนคงยุ่งวุ่นวายน่าดูเลย

เรื่องหนังสือ ก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะ อยากทำ แต่ยังไม่แน่ใจว่า จะมีเวลาทำเมื่อไหร่น่ะค่ะ เลยคิดว่าจะทำเป็นไฟล์, ซีดี เป็นเรื่องๆ ไปก่อน แล้วค่อยมารวบรวมเป็นเล่มทีหลัง

Permalink Reply by แม่ปูกะน้องอิคคิว on October 11, 2011 at 10:14pm

ดีจังเลยค่ะ ไงก้รบกวนด้วยนะคร้า ปูยังอยากได้ชิมาจิโร่อยู่แต่กับน้าที่อยู่ที่ญี่ปุ่นแกไม่ค่อยว่างติดต่อมาค่ะ อยากให้พี่วิเป็นตัวกลางในการนำส์่อตัวนี้เข้ามาใช้ประกอบการสอนอะค่ะ

Permalink Reply by Alice on December 28, 2011 at 4:00pm

อยากเริ่มให้ลูกค่ะ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะใช้สื่อของชิมาจิโร่ดีไหมค่ะ ไม่รู้ว่าถ้าไม่เคยเริ่มเลย แล้วพอสมัครคอร์ส จะไปใช้คอร์สของเด็กวัยเขาเลย ลูกจะงงไหม อยากขอคำแนะนำมากๆเลยค่ะ

Permalink Reply by zen's mommie on October 11, 2011 at 10:45pm

ว้าวๆ ขอมาสมัครเรียนด้วยค่ะ เคยเรียนที่สสท.มานานมากแล้วค่ะ อยากเริ่มต้นสอนลูกเหมือนกันค่ะ ไปปัดๆค้นหนังสือดูมันเป็นบทสนทนาแแบผู้ใหญ่อ่ะค่ะ อย่างวิธีที่คุณแม่น้องยูกิเสนอน่าสนใจทุกวิธีเลยค่ะ อยากได้ชิมาจิโร่เหมือนกันค่ะ แต่ไม่รู้จะซื้อยังงัยอ่ะค่ะ

Permalink Reply by ma ma on October 12, 2011 at 6:43am

คุณเเม่ ตามดูในเวปพันทาวน์มือสองก็ได้ค่ะ ลองค้นคำว่าเสือน้อย น่าจะมีหลายกระทู้ หลายเวปทีเดียวค่ะ

Permalink Reply by zen's mommie on October 12, 2011 at 8:07am

ขอบคุณค่ะ

Permalink Reply by แม่น้องยุกิ on October 12, 2011 at 1:24pm

ขอบคุณค่ะ สำหรับความคิดเห็นของหลายๆ ท่าน

1. หนังสือรวบรวมคำศัพท์และบทสนทนาที่ใช้กับลูก

อยากทำอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ไม่รู้ว่าจะทำได้เสร็จไวว่องขนาดไหน เลยคิดถึงการทำเป็นไฟล์เป็นหมวดๆ เรื่องๆ ทยอยไปก่อน ถ้าครบถ้วนแล้วค่อยเอาไปพิมพ์เป็นหนังสือน่าจะดีกว่ามั้ยคะ

2. ชิมาจิโร่

เท่าที่ใช้เอง คิดว่าเป็นสื่อที่ดีมากๆ เลย ที่ดีมากเพราะไม่ได้เป็นสื่อเพื่อสอนภาษา ฉะนั้น ภาษาจะเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่มีแบบประเภทท่องกันแทบตาย แต่พอพูดกับคนญี่ปุ่น แล้วเค้าหัวเราะอะไรอย่างเงี้ยอ่ะค่ะ

ประเด็นที่หลายๆ คนประสบปัญหา น่าจะเป็นเรื่องของการสมัครที่เป็นญี่ปุ่นล้วนๆ และเวลาได้หนังสือ, ดีวีดี, ของเล่นมาแล้ว ไม่รู้ว่าจะใช้ยังไง

