เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไปทุกวันที่ลูกอยู่กับเราที่บ้าน
คิดว่า ถ้าลูกได้ไปโรงเรียน เขาคงจะได้อะไรที่ดีกับตัวเขาเองมากกว่านี้ คงฉลาดและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
แล้วนี่ก็ใกล้จะครบ 3 ขวบแล้ว ตื่นนอนทุกวันนั่งนับวันเวลาที่ผ่านไปโดยทำอะไรไม่ได้ตามแผน ยิ่งนับจำนวนวันมันยิ่งทบทันเรื่อยๆ จนจะเป็นปีแล้วที่ตั้งใจจะสอนหนังสือลูก แล้วชีวิตก็นเวียนอยู่กับการหาข้าวให้กิน เอาเขาหลับ เอาผ้าซัก ทำงานบ้าน พอว่างก็ทำได้แค่พาไปสนามเด็กเล่น ไปว่ายน้ำ สวนสัตว์ พาไปเที่ยว พวกกิจกรรมการเรียนแบบนั่งหัดนับเลข ทำมอนเตสซอรี่อะไร ไม่ได้ทำ พวกวาดรูปให้ลูกดูเพื่อทำ mind map ก็ไม่ได้ทำ รู้สึกโทษตัวเองมากขึ้นทุกวันๆ
ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ ไม่ใช่การนำทางลูกแล้ว นำไม่ไหวแล้วว่าอายุเท่านี้ควรรู้นั่น รู้นี่ -- มีสิ่งต่างๆมากมายเหลือเกิน เกินที่จะนับได้แล้ว ว่าแม่ไม่ได้ทำอะไรบ้าง --
ที่ทำได้ คือ วิ่งตามลูกให้ทัน มองเขา สังเกตเขา แล้วเราก็รู้ว่าลูกเราชอบอะไร เราก็เดินไปกับเขาทางนั้น
ลูกชอบรถและยานพาหนะทุกอย่างมาก ตอนนี้หนังสือหัดอ่านเรียนศัพท์ส่วนใหญ่ในบ้าน จะเป็นพวกรถไฟ เครื่องบิน เรือ หุ่นยนต์
อย่างเล่มนี้ Step Into Reading : Wall-E เราซื้อมาเพราะลูกชอบ Wall-E มาก ต้องดูทุกวัน วันละหลายๆรอบก็ไม่เบื่อ (แต่เรากลัวลูกจะสมาธิสั้น) เราก็เลยต่อยอดเอาหนังสือ wall-e มาอ่านเลยดีกว่า หลังจากนั้นพอดู Wall-E ด้วยกันกะลูก ก็จะพากย์ตามหนังสือเล่มนี้ ลูกสนุกมาก .. พอมีหนังสือลูกก็ติดหนังน้อยลง เช่น ตื่นนอนปั๊บก็ไปคุ้ยเอาเล่มนี้มาให้แม่อ่านทันที ว่างเป็นหยิบอ่าน ทำให้น้ำตาแม่แทบไหล รู้สึกคุ้มเงินที่จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์จริงๆ ตั้งใจว่า..ต่อจากนี้ลูกชอบดูหนังเรื่องไหน แม่จะซื้อหนังสือภาพมาให้อ่านหมดเลย อ่านหนังสือเด็กได้เรียนรู้อะไรมากกว่าดูหนังจริงๆ ...ดู wall-E มาเป็นร้อยรอบ พูดอะไรไม่ได้เลยนอกจากชื่อ wall e / eve / moo / space ship แต่พออ่านหนังสือแล้วก็เริ่มรู้จัก Sun Power, Trash, goody,smash, storm, tread, flash...etc.
