เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

เก่ง ดี มีสุข อะไรควรมาก่อนกันนะนี่.

กำลัง สงสัยว่า 3สิ่งนี้ถ้าเรียงตามลำดับความสำคัญแล้วอะไรน่าจะมาก่อนกัน เพราะกำลังจะเลือกมาใช้กับลูกๆครับ
a. 1.เป็นคนเก่ง   2.คนดี         3.มีความสุข
b. 1.เป็นคนเก่ง   2.มีความสุข  3.เป็นคนดี
c .1.เป็นคนดี     2.มีความสุข   3.เป็นคนเก่ง
d. 1.เป็นคนดี     2.เป็นคนเก่ง  3.มีความสุข
e. 1.มีความสุข   2.เป็นคนเก่ง  3.เป็นคนดี
f.  1.มีความสุข   2.เป็นคนดี     3.เป็นคนเก่ง
ถ้าต้องเป็นคนออกข้อสอบและมีข้อถูกต้องเพียงข้อเดียวผมก็คงงงงงนะครับว่าข้อไหนน่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ถึงแม้คำถามเป็นแบบมีสักษณะเฉพาะของแต่ละครอบครัวที่ไม่มีข้อผิดหรือข้อถูก หรืออาจจะถูกทุกข้อ แต่เวลาใช้จริงก็ต้องเลือกมาหนึ่งข้ออยู่ดี...Hmmm..เลือกข้อไหนดี

Views: 1561

Reply to This

Replies to This Discussion

อ่านบทความนี้ของคุณแพทแล้วน่าทึ่ง เพราะสิ่งที่คุณแพทเขียนไม่เคยมีใครตั้งข้อสังเกตมาก่อน ความจริงคำว่า เก่ง ดี มีสุข นี่เป็นความฝันของคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ มีการจัดทำเอกสารต้นแบบกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย แต่พึ่งได้ยินคุณแพทแยกเป็น2ประเด็น เป็นครั้งแรกที่ได้ยินประโยคอย่างนี้ "อย่างที่แพทบอกไปก่อนหน้านี่นะค่ะ ว่าถ้าสำหรับวิธีสอนลูกแพทเลือกข้อ F 1.มีความสุข 2.เป็นคนดี 3.เป็นคนเก่ง แต่ถ้าลำดับความสำคัญที่น่าจะมีของคนแล้ว แพทเลือกข้อ C นะค่ะ .1.เป็นคนดี 2.มีความสุข 3.เป็นคนเก่ง " เหมือนการจัดการที่เป็นเงาทับซ้อนกันอยู่ ผมถึงว่า หลายๆครั้งแม้กระทั่งครูตามโรงเรียนยังงงเลยว่าจะตัดสินใจเอาอะไรก่อนหลังดี ฟังดูเหมือนง่ายถ้าตอบว่าต้องดูเหตุการณ์ก่อนว่าจะเลือกอะไรก่อนหลัง แต่ขอตั้งข้อสังเกตจากสิ่งที่คุณแพทให้ความคิดเห็นมานะครับ เลือกข้อ F.1.มีความสุข 2.เป็นคนดี 3.เป็นคนเก่ง มีลักษณะเ่ด่นที่การเริ่มต้นเป็นไปเพื่อครอบครัวก่อน เลือกข้อ C 1.เป็นคนดี 2.มีความสุข 3.เป็นคนเก่ง มีลักษณะเด่นที่การเริ่มต้นเป็นไปเพื่อสังคมก่อน สองอย่างนี้ถ้าถึงเวลาที่ต้องเลือกอย่างจริงๆจังๆผมเองยังไม่รู้ว่าจะเลือกข้อไหนเลย อย่างที่บอกนะครับเป็นเงาที่ทับซ้อนกันอยู่ งานนี้ยอมคุณแพทจริงๆ
C ค่ะ

เป็นคนเก่ง ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นคนดีและมีความสุขค่ะ เห็นตัวอย่างจากคนรอบข้างที่เป็นคนเก่งมาเยอะ ไม่ว่าจะเรียนเก่ง ทำงานเก่ง หาเงินเก่ง
แต่ถ้าไม่มีคุณธรรม ไม่มีหลักธรรมในจิตใจ เก่งในการหาเงิน แต่ฉ้อโกง (เห็นตัวอย่างง่ายมาก) เก่งเรียน แต่เห็นแก่ตัว ฉลาดแต่ไม่เคยเอื้อเฟื้อ ไม่เคยคิดถึงส่วนรวม ก็ไม่มีคุณค่าค่ะ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สำคัญเลยนะคะ ถ้าลูกเก่งจะเป็นจุดเด่นของเค้าที่ทำให้เค้ามีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น (เปรียบเทียบกับตัวเอง ที่เด็กๆเป็นคนไม่มั่นใจ ขี้อาย ขี้กลัว แต่พอรู้ตัวว่าตัวเองสมองดี ก็เอาจุดนั้นมากลบจุดด้อยค่ะ)

