หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

อุตส่าห์เพาะภาษาที่ถูกต้องจากบ้าน แต่พอเข้าอนุบาลโรงงานเรียนดันสอนลูกเราท่อง A N T มด ทำไมไม่สอน เอ้ แอะ แอ้นท์ อย่างที่เราสอน

เป็นคนที่เก่งเรื่องภาษามาแต่เด็กนะค่ะ เรียนจบเอกภาษาอังกฤษ-ญี่ปุ่น ทำงานที่ต้องติดต่อกับลูกค้าต่างประเทศตลอด และยังเป้นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ ซึ่งทำให้เราค้นคว้าหาความรู้เรื่องการเรียนการสอน การนำภาษาไปใช้มาตลอด ใช้สำเนียงได้ดีไม่ต่างจากชาวต่างชาติ (อันนี้ผจก ชม) เมื่อมีลูกก้เริ่มค้นคว้าหาความรู้ในการพัฒนาทุกอย่าง ทั้งสุขภาพ IQ, EQ รวมถึงภาษาที่ตั้งใจสอนลูกตั้งแต่ในท้อง พอลูกเกิดจนปัจจุบันลูกสามารถเข้าใจคำสั่ง คำทักทายและคำศัพท์ง่ายๆ รวมถึงใช้สำเนียงภาษาอังกฤษที่ดี (ไม่สอนแบบบังคับนะค่ะ ใช้เทคนิคที่มีให้ลูกชอบภาษาอย่างธรรมชาติ) เพราะตระหนักดีว่าภาษาทำเงินได้อย่างดี ไม่สนใจว่าลูกจะเรียนอะไร แต่ต้องพูดภาษาได้อย่างคล่องแคล่วเท่านั้น

แต่เมื่อส่งลูกเข้าโรงเรียนแล้ว พบว่าการสอนของโรงเรียน สอนแบบ ท่องตามตัว สอนตัวอักษร แล้วออกมาเป็นคำศัพท์เลย ไม่สอนเสียงอ่านที่แท้จริงของตัวอักษร (ไม่สอนโฟนิค) เราเคืองมากกก และที่สำคัญเวลาเด็กเข้าเรียน เขาจะเริ่มเชื่อฟังครู และยึดติดกับวิธีการของครู ไม่อยากแปลกแยก พอเราสอน โฟนิค เขาจะบอกว่าที่โรงเรียนไม่ได้สอนนะแม่

บ้านเราอยู่ชลบุรี อำเภอที่ห่างไกลความเจริญที่สุด แต่พยายามเลือกโรงเรียนนี้เพราะเป็นโรงเรียนเอกชนที่เดียว และ เป้นที่เดียวที่ดีที่สุดในตำบล ใครมีคำแนะนำดีดีบ้าง หรือใครที่เจอปํญหาเดียวกัน ช่วนรบกวนให้คำปรึกษาด้วยนะค่ะ โดยเฉพาะท่านใดที่ลูกพูดภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว แล้วต้องเข้าโรงเรียนที่ไม่สอนอย่างที่เราปูพื้นมา ไม่ทราบว่ามีวิธีการแก้ไขยังไง ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by นุชรา ศรุตวราพงศ์ on May 12, 2009 at 6:23am: อยากแนะนำนิดนึงนะคะ
เป็นเหมือนลูกสาวที่บ้านเลยอะคะ เวลาสอนเขาเขาจะบอกว่าครูไม่ได้สอนแบบนี้นะ
นุชว่าเราอย่าไปสอนทับเส้นครูน่าจะดีกว่า คือวิธีการสอนแบบที่โรงเรียนมันก็เป็นมาตรฐานแบบของไทยอะคะ
ถ้าเราไปสอนทับเด็กอาจสับสน นุชว่าเมื่อคุณแม่พูดเก่งคุณแม่ก็ใช้วิธีพูดประโยคกับลูกอะคะ
อย่างเช่นพูดประโยคใดประโยคหนึ่งให้บ่อยๆ ให้เขาซึมซับในประโยคนั้นๆ แล้วพอเขาเริ่มจะเข้าใจแล้ว
เราก็พูดประโยคอื่นต่อ เพราะนุชว่าโรงเรียนในประเทศไทยเป็นแบบนี้กันหมด สอนแนวนี้คะ

ส่วนการเรียนแบบโฮมสคูลเนี่ย นุชค่อนข้างว่าเด็กจะได้แต่ความรู้กับเรานะคะ แต่ส่วนเรื่องของสังคม
การอยู่ร่วมกับคนอื่น การรู้จักแบ่งปัน เรื่องจริยธรรม-คุณธรรมต่างๆจะได้น้อย
คือไม่ได้หมายความว่าคุณแม่ไม่สอนนะคะ แต่เป็นเพราะเด็กยังเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่
การสอนเขาด้วยคำพูดนั้น เด็กยากที่จะยอมทำตาม เขาต้องได้เจอกับประสบการณ์คะ
อย่างการแบ่งปันเนี่ย ถ้าอยู่ที่โรงเรียนเขาจะรู้เลยว่าอยู่กับคนหมู่มาก เขาต้องรู้จักเสียสละ
ต้องรู้จักโน่นนี่ เหมือนเขาปรับสภาพตัวเขาเองได้ดีกว่า

