เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ใครไม่เก่งภาษาอังกฤษ และสอนลูกตอนโต เชิญทางนี้ค่ะ (Background ก่อนนะ)

เรื่องนี้เป็น Background ของครอบครัวเราในการสร้างครอบครัว 2 ภาษา จริงๆ ไม่ได้น่าสนใจมากนัก แต่ถ้าอ่านแล้ว อาจช่วยให้คุณเห็นว่า การที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ และลักษณะครอบครัวของเราแบบนี้ อาจคล้ายกับบางครอบครัว ซึ่งอาจพอจะนำไปปรับใช้กับคุณได้บ้าง (แต่ถ้าใครอยากไปสู่วิธีการ ข้ามไปที่เรื่อง 2 กับ 3 ได้เลยค่ะ)

ได้แรงบันดาลใจจากคุณเล็ก เพราะอ่าน blog คุณเล็ก แล้วรู้สึกว่าเอามาใช้ประโยชน์กับเราได้ ก็เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ตัวเองบ้างและมีพ่อแม่ที่บอกว่าตัวเองไม่เก่งภาษาอังกฤษ เราก็เป็นอีกคนนึงค่ะที่รู้สึกยังงั้น

เรารู้จัก web นี้ด้วยความบังเอิญ เพราะเป็นคุณแม่ที่ชอบหาความรู้ทางอินเตอร์เนตอยู่แล้ว อยู่ๆก็มาเจอ web นี้กลางดึก ช่วงเดือนมีนาคม เปิดดูคลิปน้องเพ่ย เพ่ย ตะลึงมาก ต้องปลุกพ่อณิตาขึ้นมาฟัง กลางดึก และมาชื่นชมกันใหญ่ หลังจากนั้นเราก็เข้ามาเป็นระยะ มาเอาแรงกระตุ้นจากน้องเพ่ย เพ่ย รู้สึกตอนนั้นมีคุณแพทที่เข้ามาก่อนใครเลย และวันนึงก็มีคนตั้งกระทู้ถามว่า ถ้าพูดยังงี้ ภาษาอังกฤษพูดว่ายังไง และมีคุณแพทใจดีมาตอบเป็นคนแรก ตอนนั้นเราคิดว่า นี่แหละใช่เลย !!!! ที่เราต้องการ(ตอนนั้นยังไม่ได้ตั้ง eng club)

ข้อตกลงเบื้องต้นก่อนอ่าน (พูดยังกะทำวิจัย 555…)
• เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน เราไม่สามารถใช้สูตรได้ตายตัว ว่าทำแบบไหนจะดีที่สุด คนที่ตอบได้ดีที่สุดว่าลูกเราจะเหมาะกับแบบไหน ก็คือพ่อแม่นั่นเอง
• การเขียนตรงนี้ ไม่ได้แปลว่า ประสบความสำเร็จและลูกพูดเก่งแล้ว แต่เป็นเส้นทางครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนึง หลงทางไปบ้าง ก้าวถูกก็มี ก็เลยไม่อยากให้คนอื่นหลงทาง เส้นทางจะได้สั้นขึ้น

เริ่มฝึกณิตา ตอน 2.5 ปี ตอนนี้ก็ประมาณ 5 เดือน ค่ะ
ภูมิหลังด้านภาษาอังกฤษและลักษณะครอบครัวเรา (อันนี้ลอกคุณเล็ก จะได้รู้ว่า ไม่เก่งก็สอนได้ค่า...)
• จบปริญญาตรี
• กำลังเรียนต่อปริญญาโทอยู่
• ทำงานที่คิดว่า คนอื่นน่าจะบอกว่า น่าจะเก่งภาษาอังกฤษนะ (แต่จริงๆไม่เก่งเลย...) ไม่อยากบอกกลัวเสื่อมเสียวิชาชีพ 555….
• ตอนเรียนมัธยม ไม่ค่อยชอบภาษาอังกฤษเท่าไหร่ เรียนไม่ได้เลวร้ายมาก แต่รู้สึกว่าไม่เข้าใจ เป็นยาขม
• เรียนปริญญาตรี และโท ต้องอ่านภาษาอังกฤษเป็นประจำ (textbook,paper) ก็อ่านได้ เพราะจำเป็น แต่เหนื่อย ไม่สนุก
• ฟังภาษาอังกฤษพอได้ แต่ต้องมีสมาธิมากๆ (ต้องตั้งใจ)

