เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ใครไม่เก่งภาษาอังกฤษ และสอนลูกตอนโต เชิญทางนี้ค่ะ (ตอนพัฒนาตัวแม่)

เอาล่ะ....เข้าเรื่องกันซะที(ยาวหน่อยนะ แต่เป็นขั้นตอนที่เราทำมา ตลอด 5 เดือน)
เป็นขั้นตอนสำหรับฝึกภาษาอังกฤษของคนที่ไม่เก่งให้ดีขึ้น และสอนลูกได้ด้วยค่ะ

• ตอนแรกปรับทัศนคติของคุณก่อน เพราะเราสอนลูกตอนโต เราก็คาดหวังว่าเค้าจะรู้เรื่องมากกว่าเด็ก แต่จริงๆเค้าก็เหมือนเพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษเหมือนเด็กๆ คุณสอนลูกพูดตอนเด็กยังไง กว่าเค้าจะพูดเป็นปี คุณพูดไปคนเดียวนานแค่ไหน อย่าลืมค่ะ ตัดความคาดหวังออกไป ความเครียดของคุณจะลดลง และมีแรงสู้เพื่อลูกค่ะ

• ภาไม่ได้เลือกระบบ OPOL และเลือกไม่ได้ เพราะปัญหาแรกคือ เราไม่เก่งภาษาอังกฤษ พูดไม่ได้ตลอด และคุณพ่อณิตามีเวลาอยู่กับลูกน้อย เราไม่ได้กลัวปัญหาเรื่องณิตาพูดภาษาไทยไม่ได้ แต่เราต้องสอนอย่างอื่นและก็อยากพัฒนาการอ่าน การฟังภาษาไทย จากการอ่านนิทานไทยด้วย

• เริ่มต้นจากปรับตัวเองให้เป็นคนที่ต้องการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เมื่อก่อนน่าจะยาก แต่ตอนนี้เรามีลูกเป็นแรงขับดันอยู่แล้ว ทำได้แน่นอน
• เราเริ่มจากคำศัพท์ทุกคำที่เราเห็น พูดออกมา พูดทุกครั้งที่เห็น ให้ลูกได้ยิน ให้ตัวเองได้ยิน ถ้าเราไม่รู้ศัพท์คำนี้ (เชื่อว่ามีศัพท์เยอะมากในบ้านที่เราไม่รู้) ไปเปิดดู ไปหา เราจะได้ศัพท์ใหม่มากมาย ....การพูดทุกครั้งจะทำให้เราจำได้ และคิดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ (เราเพิ่งเข้าใจหนังสือภาษาอังกฤษที่เค้าบอกว่า ให้พยายามคิดเป็นภาษาอังกฤษ อย่าคิดไทยแล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษ ก็ตอนที่ผ่านน้ำพุและพูดกับลูกทุกวันว่า fountain เห็นทุกครั้งเราก็พูดทุกครั้ง และเราเริ่มสังเกตตัวเองว่าเราเห็นของหลายอย่างและเราก็คิดชื่อมันเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาไทย จริงๆเวลาที่เราเห็นของ ถ้าคุณสังเกตตัวเอง คุณไม่ได้นึกชื่อมันหรอก แต่มันเป็นอานิสงค์ จากที่บอกลูกทุกวัน มันเลยฝังใจ) ลูกได้ยินบ่อยๆ ลูกก็จะจำได้ค่ะ ได้ประโยชน์หลายสถาน

• ไม่เอาเรื่องไกลตัว เช่น เปิดหนังสือมีผัก มีสัตว์ ของทุกอย่างสอนหมด เราก็หนัก ลูกก็หนัก (อย่าลืม คิดถึงตอนท่องศัพท์เยอะๆตอนเด็กๆ อึ๊ย....) เอาเฉพาะที่เห็นก่อนนะคะ
• ทุกอย่างในโลก มีชื่อ...พยายามหามันเก็บไว้ แต่ยังไม่ต้องสอนก็ได้ เพราะถ้าคุณสอนลูกตอนอายุประมาณนี้ และลูกเริ่มเครื่องร้อน ลูกจะถามว่าอันนี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร...ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ตอนนี้คุณเริ่มเป็นคนชอบค้นคว้าและรักการเรียนรู้อย่างไม่น่าเชื่อแล้วค่ะ (แล้วคุณก็จะคิดในใจว่า ถ้าชั้นขยันแบบนี้ได้ซักครึ่งตอนเรียน ป่านนี้ก็คงเก่งไปแล้ว..เอาน่าตอนนี้ก็น่าจะทัน)

