เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
หากย้อนเวลาไปเมื่อสัก 5 ปีที่แล้ว ตอนเริ่มสวมบทบาทแม่มือใหม่..หนังสือนิตยสารเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกจะกองอยู่รอบตัวเต็มไปหมด อ่านๆๆๆๆ ถึงแม้ว่าจะเชื่อมั่ง ไม่เชื่อมั่งแต่ก็อ่านๆๆ
จนมาสะดุดเข้ากับเรื่องราว ประสบการณ์ที่คุณแม่ท่านหนึ่งได้แบ่งปันให้ เป็นเรืองที่ดูเหมือนไม่น่าจะมีพิษภัย..แต่ความเป็นจริงนั่นคือ..บทเรียนที่ต้องถูกบันทึกไว้ในห้วงของความจำที่ยาวนานเลยทีเดียว
ลูกตัวน้อยๆวัยไม่กี่เดือน โดยธรรมชาติของเด็กเล็กๆที่ชอบเอามือข่วนหน้าตัวเอง ไม่ก็เอามือน้อยๆเข้าปากตัวเอง หรืออาจเพราะอากาศเย็น แม่ๆอย่างเราๆเลยมักหาถุงมือถุงเท้าคู่น้อยๆใส่เอาไว้ให้
คุณแม่เจ้าของเรื่องก็เช่นกัน เธอใส่ถุงมือถุงเท้าให้เจ้าตัวน้อยก่อนนอนตามปกติที่ทำทุกวัน เช้าวันต่อมาคุณแม่ท่านนั้นก็จะเตรียมตัวอาบน้ำให้ลูก แต่เมื่อถอดถุงมือออก..ภาพที่เห็นสร้างความตื่นตกใจไม่น้อย นิ้วมือของลูกเขียวคล้ำจนดำ เธอยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบพาลูกไปหาหมอ หมอบอกว่านิ้วเด็กขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงเป็นเวลานาน นิ้วอาจจะตายและอาจจะต้องตัดออก...หมอขอรอดูอาการ....ระหว่างการรอคำตอบจากเทพเจ้าองค์ไหนก็ไม่รู้ เชื่อว่าใจแม่ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น..คงไม่มีความสุข
โชคดียังเป็นของหนูน้อย...เลือดค่อยๆเดินทางตามเส้นสายเล็กๆไปสู่ปลายนิ้ว..นิ้วดำคล้ำค่อยๆกระดุกกระดิกได้อีกครั้ง.. ลูกไม่พิการ ใจแม่ไม่สลาย แต่ก็เป็นบทเรียนที่ไม่ลืม
ทั้งหมดนี้ เนื่องมาจากถุงมือที่แม่ใส่ให้ ด้านในมันมีเศษด้ายเศษไหมขดๆหลุดหลุ่ยอยู่ ไม่ได้ถูกตัดเก็บให้เรียบร้อย จึงเกิดเป็นบ่วงและรัดนิ้วของหนูน้อยเอาไว้ทั้งคืน จนเลือดไม่สามารถผ่านไปเลี้ยงนิ้วน้อยๆได้
เฮ้อ...ทันทีที่อ่านจบ...ยัยแม่คนนี้ก็ตรวจ..ตรวจ..ตรวจ..ตรวจ..ตรวจ....ถุงมือถุงเท้าของลูกก่อนใส่ทุกครั้งว่าเรียบร้อยหรือไม่
วันที่สอง..ยังคงตรวจ..ตรวจ..ตรวจ
วันที่สาม..ยังคงตรวจ..ตรวจ..
วันที่สี่ก็ยัง..ตรวจ.....
