เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

เริ่มจากที่ได้อ่านหนังสือ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" และได้เริ่มต้นพูดกับลูกในวันถัดไป
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2552 ขณะนั้นเนยอายุได้ 2.6 ปี มาถึงวันนี้ก็ประมาณ 5 เดือนนิดๆ
ก็เลยอยากจะเขียนแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างค่ะ

หวังว่าข้อความที่เขียนมาจะเป็นกำลังใจและแนวทางให้กับผู้ที่เริ่มต้นไม่มากก็น้อย
เพราะจากการที่เราเริ่มต้นที่นี่ ท้อ และมีกำลังใจขึ้นมาก็จากที่นี่ ก็เลยอยากแบ่งปัน
ความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นให้กับผู้ที่เกิดความรู้สึกท้อ หรือยังสับสน(ในชีวิต)อยู่ค่ะ อิอิ

ขอเตือน อาจปวดตาบ้าง ต้องขออภัย เพราะมันยาวจริงๆนะ (แค่ 5 เดือนยังขนาดนี้)

ประวัติ
1.จบปริญญาตรี ตอนเรียนชอบเรียนภาษาอังกฤษนะ
2.แต่ฟังฝรั่งพูดไม่ค่อยออก
3.พูดกับฝรั่งก็กระท่อนกระแท่น
4.ไม่มีฝรั่งให้พูดด้วยมาก
5.ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอีกเลยหลังจากจบ.มหาวิทยาลัย
6.ไม่ได้ทำงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ
7.ทำงานอยู่ที่บ้านไม่ได้ไปพบปะผู้คนมากมาย

เริ่มต้น
1.เห็นหนังสือเล่มสีส้มๆเด่นๆนี้ จากเวปทางอินเตอร์เนทที่ซื้อประจำ สั่งเลย
เคยอ่านหนังสือแนวนี้มาก็เยอะ แต่เล่มอื่นไม่ละเอียด และก็อยู่ไกลเกินที่เราจะหวัง
แต่หนังสือเวทมนต์เล่มนี้ ขอบอกว่าเป็นอะไรที่มีขั้นตอน ดูง่ายๆ อ่านแล้วดูเหมือนว่า
เราก็น่าจะทำได้นะ....ฮึฮึ

2.อ่านเสร็จในวันเดียว และเคี่ยวเข็ญให้สามีอ่านในวันถัดมา ยังดีที่สามีไม่ได้ว่าอะไร
แต่ก็ต้องเป็นเราอยู่แล้วที่จะพูดอังกฤษกับลูก เพราะสามีไม่เอาอยู่แล้ว
(ตอนหลังแอบถาม เค้าบอกว่าไม่เชื่อหรอกว่าเราจะพูดกับลูกได้ตลอด เดี๋ยวก็เลิก)
ฮึ่ม..ฮึ่มม

3.คืนนั้นเข้าเวป www.2pasa.com เลย สมัครสมาชิก ตอนนั้นเวปเพิ่งเปิดได้ไม่เท่าไรมั๊ง
เข้าไปอ่านก่อนเลย ไล่อ่านทุกกระทู้ เออ..มีคนเริ่มเหมือนเราแฮะ
มีรูปคนสีฟ้าๆ ชื่อคุณอรนัย แกเข้ามาทุกวันเหมือนกันแฮะ เออ..ดี..มีเพื่อน
มีคุณแพท ที่ช่วยตอบคำถามให้ด้วยวุ๊ย น่าสนใจ คือมันมีการเคลื่อนไหว
น่าสนใจมีที่พึ่ง เพราะถ้าอ่านหนังสือ แล้วเริ่มพูดกับลูก
ติดขัด จะปรึกษาใครล่ะเนี่ย

4.เริ่มต้นพูดกับลูกในวันถัดมา เกือบทุกคำ ติดทุกคำ จดทุกคำ หงุดหวิดวุ๊ย

4.1 แม่..ทำไมต้องพูดภาษาอังกฤษด้วย ฟังไม่รู้เรื่องเลย พูดไทยกันดีกว่า

4.2 อ่านนิทานสองภาษา (ที่เคยอ่านแต่ภาษาไทย)
แม่..นี่มันหนังสือภาษาไทยนะ นี่ไงภาษาไทย (เอามือชี้)
ทำไมต้องอ่านภาษาอังกฤษด้วย ไม่เข้าใจเลย เดินหนีไป

4.3 ร้องเพลงภาษาอังกฤษ เออ..ค่อยยังชั่ว..ลูกยังชอบเพลง

4.4 นิทานมีแต่สองภาษา หรือภาษาไทย นี่หว่า ทำไงดี ลูกปฏิเสธหมดเลย??

