หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

สอนลูกเองก็ได้...ง่ายจัง 18 : กดเครื่องคิดเลขทำไม ในเมื่อคิดในใจได้เร็วกว่า

ฉิก : สวัสดีครับ มิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน ไม่ได้เจอกันซะนานนะครับ
เพื่อมิให้เป็นการซ้ำซากจำเจ วันนี้ผมมีแขกพิเศษมาร่วมในการสนทนาครั้งนี้ด้วยซึ่งก็มิใช่คนอื่นไกล เพราะ เราก็แอบพูดถึงเธออยู่บ่อยๆ หลายครั้งหลายครา

แอ่น แอน แอ๊น....ยินดีต้อนรับ ....น้องพลอย ลูกสาวคุณป้อม คนนี้...นี่เองงงง

น้องพลอย : Hi! What’s up, dude?

ฉิก : เอ่อ พูดกันเป็นภาษาไทยดีกว่านะครับคุณน้อง คือ พอดีพี่ไม่ค่อยถนัดในการ speak English ซักเท่าไหร่ แบบว่ามันรู้แค่ snake-snake, fish-fish เองง่ะ ครือ...กลัวหน้าแตกมั่กมั่ก

เอ่อ...คุณพ่อน้องพลอยครับ วันนี้พวกเราจะคุยกันเรื่องอะไรดีครับ

ป้อม : พอดีวันก่อน ผมไปเห็นหนังสือเล่มนึงน่าสนใจดี พออ่านจบแล้วลองสอนน้องพลอย ก็ได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ เลยอยากมาร่วมแชร์ประสบการณ์ตรงนี้กับคนอื่นๆบ้าง วันนี้จึงชวนน้องพลอยมาร่วมโชว์ความสามารถพิเศษเล็กๆน้อยๆ

อืมม.... คุณฉิกเคยดูรายการ “ถ้าคุณแน่...อย่าแพ้เด็กประถม” ไหมครับ วันนี้ผมจะให้คุณฉิกทำแบบนั้นแหล่ะ มาลองตอบปัญหาแข่งกับเด็กที่กำลังจะขึ้นชั้นประถม2 ซึ่งก็คือน้องพลอยวัย 6 ขวบกว่าๆนี่แหล่ะ โดยผมจะตั้งโจทย์คณิตคิดในใจให้คุณฉิกลองพยายามคิดให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องใช้ปากกา และ กระดาษเลยนะครับ ใครตอบได้ก่อน และ ถูกต้องถือว่าได้คะแนนข้อนั้นไป OK นะครับ

ฉิก : (ซวยแล้วตู) อ่า...คือว่า เรื่องคิดเลขในใจนี่ผมเองก็ไม่ค่อยถนัดอ่ะครับ คือแบบว่ามันลืมไปหมดแล้ว ทุกวันนี้ก็ใช้แต่เครื่องคิดเลขซะจนเคยตัว อันนี้คงต้องขอบายนะครับ

ป้อม : นี่คุ้ณณณณณณณ ....อย่าปอดแหกไปหน่อยเลย
จะคิดมากไปไยครับ กะอีแค่แข่งกับเด็กประถมตัวกระเปี๊ยก
ถึงคุณจะลืมๆไปบ้าง แต่ก็น่าจะได้เปรียบเด็กอยู่มากโขนา ลองดูก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่

ฉิก : เอ้า...เอาก็เอา เห็นอย่างนี้ สมัยเด็กๆผมก็เก่งเลขใช่ย่อยนะครับ
คือแบบว่าไม่อยากเอาเปรียบกันเกินไป เดี๋ยวจะหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก
เอางี้ ผมจะต่อให้น้องเค้าบ้างก็ได้นะครับ โฮ่ๆๆๆๆๆ

ป้อม : ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมจะตั้งโจทย์เลขให้ มีทั้ง บวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน ทศนิยม และ เลขยกกำลัง….