วันแต่ละวันผ่านไป โดยแม่ก็ต้องทำงานบ้าน ทำงานส่วนตัว หาข้าว อาบน้ำ เอาลูกหลับเหมือนเดิม แต่ต่อไปนี้มันจะต่างออกไป ตรงที่เวลาลูกไม่หลับ แม่จะไม่แวบมาทำงานแล้วปล่อยให้ดูทีวีกะเล่นเองอีกแล้ว เพราะแม่กลัวจริงๆว่าถึง 3 ขวบเราจะเป็นเด็กสมองฝ่อ ต่อไปนี้แม่จะพาไปเดินให้ทั่วเมือง เพราะว่าลูกชอบขี่จักรยานกับสกูตเตอร์มาก และแม่ก็เป็นสถาปนิก แม่มีงานอดิเรกคือ เดินสำรวจเมือง ซอกเล็กซอกน้อยก็ชอบเดินหมด ดูว่าคนแต่ละที่เขาอยู่กันยังไง เลยกะว่าจะพาลูกไปเดินด้วยกัน แล้วเจออะไรระหว่างทางก็ค่อยชี้ชวนสังเกตกัน น่าจะเป็นโอกาสให้เราแม่ลูกได้คุยกัน มากกว่าอยู่กับบ้าน... เราได้ลองทำตาม concept นี้มาแล้ว 2 ครั้ง
วันแรกเราไปสำรวจแถวอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ร้านอาหารเยอะแยะ ลูกได้ไปเล่นสกูตเตอร์บเนินหญ้า คิดว่าลูกได้เรียนเรื่องแรง (ฟิสิกส์) ทางอ้อม เขารู้ว่าเวลาไถลงมาจากเนิน มันจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ไถบนหญ้าก็จะฝืดกว่าบนถนน เขาได้ปีนบันได้ลิง ได้มีโอกาสวัดสัดส่วนตัวเองกับของเล่น แล้วกะระยะ ได้มีโอกาสตัดสินใจจะเสี่ยงหรือไม่ดี เอาความปลอดภัยตัวเองเป็นตัวประกัน ฝึกจิตใจให้เข้มแข็ง (แฟนกลัวลูกตกมาก แต่เราเชื่อว่าเด็กฉลาดพอรู้ว่าตรงไหนเขาไปได้ ไม่ได้)
วันนี้เป็นวันที่สองที่ทำ ได้พาลูกไปเดินแถวศรีย่าน ลูกได้เห็นบ้านเรือน มันแตกต่างจากคอนโดที่เราอยู่ยังไง หัดไถสกูีตเตอร์บนรางน้ำ ซื้อน้ำปั่นข้างทางให้เขากินแก้ร้อน เป็นประสบการณ์ดี
DVD โปรดของลูกคือ Blue Clue เพราะลูกชอบศิลปะมาก Blue Clue จะมีไอเดียการทำงานศิลปะที่เราเอามาเล่นกับลูกได้เยอะแยะ เราตั้งใจว่าจะทำตาม เช่น
- เกมแปะกระดาษสี(สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม) แปะเสร็จ ใช้จินตนาการว่าเป็นอะไรได้บ้าง แล้วเอาดินสอสีมาวาดเพิ่ม รูปร่างเดียวกัน จำนวนเท่ากัน สามารถเกิดเป็นรูปสิ่งของต่างๆกัน ตรงนี้สนุก
- เกมทำหุ่นมือจากถุงเท้า
- เกมทำหุ่นมือจากถุงกระดาษ
เมื่อก่อนลูกไม่เข้าใจเรื่องสีเลย ไม่รู้ว่า black red blue คืออะไร จนวันนึงเราอารมณ์ไม่ดีแล้วเพนท์ผนังบ้าน ลูกมาช่วยด้วย ลูกมาขอสี เราเลยได้คุยกันถึงชื่อสีต่างๆ เขาก้เพนท์ไปพูดชื่อสีไป วันนั้นวันเดียว เขาพูดชื่อสีได้ 6-9 สี
เราสังเกตได้ว่า เขาจะเรียนรู้สิ่งต่างๆจากการลงมือทำ ดังนั้นการเปิดหนังสือแล้วชี้ให้ดู ใช้ไม่ได้ผลกะลูกเราเท่าไร
คณิตเป็นสิ่งที่ปวดหัวจริงๆ ตั้งแต่การสอนเรื่อง empty - full สอนมาหลายเดือนละ ยังไม่รู้ว่า get รึเปล่า ไม่มีปฏิกริยา