สิ่งสำคัญคือต้องเป็นคนดี และเป็นคนดีที่มีความสุขด้วย ไม่ใช่เป็นคนดี แต่ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ ยอมอยู่อย่างหน้าชื่นอกตรม ก็ถือว่าไม่สมดุลเช่นกัน

เป็นคนดี ทำสิ่งดี คิดดี ก็จะเป็นตัวดึงดูดให้สิ่งดีๆ ต่างๆ เข้ามาหาเราเอง ...
จะได้มีเพื่อนดี มีสังคมดี มีการงานดี มีคู่ชีวิตที่ดี มีครอบครัวที่ดี ทุกอย่างจะตามมา ถ้าเราเป็นคนดีค่ะ ...
ถึงจะมีปัญหา มีอุปสรรคขวากหนาม แต่ถ้าพื้นฐานเราดีแล้ว ก็สามารถฝ่าฟันไปได้ด้วยดีค่ะ
เป็นคนดี มีความสุขกับสิ่งที่เป็น และมีความสุขที่เป็นคนดี ^__^
ถ้าใช้เหตุผลที่ตั้งข้อสังเกตุจากการตอบกระทู้ของคุณแพทนะครับ คุณแม่น้องTao พุ่งไปที่การอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีสันติภาพและมีความสุข เป็นสังคมในอุดมคติของพวกเราแบบเต็มๆเลย อิจฉาใครก็ตามที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับคุณแม่จังเลยครับ
อาจจะดูอุดมคติจ๋าไปสักหน่อยนะคะ แต่ตัวเองก็คิดอย่างนี้จริงๆ ... ถ้าลูกเป็นคนดี มีความสุข ต่อไปเราตายไป ความดีก็เป็นเกราะคุ้มครองเค้า เค้าก็อยู่ในสังคมต่อไปได้ มีมิตรดี มีความเพียงพอ พอเพียง ทรัพย์สมบัติที่เราหามาให้เค้า เค้าก็ดูแลรักษาต่อไปได้

เฮ้อ...แต่สมัยนี้หายากจริงๆค่ะ เคยเห็นคนมีเงินเป็นร้อยล้าน แต่ยังโลภไม่รู้จักพอ มีความสุขเมื่อได้เงินแบบหัวหมอ ...เคยเห็นคนเก่ง ได้มานั่งแท่นเป็นหุ้นส่วน เบิกเงินใช้เป็นล้านๆ อย่างสบาย แต่ยังคิดยักยอกเงินบริษัท ป้ายความผิดให้ลูกน้องอีก
"เก่ง" ถ้าไม่มาพร้อมกับ "ดี" อาจจะทำให้ ลำพอง หลงตัวว่าเก่ง แล้วเป็นจุดที่ทำให้ประมาท ... อีกอย่าง คนเก่ง เป็นคนที่ใครๆก็อยากเข้าหา ถ้าคนเก่งกรองคนดีไม่เป็น ... ก็ ... อย่างสุภาษิตว่า คบคนพาล พาลไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล ....

....รู้สึกบ่นมากไปแล้ว พอล่ะ อิอิ... ขอบคุณที่ตั้งกระทู้ขึ้นมานะคะ ได้ทบทวนความคิดของตัวเองไปด้วย
น่าสงสารข้อ a.เก่ง ดี มีสุข กับข้อ b.เก่ง มีความสุข ดี จังเลยเหมือนกับว่าใครเอาความเก่งขึ้นหน้านี่จะใช้ไม่ค่อยได้ เป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่าผมก็ก็ไม่แน่ใจ เคยได้ยินหนังจีนพูดไว้(จำชื่อเรื่องไม่ได้ครับ)ว่า " เมื่อคุณชนะแล้วก็ไม่มีใครสนใจหรอกว่าคุณได้มันมาด้วยวิธีไหน" โห...ฟังดูน่ากลัวจัง แต่ผมคิดว่าคนที่เริ่มต้นด้วยการพัฒนาความสามารถ(เก่ง)ก่อนแล้วถึงจะตามมาด้วยคุณธรรม(ดี)ท้ายที่สุดก็มาถึงจุดที่มีความสุขก็น่าจะมีอยู่บ้างนะครับ...คิดจริงๆ
มีค่ะ แต่คนเก่ง เก่งด้วยวิธีไหน เก่งจากคนอื่นหรือเก่งจากตัวเอง เอาบรรทัดฐานตรงไหนมาวัดว่าเก่ง เก่งแค่ไหนถึงจะพอ แล้วจะรู้สึกอย่างไรถ้าเกิดเจอคนที่เก่งกว่า คุณจะมีความสุขไหมถ้ารู้ว่าคุณไม่ได้เ่ก่งที่สุด คำว่าเก่ง สำหรับแพทมันเหมือนกับว่าต้องแข่งขันนะค่ะ มันเลยออกจะดูยากซักนิดนึงว่าเก่งแค่ไหนถึงจะมีความสุข เพราะถ้าพูดถึงความรู้ คนเราเรียนจนตายก็ยังเรียนไม่หมด