• เรื่องคำศัพท์และการออกเสียงภาไม่ค่อยมีปัญหามากนัก เพราะเป็นเด็กท่องมาตลอด มีปัญหาที่วลีและการผูกประโยค ดังนั้นเราจึงเริ่มที่หนังสือคุณบิ๊กเลย ท่องประโยคที่เราคิดว่าจะต้องทำแน่ๆในแต่ละวัน เริ่มจากอาบน้ำ แต่งตัวก่อน(ขอบอกว่าท่องจริงๆ) พูดไปเรื่อยๆ เหมือนตอนที่เค้ายังพูดไม่ได้ พูดคนเดียวเหมือนบ่นๆไป อย่าคาดหวัง เพราะพอคาดหวัง ความเครียดจะตามมาทันทีค่ะ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้คำศัพท์ ไม่เป็นไรค่ะ เห็นคุณพ่อท่านหนึ่งเคยเข้ามาและบอกว่า ไม่รู้คำศัพท์ ต้องซื้อผลไม้มาเล่นกับลูก และติดชื่อไว้ตัวเองจะได้อ่านตอนเล่นกับลูก จะได้ท่องได้ คุณแม่ท่านหนึ่งก็บอกว่า ติดประโยค ติดคำศัพท์ไว้ฝาบ้านจนลายไปหมด คุณมีเพื่อนสู้ค่ะ ค่อยๆทำไป และคุณเองก็จะเก่งขึ้นด้วยค่ะ
• ไปซื้อหนังสือกริยาล้วนๆมา (ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะเนี่ย) เรากำลังจะเริ่มเป็นเด็ก ป. 1 ที่ต้องเรียน verb ก่อนจึงจะผูกประโยคได้ ยังไม่ต้องสอนทั้งหมด ขีดไว้ว่า สัปดาห์นี้คุณจะสอนอะไรค่อยๆเพิ่มให้ลูกไปเรื่อยๆค่ะ รวมทั้งตัวคุณด้วยค่ะ

เรื่องสำเนียงอย่ากังวลมากเลยค่ะ ความคิดเห็นของภาคือ เน้นพูดเป็นหลักดีกว่าเนอะ คิดหลายอย่างเดี๋ยวเครียด แย่เลย เดี๋ยว โตขึ้นก็ให้เค้าปรับไป มีคนบอกว่าสำเนียงแต่ละที่ก็แตกต่างกัน ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าค่ะ
• ยังไม่ต้องอ่านหนังสือแกรมม่า เพราะภาอ่านจบหลายเล่มแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาเดิมคือเลือกใช้ไม่ค่อยถูก เพราะฉะนั้น อ่านตอนที่เราสงสัยก็พอและการไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มสำหรับมาสอนลูก ก็อย่าเพิ่งเลยค่ะ เพราะเคยไปเรียนมาก่อนหน้าที่จะสอนลูก ภาษาอังกฤษก็ยังคล้ายๆเดิมกับเรื่องเดิม พ่อณิตาบอกว่า ตอนนี้เราเก่งกว่าตอนไปเรียนอีก เลยได้สัจธรรมว่า ฝึกพูด และค้นคว้าเองเท่านั้น ถึงจะทำให้เราดีขึ้นได้ (ถ้าจะเรียนก็เรียน ที่คุณจะเอาประโยคมาใช้พูดกับลูกเลยดีกว่าค่ะ)

• มาห้อง eng club ก๊อปกระทู้เดิมๆไปนั่งอ่าน นั่งอ่าน นอนอ่าน อ่านไปอ่านมา และเอาไปพูด ไม่ต้องเอาไปพูดทั้งหมด เพระจำไม่ได้หรอกค่ะ เยอะมาก ค่อยๆพูดไปวันละประโยค 2 ประโยค เวลาผ่านไป คุณจะพูดได้เยอะขึ้นมาก อย่างไม่น่าเชื่อ