4.5 ก่อนนอนต้องอ่านนิทาน ลูกไม่ให้อ่านภาษาอังกฤษ ยังคงอ่านภาษาไทยไป
และลูกก็ไม่ยอมให้พ่ออ่านให้ฟังด้วย ต้องแม่เท่านั้นก่อนนอน

4.6 ผ่านไป 2-3 วัน ตัวแม่เองก็เริ่มแย่แล้ว พูดกับลูกได้น้อยลง
อยากจะพูดอะไรหลายๆอย่าง ที่เวลาเราพูดภาษาไทย เราก็จะยาวเลย ก็ทำไม่ได้
อยากจะอธิบายเรื่อง ทำไมลูกโป่งถึงลอยได้ ก็ไม่เป็น (ตอนนี้ก็ยังติดๆอยู่นะ แต่พอไปได้)
อยากจะห้าม เตือนอะไร ก็นึกไม่ทัน
อยากจะ.....................................
ทำไม มีอะไรที่จะต้องพูดเยอะแยะขนาดนี้
เฮ้ย..ทำไมลูกฟังไม่ออก ปฏิเสธตลอด
เราทำอะไรผิดไป ลูกเราผิดปกติหรือเปล่า

5.ต้องหาผู้ช่วยแล้ว
5.1 ซื้อDVD ตามที่หนังสือแนะนำ โดยทยอยซื้อนะคะ ทุกเรื่องเลย
บางเรื่องซื้อไว้แล้วดูเอง เพราะเด็กดูเรื่องใดแล้วก็จะดูแต่เรื่องนั้นเป็นเดือนเลย

5.2 ซื้อนิทานภาษาอังกฤษ(ล้วน) และนิทานสองภาษาเล่มใหม่
โดยซื้อมาใหม่ต้องให้แม่อ่านภาษาอังกฤษก่อนนะ อย่าให้ใครมาอ่านไทยให้ฟังก่อน

5.3 เปิดดีวีดีให้ดู ลูกชอบ Caillou (แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว) เลียนแบบ
Caillou fall down.!!! ตลอด

5.4 สร้างแรงบันดาลใจ ถ้าอยากจะรู้ว่า Caillou พูดอะไร ก็ต้อง
ฝึกภาษาอังกฤษกับแม่ เพราะ Caillou พูดไทยไม่ได้

5.5 เข้า English Club ทุกวันเท่าที่เวลาอำนวย เพราะตอนนั้นลูกยังไม่ได้เข้ารร.
ต้องเล่นกับเค้าตลอด มีกิจกรรมตลอด

5.6 จดคำถาม แล้วเข้ามาถามตลอด และก็ได้คำตอบทุกครั้ง
ย้ำว่าทุกครั้งจริงๆ เพราะจะมีคนใจดี สวยๆ มาตอบให้