ฉิก : เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โจทย์เด็กประถม2 บ้าอะไรกันครับ มีทั้งเศษส่วน ทศนิยม แถมยังเลขยกกำลังด้วย ชักจะไม่ชอบมาพากลแล้วนะเนี่ย รู้สึกเหมือนกำลังจะโดนพ่อลูกเขารวมหัวกันหลอกเรายังไงก็ไม่รู้

ป้อม : ก็ใช่น่ะซีครับ เอ้ย! ไม่ช่ายๆ คือ มันก็มีเกินหลักสูตรไปบ้างนิดหน่อยง่ะครับ แต่แค่นี้คุณฉิกคงไม่ครณามือหรอกใช่มั้ย แบบนี้คุณฉิกก็ยิ่งได้เปรียบนะครับ อย่าลืมสิ

น้องพลอย : ใช่ค่ะ เก่งไม่กลัว... กลัวช้า

ฉิก : (เอาวะ... ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนเด็กมันดูถูกเอาได้) ได้เล้ยยยยยยยย.....แล้วหนูก็อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่ง ตอนที่รู้ตัวว่าแพ้พี่แบบหมดทางสู้ละกัน วะฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

ป้อม : OK พร้อมแล้วนะครับ

ข้อแรก เอาง่ายๆก่อนนะครับ
1+2+3+4+5 ไปเรื่อยๆจนถึง 20 ได้เท่าไหร่

ฉิก : ได้เล้ยยยยย 1+2 ได้ 3 3+3 ได้ 6 6+4 ได้.....

น้องพลอย : 210 ค่ะ

ฉิก : เหวอ........ฟลุ้คป่ะเนี่ย

ป้อม : ถูกต้องครับ

ข้อต่อไป 1+3+5+7 ไปเรื่อยๆจนถึง 29 ได้เท่าไหร่

ฉิก : อีกแล้วเหรอ 1+3 ได้ 4 4+5 ได้ 9 9+7 ได้อะไรหว่า...

น้องพลอย : 225 ค่ะ

ฉิก : เฮ้ย!.....ฟลุ้คอีกหรือปล่าวเนี่ย

ป้อม : ถูกอีกแล้ว

ข้อต่อไป 234 x 11 เท่ากับเท่าไหร่

ฉิก : เอ่อ...อ่า 234 x 11 ต้องเอา 1 คูณ 234 ก่อน แล้วก็....

น้องพลอย : 2574 ค่ะ

ฉิก : เฮ้ย!!!!!!!!!!! อะไรกันฟะ

ป้อม : ถูกต้อง....ข้อนี้น้องพลอยได้คะแนนไปอีก

ข้อต่อไป (57) 2 ได้เท่าไหร่

ฉิก : งานเข้าแล้วตู (57) 2 คือ 57 x 57 ต้องเอา 7 มาคูณ 7 ก่อน ได้.....

น้องพลอย : 3249 ค่ะ

ฉิก : อึ้งงงงงงงงงงงงงงง .......

ป้อม : เก่งมากกกกก ข้อต่อไป....

ฉิก : เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมว่าคุณกับลูกสาวกำลังรวมหัวกันหลอกผมอ๊ะปล่าว สงสัยเตี๊ยมคำตอบกันมาแน่เลย

ป้อม : ผมปล่าวนา เอางี้ คุณลองตั้งโจทย์เองก็ได้ เอาเลขยกกำลังแบบเดิมก็ได้ เอาซัก 100 กว่าๆยกกำลังสองก็ได้

ฉิก : ถ้างั้นเดี๋ยวจัดให้........เอ่อ เอาเป็น (108) 2 เท่ากับเท่าไหร่ วะฮ่าฮ่าฮ่า....

น้องพลอย : 11664 ค่ะ

ฉิก : จ๋อยยยยยยยยยยยยยย........

