เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ป้าเเนทเอามาฝาก (อีกละ) - ความรู้เกี่ยวกับ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seats)

ความรู้เกี่ยวกับ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car seats)

ป้าเเนทอยากให้คุณพ่อ - คุณเเม่ หันมาให้ความสนใจกับความปลอดภัยของลูกหลานท่านในการเดินทางโดยรถยนต์ค่ะ
ป้าสนับสนุนว่าเด็กควรนั่ง car seat ตั้งเเต่เเรกเกิด นอกจากความปลอดภัยเเล้ว ยังมีของเเถมคือ เป็นการฝึกวินัยให้กับเขาตั้งเเต่ยังเยาว์วัยค่ะ - ลูกชายป้าก็เคยผ่านประสบการณ์นั่ง car seat มาเเล้วทั้ง 3 เเบบเลยค่ะ.......

ลองมาดูเหตุผลสนับสนุนการนั่ง car seat ก่อนการตัดสินใจซื้อก่อนนะคะ
1. อุบัติเหตุรถยนต์เพียงแค่ 48.3 km/h ผู้โดยสารที่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจะพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเป็น 30-60 เท่าของน้ำหนักตัวเอง

2. เข็มขัดนิรภัยถูกออกแบบมาเพื่อยึดตัวคุณเองไว้ในรถ และลดแรงกระแทกต่อตัวคุณ ลดโอกาสการเสียชีวิตหรือการบาดเจ็บหนักได้ถึง 50%

3. เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ แต่ละแบบถูกออกแบบสำหรับอายุเด็กที่แตกต่างกัน
(รวมถึงขนาดรูปร่างเด็ก)
3.1 - Rear-facing infant seats and Convertible seats (เบาะนั่งนิรภัยแบบหันไปด้านหลังรถ สำหรับเด็กแรกเกิด และแบบปรับเอนเป็แนบบที่นั่ง

3.2 - Forward-facing child seats (เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กแบบหันไปข้างหน้ารถ)

3.3 - Booster seats แบบมีพนักพิงด้านหลัง และ Booster seat แบบไม่มีพนักพิงด้านหลัง


4. เบาะนั่งนิรภัยแบบหันไปด้านหลังรถโดยปกติจะเหมาะกับเด้กน้ำหนักไม่เกิน 10 กก. หรือประมาณ 12 เดือน
สถานบัน NHTSA (Nation Highway Traffic Safety Administration) กล่าวไว้ว่าเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรนั่งเบาะด้านหลังรถ
เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กแบบหันไปด้านหลังรถจะปกป้องหัวของเด็ก คอ และกระดูกสันหลัง ได้มากกว่า
ประเภทของการรัดของเข็ดขัดนิรภัย
- แบบ 3 จุด จะมีสายรัด 3 เส้น รัดตรงบ่า 2 ข้างลงมาเชื่อมล็อคใกล้ๆ ด้านล่างของที่นั่ง
- แบบ 5 จุด จะมีสายรัด 5 เส้น 2 เส้นที่บ่า 2 เส้นที่สะโพก และอีกเส้นที่ เป้ากางเกง
- แบบ Overhead shield จะมีเป็นคานป้องกันการกระแทกหรือการเหวี่ยงตัวของเด็ก
- แบบ t-shield จะมีเป็นคานรูปสามเหลี่ยมอยู่ติดกับสายรัดช่วงบ่า
สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 1 ขวบและหนักกว่า 9 กก. ควรจะใช้เบาะนั่งนิรภัยแบบหันหน้า
( ตามผลการวิจัยของสถาบัน NHTSA การให้เด็กนั่งด้านหลัง แทนการนั่งหน้าจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ 27 % ไม่ว่ารถคุณจะมี airbag ด้านข้างหรือไม่ก็ตาม )

5. เมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กตัวใหญ่มากกว่าที่สายรัดจะรัดได้ ควรใช้เบาะนั่งแบบ booster seat วิธีการดูว่าเด็กตัวใหญ่เกินไปหรือไม่สามารถดูได้จากว่าศีรษะของเด็กสูงเกินกว่าเบาะนั่งหรือไม่ โดยทั่วไป เด็กจำเป็นจะต้องใช้ booster seat ระหว่างอายุ 4-6 ปี
เข็มขัดนิรภัยของรถจะถูกออกแบบมาเพื่อให้นั่งได้ระหว่างกระดูกเชิงกรานและโครงกระดูกของผู้นั่ง เพื่อกระจายแรงกระแทกจากส่วนของรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุ Booster seat จะยกตัวเด็กขึ้นให้สามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่ได้พอดี
โดยปกติเมื่อเด็กอายุ 6 ขวบ หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่เด็กสามารถนั่งได้ตัวตรงแล้ว เขาสามารถนั่ง Booster seat แบบไม่ต้องมีพนักพิงได้ เเละเด็กจะพร้อมที่จะใช้เข็มขัดนิรภัยของรถโดยไม่ต้องนั่ง Booster seat ได้ความสูงของเด็กจะต้องได้ประมาณ 150 ซม. หรือประมาณ 8 ขวบ (ความสูงของเด็กบางคนจะไม่ไปตามอายุ บางคนมีอายุ 10-11 ขวบถึงจะต้องใช้ Booster seat)
เด็กจะพร้อมที่จะใช้เข็มขัดนิรภัยของรถได้ตามปกติเมื่อเขาสูงเพียงพอที่ขาและเข่าของเขาสามารถนั่งห้อยขาได้เบาะนั่งรถได้พอดี
เขาโตพอที่จะสามารถนั่งตัวตรง หลังพิงพนักพิงได้ตรง เเละเข็มขัดนิรภัยของรถส่วนล่างจะต้องรัดได้ตรงส่วนกระดูกเชิงกราน ไม่ใช้รัดตรงท้อง ส่วนเข็มขัดที่พาดส่วนบ่า จะต้องพาดผ่านมาตรงส่วนหน้าอก ไม่ใช่ผ่านมาตรงแขนหรือคอ