6.ช่วงเดือนแรกมีคำถามมาก เพราะท้อค่ะ

6.1 มันจะได้ผลไหมเนี่ยกับลูกเรา

6.2 เรายังพยายามไม่พอใช่ไหม

6.3 ถ้าเราเป็นแม่ที่เก่งกว่านี้ก็คงดี

6.4 แล้วต้องพูดอังกฤษกับลูกจนถึงเมื่อไรเนี่ย

6.5 แล้วถ้าเราหยุดพูดอังกฤษ หลังจากที่พูดมาเป็นปี แล้วลูกจะลืมหรือเปล่า

6.6 เด็กลืมง่ายอยู่แล้วนี่ ถ้าเราหยุด เค้าก็ลืม แล้วเราจะทำไปทำไมฟะ

6.7 ออกไปข้างนอกพูดภาษาอังกฤษกับลูกก็อายเค้าจัง กระท่อนกระแท่น ผิดๆถูกๆ

7. ปรึกษากับสามี อืมม..สามีก็ให้กำลังใจบอกว่า คุณบิ๊ก(คุณพงษ์ระพี) เค้าพูดกับลูก
มาตั้งแต่เกิดแล้ว ผ่านมา 3 ปีกว่าแล้ว เธอเริ่มมาแค่ไม่กี่วัน จะเอาอะไรนักหนา
ลูกฟังเข้าใจก็ดีถมแล้ว เดี๋ยวให้เค้าปรับตัวหน่อยหน่า พบสัจธรรม
7.1 แม่อย่าเครียดมาก
7.2 อย่าตั้งความหวังสูงมากนัก ว่าคนอื่นไปถึงไหนแล้ว
7.3 ไม่ต้องรีบ ไม่ได้ไปแข่งกับใคร
7.4 อย่าสร้างความกดดันให้ลูก เน้นภาษาในการเล่น แล้วลูกจะสนุก ร่วมมือ

8. พัฒนาการ
เดือนที่ 1เราพูดอังกฤษ ลูกจะแปลเป็นไทยทันที ถามว่าใช่ป่ะ เราก็ตอบกลับเป็นอังกฤษไม่มีการแปล
เดือนที่ 2 ถามเอง ตอบเอง เพราะถ้าไม่ตอบเอง ลูกจะพูดคำถามตามเรา เช่น Are you hungry? Yes.I am.
แล้วเอาอาหารมาเซิร์ฟ (ถ้าไม่พูด Yes,I am ลูกจะพูดตามว่า Are you hungry?)
เดือนที่ 3 ต้องพูดถึงจะได้ เช่น แม่หนูหิวน้ำ You should say may I have some water please. เอาน้ำยื่นให้
เดือนที่ 4 แกล้งโง่ ฟังลูกไม่ออก (เกือบจะโง่จริงแล้ว อิอิ) ให้ลูกได้เริ่มบทสนทนาก่อน
เดือนที่ 5 เถียงและโต้ตอบได้บ้าง แต่ไม่ตลอด
แม่ : Do you want to take a bath first or have breakfast first?
ลูก : Play first!!! ฮึ่มๆๆ

อีกเหตุการณ์นึง
แม่ : It's the time to take a bath.
ลูก : Wait a minute please. Let me play a bit longer.

9.แล้วก็ได้คำตอบสำหรับคำถามในข้อ6
9.1 มันจะได้ผลไหมเนี่ยกับลูกเรา ตอบว่า ก็ได้ผลนะว่ามะ

9.2 เรายังพยายามไม่พอใช่ไหม ตอบว่า ใช่ๆ ต้องพยายามต่อไปอีก ทางแสนยาวไกล

9.3 ถ้าเราเป็นแม่ที่เก่งกว่านี้ก็คงดี ตอบว่า เปลี่ยนแม่ไม่ได้แล้วลูกเอ๋ย..ยังไงก็ต้องยัยแม่มดคนนี้แหละ

9.4 แล้วต้องพูดอังกฤษกับลูกจนถึงเมื่อไรเนี่ย ตอบว่า พูดไปเรื่อยๆก็ได้ ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับลูกด้วย ยังมีอะไรอีกเยอะให้เรียนรู้

9.5 แล้วถ้าเราหยุดพูดอังกฤษ หลังจากที่พูดมาเป็นปี แล้วลูกจะลืมหรือเปล่า
ตอบว่า ถ้าหยุดจริง ก็คิดว่าลูกจะต้องซ่อนความสามารถทางภาษาที่เราได้ปลูกฝังไว้ ไม่มากก็น้อยค่ะ

9.6 เด็กลืมง่ายอยู่แล้วนี่ ถ้าเราหยุด เค้าก็ลืม แล้วเราจะทำไปทำไมฟะ
ตอบว่า ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเพื่อลูกจริงๆไหมคะ

9.7 ออกไปข้างนอกพูดภาษาอังกฤษกับลูกก็อายเค้าจัง กระท่อนกระแท่น ผิดๆถูกๆ
ตอบว่า เดี๋ยวนี้ดีขึ้นค่ะ มั่นใจมากขึ้น เพราะว่าส่วนมากเป็นประโยคซ้ำๆ ไม่เห็นต้องอายใคร

ถึงขณะนี้ลูกจะยังไม่เก่งมาก แต่เราก็ภูมิใจอ่ะนะ (คนเป็นแม่) ว่าเค้าสามารถโต้ตอบกับเราได้
และเค้าก็พยายามคิดคำศัพท์ออกมาโต้ตอบมากขึ้น บางครั้งเราก็รอลุ้นให้เค้าพูดออกมาจนเหนื่อยเลยนะ
รู้ว่าเค้าคิดประมวลออกมาเป็นคำพูดอยู่

