เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
เจี่ย ตือ บ่ะ เข้าใจไหมอาตี๋
ตอนนี้เจ้าลูกชายที่เริ่มทำตามแนวคิดเด็กสองภาษามาตั้งแต่เกิด อายุเกือบจะสองปีแล้ว เริ่มพูดเก่งและมักจะชอบออกเสียงตาม 2-3 คำหลังที่ได้ยินพ่อกับแม่คุยกัน ซึ่งเป็นภาษาไทย 100 % (ก็พ่อกับแม่คุยภาษาไทยกันนี่นา)
ดูเหมือนภาษาไทยของเจ้าตัวแสบจะนำหน้าภาษาที่สองไปไกลโข เพราะซันเดย์เลือกที่จะพูดภาษาอังกฤษอยู่ 2 คำ คือ pick … up เวลาที่จะขอให้อุ้ม และ open เวลาที่จะขอให้แกะห่อขนม เปิดประตู และอีกสารพัดการเปิด นอกจากนี้พูดไทยล้วนๆ
แต่แล้ววันของภาษาที่สองก็มาถึง หลังจากที่แม่ผู้ปรับปรุงภาษาอังกฤษจากขั้น งูงู ปลาปลา มาเป็น snake sanke fish fish พยายามสอนลูกมา 19 เดือน ก็ได้ยินเสียงลูกชายตะโกนลั่นมาจากในครัว มันเป็นเสียงร้องบอกอะไรสักอย่างที่มีสำเนียงของความไม่พอใจแฝงอยู่ ฉันแว่วเสียงแม่สามีที่มาช่วยดูลูกชายตั้งแต่เมื่อวานเพราะเราต้องไปทำงานนอกบ้าน
“อะไรนะ พูดอะไร” เสียงแม่สามีที่ฉันเรียกม่าม้าร้องถาม
“กวดาวสกฃวยดน” เสียงซันเดย์ตะโกนอะไรสักอย่าง ดังขึ้นเรื่อยๆ
“อะไรนะ” เสียงม่าม้ายังถามอยู่ ฉันที่กำลังจดอะไรหยุกหยิกจากห้องภาษาอังกฤษละจากหน้าจอเดินเข้าไปดูความขัดแย้งในครัว
“อะไรเหรอคะ ม้า” ฉันถามแม่สามีที่หน้ายุ่งเหมือนยุงตีกัน
“เอ๋ลองฟังสิ ซันพูดอะไร ม่าม้าฟังไม่รู้เรื่อง”
“What’s a matter, Sun?” ฉันหันไปทางลูกชายที่เริ่งแบะปากเกือบร้องไห้
“eat pork, eat pork” ซันเดย์ร้องอย่างสุดกั้น
“Oh! Eat pork,You wanna eat pork” ฉันว่าพลางยกถุงหมูหวานบนโต๊ะขึ้นชู ซันเดย์ชี้มือมาที่ถุงพร้อมทำ baby sign ท่า eat ประกอบ
“อ่า..ซันซันจะกินหมูค่ะม่าม้า pork คือหมูค่ะม้า” ฉันหันไปอธิบาย
“อ่า....” ม่าม้าคราง “คราวหลังต้องบอกอาม่าว่า เจี่ย ตือ บ่ะ นา... อาม่าฟังม่ายรู้เรื่อง” ม่าม้าว่าพลางหยิบหมูหวานใส่ข้าวเหนี่ยวยื่นให้เจ้าตัวแสบ ด้วยสีหน้าก้ำกึ่งระหว่างความขันและความอ่อนใจ
หลังจากวันนั้นฉันก็เฝ้าสังเกตลูกชายอย่างใกล้ชิด และในที่สุดก็ได้ข้อสรุบว่า ถ้าวันไหนพ่อไม่อยู่บ้าน(ซึ่งน้อยยย มาก....) ลูกชายฉันจะพยายามสื่อสารภาษาที่สองกับแม่(คงเข้าใจว่าแม่ฟังภาษาคน เฮ้ย...ภาษาไทยที่เขาพูดไม่รู้เรื่อง) เริ่มจากการพูดไทยแล้วแปลภาษาที่สองแถมให้ เช่น “ม่าม้า.. หมา หมา dog” “หมดแล้ว It’s gone”หรือ “นมหน่อย milk, more milk” พร้อมทำ sign ท่า please ประกอบ
และอีกหลายๆ คำที่เขาพูดขึ้นแบบ แปลไทยเป็นอังกฤษ แต่เอ...มันผิดหลักและเราไม่เคยสอบแบบแปลคำต่อคำอย่างนี้ให้นี่หว่า... ฉันเริ่มสับสน และเริ่มจับสังเกตลูกชายมากขึ้นไปอีก... ซึ่งผ่านไปอีกหลายวันก็ได้ข้อสรุปว่า
ทุกอย่างมันมาจากสมองอันปราชเปรื่องของเด็กๆ นี่เอง
เพราะซันเดย์รู้จักอวัยวะต่างๆ ในร่างกายในภาษาที่ 2 กว่า 10 อย่าง ก็แน่นอน... ฉันสอนให้นี่นา แต่เมื่อลองถามเป็นภาษาไทย ว๊าย...กรี๊ด... ไม่เคยสอนแต่ลูกชายก็สามารถตอบได้ถูกทั้งหมด แถมบางคำที่เขาไม่น่ารู้อย่างคำว่า ลื่นล้ม ประตูหนีบ ก็ยังสามารถพูดและเข้าใจความหมายได้อย่างถูกต้อง