• ดู คลิปน้องเพ่ย เพ่ย เอาประโยคที่คุณบิ๊กพูดกับลูกมาพูดกับลูกบ้าง เอาประโยคที่น้องเพ่ย เพ่ยพูดมาฝึกลูกเราพูดบ้าง และในนั้นจะเห็นว่าคุณบิ๊กใช้ประโยคง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่มีศัพท์ยาก เก็บมาเป็นวิธีสอนลูกเราได้ค่ะ (ถ้าคุณบิ๊ก ได้อ่านขอความกรุณาลงคลิปเพิ่มด้วยนะคะ เพราะมีใครบางคนรอลอกประโยคจากคุณบิ๊ก และวิธีการที่แอบได้ เวลาดูคลิปด้วยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ อิอิ)
• ดูการ์ตูนกับลูก ตอนแรกไม่ต้องตกใจค่ะ ว่าตัวเองฟังไม่ค่อยออก เป็นเหมือนกันค่ะ แต่ฟังบ่อยๆ ก็จะฟังออกมากขึ้นค่ะ และบ่อยเท่าไหร่ประโยคที่ฟังออกจะมากขึ้นจริงๆค่ะ อันนี้ยืนยันด้วยตัวเองและหลายคนใน web นี้ค่ะ
• หา VCD เพื่อการศึกษาที่เค้าใช้สอนเด็กอื่นๆมาดูค่ะ จะได้รู้ว่า เค้าสอนเด็กฝรั่งกันยังไง ไม่ต้องเอาหนักมากนะคะ เอาแบบกึ่งๆการ์ตูนน่ะค่ะ เพราะเค้าจะสอนประโยคช้าๆชัดๆ ซ้ำๆ มีหลายอันเลย จะได้เพิ่มประโยคของตัวเองและไปพูดกับลูก
• หา VCD การ์ตูนอื่นๆที่มี subtitle มาช่วยเพิ่มประโยค ถ้าเจอประโยคเด็ดๆ ก็รวบรวมไว้ค่ะ ค่อยๆทำไป ทำไปบ่อยๆ จะรู้สึกว่า ไม่ต้องพึ่ง subtitle ค่ะ(จริงๆนะ)

• อ่านนิทานภาษาอังกฤษของเด็ก ให้ลูกฟังบ่อยๆ และนั่งอ่านเองด้วย จดประโยคที่จะเอามาใช้กับลูกได้ (เอาบางประโยคนะคะ) เอามารวบรวมในประโยคที่คุณรวบรวมไว้อ่าน อ่านซ้ำไป ซ้ำมา เดี๋ยวก็จำได้ เอาไปพูดได้
• หาหนังสือที่มีตัวอย่าง ประโยคภาษาอังกฤษ ที่ลองเปิดอ่านแล้ว มีประโยคที่คุณจะเอาไปปรับ ใช้พูดกับลูกได้พอสมควร ซื้อมา รวบรวมประโยคเหล่านั้นมาอ่านซ้ำไปซ้ำมา และเริ่มหยิบมาใช้
• เจอเพลง เจอประโยคอะไรที่เอามาใช้พูดกับลูกได้ เอาประโยคเหล่านั้นมารวบรวมไว้และอ่านซ้ำไปซ้ำมา และหยิบมาใช้
• แล้วคุณสงสัยมั้ยคะ ว่าจะอ่านตอนไหนดีเนี่ย ก็ตอนก่อนคุณจะนอนก็หยิบขึ้นมาอ่านก่อนหลับ ตอนลูกเล่นเพลินๆคนเดียว หยิบขึ้นมาอ่านบ้าง ไปโน่นมานี่ก็หยิบติดมือไป ได้วันละประโยค 2 ประโยค คุณก็เก่งแล้วค่ะ

พอคุณพูดได้เยอะขึ้น คุณจะเริ่มจับทางได้ว่า อ๋อ ถ้าพูดสถานการณ์คล้ายๆแบบนี้มันจะมีคำนี้มาตลอดเลย ถ้าพูดแบบนั้น มันจะมีคำนี้มานี่นา คุณจะเริ่มเข้าใจไวยากรณ์โดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องท่องให้เหนื่อยค่ะ และถ้าคุณเริ่มแต่งประโยคเองได้แล้ว คุณไม่มั่นใจ ก็เข้ามาที่ eng club ค่ะ มีบรรดา คุณพ่อคุณแม่ ใจดีช่วยแก้ประโยคและเสริมความมั่นใจกรณีที่คุณตอบถูก และยิ้มหน้าบานไปพูดกับลูกอย่างภาคภูมิใจค่ะ