ส่วนตัวเราเองก็ต้องพัฒนาอีกเยอะค่ะ
1. มีคำถามมาถามทุกวัน จนบางวันคุณอ๊อบ มารอตอบให้ รู้หน้าที่ดีจริงๆ
2.เข้าเวปทุกวัน เช็คการออกเสียงก่อนพูดกับลูก
3.อ่านหนังสือภาษาอังกฤษเพิ่มพูนความรู้ที่มีอันน้อยนิด
4.พยายามดูดีวีดีการ์ตูน และหนังเด็กๆ ที่พอมีประโยคให้ใช้ได้ (นอกจากดีวีดีเทพ)

ได้ความคิดใหม่ว่า เราต้องมองบวกเข้าไว้
อย่าคิดว่าเราทำไม่ได้ ต้องคิดว่าเราต้องทำได้ซิน่า
ถ้าเราคิดดีแล้ว เราจะฝ่าฟันอุปสรรคการเริ่มต้นไปได้
แหม..เขียนซะ..ตัวเอง ประสบความสำเร็จแล้วงั้นแหละ...
ไม่ใช่หรอกค่ะ... ก็เพิ่งเริ่มต้นเหมือนกัน
แต่อยากมาแชร์ให้ ผู้ที่กำลังเริ่มต้นรู้ว่า
มันมีแบบแผนแบบนี้นะ กี่เดือนเป็นแบบนี้
มีคนทำก่อนแล้ว แล้วได้ผล อย่ารอเลย ทำเลย

สุดท้ายนี้ขอบอกว่าใช้เวลาเขียนบล๊อกนี้นานมาก ประมาณ2 ชม.
เขียนไปลบไป กลัวคนอ่านเบื่อ และปวดตา
หวังว่าข้อความนี้จะเป็นกำลังใจให้ใครหลายๆคน
ได้ทำตามความฝันที่วางไว้ ให้เป็นจริงค่ะ
เริ่มกันได้เลย "พ่อแม่สองภาษา สร้างลูกได้"
เอ้ย...ไม่ใช่ "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้"

****************************************************************

8 พฤศจิกายน 2552 เวลา 08.04 น.

ขอเอาคลิปมารวมกันในบล๊อกนี้นะคะ
เพราะตอนนี้เริ่มกระจัดกระจายแล้ว
เผื่อว่ามีบางท่านหาไม่เจอค่ะ
เป็นพัฒนาการตอน 6.5 เดือนและ 7.5 เดือน

https://go2pasa.ning.com/video/2456660:Video:95594

https://go2pasa.ning.com/video/the-farmer-and-the-snake

*****************************************************************

13 พฤศจิกายน 2552 เวลา 08.32 น.

อยู่ๆก็คิดขึ้นมาว่าเอากระทู้ที่โพสไว้เมื่อก่อน
ที่ห้องพัฒนาการมารวมกันไว้ที่นี่ดีกว่า
เพื่อหวนรำลึกความหลัง

พัฒนาการตอน 2 เดือน
https://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/play-on-the-t...
https://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/did-you-hear-...

พัฒนาการตอน 3 เดือนกว่า
https://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/wait-a-minute...

พัฒนาการตอน 4 เดือน
https://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/2456660:Topic...
https://go2pasa.ning.com/group/bilingual/forum/topics/wait-a-minute...

Views: 3049

Comment

You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!

Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

Comment by YaYo & JaJa & MamaKim on March 2, 2010 at 8:13pm
ขอบคุณคุณเล็ก ที่สละเวลา 2 ช.ม.แชร์ประสบการณ์ ที่เป็นกำลังใจให้ใครหลายๆคนได้ รวมถึงกิ้มด้วย

คุณเล็กเล่าได้เห็นภาพเลยค่ะ ความรู้สึกคงคล้ายๆกัน
สำหรับคนที่ไม่ได้มีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
และ เรียนมาจากระบบการศึกษาแบบเก่าๆ
(ไม่รู้เมื่อไหร จะเปลี่ยนซักที...
อยากให้เด็กไทยทุกคน พูดEng ได้แบบธรรมชาติ ไม่ต้องมานั่ง แปล คิดมาก ลำบากเหมือนเรา..ตอนนี้)

..ทั้งๆ ที่เป็นคนพูดเก่ง แต่เจอฝาหรั่ง ก้อ อึ้งกิมกี่...อึดอัดตัวเองมานาน...
ตอนนี้โอกาสดี..มีสิทธิ์เรียนฟรี.. ที่เวบนี้....

