เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
ได้ฤกษ์เขียนบล็อกซะที
จริงๆ จะบอกว่าเพิ่งเริ่มก็ไม่ถูกนัก ก่อนหน้านี้ได้มาเขียนบล็อกแล้วทีนึง
แต่ยังไม่ทันได้ save เนื้อหาก็หายไปโลด เขียนซะยาว เลยหมดกำลังใจไปรอบนึง
คราวนี้เลยกลับมาใหม่ หลังจากไปเวิร์คช้อปกับผู้ใหญ่บิ๊กมาเรียบร้อย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ก็ได้อ่านหนังสือทั้งสองเล่มของผู้ใหญ่บิ๊ก
และเริ่มปฏิบัติกับน้องอินอิ๋นตั้งแต่น้องเล็กๆ กันเลย
เล่มแรก อ่านตอนน้อง 6 เดือน มาม้าก็ฟิต speak ใหญ่ น้องก็ทำตาปริบๆ
มาม้าเลยหมดกำลังใจเลิกไป มาอ่านเล่ม 2 ตอนน้องอายุได้ 1 ขวบเป๊ะ
ก็เลยเริ่มใหม่อีก (เป็นพวกต้องเติมเชื้อไฟเป็นระยะๆ 55)
ตอนแรกก็ไปตกลงกะแฟน กะว่าให้แฟนพูดภาษาอังกฤษ
เพราะเค้าเรียนอินเตอร์มา ภาษาดีกว่าเราเยอะ
ปรากฏว่า แฟนบอกให้เราพูดภาษาอังกฤษ เค้าจะพูดภาษาไทยให้เอง แปร่วววว
ไม่ให้ความร่วมมือกันเล้ย แต่เราก็ไม่ย่อท้อ กะว่าภาษาตัวเองก็ไม่แย่น่ะ
เรียนจบมาขนาดนี้ โทเฟลก็สอบได้คะแนนระดับที่มหาลัยเมืองนอกรับได้
(สอบแบบใหม่ที่ต้องพูดด้วยนะ ยากสุดๆ ขอโม้หน่อย)
เลยเอาผ้าแดงมาคาดหัว ชูสองนิ้ว สู้ตายฮ่ะ
ว่าแล้ว ก็เริ่ม speak กับลูกมาตั้งแต่นั้น โดยใช้ระบบพูดตามแม่สบายใจ
คือส่วนใหญ่ speak english แหละ แต่ถ้าเวลาจะบ่นหรือสั่งสอนเป็นการเป็นงาน ก็ขอภาษาไทยบ้าง
ที่สำคัญคือใช้เพลงเข้าช่วย ทั้งเปิดทั้งร้องให้ลูกฟัง คิดท่าประกอบใส่เองเสร็จ
แม่ก็มันส์ ลูกก็มันส์ พ่อฟังไปฟังมา ก็เริ่มมันส์ไปด้วย แดนซ์กระจาย 555
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ อินอิ๋นอายุได้ 1 ขวบกับ 6 เดือน
มาม้าก็ยังพูดกับลูกอยู่ ยังร้องเพลงและคิดท่าประกอบเหมือนเดิม
พูดซ้ำๆๆๆ จนบางประโยค หลานก็ฟังจนบอกว่า หลอนแล้ว
อินอิ๋นก็ฟังรู้เรื่องนะ ทั้งคำศัพท์ก็ค่อยๆ เพิ่มไป
ประโยคคำสั่งก็ทำตามได้ ได้ยินเพลงก็ออกสเต็ปตามมาม้าได้
บางทีก็ออกสเต็ปนำหน้าจนมาม้าไม่รู้ว่าหนูมีเพลงอะไรอยู่ในหัว
แต่ลูกยังไม่ยอมพูดอยู่ดี ภาษาไทยก็ไม่ค่อยพูด พูดแค่มาม้า ปาป๊า และคำเล็กคำน้อยนิดหน่อย
จนหลายคนเริ่มทักว่า พูดภาษาอังกฤษกับลูกมากไปเปล่า ลูกเลยสับสนไม่ยอมพูดเลย
เราก็ไม่ได้เชื่อหรอก เพราะคนพูดภาษาไทยกับเค้าตั้งเยอะ เค้าก็ไม่ยอมพูดภาษาไทย
แต่จะว่าไป มาม้าก็เริ่มเสีย self