ตอนนี้คุณเริ่มพูดได้เยอะขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ นั่นก็คือ มันต้องกินเวลาไปแล้วหลายเดือนเชียวค่ะ ไม่ต้องเร่งนะคะ เหนื่อยก็พักค่ะ ไม่ต้องทำตลอดเวลา ไม่ต้องทำทุกวัน ไม่มีตารางแน่นอน ทำไปเรื่อยๆ ค่ะ เราไม่มีกำหนดส่งผลงานค่ะ

• อ่านหนังสือ คุณบิ๊กหลายๆรอบค่ะ ระหว่างทางที่คุณก้าวไป คุณจะพบกับอุปสรรค ปัญหามากมาย ที่ผ่านมาเคยเจอปัญหาและก็แก้เองผ่านไปได้ พอกลับมาอ่านหนังสือ เอ๊า..คุณบิ๊กเค้าก็บอกไว้นี่นา เราอ่านไม่ดีเอง รึไม่ก็ยังไม่เข้าใจเพราะยังไม่เจอเอง มันมีปริศนาธรรมอยู่ในนั้น 555….

สุดท้าย ต้องขอขอบคุณคุณบิ๊ก อย่างเป็นทางการ พ่อณิตาบอกว่า คุณบิ๊กได้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยจริงๆ เห็นด้วยค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ ที่ทำให้เรามีโอกาสสร้างครอบครัว 2 ภาษาแม้จะไม่ค่อยสมบูรณ์แบบนัก

นอกจากนี้ ขอขอบคุณ แม่บ้านประจำ web คุณแพท คุณอ๊อบ ที่ใจดีเสียสละเวลามาตอบคำถาม ตลอดเวลา และยังเคยให้กำลังใจภาด้วยตอนท้อ ทั้งที่จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเลย
คุณเล็ก ที่ทำให้เห็นความมุ่งมั่น ให้กำลังใจภาตอนท้อแท้ ทำให้มีพลังสู้ต่อไป
คุณดา คุณแนท คุณจิ๊ คุณแม่ คุณพ่ออื่นๆ เอ่ยชื่อคงไม่หมด ที่มาช่วยตอบคำถาม มาช่วยถามคำถามให้ได้รับความรู้ มาช่วยเป็นกำลังใจให้กันและกัน จริงๆ เวลาเห็นกระทู้ที่ท้อแท้ก็อยากเข้ามาตอบให้กำลังใจทุกคนจริงๆ เพราะตัวเองก็เคยท้อแท้ มาบ่น พอมีคนให้กำลังใจ เราก็มีแรงต่อไป แต่ไม่มีเวลาจริงๆค่ะ ลำพังแค่มาตามกระทู้ทุกวันก็ไม่ทันแล้ว

ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อ คุณแม่ ทุกท่านนะคะ ให้ก้าวต่อไป คุณต้องทำได้แน่ค่ะ นอกจากคุณทำเพื่อลูกคุณเองแล้ว คุณยังทำเพื่อประเทศชาติอีกนะคะ สู้ สู้ ค่ะ

Views: 33646

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by mom_jenita on August 18, 2009 at 9:28pm
ลองดูอันนี้มั้ยคะ คุณบิ๊กเข้ามาตอบไว้ เคสคล้ายๆกันค่ะ
http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:78243

คุณบิ๊กแนะนำระบบ OTOL ซึ่งให้คุณแม่สอนภาษาอังกฤษด้วย แต่ยังไงซะคนที่เลือกว่าจะเอาแนวทางไหนก็คงเป็นตัว คุณพ่อกับคุณแม่น้องเพชรนั่นแหละค่ะ ที่จะรู้ว่าบ้านเราเป็นยังไงมากที่สุด แต่ถ้าตัดสินใจว่าคุณแม่สอนด้วย ก็อย่ากังวลมากค่ะ เข้าใจค่ะ เรื่องความกังวลภาก็เป็นและหลายคนก็คงเป็นค่ะ แต่เชื่อเถอะค่ะ เรามีลูกเป็นแรงขับดัน เราทำได้แน่ค่ะ ถ้าไม่เอาโอกาสนี้ฝึกภาษาอังกฤษตัวเองก็ไม่รู้จะหาเวลาไหนแล้วค่ะ ตอนนี้ภายังบอกตัวเองเลยว่าโชคดีจัง ที่เราพัฒนาได้เพราะลูกเลย