เข้ามายกมือ เห็นด้วยกะคุณเล็ก ทุกประการ (*o*)/"
ขอบคุณ คุณเล็ก และทุกท่านในเวปนี้เป็นที่สุด.....
Kim & de family
Comment by กัญญ์พิชญา ตันติวัฒนพงศ์ on February 12, 2010 at 8:31am
Wow อ่านแล้วมีกำลังใจจังค่ะ ชื่อดานะคะ
เจอปัญหาเหมือน ๆ กันเลยค่ะ
แต่ก็จะสู้ ๆ เพื่อลูกนะคะ
Comment by ทันญารัตน์ บุญมาเลิศ on February 2, 2010 at 3:13pm
อ่านแล้วมีกำลังใจอยากต่อสู้ ต่อไป สู้ สู้ เช่นกันคะ เป็นกำลังใจให้กันและกันด้วยนะคะ
Comment by พ่อแม่น้อง Dragon on January 27, 2010 at 3:19pm
ละเอียด และได้ความรู้มากๆเลยคุณเล็ก ขอเก็บไว้เป็นแนวทางให้เจ้า dragon ก้าวสู่ฝันที่เป็นจริงซะหน่อย ...
Comment by ภิรมย์พร เด็ทท์บาร์น on January 24, 2010 at 9:39pm
สู้ๆๆๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
Comment by Prim & Poom on January 24, 2010 at 1:51am
มาอ่านเอากำลังใจอีกรอบเล็ก ขอบคุณที่มีบล็อกดีๆแบบนี้ให้อ่านนะจ้ะ
Comment by ยศภัด มีเดช on January 24, 2010 at 1:46am
ประทับใจอีกแล้ว อ่านแล้วเห็นภาพความตั้งใจจริงและความพยายามของคุณเล็ก สุดยอดคุณแม่จริงๆ ขอชื่นชมจากใจจริง และขอบคุณมาก ๆ ที่แบ่งปันประสบการณ์ให้ฟัง..เอ็ย ให้อ่านจ้า
Comment by แม่น้องวาเม on January 17, 2010 at 10:31pm
ขอบคุณคุณเล็กมาก ๆ ค่ะ เป็นคำแนะนำที่ดีมากและตรงเผง ! เลย ศรีก็พยายามพูดทุกวัน ด้วยความที่สมองไม่ค่อยจะจำต้องจดติดผนังบ้านเต็มไปหมด เวลาเดินผ่านจะได้อ่านไปด้วย บางทีกำลังยืนอ่านลูกสาวก็มายืนฟังซะงั้น คำถาม-ตอบ ในห้อง Club E ศรีก็ print (เขียนไม่ไหวเยอะแยะไปหมด) ออกมาเย็บเล่มเป็นคัมภีร์เอาไว้อ่าน ลูกสาวมีแซวว่าคุณแม่ขยันเรียนจัง ต้องพกติดตัวตลอดแทบไม่ห่างเลย ว่างเป็นหยิบขึ้นมาดู ตั้งแต่เริ่มจนถึงวันนี้ เรารู้สึกว่าดีขึ้นสามีก็ชมว่าดีขึ้น แต่มีปัญหาใหม่มาอีกคือ ศรีจะะพยายามพูดกับลูกประมาณ 50% บางวันก็พูดเยอะกว่านี้ แต่จะไม่ต่ำกว่านี้ กลายเป็นว่าลูกชอบไปเล่นกับพ่อแทน ไม่ยอมเอาแม่เลยถ้าพ่ออยู่ (วันหยุด) เราเลยไม่ค่อยได้พูดกับเค้าเลย และเค้าก็ไม่อยากให้เราร่วมวงด้วย เราเลยมานั่งอ่านคัมภีร์ แต่ทำให้เรารู้สึกว่าเราทำถูกหรือเปล่า ที่เราพูดกับเค้าเป็นประโยคยาว ซึ่งสามีบอกว่าให้พูดเป็นคำ ๆ ดีกว่า แต่ศรีก็คิดว่าตอนอยู่กับเราสองคนเค้าก็เข้าใจและสามารถตอบ yes,no ได้อีกอย่างที่ รร. ก็เรียนกับครู E ทุกวัน คิดดูแล้วก็ไม่น่าจะผิด หรือคุณเล็กว่าไงค่ะ ส่วนใหญ่ศรีก็จะพยายามพูดกับเค้าในประโยคซ้ำ ๆ เลยทำให้เราพูดกับเค้าน้อยลงเพราะถ้าพูดประโยคใหม่ เรากลัวเค้าจะไม่เข้าใจ
Comment by Mommy Dearest on January 15, 2010 at 11:55am
เพิ่งได้มาอ่าน ผ่านตาไปได้ไง ต้องทึ่งในความขยันของแม่เล็ก และความเก่งของน้องเนยค่ะ เหมือนส่วนประกอบที่ลงตัว ขาดไปอย่างไดอย่างหนึ่งก็ออกมาไม่ได้ดี ความพยายามเป็นเครื่องปรุงที่ดีมากเลยนะคะพี่เล็ก
Comment by แม่น้องเนย on January 15, 2010 at 11:28am
ขอขอบคุณทุกๆคนนะคะ ที่เข้ามาอ่านบล๊อกกันค่ะ