วิเคยคิดว่า จะทำเป็นคู่มือการใช้ขึ้นมา อาจเป็นไฟล์วีดีโอ เพื่ออธิบายเนื้อหาในหนังสือแต่ละส่วน ของเล่น และดีวีดี ว่าใช้ยังไง ประมาณนี้น่ะค่ะ ทุกคนคิดว่ายังไงคะ แต่ยังไม่รู้ว่าวิจะได้เห็นสื่อเหล่านั้นของทุกคนยังไงเลยค่ะ แหะแหะ

3. play group

จริงๆ เราเคยจัดกันนะคะ แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสมาชิกน้อย แต่ละคนสะดวกไม่ตรงกัน ทุกคนต้องทั้งดูแลลูกตัวเอง ทั้งทำกิจกรรม ทั้งคอยจดคำศัพท์-รูปประโยคใหม่ๆ ด้วย เลยไม่ค่อยไหวกันน่ะคะ ถ้าจะจัดอีกจริงๆ น่าจะมีคนนำกิจกรรมที่ไม่ใช่คุณแม่ๆ ทั้งหลายที่จะร่วมกิจกรรมน่ะค่ะ เช่น ถ้าครั้งไหน วิเป็นคนนำกิจกรรม วิก็ไม่พาลูกไป อย่างนี้น่าจะเวิร์กกว่ามั้ยคะ

4. คอร์สเรียนสำหรับพ่อแม่

มันยากตรงที่ ส่วนมากคุณพ่อคุณแม่แค่ทำงาน เลี้ยงลูก 24 ชั่วโมงก็ยังแทบไม่พอแล้ว จะหาเวลามาเจอกันยากค่ะ ยิ่งถ้าเป็นคุณแม่น้องยังเล็ก ก็ยิ่งยาก เวลาคุณพ่อคุณแม่เรียน แล้วใครจะดูลูก วันก่อนมีไอเดียนึงคือ Play Station ซึ่งเป็นเหมือนสโมสรเด็ก ให้เด็ก 1-7 ขวบเล่น ถ้าเราไปติดต่อขอใช้สถานที่ส่วนหนึ่งของเขา โดยให้เด็กๆ เล่นตามใจชอบ แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็มาเรียน จะเวิร์กมั้ยคะ

ใครมีความคิดเห็นหรือไอเดียอื่นๆ อีก รบกวนด้วยนะคะ

Permalink Reply by zen's mommie on October 12, 2011 at 10:47pm

มาตอบคำถามค่ะ

ข้อ 1 คุณวิน่าจะยุ่งกับชีวิตประจำวันเหมือนกัน ดังนั้น ค่อยๆทะยอยทำก็ได้แค่คิดจะทำก็ใจดีมากๆๆแล้วค่ะ

ข้อ 2 ถ้ามีคู่มือก็จะดีมากเลยค่ะ แต่จะส่งข้อมูลกันยังงัยดีคะ ส่วนตัวยังหาช่องทางซื้อไม่ได้เลยค่ะ เเงๆ

ข้อ 3 play group กว่าจะรวมตัวในวันว่างที่ตรงกันได้ค่อนข้างยาก เวลาไปเจอกันก็ต้องคอยจับปูใส่กระด้งอีก มันเลยดูยากนิดนึงค่ะ

ข้อ 4 อย่างที่คุณวิเสนอก็ดีเลยค่ะ พาผู้ช่วยไว้คอยดูแลลูก ส่วนพ่อแม่ก็มานั้งเรียนได้

Permalink Reply by Perayaporn on October 12, 2011 at 11:02pm

คุณนุ้ย จะบอกว่านิตยสารเสือน้อย กับ DVD มือสองค่อนข้างจะซื้อได้ยากน่ะค่ะ ลงขายกันแป็บเดียวก็หมดแล้ว ต้องดวงดีจริงๆ เราก็ไม่ค่อยจะทันแม่ๆ คนอื่นเหมือนกัน แหะ แหะ

Permalink Reply by ma ma on October 13, 2011 at 7:00am

ข้อเสียของดีวีดีมือสองก็คือ บางครั้งเราซื้อมาคนละปี เเต่เนื้อหาข้างในซ้ำกัน 30%-40% ก็มีค่ะ ดีวีดีหนึ่งเเผ่นความยาวเเค่ 20 นาทีเอง ค่ะ ยอมรับว่าหายากค่ะ เเต่น่าจะลงขาย ประมาณหนึ่งถึงสองเดือน หนึ่งครั้งน่ะค่ะ