วันที่ห้า...หก...เจ็ด.....ล่วงเลยไปเป็นปี.....ไม่ได้ตรวจแล้ว
กลางดึกคืนหนึ่งเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา...โอยย...เจ็บนิ้วก้อยเท้าอย่างมากมาย แต่ด้วยความอยากนอน..เอาน่า เจ็บก็ทนเอาพรุ่งนี้ค่อยดู...ไปเหยียบอะไรมาหว่า
จนเช้าเจ็บแบบสุดจะทน ถอดถุงเท้าออกมา..โห..ยัยก้อยทำไมเปล่งขนาดนี้เนี่ย ไปทำอะไรมา แล้วการเผชิญหน้ากันระหว่างฝ่าเท้ากับใบหน้าก็เกิดขึ้น ตายแล้ว คุณพระช่วย !!! นี่อิฉันถูกฆาตกรรมหรือนี่ ยัยก้อยถูกรัดคอซะเปล่ง รอยเชือกยังเห็นชัดเจน ไม่นะ..เราต้องรักษากฎข้อที่สองของผู้หญิงเอาไว้ฮ่ะพี่น้อง...ข้อหนึ่งอย่าไปสนใจมัน เอาข้อสองพอ.."ตายยาก"เชือดรัดน้องก้อยแค่นี้ เรายังตายไม่ได้ ต้องหามือทำก่อน
มองไปที่คนข้างๆ ยังหลับสนิท..เฮ้ย คงไม่ใช่เนอะ มองไปที่ประตูก็ยังล็อค คนในก็ไม่ใช่ คนนอกก็ไม่มี ความทรงจำหมุนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เลยจับถุงเท้ามากลับด้านดู..โอว..เศษด้ายเป็นบ่วงที่กลางถุงเท้า แต่พี่ลากมันยาวเกี่ยวไปถึงนิ้วก้อย...ตลอดทั้งคืน...เจ็บมากน้องเอ้ย
มาตรการการตรวจถุงเท้าลูกจึงเริ่มต้นอีกครั้ง จากความชะล่าใจของแม่ที่ทิ้งไปนานกว่า 5 ปี
ตรวจ....ตรวจ....ตรวจ....ตรวจ....
ตรวจ....ตรวจ....ตรวจ....
ตรวจ....ตรวจ....
ตรวจ....
.....
......
เข้าสู่รอยเดิม....ด้วยความชะล่าใจ
คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากเข้านอนไม่ถึงสิบห้านาที
เพ่ยเพ่ย : หม่าม้า เจ็บขา
ยัยแม่ : อืมมมม....โดนอารายมาลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ทายาให้นา ครอกกกกกก...ฟี้...
เพ่ยเพ่ย : หม่าม้า เจ็บที่นิ้วโป้ง มากๆเลย
ยัยแม่ : อืมมมม...เอื้อมมือไปดึงถุงเท้าเพ่ยเพ่ยออก...เอามือจับๆดู "เฮ้ย" นี่มันนิ้วโป้งเท้าลูกหรือสมองแม่มันเนี่ย ใหญ่พอกันเลย แล้วก็เหมือนเดิมค่ะ มีรอยถูกเชือกรัด
แค่ไม่ถึงชั่วโมงที่เพ่ยเพ่ยใส่ถุงเท้านอน เชือดที่รัดก็สามารถทำให้นิ้วบวมเปล่งและเกิดความเจ็บปวดขึ้นมา
เพ่ยเพ่ยโตแล้ว...พูดได้..ช่างพูด จึงสามารถบอกความรู้สึกนั้นออกมาได้
แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ที่ยังพูดไม่ได้ บอกความรู้สึกไม่ได้ จะต้องผ่านไปกี่ชั่วโมง...ถึงจะมีคนมาเห็น แล้วเมื่อเห็นแล้ว..น้องเขาจะโชคดีแบบน้องต้นเรื่องที่พูดถึงไปหรือเปล่า
ถุงมือถุงเท้าที่มีลายทอน่ารักๆ ด้านในมักจะมีเศษด้าย เศษไหมขยุกขยิกอยู่...ตัดออกให้เรียบร้อยก่อนใช้งานดีไม๊คะ
หรือซื้อแบบที่ไม่มีการทอลาย แล้วก็ตัดเศษที่ภายในยังเหลืออยู่ซึ่งจะไม่เยอะเท่าแบบมีลายมาใช้แทนดีกว่า หากจำเป็นต้องใช้
อย่าชะล่าใจแบบพี่เนอะ เฮ้อ
Tags:
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by