ป้อม : ถูกต้องนะคร้าบบบบบบบ เห็นมั้ยว่าเราไม่ได้เตี๊ยมกันซักกะหน่อย
เพื่อมิให้เป็นการเสียเวลา

ข้อต่อไป 96 x 89 เท่ากับเท่าไหร่

ฉิก : (อะไรกันฟะเนี่ย ไม่ให้ใช้กระดาษ กับ ปากกาแล้วตูจะคิดยังไงล่ะเนี่ย)

น้องพลอย : 8544 ค่ะ

ฉิก : โอย...ให้โดนแส้เฆี่ยน เทียนลนซะยังดีกว่า อย่าบอกนะว่าถูกอีกน่ะ

ป้อม : เยี่ยมมมมมมม ถูกอีกแล้ว ตอนนี้น้องพลอยนำคุณฉิกไป 5 ข้อแล้วนะครับ

ข้อต่อไป 150 หารด้วย 14 ได้เท่าไหร่ ช่วยตอบเป็นทศนิยมด้วยนะครับ

ฉิก : บ้าไปแล้ว ใครจะไปคิดออกโดยไม่ต้องเขียนในกระดาษล่ะครับ....

น้องพลอย : ประมาณ 10.7142857 ค่ะ ….

ฉิก : เฮ้ยยยยยยยยยยยย.......

ป้อม : เก่งมากครับ

ข้อต่อไปเลยนะครับ 57 x 53 เท่ากับเท่าไหร่

น้องพลอย : 3021 ค่ะ

ฉิก : เป็นไปได้ไงเนี่ย ไม่ถึง 5 วินาทีด้วยซ้ำ
ยอมแพ้แล้วคร้าบ ยอมแพ้แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น

ฮือ ฮือ ไม่นึกว่าวันนี้เราจะต้องมาเสียผู้ใหญ่กันแบบนี้

ช่าย.....พี่มันแย่....ที่แพ้เด็กประถม

ป้อม : อย่าเพิ่งเสียใจไปเลยครับคุณฉิก เอ้า...น้องพลอย วันนี้พอแค่นี้ก่อน ไว้วันหลังค่อยมาเจอคุณน้าเขาอีกนะ

น้องพลอย : ขอบคุณค่ะ คุณน้าฉิก วันนี้หนูสนุกมากเลย ไว้ว่างๆมาเล่นกันอีกนะคะ Bye-bye

ฉิก : โอย...ปวดตับ ประทับไตมากเลยครับ ทึ่งมากเลย ทำไงครับเนี่ย น้องเขาถึงได้คิดเลขเร็วผิดมนุษย์มนาซะขนาดนั้น

ป้อม : จริงๆแล้วไม่มีอะไรหรอกครับ การคิดเลขในใจนี่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Mental calculation ที่คุณฉิกเห็นว่าน้องเขาคิดเลขได้เร็วมากๆ จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งที่เขาเรียกว่า Fast math tricks น่ะครับ มักจะใช้เวลาแสดงให้เพื่อนฝูงดู แล้วคนดูก็มักจะเกิดอาการทึ่งไปตามๆกันว่าทำได้ไง ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนนึงมันเป็นเทคนิคพิเศษที่ทำให้เราคิดเลขได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ แต่อีกส่วนนึงก็อยู่ที่การฝึกฝนคิดและทำบ่อยๆด้วย จึงจะเกิดความชำนาญ

ฉิก : เรื่องคิดเลขเร็วนี่ บางคนก็บอกว่ามันไม่มีประโยชน์นี่ครับ เพราะถึงที่สุดแล้ว แม้ว่าเราจะฝึกให้เก่งยังไง ท้ายสุดเวลาเจอเลขยากๆ เห็นก็กดเครื่องคิดเลขกันทุกที เพราะ มันเร็วกว่า สะดวกกว่า และ ก็ถูกต้องกว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องไปฝึกคิดในใจให้เสียเวลาเลย

และ โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ส่วนมากก็เน้นการวิเคราะห์ การแก้ปัญหามากกว่า การคิดตัวเลขยุ่บยั่บๆไม่ใช่เหรอครับ มีเหตุผลส่วนตัวอะไรหรือเปล่าครับที่คุณป้อมชอบการคิดเลขในใจ

