แพรอยู่จังหวัดชัยภูมิค่ะ จังหวัดเล็กๆ แคบๆ เหมือนใจคน (บางคน)
น้องไมก้าเป็นลูกครึ่งค่ะ อยู่ที่ประเทศไทย และก็ไม่รู้จะย้ายไปเมืองนอกกะเค้าตอนไหน
ไอ่เราก็กลัวลูกพูดกะพ่อมันไม่ได้ ก็ต้องพูดภาษาอังกฤษกับลูกตลอด
ไม่ว่าจะนอกบ้าน ในบ้าน เราพูดภาษาอังกฤษกับลูกตลอด งูๆ ปลาๆ ไปค่ะ
เพราะเห็นตัวอย่าง สาวคนนึงได้สามีสวีเดน สามีเธอพูดอังกฤษไม่แข็งแรง เธอเองก็ไม่ได้ ลูกชายตอนนี้ประถมแล้ว
พูดลาวจ้อยยยๆๆ ไทยบ้าง ปนกันไป คือพ่อเด็กไม่ได้อยู่ด้วยอ่ะค่ะ ไปๆมาๆ สรุปแล้วครอบครัวนี้มาเจอกันที ชี้นิ้วทิ่มตากันให้จ้าละหวั่น
ไม่ได้นินทานะค่ะ แค่ยกตัวอย่างค่ะ
อ่ะๆ ที่นี้เข้าเรื่องเลย
เหตุการณ์ที่หนึ่ง เหตุเกิด ณ.ห้างเทสโก้ โลตัส แพรพาลูกไปซื้อของ แพรเอาไมก้านั่งใน Shopping cart seat แล้วมีป้าคนนึง แกก็เอาหลาน หรือลูกก็ไม่ทราบนั่งใน คาร์ท ซีท เหมือนกัน แล้วล้อรถเข็นของห้างมันช่างฝืดเสียจริงค่ะ เหตุการณ์ไม่น่าคาดฝันก็เกิดขึ้น (อิอิ..พูดซะน่ากลัว) รถเข็นของแพรไปชนป้าแกค่ะ เราตกใจเห็นเด็ก(น่าจะ 7-8 เดือน) อยู่ในรถด้วย เราก็รีบกราบขอโทษกันยกใหญ่ เจ้าไมก้าก็ร้องเหมือนกันเพราะคงตกใจ เราก็โอ๋ลูกเรา ป้าแกก็โอ๋ลูกแก เราก็พูดกะไมก้าว่า Don't cry baby, It's OK...I'm sorry I didn't mean to... blah blah blah สักพักป้าแกหันมาด้วยหน้าตาที่หุนหวย (หงุดหงิด) แล้วตะคอกใส่หน้าว่า หืยยย...เว้าภาษาอังกฤษปันว่าลูกมึงจิ๊ฟังออกหลาย 555+ คุณแม่ ภาคกลาง เหนือ ใต้ งงเลย มี sub ไทยค่ะ ป้าแกพูดว่า แหมๆๆๆ พูดภาอังกฤษเหมือนว่าลูกแกจะฟังออกยังงั้นแหละ เราอึ้ง คนก็มองด้วยสิ ทำไงดี เราก็เลยตอบป้าแกไปว่า อ่อ พอดีลูกเป็นลูกครึ่ง เลยหัดพูดกะเค้า ยายแกเบะปากเล็กน้อย ทำตาแข็งใส่ แล้วก็พูดว่า โอ้ยยย เมียฝรั่ง พูดได้งูๆปลาๆ แล้วก็ยังอยากจะพูด อึ้งค่ะ โกรธมาก เลยตะคอกกลับไปเลยค่ะ แล้วป้าอ่ะ พูดลาวกะลูก ลูกก็ตัวแค่เนี๊ยะ ลูกป้าไม่เข้าใจหรอก จะพูดทำไม พูดภาษาอะไรเด็กมันก็ไม่เข้าใจหรอกป้า เพราะมันยังเล็ก ถ้าป้าพูดอังกฤษได้ แล้วป้าพูดกับลูก ถึงป้าไม่มีผัวววววฝรั่งเหมือนหนู ลูกป้าดั้งแหมบ(ไม่มีสั้นจมูก) เป็นเด็กอีสาน มันก็พูดอังกฤษได้ ป้าแกโกรธมาก เดินหนี บ่นๆ งึมงำคนเดียวค่ะ ซะใจค่ะ