วันนี้พาลูกไปซื้อกระดุมหลากสี ว่าจะให้หัด sorting สี กลายเป็นว่า ลูกเอามาเทเล่น แล้วก็ไม่แยกสี ไม่รู้ทำไม สุดท้ายก็เอาชามใส่กระดุมมาเคาะพื้นเล่น
ตอนนี้ตั้งใจว่าจะซื้อการ์ดจุด มาเล่น จริงๆก็มีให้โหลดฟรี แต่เราเห็นแล้วว่าลูกเรามันตัวชอบทำลาย เลยอยากได้ของที่มันแข็งแรงหน่อย คิดว่าซื้อดีกว่า
และตั้งใจว่า จะนับเลขปากเปล่าให้ลูกฟังทุกวัน ครั้งละ 1 นาที เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
ยังไม่รู้ว่าจะสอน pattern ลูกได้ก่อนเข้าประถมไหม เพราะเวลาสอบเข้าประถมก็ต้องสอบเรื่องพวกนี้ด้วย แสดงว่าโดยธรรมชาติแล้วเด็กควรทราบเรื่อง Pattern ดีแล้ว เมื่ออายุ 5-6 ขวบ ..กลัวจริงๆ ว่าเราจะไปไม่ถึงตรงนั้น
จับคู่เหมือน สอนมานานมาก เพิ่งได้เห็นปฏิกริยาเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนอ่าน Step into reading Thomas ในหนังสือมีรถไฟ 2 คัน หน้าตาเหมือนกันเลย ตอนเราเห็นเราก้องงๆ เฮ้ย ทำไมมันมาเหมือนกันเลย ผิดรึเปล่า แต่หนังสือบอกว่า Douglas and Donald are alike. แล้วหน้าถัดไปก็มีเกมจับคู่ ลูกชี้เลยว่า ไอ้นี่เหมือนไอ้นี่
ใครมีประสบการณ์สอนลูกเล็กๆ 2-3 ขวบ มีอะไรที่ควรสอนเขาบ้าง แนะนำหน่อยนะคะ
Comment
ตอนนี้ลูก 2 ขวบ 9 เดือนแล้วค่ะ ยังแต่งตัวเองไม่ได้เลย อยากฝึกเหมือนกัน จริงๆก็ฝึกอยู่ แต่ไม่สำเร็จ ลูกจะไม่ยอมทำตามที่บอกแลย จะยืนเฉยๆ -- หนังสือที่แนะนำช่วยสอนวิธีหัดลูกหรือเปล่าคะ?
รู้สึกลูกคุณชัชชญาโตกว่าอายุมากๆเลย ทำได้หลายอย่าง ช่วยแนะนำวิธีวางเบี้ยด้วยได้ไหมคะ
โดยส่วนตัวจะไม่มีแผนการอะไร แต่ที่จะไม่ลืมคือบันทึกพัฒนาการที่ลูกทำได้ในแต่ละช่วง(คำสั่งแม่สามี) จะเน้นให้ลูกรู้จักการช่วยเหลือตัวเองก่อน ตอนนี้น้องอายุ 20 เดือนแล้ว เค้าจะใส่กางเกงเอง รองเท้าเอง ถอดกางเกง รองเท้าเอง ทุกเช้าตื่นนอนเค้าจะเรียกหรือว่าเคาะระฆังที่แขวนไว้ให้ พอเราเปดประตูก็จะเห็นเค้ายืนถือขวดนมรอที่จะเอาไปวางที่อ่างล้างจาน ถ้าเล่นของเล่นแล้วต้องเก็บที่เดม แรกๆ ก็ยากมากเลยที่จะให้ลูกทำอะไรเอง แต่เนื่องด้วยภาระกจที่มากมายเลย ต้องยอมเสียเวลาฝึกในช่วงแรก เวลาที่ลูกทานข้าวนี่แหละเป็นเวลาที่แม่ได้อาบน้ำ พอไปที่ร้านก็จะให้เค้าช่วยจัดของเข้าตู้(แยกของต่างๆ) พอเย็นก็ออกกำลังกาย หรือบางครั้งก็จะชอบรดน้ำต้นไม้เก็บดอกไม้มาร้อยบ้าง
ส่วนที่เน้นวชาการก็การวางเบี้ยเพราะจะช่วยให้เค้ามีสมาธและรู้จักนั่งน่งๆบ้าง นอกนั้นก็ตามแต่สถานะการณ์ค่ะ อยากแนะนำหนังสือเรื่อง ชวนลูกเที่ยวอ่านเล่น ของแม่จาและน้าแต้วค่ะ จงมีความสุขกับส่งที่ทำโดยไม่หวังผลของมัน