ส่วนเรื่องการติดเคเบิลเนี่ยนะคะ มีการวิจัยต่างๆเรื่องการไม่อยากให้เด็กต่ำกว่า 3 ขวบดูทีวี
แล้วนุชก็เจอเองกับตัวนะคะ คือลูกคนที่สองเนี่ยตา-ยายเอาไปช่วยเลี้ยงช่วงศุกร์-อาทิตย์
แล้วตา-ยายก็ตามใจมากกกกกก ให้ดูทีวีทั้งวันทุกวัน ผลคือเอาได้ประโยคต่างๆจากการ์ตูน
ที่เขาดูคะ แต่ได้ประโยคที่ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรเลย มีอารมณ์เกรี้ยวกราดเหมือนใน
ตัวการ์ตูนบางเรื่อง ใช้คำพูดด่า-ล้อเลียนคนอื่นเหมือนในการ์ตูนบางเรื่อง ทั้งๆที่เขาไม่เข้าใจ
ความหมายที่แท้จริง หรือไม่รู้กาละเทศะ เห็นว่าการ์ตูนพูดเขาก็พูด
นุชแนะนำว่า ให้ซื้อ VCD ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องๆน่าจะดีกว่า อย่างที่บ้านนุชให้ดูบาร์นี่
พากย์ eng เพราะมีเนื้อหาที่สอนเราในเรื่องต่างๆด้วยเพลง เด็กก็ชอบ ไม่มีการต่อสู้-ส่อเสียด
หรือเป็น momy & me อันนี้ก็สอนเกี่ยวกับคำศัพท์ต่างๆ ประโยคต่างๆแบบช้าๆอะคะ
หรือถ้าต้องติดเคเบิลจริงๆ ก็แนะนำว่าควรเลือกรายการใดรายการหนึ่งเพื่อการศึกษา
ของลูกจริงๆแล้วให้ดูแค่รายการนั้นๆ (อาจเป็น 2 รายการก็ได้) น่าจะดีกว่าคะ

Comment by สำราญ on May 11, 2009 at 10:02pm: คุณแม่จินตนา โลเกชั่นด้านหลังคุ้นๆตานะค่ะ ^_^ โรงเรียนที่ถามหมายถึงโรงเรียนที่ลูกสาวเข้าเรียน หรือ โรงเรียนที่เคยสอนพิเศษคะ ต้องขอโทษที่ไม่สามารถบอกได้ค่ะ เพราะจะเป็นการพาดพิงถึงบุคคลที่สาม สี่ ห้า ได้

Comment by สำราญ on May 11, 2009 at 9:57pm: ขอบคุณค่ะ สำหรับคำแนะนำเรื่องเคเบิ้ล ตอนนี้ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถสอนน้องให้ได้ เนื่องจากย้ายมาจากกทม มาอยู่ ตจว ยังไม่สามารถไปสอนน้องตามบ้านได้ จริงๆคุณแม่มิลานน่าจะสอนแจ๊บและอิ๊งให้น้องไปด้วยกันนะค่ะ เขาว่าเด็กเล็กสามารถซึมซับภาษาได้ทุกภาษา ไม่ต้องกลัวว่าน้องจะสับสน ส่วนสำราญยังไม่ได้เริ่มสอนแจ๊บให้เพราะก่อนหน้านี้อยู่ห่างจากลูกสาวร่วม 3 ปี เลยมีเวลาสอนจริงๆได้ไม่มาก

ตอนนี้มีแผนใหม่ที่เพิ่งคิดได้และลงมือปฏิบัติแล้ว ก็คือสอนภาษาน้องกับเพื่อนข้างบ้านค่ะ เมื่อครูสอนไม่ได้ตามที่เราวางแผน เราก็สอนเองแต่ให้เขามีเพื่อนเรียน พอทดลองแล้วปากกฏว่าได้ผลดีเชียวค่ะ น้องมีเพื่อนมาเรียนด้วย 2 คน เลยสนุกกันใหญ่ สำราญสอนแค่ 50 นาทีค่ะเพื่อให้ไม่เบื่อ สอนด้วยรูปภาพ การ์ดภาษาและหนังสือสีสันสดใสประกอบ คาดว่าจะสอนต่อไปเรื่อยๆ เพื่อความรู้ของลูกและความบันเทิงใจของแม่ค่ะ

Comment by Milan on May 11, 2009 at 11:29am: ที่ว่าจบโทญี่ปุ่นหมายถึง
เรียนเป็นวิชาโทนะคะ

v
v
v

Comment by Milan on May 10, 2009 at 2:49am: ขอถามคุณสำราญเรื่องหนึ่งนะคะ

คือ จบอังกฤษ-ญี่ปุ่นมา เลยไม่ทราบว่าจะสอนญี่ปุ่นให้น้องไหมคะ?