• เวลานั่งฟัง professor บรรยายต้องตั้งใจสุดๆ ถ้าสมาธิหลุดคือไม่รู้เรื่องเลย ซึ่งเป็นบ่อยมากกกก...
• ปกติเวลาฟังฝรั่งพูด โดยที่เราไม่เกี่ยวข้องจะพอฟังออก พอฝรั่งหันมาพูดด้วยปุ๊บ สติจะแตกทันที ฟังไม่รู้เรื่องเลย 555…

ปัญหาใหญ่ที่สุด คือ การพูดออกมา คิดประโยคไม่ออก ซึ่งเป็นปัญหาหลักของการสร้างลูก 2 ภาษา
• เรามีเวลาอยู่กับลูกตอนเช้า และตอนไปส่งที่รร. ตอนเย็นไปรับกลับถึงก่อนนอน และเสาร์ อาทิตย์ เหมือนเยอะ แต่ความหนักอยู่ที่ เรียนโท อยู่ ทำงานหนักมาก ต้องอาศัยทำงานหลังลูกนอนและเรื่องใหญ่คือ ไม่เก่งภาษาอังกฤษ จึงต้องค้นคว้าหาความรู้และต้องเตรียมตัวเยอะ จะเห็นบ่อยว่า ตั้งกระทู้ตอน ตี 3 รึว่าเกือบเช้า
• เลี้ยงลูกกันเอง ไม่มีพี่เลี้ยง
• คุณพ่อทำงานหนัก อยู่กับลูกค่อนข้างน้อย
• ก่อนหน้านี้ ก็อ่านมาเยอะว่าเวลาสอนภาษาอังกฤษไม่ต้องแปล อ่านบ่อยมาก ก็ได้แค่สอนคำศัพท์ ไม่มีใครบอกว่าให้สอนวลี ผูกประโยค ก็สอนมาแบบไม่แปล แต่ด้วยความที่อยู่กับแม่เยอะกว่าคนอื่น สอนคนเดียวทุกอย่าง เกิดความสับสน (ของแม่มากกว่า) ก็เลยหยุดไปช่วงที่เค้าเริ่มพูดเก่งและคิดว่า โตหน่อยค่อยสอน อ้าว...ไหงเป็นงั้นไป

• ลูกเรียนรร. สามภาษา หวังแค่สภาพแวดล้อมเอื้อในช่วงวัยเด็ก ได้ฟังครูต่างชาติพูด สร้างทัศนคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษ คิดว่าตอบคำถามได้ว่า อยู่รร.สามภาษา ช่วยมั้ย ก็ขอตอบว่า ช่วยได้บ้าง เรื่องทัศนคติ และได้รับบางอย่างซ้ำๆ แต่ตามความคิดเรา คิดว่าไม่ได้ช่วยให้ลูกพูดเก่งขึ้น เพราะอยู่ที่รร.โอกาสจะซ้ำในจุดที่ลูกยังไม่ได้น้อย และลูกอยู่กับเรามากกว่า จึงคิดว่าคงจะอยู่แค่อนุบาลและตอนนั้นคงเริ่มพูดได้เก่งมากขึ้น และกลับเข้าสู่รร.รัฐบาลที่เราคุ้นชิน เพราะเราคิดถึงเรื่องวิชาการและต้องย้ายกลับบ้าน(เรียนจบ) และคิดว่าคงจะสร้างสิ่งแวดล้อม แบบที่คุณอ๊อบ ทำกับต้นกล้า อันนี้ลอกคุณอ๊อบเห็นๆๆ

• ช่วงแรกที่สอนลูก ณิตาไม่ได้ต่อต้านอะไรมาก อาจเพราะค่อยเป็นค่อยไป ตอนแรกพูดประโยคยาวไปลูกก็ทำหน้างง ไม่สนใจ ก็หยุดการพูดยาวไปก่อน หาวิธีใหม่

