ขอบันทึกเรื่องราวเล็กๆ ที่น่าภูมิใจของเรา

[Ju (Jui Jui's mommy)]

จุ้ยจุ้ยเรียน K1 มาสองปีแล้ว เนื่องจากปีแรกที่เข้าเรียนจุ้ยจุ้ยอ่อนว่าเกณฑ์ถึง 1 ปีเต็ม (2.5ขวบ) ปีแรกมั่มมี๊รู้ว่ายังไงก็ต้องเรียนซ้ำชั้นแน่ๆ คุณครูก็บอกไว้ก่อนและมั่มมี๊ก็ยินดีด้วย เพราะอยากให้ลูกพร้อมก่อนขึ้น K2

ปีแรกผ่านไปอย่างยากลำบากด้วยความไม่พร้อมที่จะไปโรงเรียนของลูก เสียน้ำตาตั้งแต่ต้นปีจนจบ K1 เลยก็ว่าได้ แต่จะร้องตอนแยกจากกันเท่านั้น เรื่องหลักๆ คงเป็นเรื่องนี้ เรื่องความไม่พร้อมในการแยกจากพ่อแม่ ส่วนเรื่องเรียนคุณครูบอกจุ้ยจุ้ย Catch up ได้ทันเท่าๆ กับเพื่อน แต่เรื่องกล้ามเนื้อมือยังไม่ดีมากนัก

ปีที่สองของ K1 จุ้ยจุ้ยเปลี่ยนไปมาก มีความพร้อม Parents meeting ตอนสิ้นเทอมแรกคุณครูบอกจุ้ยจุ้ยพร้อมที่จะเป็นนักเรียน K2 แล้วนะ เพราะปรับตัวได้ดี มีทัศนคติกับโรงเรียนดีขึ้นมาก คุณครูยังงงว่าทำไมเปิดเทอมมาถึงไม่ร้องไห้แล้ว จริงๆ มั่มมี๊ให้จุ้ยจุ้ยขึ้นรถตู้ระยะสั้นไปโรงเรียนแทนที่จะไปส่ง หลายๆ ครั้งแอบตามรถตู้ไปดูด้วยว่าไม่ร้องจริงเหรอ ปรากฏว่าจริง จุ้ยจุ้ยไม่ร้องไห้อีกเลย หลังจากขึ้นรถตู้ (แปลกดี มีคนแนะนำมาน่ะค่ะ)

เมื่อวานนี้เป็นวันสุดท้ายของปีการศึกษา ที่ห้องจัด Party กัน มั่มมี๊ก็เอาของไปแจกเด็กๆ ด้วย พอส่งจุ้ยจุ้เสร็จก็มาทำงานเลย ตอนเย็นหลังเลิกงานกลับมาบ้าน มั่มมี๊ช่วยทำแผลและอยู่กับอาม่าจนค่ำๆ จึงขึ้นมาที่ห้อง ปะปี๊ก็เอาซองกระดาษกับของขวัญมาแล้วบอกว่าจุ้ยจุ้ยมีอะไรจะบอก แต่ไม่ได้บอกหรอกค่ะ เพราะว่ารีบแกะของขวัญ (โชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้แกะจากที่โรงเรียน สงสัยคุณครูจะให้มาแกะที่บ้าน)

เปิดซองกระดาษออกมามีใบประกาศว่าจุ้ยจุ้ยได้รับเลือกเป้น Best Student ของ K1 จุ้ยจุ้ยหน้าบาน มั่มมี๊กับปะปี๊ก็ดีใจที่จุ้ยจุ้ยได้รับคัดเลือก มั่มมี๊บอกจุ้ยจุ้ยว่าให้รักษาสิ่งดีๆ ที่ทำเอาไว้ไปเรื่อยๆ นะครับ

(ขอเบลอบางส่วนเอาไว้นะคะ)

Best Student Academic Year 2009-2010
This certificate is awarded to Tee Aa K1
For having achieved the highest academic standard in their class for the school year 2009-2010

