ดิฉันดีใจมากที่ได้พบเว็บไซต์บ้านสองภาษา และได้พบว่ายังมีอีกหลายครอบครัวที่เห็นความสำคัญถึงการที่เด็กน้อยสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ก่อนเข้าอนุบาล ซึ่งยุคนี้นับว่าเป็นยุคของคุณคุณแม่รุ่นใหม่ที่อยากให้ลูกสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของภาษาซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินเอื้อมที่เราจะสามารถสร้างลูกของเราได้
ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวบ้านสองภาษามาได้ 3ปีครึ่งแล้ว แต่เพิ่งจะพบเว็บไซต์นี้และก็รีบสมัครเป็นสมาชิกทันที เนื่องจากครอบครัวของดิฉันย้ายไปอยู่ต่างประเทศ 3ปีกว่า แต่จะต้องย้ายกลับเมืองไทยปีหน้า จึงต้องเตรียมใจว่าลูกจะต้องกลับไปเรียนรู้ภาษาไทยและ ด้วยความที่กลัวทักษะภาษาอังกฤษของลูกที่ได้ติดตัวมานิดหน่อยจะสูญหาย จึงต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมและขอแรงบันดาลใจที่จะเป็นครอบครัวสองภาษาต่อไป
จริงๆแล้วตัวเองยังไม่เคยอ่านหนังสือเด็กสองภาษาของคุณบิ๊ก แต่ได้ดูจากวีดีโอที่คุณบิ๊กให้สัมภาษณ์ตามรายการต่างๆก็รู้สึกทึ่งและเห็นด้วยกับวิธีการสอนของคุณบิ๊ก ซึ่งตังดิฉันเองก็ฝึกลูกมาสามปีกว่า ซึ่งแนวทางก็คล้ายๆกับคุณบิ๊กและขอยืนยันว่าวิธีการเหล่านั้นใช้ได้ผล และเป็นวิธีฝึกแบบวิธธรรมชาติจริงๆ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนพัฒนาลูกของเราเป็นเด็กสองภาษาต่อไปนะคะ ^^
ใครว่าอยู่ต่างประเทศจะเก่งภาษาอังกฤษมากกว่าคนอยู่ไทย ขอบอกว่าไม่จริงนะคะ! จากประสบการณ์ของตัวเองที่ต้องอยู่ตปท.กันลำพังพ่อแม่ลูก เริ่มต้นที่ไม่มีญาติและคนรู้จักทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ตามสัญชาติญาณการเอาตัวรอดก็เริ่มสรรหาวิธีและใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกทั้งตัวเองและลูกให้พูดภาษาอังกฤษ ให้ฝรั่งเค้าเข้าใจเรามากที่สุด ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากดูทีวี ฟังเพลง อ่านหนังสือและทุกสื่อที่เป็นภาษาอังกฤษ ก็ค้นพบว่าการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง ดูการ์ตูนเด็ก และคุยกับเด็กนี่แหละที่ทำให้เราพัฒนาภาษาได้เร็วขึ้น หลังจากนั้นดิฉันก็เริ่มพูดคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่ลูกอายุ 1ขวบเป็นต้นมา
เริ่มแรกเมื่อลูกอายุขวบกว่าๆ สอนลูกพูดคำนามต่างๆเป็น Eng ก่อน เช่น milk, chair, table ... พอลูกเริ่มคุ้นเคยกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษแล้ว ก็เริ่มเพิ่มคำกริยาเข้ามา เช่น Have a shower, Hang on, Listen to Mommy, Come here, please, Press it, Sneeze, Cough, Cry เป็นต้น
ส่วนเรื่องดูการ์ตูนจำได้ว่าตอนนั้นจะระวังเรื่องการดูทีวีของลูกมากเพราะมีความเชื่อที่ว่าเด็กอายุต่ำกว่าสองขวบไม่ให้ดูทีวีเกินครั้งละ1ชม. ก็เลยจะไม่เน้นการ์ตูนมาก พอลูกอายุ 2ขวบก็เริ่มให้ดูการ์ตูนมากขึ้นเพราะอยากให้ลูกได้ฟังสำเนียงการออกเสียงที่ถูกต้อง
พอมาถึงตอนกลับเมืองไทยนี่แหละคะ (ลูกอายุ3ขวบ) ทั้งพ่อทั้งแม่ไม่ได้คุยภาษาอังกฤษกับลูกเลย เพราะอะไรเหรอค่ะ? ก็เพราะกลัวคนจะว่าเรากระแดะที่คุย Eng กับลูกน่ะสิคะ และพอกลับไปที่ออสฯอีกครั้งคราวนี้แหละคะลูกไม่ยอมให้แม่พูด Eng ด้วยเลย เพราะเค้ารู้สึกว่าคุยภาษาไทยมันดูตื่นเต้นและสนุกกว่าพูดอังกฤษ(กับแม่) ดิฉันก็ตามใจลูกค่ะ เพราะคิดว่าเค้าไปอยู่เดย์แคร์เค้าก็จะได้ภาษาอังกฤษเอง แต่ด้วยความที่ลูกเราเป็นเด็กเอเชียคนเดียวในห้องทำให้เค้าเป็นเด็กขี้อายและไม่ยอมพูดคุยมากเท่าไหร่ จนพี่เลี้ยงที่เดย์แคร์เรียกเค้าว่า Mr. Quiet. นี่แหละคะที่ทำให้พัฒนาการการพูดเริ่มเป็นไปอย่างช้าๆ
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้