โอ้...แม่เจ้า ทุกอย่างมันมาจากการสังเกต จดจำ เรียนแบบและประมวนผลในสมองน้อยนั่นเอง
ไม่ได้การล่ะฉันคงต้องเริ่มใหม่... ฉันทบทวนแล้วทบทวนอีกก็พูดกับพ่อเขาว่า
“นี่ตัวเอง ตัวเองต้องพูดกับลูกเป็นภาษาอังกฤษบ้างนะ เอาเท่าที่มั่นใจก็พอ แล้วบางประโยคที่เค้าพูดกับตัวเองได้ เค้าก็จะพยายามพูดเป็นภาษาอังกฤษให้ลูกได้ยิน”
“ห๋า...ทำไมล่ะ ก็ไหนว่าตัวเองจะ OPOL นี่นา” สามีที่การอ่านเขียนภาษาที่สองดีกว่าฉัน 10 เท่า เริ่มโวย
“ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ลูกเรามันฉลาดเกินจะ OPOL ไปแล้ว และอีกอย่างในสิ่งแวดล้อมก็มีแต่ภาษาไทยมากก......เกินไปแล้ว” ฉันลากเสียงยาว “ก็ตัวเองกับเค้าพูดภาษาไทยทั้งวัน บ่นก็เป็นภาษาไทย จนภาษาอังกฤษแบบ snake sanke fish fish ของเค้ามันไม่เข้าหัวลูกแล้ว” ฉันสะบัดเสียงยื่นคำขาด สามีส่งสายตาแบบตกกระไดพลอยโจน แล้วทำตามอย่างเสียไม่ได้
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์..................
“Mama, Look worm” ลูกชายชี้มือไปที่กิ้งกือ (เขาเรียก หนอนและสัตว์เลื้อยคานที่ดูเหมือนไร้ขาว่า worm)
“take a bath”
“dog dog …ing” (อยากจะพูดว่า coming แต่ยังพูดไม่ได้) และอะไรทำนองนี้ เท่าที่เด็กอายุเกือบ 2 ปีจะสื่อสารได้
แน่นอน...ฉันยิ้มแก้มปริ ก็ที่พยายามท่องจำ สู้ทน มันไม่เสียเปล่า ในที่สุดเราแม่ที่อ่อนภาษาและลูกที่นิยมไทยก็ทำได้แบบคนอื่นเค้าแล้ว เย้......
ซึ่งจะไปได้ไกลแต่ไหนอันนั้นคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับลูก แต่ขึ้นอยู่กับความพยายามของแม่คนนี้แล้วล่ะ เฮ้อ... (ไม่ท้อ แต่หนาวๆ ร้อนๆ ล่ะ)
ปล.ถึงเพื่อนๆ ที่กำลังเริ่ม จริงๆ แล้วที่บ้านเรา opol แบบพยายามจะ opol คือจะพูดในพื้นที่ปลอดภัย แบบที่คุณบิ๊กอธิบายเอาไว้ในเล่ม 3 ส่วนอะไรที่ไม่แน่ใจและยังพูดไม่ได้ ก้ให้พ่อเค้าพูดเป็นภาษาไทยไปก่อน หรือบางครั้งแม่ก็พูดไทยบ้างแต่พยายามให้น้อยที่สุด และที่สำคัญต้องสนุกกับมันให้มากที่สุด เพราะความเครียด การเร่งตัวเองมากเกินไป มันทำให้อารมย์เสียและลูกไม่มีความสุขนะจ๊ะ
มีตัวอย่างครอบครัวอ่อนภาษาที่ประสบในบ้านหลังนี้มากมาย มีกำลังใจและความช่วยเหลือในบ้านหลังนี้มากมาย อยากให้คนที่เริ่มแล้วเจอปัญหาอย่างเพิ่งทอดใจ และเดินไปในแนวทางเด็กสองภาษาด้วยกันนะ....
Comment
เป็นเรื่องเล่า ที่สนุกจังเลย ชอบอะค่ะ ช่วงนี้กำลังขี้เกียจเลย ไม่ได้แล้ว ต้องขยันซักหน่อยแล้ว สู้ๆค่ะ ทุกคน
อ่านไปขำไปอ่ะ เอ๋ไปเขียนพ็อคเกตบุ๊คขายได้เลยนะเนี่ย น่ารักมากๆ ไม่เจอกันนานเลย วันหลังนัดเจอกันดีฝ่า เอาป่ะ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ จะพยายามต่อไปค่ะ
น้องนุช..อาจจะเจอเหตุการณ์แบบพี่ก็ได้นะ ลองพูดกับคนรอบข้างแล้วแกล้งฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องบ้างสิจ๊ะ
พี่ว่าน่าจะได้ผลนะ
อ่านไปยิ้มไปจริงๆเลยค่ะคุณเอ๋ เจ้าซันเดย์ ไปไว แล้วอ่ะ ของนุชนี่ แม่มันพูดอังกฤษ ลูกพูดไทย หรือไม่ก็ ซัดภาษาใต้มาให้เต็มๆเลยค่ะ พี่(แต่ก็ดที่ฟังรู้เรื่องอยู่)
น่าแล้วนึกตาม เพลินดีค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้