ขณะเดียวกัน เจ้าตัวเล็กเอง ก็ได้ซึบซับกับที่สิ่งที่แม่ทำด้วย เป็นการใช้เวลาว่างที่คุ้มค่ามากจ้ะ และพี่ก็เชือ่วา ทุกประสบการ์ณืที่เจ้าตัวเล็กได้พบ ได้เห็น ได้สัมผัส จะเป็นประสบการ์ที่เค้าจะไม่มีวันลืมจ้ะ ว่าเค้าได้ทำกิจกรรมที่เค้าและแม่มีความสุขจ้ะ
งานบางอย่าง เช่น งานบ้าน ทำกับข้าว ซักผ้า น้องมิ้น อาจจะต้องลดความคาดหวังลงบ้าง หรือทำให้ง่ายขึ้น เพื่อที่มิ้นจะได้มีเวลากลับมาอยู่กับลูก และสำคัญ อย่าลืมนะ แม่มิ้น ก็มีเลือดเนื้อ มีหัวใจ มีอารมณ์ ความรู็สึก ที่ทั้งดี และไม่ดีเกิดขึ้นได้ และสำคัญ ความรู้สึกเหล่านี้ ควรได้รับการดูแลและเอาใจใส่ด้วยจ้ะ พี่อยากให้มิ้นพยายามหาเวลากลับมาอยู่กับตัวเอง กลับมาดูแลตัวเองด้วยนะจ้ะ เพราะพี่เชื่อว่า ถ้าแม่แข็งแรง รู้จักดูแลตัวเอง ลูกก็จะมีสุขภาพแข็งแรงด้วยเหมือนกันจ้ะ
เป็นกำลังใจให้เสมอจ้ะ
เห็น ด้วยกับพี่หน่อยว่า สิ่งที่น้องมิ้นทำให้ลูก มันเยอะทีเดียวเชียวนะจ้ะ เยอะยิ่งกว่าที่พี่ให้กับลูกซะอีก อย่าเพิ่งรู้สึแย่กับตัวเองนะจ้ะ
หลายสิ่ง หลายอย่าง เราคงต้องให้เพื่อนๆ และคนในชุมชนที่รู้จัก สนิทด้วย เข้ามาช่วยด้วยเหมือนกัน เพราะมันมีหลายอย่างที่แม่ก็ทำไม่ได้เหมือนจ้ะ
และ สิ่งที่ประทับที่สุด คือ ชอบตรงที่น้องมิ้นพาลุกไปทำกิจกรรมเดินชม สำรวจบ้านเมือง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น้องมิ้นชอบ ถนัด และรัก เชือไหมว่า เจ้าตัวเล็กสามารถสัมผัสถึงอารมณ์ความรู้สึกที่มีความสุข และสนุกของแม่ได้แน่นอน ทำให้เค้ายิ่งมีความสุข และสนุกด้วย ยิ่งกว่านั้น เจ้าตัวเล็กเองก็ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากของจริงด้วยเลย เยี่ยมมากจ้ะ
เรื่องทำงานบ้าน และให้เด็กๆช่วยพยายามจะทำให้เป็นกิจวัตร แต่ทำไม่ได้สักที ภารกิจแ่ต่ละวันมันไม่แน่นอน .... ไม่รู้จะทำไงดี
เห็นด้วยกับคุณแม่ค่ะ นอกจากการอ่านหนังสือแล้ว การได้ลงมือทำของจริงเป็นสิ่งที่ดีมาก และขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ค่ะ แต่ขอแนะนำเพิ่มเติมค่ะ คุณแม่อาจทำงานบ้านไปด้วยและให้น้องมีส่วนช่วยก็ได้ค่ะ เพราะที่บ้านน้องพีคอายุ 1 ปี 8 เดือน วันไหนที่มาม๊าต้องทำงานบ้านก็ให้น้องมีส่วนร่วมด้วย เป็นการฝึกนิสัยไปในตัวค่ะ เช่น กวาดบ้าน กวาดใบไม้ ถูพื้น ล้างรถ ก็เป็นการฝึกกล้ามเนื้อที่ดี สนุก ดีกว่าดูแต่ TV ค่ะ ถึงแม้จะเลอะเทอะไปบ้างก็ตาม หรือคุญแม่อาจซื้อสีน้ำหรือสีเทียนมาให้น้องฝึกการใช้กล้ามเนื้อมือก็ได้ค่ะ แต่แนะนำเป็นสี non-toxic and washable นะค่ะ
© 2025 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้