ป้อม : จริงๆแล้ว ผมชอบ”คิดนอกใจ” มากกว่านะครับ เอ้ย! ไม่ใช่ๆ พูดเล่นน่ะครับ ยังไม่ได้คิดอยากปีนต้นงิ้วซักหน่อย แหะ แหะ

คือเรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนเด็กๆ ผมมักชอบแข่งกับเพื่อนๆ ในการคิดเลขเร็วอยู่บ่อยๆ จะพยายามฝึกฝน และ ค้นหาเทคนิคใหม่ๆในการคิดเลขเร็วเป็นประจำ ซึ่งส่วนนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การเรียนคณิตศาสตร์สนุกขึ้น ท้าทายมากขึ้น และ ทำให้เราไม่กลัวเวลาเจอตัวเลขเยอะๆในการทำข้อสอบคณิตศาสตร์

ทักษะตรงนี้ช่วยผมได้มากเลยในการทำข้อสอบ ถ้าเป็นโจทย์ที่มีแต่ตัวเลขนะครับ ส่วนมากแค่ผมกวาดสายตาดูโจทย์ข้อนั้นแป๊บเดียว ผมก็ได้คำตอบคร่าวๆของข้อนั้นในหัวผมแล้ว บางทีก็ได้คำตอบออกมาเลยในเวลาอันรวดเร็ว อย่าลืมนะครับว่า ตอนเด็กๆเราทำข้อสอบคณิตศาสตร์ เขาไม่ให้เราเอาเครื่องคิดเลขเข้าไปด้วย ดังนั้นคนที่คิดเลขเร็วนี่ได้เปรียบแน่นอน

ส่วนโจทย์ปัญหา ก็ต้องฝึกทักษะการแก้ปัญหาโจทย์จริงอย่างที่คุณว่าจริงแหล่ะครับ แต่ในที่สุดแล้ว ส่วนใหญ่มันก็ต้องมาจบที่กระบวนการคำนวณตัวเลขอยู่ดี เวลาผมทำความเข้าใจกับโจทย์ และ พยายามแก้ปัญหา เมื่อผมคิดวิธีแก้ปัญหาได้แล้ว ผมก็มักจะได้คำตอบของข้อนั้นตามมาทันทีโดยไม่ต้องทดในกระดาษด้วยซ้ำ ถือว่าเป็น "ตัวช่วย” ที่ดีมากๆครับ

ตอนผู้ใหญ่ ผมก็นำความรู้นี้ไปใช้ในเวลาที่จะเลือกซื้อของ ทอนตัง คำนวณความคุ้มค่าในการเลือกลงทุนต่างๆ บอกได้เลยว่าคนที่คิดคำนวณในใจเก่งๆน่ะได้เปรียบมากเวลาที่ต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างลงไป แม้ว่าบางทีสถานการณ์นั้นมันก็ไม่ได้กี่ยวกับตัวเลขอะไรเลยก็ตาม

นอกจากนั้น คนที่ชอบคิดเลขในใจบ่อยๆนี่เขาบอกว่าช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้อีกต่างหากนะครับ คุณลองไปดูคุณตาคุณยายที่ขายของคิดเงินทอนตังเองทุกวันสิ พวกนั้นส่วนใหญ่จะดูไม่ค่อยจะหลงๆลืมๆเหมือนคนแก่ที่อยู่บ้านเฉยๆชัดเจนเลยแหล่ะ

ฉิก : อันนี้ confirm ครับ แถวบ้านผมก็มีคุณยายวัย 80 กว่า แกทั้งขายของเองทุกวัน และ เล่นไพ่ทุกคืน แถมยังพูดน้ำไหลไฟดับ และ ไม่เคยจำใครผิดเลยครับ ยิ่งใครเป็นหนี้แกนี่ แกยิ่งจำได้แม่นเลย ใครเบี้ยวแกนี่โดนแกด่าไฟแลบเลย