• ต่อมา เค้ามีตุ๊กตาหลายตัวที่ช่วงนั้นเค้าชอบเล่นอาบน้ำ แต่งตัว ป้อนข้าว เราก็เลยบอกว่า ตุ๊กตาเค้าน่ะ พูดภาษาอังกฤษนะ ถ้าอยากบอกเค้าให้ทำอะไรต้องพูดภาษาอังกฤษ ช่วงแรกเค้าก็บอกแม่ว่า คุณแม่บอก rabbit ให้หน่อยว่าได้เวลาอาบน้ำแล้ว คุณแม่บอก dog ให้หน่อยว่าให้นอนลง แม่ก็ถือโอกาสตอนนี้เลย เวลาเล่นกับเค้าสร้างสถานการณ์อาบน้ำ กินข้าว ทำอาหาร ได้วลีและประโยคมากมายในตอนนั้น ซึ่งต่อมาเค้าก็พูดตามเรา ต่อมาเราเลยใช้กลยุทธ์ให้เค้าเรียนภาษาอังกฤษกับตุ๊กตา ซึ่งก็คือแม่นี่แหละพาพูด หลังๆงง งง ไงไม่รู้ เค้าก็มาสอนตุ๊กตาเค้าพูดภาษาอังกฤษเอง 555…เค้าคงลืม