สำหรับคุณศรี-แม่น้องวาเม (ชื่อน่ารักจังค่ะ) เริ่มเลยนะคะ

ตอนที่เล็กเริ่มต้นเอง เล็กก็แย่นะ คิดไม่ออกเหมือนกันค่ะ
เล็กก็หยุดๆจดๆมาเหมือนกัน คิดเป็นประโยคไม่ทันเพราะเราติด
ที่แปลจากไทยเป็นอังกฤษ วุ่นวายในหัวมากค่ะ

ถามว่ามีเทคนิคยังไง

1.อาศัยความสม่ำเสมอค่ะ สมองคนเรายิ่งได้ใช้ ได้ฝึกฝน มันจะทำงานได้เต็มที่ขึ้น
พูดง่ายๆก็คือ จะคิดออก พูดได้ลื่นขึ้น ออกมาเอง โดยที่บางครั้ง
เรายังกลับมาคิดว่า เฮ้ย...ที่เราพูดเมื่อกี้ถูกไหมว๊า ถูกแกรมม่าไหมเนี่ย แต่พูดออกไปแล้ว

2.คิดล่วงหน้าว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะพูดยังไง (อันนี้คุณแพท แม่บ้านห้องอังกฤษ แนะนำมาค่ะ)
เช่นสมมุิติว่าพ่อกับลูกกำลังเล่นกันหรือคุยกันหรืออ่านหนังสือกัน (พูดกันเป็นภาษาไทย) เราก็ดูแล้วก็คิดว่า
ถ้าเป็นเรา เราจะพูดว่าอะไรได้บ้างในภาษาอังกฤษ แล้วก็มาหาคำตอบใน "ห้องอังกฤษ" อิอิ

3.เรื่องสำเนียง เล็กก็มีปัญหาเยอะค่ะ เพราะเป็นคนพูดไม่มีโทนสูงต่ำค่ะ ราบเรียบ อิอิ
ก็กำลังฝึกอยู่ค่ะ โดยฟังดีวีดี เทพ ทั้งหลายนั่นแหละค่ะ ก็จับเป็นประโยค พูดบ่อยๆ
ทีละนิด ต้องอาศัยเวลา

4.เรื่องความชัด เสียง final sound อันนี้สำคัญมาก เล็กไม่ได้เน้นตรงนี้ตั้งแต่แรก
เพราะเราเองก็พูดไม่ชัด เช่นเสียงลงท้าย k ch ge
ตอนนนี้เนยพูดได้เยอะ แต่ไม่ชัดเลย ก็กำลังฝึกกันใหม่อยู่ค่ะ

เล็กว่าภาษาอังกฤษที่ไม่ใ่ช่ภาษาแม่ เราไม่มีคู่ซ้อม มีแต่ลูก
ซึ่งลูกก็ย่อมเลียนแบบแม่นั่นแหละ เราก็ควรเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ลูก
ดังนั้นเราก็ต้องอาศัยพวกสื่อต่างๆให้มากที่สุดค่ะ

เป็นกำัลังใจให้นะคะ มีอะไรถามที่ห้องส่วนตัวเล็กก็ได้ค่ะ

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service