ถ้าสอน จะเริ่มสอนเมื่อไรหรือคะ?
(เพราะว่าตัวเองก็จบโทญี่ปุ่นมาน่ะค่ะ)

Comment by Milan on May 10, 2009 at 2:20am: อืม..ติดเคเบิ้ลตอนนี้อาจจะเร็วไปนะคะ เพราะรายการที่น้องควรจะดูอาจจะยังมีไม่มากก็ได้ค่ะ
(เพราะการ์ตูนที่มีทั้งวันทั้งคืน ที่ไม่มีประโยชน์ก็เยอะค่ะ)

ถ้าติดตอนที่น้องโตกว่านี้อีกหน่อย
ก็จะดูหลายรายการอย่างพวกสารคดีได้รู้เรื่องและสนุกด้วย

ยังไงก่อนติดอยากให้ลองเสริช์ตารางออกอากาศมาดูก่อนค่ะ
ว่าเราเสียเงินรายเดือนแล้วได้อะไรมาบ้าง

ถ้ามันไม่คุ้มก็ซื้อแผ่นให้น้องดูดีกว่าค่ะ
ตอนนี้ก็มีหลายเว็บที่ขายอยู่ มีให้เลือกหลายเรื่องที่ฮิตๆน่ะค่ะ

Comment by จินตนา on May 9, 2009 at 2:48pm: เราก็อยู่ชลบุรี
ขอโทษนะคะไม่ทราบว่าโรงเรียนอะไรคะ

Comment by สำราญ on May 9, 2009 at 8:11am: ขอบคุณค่ะคุณแม่ Milan ขอบคุณที่ให้แนวทาง ลูกสาวชอบดูรายการเด็กๆ ตอนนี้จะติดเคเบิ้ลแล้วค่ะ เพราะรายการทั่วไปไม่มีภาษาถึงเป็นการ์ตูนก็เป็นภาษาไทย ใจจริงต้องการพาน้องกลับมาเรียนที่ กทม เพราะเป็นบ้านของสามี แต่ติอเรื่องที่ทำงานของตัวเองที่อยุ่นิคมฯ ก็ว่าจะวางแผนย้ายกลับ กทม ภายใน 3 ปี เพื่อเข้าประถมนะค่ะ แต่ก็ถามตัวเองอีกว่า การที่ลูกสนุกกับธรรมชาติที่ ตจว กับการเข้าเมือง อันไหนวันจะดีกว่ากัน ...

สำหรับ EP หรือ สองภาษา ไม่แน่เสมอไปว่าจะดี ถ้าคุณแม่มิลานอยู่ในวงการอย่างเรา แล้วจะรู้ว่าบ้างครั้งมีดีก้ต้องมีเสีย ขึ้นอยู่กับผุ้ปกครองรับได้ไหม แต่คงไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องใดบ้าง ตัวสำราญเองอยู่ในโรงเรียนอนุบาลหลายแห่ง ที่มีชื่อเสียงชนิดที่ต้องร้อง อ๋อออ กันทั้งนั้น เป็นผู้ดูแลครูต่างชาติเองกับมือ (เอาเป็นว่า เรามีกำลังส่งเท่าที่เรามี คือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะว่าสำราญเองก็ไม่เคยนึกส่งลูกเข้า program เหล่านั่น) คุยกันอีกนะค่ะ อย่างน้อย แม่ Milan ทำให้ได้ไอเดียเรื่องการติดเคเบิ้ล เพราะลืมนึกถึงจุดนี้ไปจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ

Comment by Milan on May 8, 2009 at 3:29pm: ไม่มีประสบการณ์ค่ะ เพราะลูกสาวแค่ 1.7ขวบ
(แต่รีบเข้ามาอ่าน เพราะต้องเจอปัญหานี้แน่)

แต่มีความเห็นค่ะ
1. ถ้าย้ายโรงเรียนไม่ได้ก็ให้ทำ โฮม สคูล เลยค่ะ
แล้วชั้นประถมค่อยไปเรียนใหม่

2. แต่ถ้ายังลังเลใจเกี่ยวกับการมีเพื่อนเล่น หรือ การเข้าสังคม
ก็ให้คุณแม่พูดภาษาอังกฤษกับน้องมากๆขึ้นอีก ชวนทำอะไรสนุกๆ
ที่ให้เขารู้สึกว่า คุณแม่สนุกกว่าครู น่ะค่ะ และทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ

เขาก็น่าจะรู้สึกว่าอยู่กับแม่ผ่อนคลายกว่าครู
ดูบาร์นี่ - เทเลทับบี้ สนุกกว่าครู

ถึงน้องเขาจะท่อง เอ แอ๊นท์ มด แต่เวลาพูดสนทนา
น้องก็จะพูดแบบคุณแม่ แบบบาร์นี่ค่ะ

ต้องพยายามฝังหัวน้องเขาแข่งกับครูค่ะ
ให้น้องเข้าใจไปเลยว่า อยู่กับครูพูดอย่างไร
อยู่กับแม่พูดอย่างไร

(เป็นความเห็นนะคะ เพราะนี่ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าต้องเจอแน่ๆค่ะ
เนื่องจากฐานะก็ไม่ได้ดีพอจะส่ง แบบอีพี หรือ อินเตอร์ น่ะค่ะ)