ตัวแสบเพิ่งอาบน้ำเสร็จขอถ่ายรูปคู่กับรางวัล

ของรางวัลที่ได้เป็นหนังสือ Board Book Thomas โรงเรียนให้ความสำคัญในเรื่องการอ่านอย่างมากค่ะ จริงๆ แล้วที่บ้านไม่ค่อยสอนวิชาการลูกซักเท่าไหร่ ไม่มีเรียนเสริมอะไรเพราะยังเด็ก เรียนแต่ดนตรี แต่การอ่านทำให้จุ้ยจุ้ยเป็นเด็กที่กระตือรือร้นอยากรู้หลายๆ เรื่อง ที่บ้านของเล่นน้อยหนังสือเยอะค่ะ ของเล่นไม่ค่อยมีค่ะ ข้อดีคือจุ้ยจุ้ยจะหาของใกล้ตัวมาประดิษฐ์เป็นสิ่งที่เค้าต้องการ บางครั้งก็ work บางครั้งก็ไม่ แต่เค้าก็จะหาทางทำให้ได้

รางวัลอะไรก็ไม่ดีเท่าการรู้จักตนเอง ถึงแม้ลูกจะไม่ได้รางวัลอะไร แต่ลูกรู้จักตนเอง และรู้จักเคารพผู้อื่น นั่นคือรางวัลที่พ่อแม่ได้รับแล้ว

สุดท้าย แง่คิดดีๆ ที่เราได้รับ "เมื่อลูกพร้อม เค้าจะยินดีและมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ" ลูกไม่เคยร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียนเลย รู้แต่ว่าวันธรรมดาต้องไปโรงเรียน วันศุกร์ไปโรงเรียนเสาร์อาทิตย์อยู่บ้านกับพ่อแม่ เย้ๆ

เอาไว้จะหาเวลามาเขียนเรื่อง K1 ว่าเรียนอะไรบ้าง เผื่อแม่ๆ ที่กำลังทำ Home school ที่บ้านจะนำไปใช้ประกอบการสอนค่ะ

[Ju (Jui Jui's mommy)]

เรียนรู้ตามวัย ส่งเสริมสิ่งที่เค้าสนใจ เป็นหลักในการเลี้ยงลูกของที่บ้านค่ะ เด็กแต่ละคนก็มีลักษณะนิสัย ความชอบแตกต่างกัน เมื่อลูกทำได้เค้าจะมั่นใจ และไปไกลกว่าที่เราคิด เพราะเด็กๆ มีศักยภาพแบบไม่มีขีดจำกัด :)

[รุ่งนภา เรืองสรณะรัตน์]

คุณจูค่ะ ลูกสาวก็เกือบ ๆ จะเป็นแบบน้องจุ้ยจุ้ยเหมือนกันค่ะดีที่พ่อกับแม่กลับตัวทันตอนแรกไปสมัครให้น้องเค้าให้ขึ้น k 1 เลยขอเค้าไงค่ะเพราะไม่อยากเสียเงินไปเปล่า ๆ หนึ่งปีในการต้องเรียนpre school น้องเกิดเดือนสิงหาไงค่ะมันช้ากว่าเกณฑ์ไปนิดนึงแต่เค้าก็ให้ขึ้น k 1 โชคดีที่ก่อนเรียนมีการให้เด็กๆ มาคุ้นเคยกับการเรียนและโรงเรียนก่อนที่นี่เค้าเน้นภาษาอังกฤษแบบเข้ม ๆ เลยค่ะ เหมือนกับว่าให้เด็กปรับตัวก่อนเข้าเรียนจริง ๆ เรื่องภาษาไม่กลัวค่ะ แต่ที่เห็นชัด ๆ คือพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อสู้เด็กที่เค้าตามเกณฑ์ไม่ได้จริง ๆ อันนี้ต้องยอมรับเลยว่าถ้าเรียนจริง ๆ ลูกเรารั้งท้ายไม่ทันเพื่อนๆ แน่และอาจจะเป็นปมด้อยสำหรับเขาเลยตัดสินใจไม่เรียนที่นี่ค่ะเสียเงินค่าแรกเข้าไปฟรี ๆ 5000 แต่ก็ยอมค่ะ เราไปเร่งเค้าไม่ได้จริง ๆ ตอนนี้เวลาเจอใครก็จะแนะนำเค้าแบบนี้ค่ะ เพราะว่ามันเป็นประสบการณ์จริง ลืมบอกไปค่ะตอนนี้ลูกสาวเข้าโรงเรียนแนวทางเลือกค่ะ ไม่เน้นเขียน อ่าน เรียนรู้ผ่านการเล่นค่ะ