Views: 1792

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by คุณ นภาพร รัตนางกูร on May 9, 2010 at 12:26am
ขอบคุณนะคะที่แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้ เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ เพราะครอบครัวเราก็ใช้กลยุทธ์เดียวกับคุณแม่น้องณิตาค่ะ
Comment by ยศภัด มีเดช on May 7, 2010 at 9:45pm
วันนี้ว่างเลยเข้ามาอ่าน(ช่วงเก็บตก อิอิอิ ) อ่านแล้วก็มีกะลังใจ ขอบคุณค่ะ
Comment by ชลธร on January 23, 2010 at 2:58am
สวัสดีค่ะเห็นบล๊อกข้อมูลแล้วสนใจมากเพราะอยู่สาวอยู่ให้วัย 2 ขวบ 1 เดือน ก็พยายามฝึกให้ลูกได้รับรู้เยอะเนื่องจะพ่อกับแม่ทำงานด้วยกันทั้งคู่เช้ามาก็ไปส่งพี่เลี้ยงเย็นมาก็ไปรับชีวิตวนเวียนแบบนี้ตลอดจะมีเวลาก็ช่วงเช้าก่อนไปส่วนน้องและช่วงเย็นที่ไปส่ง ก็พยายามสอน แรกๆลูกงงมากแต่อาจเป็นเพราะช่วงเวลานี้ลูกเริ่มพูดบ้างได้แล้ว พยายามสอนทีละคำ โดยเฉพาะคำศัพท์ที่ใช้ชีวิตประจำวันเห็นข้อมูลแม่แต่ละคนที่แสดงความคิดเห็นทำให้มีกำลังใจที่จะสอนลูกค่ะ
Comment by กชนันท์ ธาดาวชิรา on November 25, 2009 at 3:00pm
อ่านแล้วมีความสุขดีน่ะค่ะ เด็กๆมีอะไรให้เราประหลาดใจทั้งวัน... น้องออธัม 2 ขวบกับอีก 1 เดือนค่ะ คุณแม่คุยภาษาอังกฤษบ้างไทยบ้างตั้งแต่รู้ว่าเขาอยู่ในท้อง ปัจจุบันเขาเข้าใจทั้งสองภาษาค่ะ แต่ตอนนี้แม่ชักจะห่วงแล้วล่ะ เพราะเขากำลังหัดพูดและเริ่มใช้ภาษาไทยคำ อังกฤษคำ จะทำยังงัยดีล่ะเนี้ย.......
Comment by หนูดาว เมืองแสน on November 25, 2009 at 10:32am
ปลื้มมาก ๆ เลยค่ะ น้องเป็นต่อ อายุ 3 ขวบ 8 เดือน สอนเหมือนไม่ค่่อยตั้งใจค่ะ เพราะก็มีเวลาเหมือนคุณณิตาเลยค่ะ เช้าก่อนไปโรงเรียนและตอนเย็นหลัง1 ทุ่ม ดาวยังไม่มุ่งมั่นสอนลูกเต็ม ๆ ดาวมีเวลาเเหมือนคุณณิตา แ่ต่ก็ยังโชคดีทีไม่เรียนโท ขนาดเรียนโทคุณณิตายังมีความพยายามม๊าก ๆ อ่านแล้วทำให้ต้องพยายามยามเหมือนคุณณิตาค่ะ
Comment by พัชรนันท์ on November 24, 2009 at 11:22pm
ของเราลูกชาย ...หาแรงจูงใจไม่ได้เลยค่ะ เริ่มได้เดือนกว่าแล้ว ยังไม่ค่อยคืบหน้าเลย (อายุ2ขวบ8เดือนกว่าแล้วค่ะ) ใครมีวิธีเด็ดๆ รบกวนหน่อยนะคะ เริ่ม ตีบตันแล้วค่ะ
Comment by eagle on November 24, 2009 at 7:05pm
อ่านแล้วชอบจังเลย เป็นไอเดียดีๆให้กับคนอื่นที่สนใจด้วยนะคะ เห็นด้วยกับคุณภานะ ทั้งในเรื่องเบื้องต้น ปัญหาการพูดกับฝรั่ง และโรงเรียน ชอบเทคนิคการโน้มน้าวให้น้องเจ้าขาสนใจภาษาค่ะ
Comment by อรกัญญา จุลวัจนะ on November 23, 2009 at 12:40pm
ทำงัยดีละ ก็เพิ่งเริ่มตอนลูก 3ขวบกว่า ได้ดูรายการครอบครั่วเดียวกันก็เกิดฮึดขึ้นมาว่าทำงัยลูกเราถึงจะเป็นแบบนี้บ้าง แม่หรือก็อ่านได้ แปลได้พอประมาณ แต่ถ้าฝรั่งมาปุ๊ป ตกใจ อย่ามาถามฉั้นน่ะ
เอาหนังสือมาอ่านก็ได้เฉพาะตอนเปิดหนังสือ พอเวลาต้องพูดกับลูกก็ลืม ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
Comment by แม่โอ๋ของน้อง IKKYUSAN on November 23, 2009 at 11:55am
ขอบคุณอีกแล้วค่ะ เพราะตอนนี้ลูก 2 ปี 4 เดือน เริ่มทำได้ 1 อาทิตย์ แต่ลูกเหมือนอารมณ์เสีย และงงที่แม่พูดอะไร และช่วงหลังงานคุณแม่ยุ่งมากเลยค่ะ และคุณแม่ก็เครียดเรื่องงาน และที่ครอบที่บ้านก็ไม่ให้ความร่วมมือ หมายถึง คุณตา คุณยาย ทั้งหลาย เพราะตอนเย็นกลับบ้านค่ำค่ะ สรุปก็คือท้อค่ะ กลับมาพูดภาษาไทยกลับลูกอีกได้ 2 วันเต็มๆค่ะ พอมาอ่านของคุณภา ก็มีกำลังใจอีกครั้ง ประวัติส่วนตัวของคุณแม่และพ่อ คล้ายของคุณภาค่ะ บางครั้งนึกประโยคไม่ออกว่าจะพูดยังไงกับลูก
Comment by สุจิรา on September 3, 2009 at 11:18pm
เพิ่งเข้ามาอ่านข้อความของคุณภา ชอบมากเลยค่ะ ก็จะคล้ายๆกันเลยตรงที่กว่าจะว่างก็ดึกๆ ก็ต้องเข้ามาหาข้อมูลก่อนนอน บางวันก็นอน ตี3 ตี4 ค่ะแต่เพื่อลูกต้องพยามต่อไป จะสู้ๆ ค่ะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service