สิ่งที่ควรจะพิจารณาเมื่อคุณต้องซ์้อ car seat สำหรับเด็กทารกควรใช้ carseat แบบหันไปด้านหลังรถ สำหรับน้ำหนักเด็กไม่เกิน 9 กก. แนะนำให้ใช้สายรัดแบบ 5 จุด เเละการปรับระยะของสายรัดควรปรับจากด้านหน้า เด็กที่เกิดใหม่หรือทารก ควรปรับมุมการนั่งให้ได้ 45 องศา (car seat บางรุ่นจะมีขีดแสดงระดับองศา) - car seat สำหรับทารกส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่มีที่หิ้วได้ มีสายรัดด้านหลัง โฟมลดการกระแทกและคานป้องกันการกระแทก จะช่วยเพิ่มการป้องกันได้เพิ่มขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
car seat ที่ออกแบบสำหรับหันด้านหลังโดยเฉพาะจะเหมาะสำหรับทารก มากกว่ารุ่นที่ออกแบบให้หันหน้าหันหลังได้
บางรุ่นจะมีอุปกรณ์เสริมรองเบาะรถ หรือสามารถสวมเข้ากับรถเข็นได้ ควรเลือกให้เหมาะกับวิธีการใช้ของคุณ สิ่งที่ควรรู้เมื่อคุณมองหา car seat รุ่นที่สามารถปรับหันหน้าหันหลังได้สำหรับเด็กทารก รุ่นที่ออกแบบสำหรับหันหลังได้โดยเฉพาะจะปลอดภัยกว่า
car seat ความที่จะปรับให้หันหน้า ได้เมื่อส่วนบนของหัวจะต้องถึงส่วนบนของ car seat หรือเมื่อน้ำหนักตัวของทารกประมาณ 13-16 กก. หารุ่นที่มีตัวล็อค 5 จุด และสามารถปรับสายรัดได้จากด้านหน้า

เมื่อต้องซื้อ Booster seat สิ่งที่ควารพิจารณาคือ น้ำหนักเด็กถึง 18 กก. ใช้ Booster seat จนถึงน้ำหนักที่ Booster seat กำหนดน้ำหนักไว้ หรือจนกว่าเด็กจะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยของรถได้ตามปกติ ใช้แบบที่มีพนักพิงและรองส่วนหัว ถ้ารถคุณมีที่นั่งด้านหลังต่ำและไม่มีที่รองหัว Booster seat หลายๆรุ่นสามารถปรับระดังส่วนหัวได้และมีที่รองเสริมเพื่อความสะบายมากขึ้น

ที่มา ข้อมูล: howstuffwork.com
แปลและเรียบเรียง : mom2kids.com

Views: 1056

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by Monrudee Loha on January 20, 2010 at 10:34am
เยี่ยมเลยค่ะป้าแนท
Comment by i-Gie Gie on January 7, 2010 at 1:41pm
มายกมือด้วยคนค่ะ เห็นด้วยอย่างมากต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยให้มาก ๆ ในบ้านเราคนยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อยมาก แต่ก็สังเกตุได้ว่าดีกว่าแต่ก่อนเยอะแล้ว

ขอบคุณคุณแนทมากค่ะ เอามาให้อ่านได้ความรู้ละเอียดเลยค่ะ
Comment by Mommy Dearest on January 7, 2010 at 12:05am
มาด้วยคนค่ะ เพิ่มเติมนะคะ

1. ที่เมกาเห็นเค้าเนะนำว่า สมควรที่จะให้เด็กหันหลังจนน้ำหนักถึง 35 พาวน์ หรือ 17 กิโลกรัม แต่เด็กที่บ้านพอขึ้นเก้ากิโลก็หันหน้าแล้วค่ะ ไม่งั้นร้อง แต่ยังยอมนั่งเบาะให้อยู่ มีร้องไม่ยอมนั่งบ้าง แต่ก็ต้องบังคับให้นั่ง

2. ส่วนเวลาหมดอายุ car seat ทุกอันมีวันหมดอายุของมันนะคะ ส่วนมาก อายุการใช้งานจะอยู่ที่ หกปี ถ้านานกว่านั้นแล้วซื้อใหม่ดีกว่านะคะเพื่อความปลอดภัยของเด็ก

3. car seat ถ้าผ่านการประสบอุบัติเหตุมาแล้วไม่สมควรใช้นะคะ เพราะไม่ปลอดภัยค่ะ
Comment by nat on January 6, 2010 at 11:05pm
ว่าเเล้ว.... คุณอ๊อบต้องมาเจิม ^-^
Comment by อรนัย รักในหลวง on January 6, 2010 at 10:52pm
Totally agree ja!! โดยเฉพาะ booster คุณแนทดีที่ซู้ดดดดดด อิอิอิ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service