[Ju (Jui Jui's mommy)]

ไปตอน 3.5 ดีกว่าค่ะพี่เล็ก รอให้น้องพร้อมซักหน่อยดีกว่าค่ะ
ส่วนเรื่องกลัวโดนขโมยจูว่าเป็นกันหลายๆ คนนะคะ ยิ่งคนที่มีอีกโลกในอินเตอร์เน็ต เปิดเผยตัวเองมากไปเนี้ยะ ยิ่งกลัว จูเคยเขียนไดอารี่อยู่ช่วงนึง แต่ลงรายละเอียดมากไปหน่อย บอกหมดทุกอย่างเรียนโรงเรียนไหน อย่างไรเพราะคิดว่าอยากให้คนที่เข้ามาอ่านแล้วสนใจโรงเรียนได้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ จนวันนึงมีสายโรคจิตโทรมาตอนตีสอง ไม่พูดอะไรเลยค่ะ เป็นอย่างนี้หลายวันติดกัน กลัวมากๆ เลย ก็ต้องไปบอกครูว่าดูลูกให้หน่อยนะคะ ไดอารี่ก็ปิดไปก่อน ตอนนี้เปิดใหม่แล้วแต่ว่าข้อมูลลูก โรงเรียนนี่จะไม่ลงเลย เดี๋ยวแม่จะ Paranoid อีกน่ะค่ะ

[แม่น้องเรอิ-เลอา-ลูค]

เป็นปลื้มด้วยคนค่ะ น้องจุ้ยๆเก่งมากๆค่ะ ตอนแรกพี่ก็อยากให้เรอิ-เลอาเข้าอนุบาลตอน 2.5ปีเหมือนกัน แต่คิดอีกทีกลัวว่าเค้าจะไม่พร้อม เลยรอตอน 3.5ปีดีกว่า (แถมพ่อหวงลูกสาวด้วย ไม่อยากให้ลูกไปรร. กลัวลูกถูกขโมย อิอิ)

[Ju (Jui Jui's mommy)]

ขอบคุณมากค่ะ

[Anfield's mommy]

ยินดีด้วยค่ะ ^^ รักการอ่านตั้งแต่เด็ก เค้าจะติดการอ่านไปจนโตเลยค่ะ

[สุภาพร(แม่ปั้น฿แป้ง)]

ว้าว เยี่ยมๆค่ะ

[Ju (Jui Jui's mommy)]

ยินดีค่ะ ไว้จะถ่ายรูป worksheet ที่จุ้ยจุ้ยเค้าเรียนมาให้ดู อาจจะไม่แตกต่างจากโรงเรียนไทยมากนัก

[mom_jenita]

ตามมาปลื้มด้วยค่ะ คุณจู เก่งมากเลยจ้า..จุ้ยจุ้ย อยากฟังนะคะเรื่อง K1 ว่าเค้าเรียนอะไรกันบ้างค่ะ ภารอติดตามค่ะ มาบอกตรงนี้ด้วยค่ะ คุณจูได้รับหนังสือแล้ว ถูกใจมากกกกก...ค่ะ ดีมากๆเลยค่ะ เดี๋ยววันหลังไปเหมาอีก อิอิ

[จันทรตณา จันทร์ศรีนาค]

เก่งค่ะภูมิใจด้วยนะค่ะ