เพื่อนภาหลายคนต้องไปเรียนต่างประเทศ ไม่เก่งก็ต้องพยายาม พอไปก็ต้องพยายามเอาตัวรอด จนพอกลับมาก็ต้องพูดได้ อ่านเขียนได้ นี่คงเป็นเพราะคนเราต้องมีแรงผลักดัน มีแรงกระตุ้นค่ะ (เพื่อการอยู่รอด หุหุ) สู้ สู้ การเรียนรู้ต้องใช้เวลาค่ะ อย่าใจร้อนนะคะ ยินดีเป็นกำลังใจให้ค่ะ ยิ่งลูกยังเล็ก มีเวลาฝึกอีกเยอะค่ะ
Comment by แม่น้องเพชร on August 18, 2009 at 5:33pm
สวัสดีค่ะ

ดิฉันเพิ่งจะได้เริ่มอ่านหนังสือของคุณพงษ์ระพีค่ะและเข้ามาสมัครสมาชิกค่ะ ดิฉันสนใจและตัดสินใจจะลงมือทำนะคะแต่ไม่เก่งภาษาอังกฤษเอามากๆเลยค่ะแต่พอได้อ่านข้อความคุณดิฉันมีกำลังใจขึ้นเลยค่ะคงต้องเอาแนวทางที่แนะนำให้ไปใช้ค่ะควบคู่กับหนังสือคุณพงษ์ระพีด้วยค่ะแต่ก็ยังมีปัญหาหลายๆอย่างค่ะแรกเลยคงเรื่องความไม่มั่นใจค่ะภาษาไม่เอาไหนเลยค่ะออกเสียงไม่แน่ใจว่าถูกรึเปล่ากลัวสอนลูกผิดจังเลยค่ะตอนนี้ก็ยังตกลงกับสามีไม่ได้ว่าใครจะสอนลูกค่ะคือสามีอยากสอนลูกค่ะเพราะเค้าใช้ภาษาได้ดีกว่าดิฉันค่ะรวมถึงการออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยแต่สามีงานเยอะค่ะไม่ค่อยมีเวลาค่ะส่วนใหญ่ดิฉันค่ะที่อยู่กับลูกเกือบตลอดเวลาเพราะดิฉันเป็นแม่บ้านไม่ได้ออกไปทำงานค่ะเลี้ยงลูกอยู่บ้านค่ะแต่ดิฉันภาษาไม่แข็งแรงค่ะเลยไม่มั่นใจตอนเรียน ป.ตรี ก็แค่เอาตัวรอดเรียนจบมาได้งั้นๆจริงๆค่ะสามีเลยอยากสอนเองบวกกับสามีเอาคุณพงษ์ระพีเป็นต้นแบบค่ะเราเลยมัวแต่ตัดสินใจค่ะตอนนี้ต่างคนเลยต่างฝึกภาษากันไปพรางๆเพราะต้องเตรียมตัวและตัดสินใจอีกค่ะว่าใครจะสอนดีเพราะดิฉันก็อยากสอนนะเพราะดิฉันอยู่กับลูกตลอดและมีเวลาและมีความสม่ำเสมอกว่าด้วยส่วนสามีก็กังวลเรื่องไม่ค่อยมีเวลาอยู่เหมือนกันค่ะกลัวสอนลูกไม่จริงจังแต่ก็อยากสอนต่างคนต่างอยากสอนว่างั้นเหอะ(ทำไงดีคะแนะนำหน่อยค่ะ?)แต่ดิฉันก็จะสู้ๆค่ะคุณ ดิฉันเองคงต้องเริ่มใหม่จริงๆเรื่องภาษาเนี่ยแต่ก็จะสู้นะคะอ่านข้อความคุณแล้วทำให้ดิฉันมีความหวังอีกครั้งค่ะก่อนหน้านี้มันเจอทางตันค่ะเพราะเราไม่เก่งภาษาด้วยไงคะหมดกำลังใจพอสมควรกำลังหาวิธีอยู่ก็มาเจอข้อความคุณพอดีดีใจจังค่ะและขอขอบคุณจริงๆค่ะหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับคำแนะนำและกำลังใจดีๆเช่นนี้อีกขอบคุณมากนะคะ
Comment by mom_jenita on August 18, 2009 at 10:21am
คุณดา เอาไว้ว่างๆ มาแชร์กันเนอะ ดีแล้วค่ะ ธรรมชาติ ลูกก็สนุกค่ะ