ป้อม : ผมไปเจอหนังสือเล่มนึงครับชื่อเรื่อง “กดเครื่องคิดเลขทำไม ในเมื่อคิดในใจได้เร็วกว่า” แต่งโดย ดร.อาเธอร์ เบนจามิน ที่เป็นนักคณิตศาสตร์ที่ชื่นชอบการคิดเลขในใจตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เป็นนักมายากลทางคณิตศาสตร์ชื่อดังไปแล้ว (Mathemagic) ลองดูในวีดีโอคลิปนี่ดูก่อน

พอผมอ่านๆหนังสือเล่มนี้ไปแล้ว ผมก็นึกถึงตัวเองสมัยเด็กๆเลย อีตาคนเขียนนี่ก็มี “ความบ้า” อะไรบางอย่างที่คล้ายๆกับเราเลยแฮะ ที่ว่าตอนเด็กๆ มักจะหมกมุ่นอยู่แต่กับตัวเลขได้ทั้งวัน และ พยายามคิดสูตรลัดในการคิดเลขเร็ววิธีต่างๆหลายแบบเอง

ผมเองยังแปลกใจเลยว่าตัวเองก็สามารถคิดสูตรลัดได้ตรงกับคนเขียนหลายอัน แถมบางสูตรที่คิดได้ยัง “เจ๋ง” กว่าของคนเขียนอีกต่างหากแน่ะ ไว้เที่ยวหน้าผมจะลองมาอธิบาย tricksต่างๆที่มีในหนังสือให้ฟังนะครับ รับรองเลยว่าคุณเองก็สามารถคิดเลขในใจแบบสายฟ้าแลบได้เช่นกัน

ลองอ่านปกหลังดูก่อนนะครับ เขียนได้ดึงดูดให้เราควักกระเป๋าซื้อมาก ๆ

“หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณสามารถคิดคำนวณแบบเดียวกับอัจฉริยบุคคลทางด้านคณิตศาสตร์ได้ภายเวลาไม่กี่ชั่วโมง คุณจะสามารถคิดเลขในใจได้เร็วราวกับกำลังแสดงมายากล

ถ้าคุณยังเรียนอยู่ คุณจะสามารถทำข้อสอบเสร็จเร็วและถูกต้องแม่นยำกว่าเพื่อนร่วมชั้น เพราะคุณไม่ต้องคำนวณลงบนกระดาษเลย

แต่ถ้าคุณอยู่ในวัยทำงาน คุณจะสามารถกระตุ้นเซลล์สมองไม่ให้ฝ่อ ด้วยการคิดคำนวณทั้งหมดในหัวคุณโดยไม่ต้องหยิบเครื่องคิดเลขออกมาจากลิ้นชักเลย

หลังจากนำเทคนิคง่าย ๆ ของดร.อาเธอร์ เบนจามิน ไปฝึกฝนอย่างคล่องแคล่ว คุณจะสามารถ...

• รู้คำตอบของ 47 x 11 ภายใน 1 วินาที
• รู้คำตอบของ 85ยกกำลังสอง ภายใน 2 วินาที
• รู้คำตอบของ 623 + 159 ภายใน 3 วินาที
• รู้คำตอบของ 511 x 7 ภายใน 4 วินาที
• รู้คำตอบของ 89 x 72 ภายใน 5 วินาที
• รู้คำตอบของ 4579 / 6 ภายใน 5 วินาที
• รู้ว่าต้องจ่ายเงินค่าสินค้าทั้งหมดประมาณเท่าไหร่ ทั้งที่พนักงานเก็บเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ตยังรวมราคาไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำไป

และที่สำคัญ คุณสามารถทำทั้งหมดนี้ได้โดยไม่ต้องเขียนลงบนกระดาษหรือกดเครื่องคิดเลขเลยแม้แต่ครั้งเดียว!”

ฉิก : อ๊ะ.....ชักสนใจแล้วสิว่า มันเป็นไปได้จริงๆเหรอ ลองไปหามาอ่านกันดูก่อนนะครับ แล้วเที่ยวหน้าเราค่อยมาคุยกันถึงเนื้อหา และ เทคนิคในหนังสืออย่างละเอียดอีกที ไปล่ะครับ

Create Date : 02 พฤษภาคม 2552

pomjom.bloggang.com