ว่าแล้วก็เลยไปเติมเชื้อเพลิง เข้าเวิร์คช้อปกับผู้ใหญ่บิ๊กสักรอบ
สิ่งที่คิดไว้เลยนอกจากแนวทางปฏิบัติที่จะได้รับแล้ว ก็คือไปเจอพวกเดียวกัน
ถ้าเราทำอยู่คนเดียวมันก็ท้อ ต้องไปหาพวก จะได้มีแรงบันดาลใจ
ว่าแล้วก็ลากฝาละมีไปด้วย กะว่าฟังแล้วจะได้ร่วมสนับสนุนหน่อย
แต่บอกตามตรงว่า คุณสามีก็ยังไม่ได้สนับสนุนมากไปกว่าเดิมอยู่ดี
เค้ามีความเชื่อว่า ภาษาฝึกตอนโตก็ได้ เพราะเค้าก็ฝึกตอนโต ก็ไม่เห็นจะแย่ตรงไหน
มันจะมีสักกี่คนล่ะที่เป็นแบบเค้าน่ะ ใช่มั้ย
เอาเป็นว่าเค้าก็ไม่ห้าม แค่บอกว่า นี่ก็เป็นอีกแนวคิดนึง ถ้าอยากทำก็ทำ
เราก็เลยทำต่อไป แล้วก็ดีใจที่พบว่ามีคนที่คิดแบบเดียวกันอีกเยอะ
เพียงแต่ว่า พอฟังผู้ใหญ่บิ๊กแล้ว ให้เกิดหดหู่เล็กน้อย
เนื่องจากผู้ใหญ่บิ๊กบอกว่า ถ้าลูกไม่พูดตามออกมา เท่ากับว่าเค้าได้รับแค่ 15%
เราก็แป้วน่ะ สอนมาตั้งนาน ลูกก็พอรู้เรื่องนะ แต่ไม่ยอมพูดสักที
ลูกพูดช้า ก็กลัวจะเป็นปัญหา ว่าจะไปปรึกษาหมออยู่เหมือนกัน
ล่าสุดนี่ เราก็เอาซีดีที่ผู้ใหญ่บิ๊กให้มา ไปเปิดให้ลูกฟัง
เริ่มจากคายุก่อน ฟังๆ ไปก็มันส์ดีนะ พี่เลี้ยงก็สนับสนุนเปิดให้ลูกเราเวลาอื่นด้วย
แต่แล้ว อาม่ามาได้ยินเข้า บอกพี่เลี้ยงว่าวันหลังอย่าเปิดแผ่นนี้อีก
มันแย่งอินอิ๋นพูดหมด มิน่าถึงพูดไม่ได้ซะที
เราก็ถึงกับเอ๋อ เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย
แต่เรามันพวกชอบปฏิวัติ ยังไงก็จะเปิดอยู่ดี แต่อาจจะเอาแผ่น ABC มาเปิดก่อน
ตอนอินอิ๋นฟังคายุ ก็มีเรื่องตลกนะ
เราก็เปิดไปเรื่อยๆ กะว่าฟังไม่รู้เรื่องไม่เป็นไร ให้มันคุ้นๆ ภาษาไปก่อน
บางทีก็เอาประโยคที่ฟังมาพูดกับลูกบ้าง ลูกก็เล่นอย่างอื่นไม่ค่อยฟังเท่าไหร่
แต่พอถึงตอนที่คายุร้องเพลงเท่านั้นแหละ
(ถ้าใครฟังแล้ว คงนึกออกเพลงเกี่ยวกับ detective น่ะ)
อินอิ๋นถึงกับออกสเต็ปยกมือยกไม้ซะมาม้าตกใจเลยทีเดียว
ก็เลยถึงบางอ้อ ที่แท้ลูกเลือกฟังนี่เอง ตรงไหนชอบก็ฟัง ตรงไหนไม่ชอบก็ผ่านๆ
เพลงนี่มีอิทธิพลกับเด็กจริงๆ
เราเลยว่าฝึกภาษาโดยใช้เพลงนี่แหละสนุกที่สุด หลานๆ มาฟัง ยังขอให้สอนร้องบ่อยๆ
ว่ามาซะยืดยาว ก็พบว่าหนทางยังอีกไกลนัก
จนกว่าอินอิ๋นจะยอมเปิดปาก speak ให้มาม้าชื่นใจ ก็ต้องพยายามกันต่อไป
สู้ตายทาเคชิ!!!
Comment
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้