เคล็ดลับการสร้างประโยคคุยกับลูก (ขอ Guru มาช่วยหน่อยจ้า) และวิธีช่วยให้จำและนำไปใช้

[Numwan&Paint สองพี่น้องจอมเซี้ยว]

น้องน้ำหวานเริ่มระบบ OPOL มาตั้งแต่ 1 ขวบ(ตอนนั้นยังพูดไม่ได้ค่ะ) ตอนนี้น้องอายุ 2 ขวบ 3 เดือน แล้ว ซึ่งแพรวกับเบญจเริ่มตันๆ แล้วค่ะ เนื่องจากเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เรื่องเลยค่ะ ตั้งแ่ต่อ่านหนังสือเด็กสองภาษาถึงมีแรงฮึดขึ้นมา สู้เพื่อลูก!!! เชื่อไหมว่าั้ตั้งแต่เกิดมาใช้ภาษาอังกฤษมากที่สุดในชีวิตก็คราวนี้แหละค่ะแม่เจ้า(มีใครเหมือนเราบ้างไหมเนี่ย) เรียนมาก็คืน teacher หมดแล้วจ้า

ตอนนี้เราอยากพูดกับลูกเยอะๆ(แบบเป็นประโยค) เพราะเราสร้างเงื่อนไขให้น้องน้ำหวานว่าเวลาพูดกับปาป๊ากับหม่ามี้ให้พูดเป็นภาษาอังกฤษ(แต่เวลาแพรวพูดกับเบญจเป็นภาษาไทยนะ ตอนนี้เค้าก็เข้าใจว่าปาป๊ากับหม่ามี้พูดกันเป็นภาษาไทยแต่เวลาคุยกับเค้าเป็นภาษาอังกฤษ และยังไม่เจอปัญหาค่ะ) ตอนนี้เจอปัญหาคือว่าน้องน้ำหวานคุยกับคนในบ้านเป็นประโยคภาษาไทยได้เยอะและหลากหลายจนเรารู้สึกว่าอยากกลับไปพูดภาษาไทยกับลูกจังเพราะอยากคุยกับลูกเยอะๆ และลึกซื้ง อยากอธิบายบางอย่างให้ลูกเข้าใจ แต่พอมาคิดเป็นภาษาอังกฤษ ทุกอย่างจบกัน ไปไม่เป็นเลยค่ะ

ความพยายาม คือก็พยายามขวนขวายหาความรู้จากการเข้า Web หาข้อมูล หาหนังสือมาอ่านเพื่อสร้างประโยคภาษาอังกฤษ แต่หัวมันไม่ไปจริงๆ ค่ะ (เวลาอ่านหนังสือก็มีตอนลูกหลับเท่านั้น มีใครเจอปัญหานี้บ้างไหม) ก็ทำให้ ท้อ ท้อ และก็ท้อค่ะ

[nathanon]

ผมเองเจอปัญหาเหมือนกัน ก็ขอเอาใจช่วยครับ  ผมเองก็จะพยายามเช่นกัน

[Tao's mamy รักในหลวง]

คุณแพรวลองฝึกภาษาจากพวกดีวีดีหนังการ์ตูนเด็ก หรือดีวีดีหนังผู้ใหญ่เรื่องที่คุณแพรวชอบดีมั้ยคะ รัตน์ว่ามันน่าจะดึงดูดใจให้อยากดู อยากศึกษาอ่ะค่ะ รัตน์ก็ใช้เวลากลางคืนหลังลูกนอนเหมือนกันนั่งดูดีวีดีหนัง เปิดcaption ดูไปด้วย สนุกดีอ่ะ เพราะอย่างหนังสือแำกรมม่าอ่านแล้วก็หลับทุ้กที จนเลิกอ่านไปแล้ว มีไว้อ้างอิงเท่านั้นเองค่ะ
ส่วนเข้าเว็บห้องอิงฯ นอกจากความรู้แล้ว ยังมีความสนุก ปนฮาๆ แทรกๆอยู่อ่ะค่ะ ทำให้เราจำศัพท์จำรูปประโยคไปใช้ได้ง่ายขึ้นค่ะ
อย่าพึ่งท้อนะคะ ยังมีเพื่อนร่วมทางอีกเยอะค่ะ ^^

[Jija]

มาเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ คือจิ๊เข้าใจอารมณ์ค่ะ ถ้าเราพูดไทยกะลูกคงสนุกกว่านี้ ลึกซึ้งกว่านี้ เพราะเราคล่องภาษาไทยมากกว่า จิ๊ก็เป็นค่ะ คือปกติก็พูดไม่ค่อยเก่งอยู่แล้ว คือจะเงียบ ๆ มากกว่า พอมีลูก ก็พยายามจะพูดให้มากขึ้น แต่บางครั้งภาษาอังกฤษก็ทำให้เราพูดน้อยกว่าปกติค่ะ

แต่จิ๊ว่ามันก็คงเป็นแค่ปัญหานึงที่คนเป็นแม่อย่างเราต้องค่อย ๆ เรียนรู้ ก้าวข้าม และ ผ่านไป อยากให้คุณแพรวคิดซะว่า เป็นอีกเรื่องที่แม่กำลังเรียนรู้เพื่อลูก ทำไปเรื่อย ๆ อย่าไปเครียดค่ะ เท่าที่ได้ ไม่ได้ก็ค่อยมาถามเอาที่ห้อง eng แล้วค่อยกลับไปลองใช้ใหม่ก็ได้ค่ะ

สู้ ๆ นะคะ ตอนทำอาจจะเหนื่อยค่ะ แต่เมื่อไหร่ที่ผลลัพธ์เริ่มปรากฏ รับรองคุณแม่หายเหนื่อยแน่ ๆ ค่ะ

[oagui]

เหมือนกันเลยค่ะ สอนภาษาอังกฤษ อันซิน มา ตั้งแต่เดือนกุมพา ปี 53 นี่เอง ตอนนี้มีนาแล้ว เขาก็รับรู้ได้มากขึ้น ตอนแรกก็เครียด แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว พูดให้เกลี้ยงเลย 3 ภาษา ถ้าประโยคไหนได้แค่ 2 ภาษาก็แค่นั้น ไว้รู้และค่อยสอนใหม่ ตอนนี้ อันซิน 1 ขวบ เกือบ 8 เดือน แล้ว ก็พูดตาม และ ทำตามคำสั่งมากขึ้น เหนื่อยค่ะ / แต่เป้าหมายมีไว้พุ่งชน / โฆษณากระทิงแดง เอามาใช้หน่อยเพื่อเป็นกำลังใจ สมัยก่อนรู้จักกับแฟน ญา ไม่รู้จักเลยนะ ภาษาจีนกลาง เขาส่งแมสเซสมาให้ หว่อ อ้าย หนี่ หาคนอ่านและแปลตั้งหลายคน กว่าจะเจอคนทั้งเขียนและพูดได้ เพราะคนที่รู้จักพูดได้ตั้งหลายคน แต่อ่านไม่ได้ หลังจากนั้น จนถึงวันนี้ก็ตั้งใจศึกษายามว่างงาน ตอนนี้ยังพูดได้ อ่านได้อบ้าง และ เขียนได้บาง ถ้าเราสอนลูกเราตั้งแต่เด็กทำไมลูกเราจะทำไม่ได้ ญาว่าค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเถอะ น่าจะสมหวังกันทุกคน นี่ก็ให้กำลังใจตัวเองด้วยแหละ 555

[2TyMom]

อาการเดียวกันเลย แรกฟก็พูดไทยปนอังกฤษ น้องก็เข้าใจ และก็อังกฤษมากขึ้น อย่าเพิ่งท้อ ไปเรื่อย อย่าเครียด เราพยายามทำดีที่สุดแล้ว เอางี้หาหนังการ์ตูน POCOYO ให้น้องดู เราก็จะรู้มากขึ้นด้วยค่ะ(เมื่อวานเพิ่งให้ลูกดู )

[แม่น้องวาเม]

มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ส่วนใหญ่เรา ๆ คุณพ่อ-แม่ ทั้งหลายที่เครียดๆ อยู่ในขณะนี้เพราะอะไร ? สรุปเพราะตัวเองทั้งนั้นแหละค่ะ พยายามอย่าเครียดดีกว่าไม่ต้องหวังว่าจะสำเร็จถึงไหน ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวผลลัพธ์ก็จะแสดงให้เห็นวันต่อวันอยู่แล้ว
อยากแชร์ประสบการณ์ว่า เริ่มกับลูกสาว 4 ขวบมาได้ประมาณ 3 เดือน ช่วงแรกที่เริ่มด้วยความที่แม่มีความตั้งใจสูงก็เลยหวังกับลูกสูง พูด E กับลูกเต็มที่เลย แต่ลูกเหมือนไม่ตอบรับ จึงทำให้ตัวเองเครียด ก็ได้คำแนะนำจากพี่ ๆ ที่นี่ เราเลยมาปรับเปลี่ยนใหม่ พูดเป็นคำ ๆ บ้าง เป็นประโยคบ้าง นึกไม่ออกก็โหมดไทยเลยง่ายดี ถึงวันนี้ประโยคที่แม่พูดบ่อย ๆ เพื่อให้เค้าฟังบ่อย ๆ เค้ารู้หมดแล้ว และยังสามารถตอบกับได้โดยที่ตัวเองยังไม่รู้เลยว่า ลูกพูดได้ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย อย่างเช่นเมื่อวานนี้สด ๆ ร้อน ลูกสาวพูด Mommy , Can I have some jelly ? แม่งี้ดีใจมากเลย และมีอยู่วันหนึ่งนั่งทานข้าวกัน แม่กำลังกินผัก เลยพูดว่า I like to eat vegetable ลูกตอบทันทีเลย I like to eat fish แม่กับพ่อมองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างมีความสุข

นี่ขนาดไม่ได้ทำ OPOL 100 % ยังได้ขนาดนี้ ทำให้แม่ตัองขยันมากกว่านี้เพื่อลูก ....สู้ ๆๆๆๆๆๆ ค่ะ

[MK-MungKorn]

ตอนเริ่มใหม่ก็เครียดคะ กลัวไปหมด แต่ก็ผ่านไปได้ พอเครื่องติดทุกอย่างก็เดินไปได้เรื่อยๆ
ติดขัดก็ถามคนรอบข้างบ้าง ไม่ต้องอายคะ ถ้าเริ่มเครียดไปแล้วก็เดี๋ยวนี้ปล่อยวางคะ พูดภาษาไทยใส่ลูกเล่นๆไปก่อน
ลูกก็หัวเราะ อย่างคุณบิ๊กบอกว่า i dont know พูดไปก่อนแล้วแอบหาข้อมูลเพิ่มเมื่อมีโอกาสคะ ตอนนี้ลูกยังพูดไม่ได้มากนักคะ แต่ก็เริ่มเก็บข้อมูลเอาไว้บ้าง คิดไว้ว่า เราทำได้แค่ไหนเค้าก็ได้รับแค่นั้น ทำไปเรือยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ เราตั้งจุดหมายไว้แล้ว แค่เดินอย่าตกทาง เท่านั้นคะ แวะพักเหนื่อยได้
เป็นกำลังใจให้นะคะ

[เอ๋]

ใช้ present simple tense ไปเลยค่ะ เอาง่ายๆก็ได้ค่ะ เราเองก็พยายามอยู่ ลองดูนะคะ ^^

[วิราภรณ์ วิริโยฬาร]

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ เวลาเราไม่ค่อยมีด้วย ตอนนี้น้องโบ๊ทอายุ 1 ขวบ 8 วันแต่ในบ้านจะพูดภาษาไทยกันหลายคนเราภาษาอังกฤษก็ไม่ค่อยเก่งกลัวเหมือนกันว่าถ้าเกิดเข้าพูดได้เป็นประโยคมากขึ้นเราจะสามารถตอบเขาได้หรือเปล่า เราพูดไม่ค่อยเก่งแถมยังโดนคนรอบข้างมองอีกแบบ แต่ก็ต้องสู้ ๆ ๆ เพื่อลูกนะ เป็นกำลังให้ทุกๆ คนรวมตัวเองด้วยสู้ๆค่ะ ทำเท่าที่เราทำได้อย่ามุ่งหวังเกินไปเราจะได้ไม่ทุกข์ด้วยค่ะ

[อรนัย รักในหลวง]

ใครรู้สึกว่าเครียด กดดัน ลองทำแค่บางเวลาก่อนดีมั้ยค่ะ ศึกษาหาประโยคที่จะพูดแค่ช่วงเวลานึงก่อน พอเริ่มชินเริ่มคล่อง เริ่มสนุก ชักมันส์ค่อยเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างที่พี่ตุ๊กตา (แม่เพ่ยขอแจม) บอก "ให้อยู่บนเส้นทางของการทำที่มีความสุข" นะค่ะ

แล้วการโต้ตอบของน้องต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการการพูดด้วย และความถี่ในการป้อนข้อมูลของเรา เด็กขวบต้นๆ เข้าใจแต่ยังพูดไม่ได้มากนัก อดทนรอเท่านั้นค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