"เวลาลูกตอบภาษาอังกฤษกับเรา เป็นประโยคยาวๆ ซับซ้อน เถียงได้ เนี่ย ชื่นใจมากๆ หายเหนื่อยจริงๆค่ะ" ปลื้มใช่มั้ยคะ คุณดา แม่สร้างเองกับมือ :) น้องเคท เก่งแล้ว สู้ต่อค่ะ

คุณ วรษา ยินดีค่ะ ลุยเลยค่ะ ดีมากเลยค่ะ มีเวลาอยู่กับลูก โอกาสทองค่ะ

คุณ ป้าโอ๊ะของหว่าหวา ยินดีมากค่ะ ที่ช่วยอะไรได้บ้าง เด็กโตแล้ว เค้าก็มีความเป็นตัวตนของเค้าค่ะ เราก็มองให้เป็นเรื่องดีละกัน ดีกว่า เค้าตามน้ำทุกอย่าง แต่อย่างที่บอกว่าเค้าก็มีพัฒนาการทั้งดีและไม่ดี จริงๆภาว่า เด็กโตตอนเริ่มต้นยาก แต่พอเค้ารับแล้ว จะง่ายมากค่ะ เค้าจะรับได้เร็ว เด็กเล็ก ต้องใช้เวลาตามพัฒนาการอายุเค้าค่ะ เพราะฉะนั้น เอาทัศนคติให้ผ่านก่อน ที่เหลือไม่น่ายากค่ะ ดีจังค่ะ ดูแลทั้งหลานและลูก เด็กๆโชคดีมาก

คุณ พิชญา ไม่เครียดค่ะ ไม่เครียด ลุยเลยค่ะ เพื่อนเยอะค่ะ

คุณ นพรัตน์ ยินดีค่ะ สู้ สู้นะคะ

คุณ อุ๋ย จุดใต้ตำตอ คุณอุ๋ยเองรึนี่ ตัวอย่างดีๆ เราก็ต้องเอามาโชว์ค่ะ ดีมากเลยค่ะ ไม่ต้องอายค่ะ สู้เพื่อลูก น้องโชคดีมากค่ะ ที่มีคุณแม่มีความตั้งใจ สู้ต่อนะคะ มีเพื่อนเดินไปด้วยกันเยอะเลย
Comment by mamy n'ปลายรัช on August 17, 2009 at 8:17pm

อยากจะขอบอกว่าอุ๋ยเองค่ะที่ จดคำศัพท์และก๊อปปี้ศัพท์จาก eng club แปะไว้ข้างฝาบ้านเต็มไปหมด ประตูห้องนอนทั้งด้านอกและด้านในเอาให้เต็มที่ ตอนนี้บ้านเกือบรับแขกไม่ได้แล้วค่ะ (อายเหมือนกันนะเนี่ย)แต่ตอนนี้ผลตอบรับของลูกดีเกินที่หวังไว้ก็ทำไปเรื่อยไม่รีบแล้วค่ะ เพราะเราไม่มีกำหนดส่งผลงานเนอะ(copy กันสดๆเลย) ขอบคุณนะค่ะที่เขียนมาให้อ่านๆแล้วรู้สึกสบายใจมีกำลังใจในการต่อสู้(กับลูก)เยอะเลยค่ะ สงสัยอุ๋ยต้องขยันกว่านี้ เดี๋ยวตามไม่ทันคุณภา ล้อเล่นนะค่ะ
Comment by นพรัตน์ on August 17, 2009 at 3:59pm
ขอบคุณมากนะคะ ดิฉันเครียดอยู่เพราะไม่รู้จักคำศัพท์ ได้แต่สอนคำที่รู้ ประโยคที่รู้ ซ้ำไปซ้ำมา รู้ตัวเหมือนกันว่าตัวเองไม่พัฒนาขึ่นเลย ได้อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมาก ๆ เลย ขอคำแนะนำดี ๆ ต่อไปด้วยนะคะ
Comment by พิชญา on August 17, 2009 at 3:30pm
ขอบคุณมากเลยค่ะ กะลังเครียด ๆ อยู่ว่าจะเริ่มยังงัยดีอะค่ะ
Comment by อี๊โอ๊ะของหว่าหวา on August 17, 2009 at 1:15pm
ขอบคุณมากๆ ค่ะ ได้อ่านแล้วมีกำลังใจมากขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ...