ทุกๆอย่างมันก็ต้องมี Balance ของมัน ทำไมไม่ลองทำให้ทุกอย่างมันเท่าเทียมกัน ไปพร้อมๆกันละค่ะ
Hmmm...เห็นด้วยกับคุณแพทน่ะครับคำว่า"เก่ง"นี่ดูให้คำจำกัดความได้ไม่ง่ายเลย ถ้าจะเริ่มต้นจากเก่งก็คงจะยากในการสร้างกรอบของการจัดการวัฒนธรรมในการเรียนรู้ของลูกๆ แหม..แต่คำว่าBalanceนี่ก็ยากน่าดูนะครับ.
มาฟังด้วยคนค่ะ
คุณสุภาพรมาฟังด้วยคนแบบไม่มีความเห็นมาแบ่งๆกันบ้างเลยหรือครับ..น่ะ..ซักนิซักหน่อยก็ยังดีนะครับ อย่างนิดๆที่สุดแล้วช่วยเลือกคำตอบในเรื่อง ดี เก่ง สุข ที่อยู่ด้านบนเพื่อShareความคิดเห็นแบ่งๆกันบ้างก็ดีนะครับ..(นิดนึงน่ะ)
ขอเลือกข้อ C ค่ะ ดี มีความสุข แล้วก็เก่ง
จริงๆ แล้วอยากให้ลูกเป็นคนดีและมีความสุขในเวลาเดียวกันค่ะ เรื่องความเก่งไม่สำคัญมาก ขอแค่เอาตัวรอดได้
ถ้าเค้าเก่งแต่ไม่มีความสุข แล้วยังทำให้คนอื่นเดือนร้อนด้วยก็จะเป็นปัญหาสังคมค่ะ
ข้อ d.:ดี เก่ง สุข1โหวต / ข้อ f.:สุข ดี เก่ง 3โหวต / ข้อc.: ดี สุข เก่ง จากเดิม 2โหวต(รวมความคิดเห็นคุณแพท)+กับโหวตของแม่อ้อ-พ่ออาร์ต&ฟ้าใสอี1โหวตเป็น3โหวต (เท่ากันกับข้อ f.ครับ) ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นสังคมในอุดมคติจริงๆนี่ระหว่างความสุขกับความดีอะไรจะมาแรงกว่ากันนะครับ แต่เท่าที่เห็นตามสภาพตอนนี้ คำว่า เก่ง แทบจะถูกลืมไปเลยสงสัยว่าคนเก่งแต่ไม่มีความสุขจะเป็นคนดีได้หรือเปล่า...น้องฟ้าใสถูกเลือกให้มีชีวิตแบบข้อ C. เป็นคนดี มีความสุข และเก่ง โห..คนที่เลือกข้ออื่นจะว่ายังไงกันดีล่ะครับทีนี้....
การเป็นคน"ดี" เป็นเหตุให้ชีวิตร่มเย็น(ถ้าเย็นหมายความว่านิพพาน ความสุขใดนอกจากนิพพานนั้นไม่เที่ยงตามข้อ 1ของหลักไตรลักษณ์ซึงเป็นถือเป็นสัจธรรมนั่นก็คือ1.อนิจจัง(ความไม่เที่ยง) 2.ทุกขัง 3.อนัตตา ถ้า สัจจะ หมายถึงไม่เปลี่ยนแปลง และ ธรรม หมายถึง ความจริง ดังนั้น สัจธรรม ก็หมายถึง ความจริงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีเพียงสามข้อและหนึ่งในสามข้อนั้นก็คือ ความไม่เที่ยงและความไม่เที่ยงก็ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของนิพพาน ดังนั้นความร่มเย็นก็เป็นเหตุแห่งความสุขได้) และชีวิตที่ร่มเย็นก็เป็นเหตุให้เกิดความ"สุข" แล้วหันกลับไปดูที่คุณ nookjung ว่าไว้ว่าในพระอภิรรมสอนไว้ชัดเจน เหตุใกล้ให้เกิดสมาธิคือความสุข ดังนั้นความสุขก็เป็นเหตุให้เกิดสมาธิ สมาธิเป็นเหตุให้มีจิตจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ในระยะเวลาหนึ่ง ถ้าเวลานั้นเป็นการเรียนรู้ของผู้ใดผู้หนึ่งก็จะทำให้เกิดปัญญาและหากมีการปฏิบัติถึงพร้อมปัญญาก็เป็นเหตุให้เกิความสามารถ ซึ่งนั่นก็คือคำที่เราเรียกกันง่ายๆว่า "เก่ง" สรุปว่าคุณnookjung เลือกโหวตข้อ C.1.เป็นคนดี 2.มีความสุข 3.เก่ง(เก่งนี่จองลำดับที่3เป็นประจำเลยนะครับ)ตอนนี้ข้อC.มีผู้เลือก 4โหวต แซงไปเรียบร้อย ขอบคุณสำหรับเพลง What ever will be will be นะครับ โลกนี้ยังสวยงามอยู่เพราะมีคนอย่างคุณnookjung นี่ละ่ครับ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service