หลานสาวอายุ 8 เดือน ยังไม่ค่อยเจอปัญหาอะไร แต่กับลูกสาวอายุ 12 ปี มีปัญหาเยอะแยะค่ะ มีทั้งพัฒนาการในด้านที่ดีและไม่ดี คงต้องปรับกันไปเรื่อยๆ ค่ะ ยังไงก็สู้สุดใจค่ะ!
Comment by oHm on August 17, 2009 at 11:57am
ขอบคุณมากเลยค่ะ ดิฉันต้องนำไปใช้แน่นอนค่ะ พอดีดิฉันเปิดรับทำบัญชีอยู่ที่บ้านเลยมีเวลากับลูกมาก (มีเวลาท่องศัพท์เอาไว้สอนลูกนะคะ)
Comment by อรดา พงศ์สุธนะ on August 17, 2009 at 10:19am
คุณภา เชียร์ให้ดาเขียนบล็อคอีกคนหรือเปล่าคะ ก็ยังไม่ค่อยว่างเท่าไรเลย ดาสอนลูกแบบไม่เครียดนะคะ สนุกทุกวันกับการสอนภาษาอังกฤษลูกแบบธรรมชาติ ทำแบบสบายๆ แบบคุณภาว่าคือ ไม่มีกำหนดส่งงาน เพียงแต่เราวางแนวทางไว้ว่าเดินไปทางไหนแล้วจะไม่หลงทาง ก็ดีมากมายแล้วค่ะ

อย่างหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันมากเหลือเกิน คือคนรอบข้างที่ใกล้ชิดบางคนมีทัศนคติที่ไม่ตรงกันกับการสอนแบบนี้ ก็อยากจะให้ทุกคนที่ไม่เห็นด้วยได้ประจักษ์ ว่าเราและลูกทำได้ และทำได้ดีด้วยค่ะ

และมันก็ทำให้เราไม่เคยท้อ ไม่เคยบ่นเลย อีกอย่างเวลาลูกตอบภาษาอังกฤษกับเรา เป็นประโยคยาวๆ ซับซ้อน เถียงได้ เนี่ย ชื่นใจมากๆ หายเหนื่อยจริงๆค่ะ
Comment by mom_jenita on August 17, 2009 at 10:02am
คุณดาคะ เอาวิธีการสอนลูกของคุณดามาแชร์บ้างสิคะ ภาจะได้รอลอกบ้างค่ะ เวลาเห็นคุณดาให้กำลังใจหลายๆคน ภายังเคยรู้สึกเลยว่า คุณดาเข้มแข็งจัง ไม่เห็นคุณดาเคยบ่น เคยท้อเลย เก่งจริงๆ ยินดีเป็นแนวร่วมและเป็นกำลังใจให้กันต่อไปค่ะ

คุณ Yokthip Jong คะ ไม่ต้องกังวลค่ะ ค่อยๆทำไปค่ะ ต้องใช้เวลา อย่าเร่งเพราะมันกดดันเรา เราก็จะเครียด และบางทีมันก็จะไปมีผลที่ลูกเพราะอารมณ์ของเราด้วยค่ะ ภาก็เคยรู้สึกยังงั้นค่ะ ทั้งเรียน ทั้งงานบ้าน เลี้ยงลูก คนเราเนอะ ก็ต้องเหนื่อยบ้าง เหนื่อยก็พักค่ะ เราอาจจะไม่ได้ทำทุกอย่างให้ดีได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยเราก็มีความตั้งใจที่จะทำ ยินดีที่จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

คุณ mother Bee คะ ไม่ต้องกังวลค่ะ เอาเวลาตอนนี้ เก็บข้อมูลไปก่อน ไม่มีอะไรสายสำหรับการเริ่มต้นค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ คิดถึงลูกใช่มั้ยคะ อยู่ต่างประเทศคนเดียวคงเหงาเนอะ มาหาเพื่อนคุยในนี้ก่อนค่ะ :)

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service