เหตุการณ์ที่สอง ที่ร้านขายลูกชิ้นทอด หน้าโรงเรียนมัธยมเก่าที่แพรเคยเรียน แพรซื้อลูกชิ้นอยู่ดีๆค่ะ ครูสาว (วัยเกือบ 50) เดินมาซื้อลูกชิ้น เหมือนกัน จำหน้าแพรได้ อินังเด็กกคนนี้ สมัยก่อนหน้าขาว ผมซอย ปากแดงอุทัยทิพย์ ว๊ายๆๆ ดูมันสิ มีลูกแล้ว ข๊าว ขาว ลูกฝรั่งหรอยะ เราก็ไม่รู้จะตอบยังไง จิก(กู)เจ็บว่ะ แมร่ง แต่ก็ยิ้มแหยๆ ไป อ่อ ค่ะๆ ลูกชาย... ว่าแล้วสาวแก่ก็จัดการจับไมก้า บีบแก้ม ไอ้เราก็โกรธ แต่ก็ไม่รู้ทำไง จนมาว่าลูกเราว่าเป็นเด็กยักษ์ ตัวใหญ่เกินวัย หยอกแล้วจ้องหน้าเฉยๆ สงสัยความรู้สึกช้า เพราะไม่สมบูรณ์ แม่มันมีลูกตอนยังเด็ก แกว่าไปถึงนั่น (อ้าวๆๆ นังนี่นิ) เราเลยตอบไป โอ้ยๆ ป่าวหรอกค่ะจารย์ ลูกหนูไม่ชอบคนแปลกหน้า เค้ายังไม่ชินหน้า(เน่าๆ)ของจารย์หน่ะ. คิดในใจ ฮึ่มมม ทำไงดี show off your smile หน่อยสิไมก้า เราก็บอกลูกเลย Mika, baby give me a smile, เล่น peekaboo กะเค้า ให้เค้ายิ้มหน่อย ครูจะได้ไม่ว่าลูกเราอิก แต่พอเริ่มสปี๊กกิ้ง อิงลิชเท่านั้นแหละ พ่อแม่พี่น้องเสียงโห่จากครู กะ แม่ค้าลูกชิ้น "เบ๊ยๆๆ เว้าฝรั่งกะลูกพุ๊นล่ะเด๊" >>> sub Thai >>> โหยๆๆ พูดภาษาอังกฤษกับลูกด้วยว่ะเห้ย จากประสบการณ์จากป้าที่เทสโก้แล้วเราก็ไม่อยากมีเรื่องอีก เราก็เลยเอาสามีมาแก้ตัว "พอดีแฟนหนูเค้าอยากให้พูดภาษาอังกฤษกับลูกอ่ะค่ะ ลูกกะพ่อจะได้คุยกันรู้เรื่อง" ครูแก่ได้ยินดังนั้น หล่อนกลั้นหัวเราะไม่หยุด ว๊ายๆ เธออำครูหรือป่าว เธอเนี่ยนะพูดภาษาฝรั่งกะเค้าเป็น ฟิสิกส์ของครูเธอติด 0 สามเทอมซ้อนเลยนะย่ะ (ปล.ขอประจารความโง่ของตัวเองหน่อยนะค่ะ) เราก็เขิล แบบว่าตอบอ้ำอึ่ง ก็มันคำนวนหนิค่ะ หนูไม่ถนัด แต่หนูชอบภาษา แล้วก็ได้เกรดดีทุกเทอม หัวเราะอิกค่ะ แล้วแกก็เบี่ยงเบนไปคุยกะแม่ค้าลูกชิ้น เรื่องผู้หญิงบ้านนอก ไม่มีการศึกษา พอได้สามีฝรั่งก็ฟุต ฟิต ฟอ ไฟอวดเรื่อยไป....โมโหมากแต่ก็อดไว้ค่ะ เพราะหล่อนเป็นครู!!!
เหตุการณ์ที่สาม สดๆร้อนๆ ไม่นานมานี้ค่ะ เหตุเกิดที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง วันนั้นพาไมก้าไปรับวัคซีน เราก็พูดภาษาอังกฤษ
กับลูกเหมือนเดิม พยาบาลสาว (วัยทอง) เดินตรงเข้ามาหาขออุ้มไมก้า เราก็เลยให้อุ้ม หยอกไมก้าค่ะ หัวเราะกันคิกคัก สักพักเจ้าไมก้าคงคิดได้ โอ้ ชี อิส นอท มาย แหม่แม่ แล้วก็ร้องจ๊ากสิค่ะ เราก็เลยไปอุ้มคืนมา ปลอบลูก คุยเล่น หยอกเป็นถาษาอังกฤษ ผลคือ พยาบาลเดินมา....
Nurse : ไปเรียนมาจากไหนหรอภาษาอังกฤษหน่ะ
Me : เรียนที่โรงเรียนแหละค่ะ
Nurse : ไม่ๆ หมายถึง เรียนพิเศษหรือป่าว หรือเรียนประเทศนอก หรือยังไง ทำไมพูดได้
Me : ป่าวค่ะ ก็เรียนที่โรงเรียนรัฐบาลเค้าสอนนั่นแหละค่ะ
Nurse : ให้แฟนสอนหรือป่าวอ่ะ
Me : ก็สอนบ้างค่ะ ถ้ามันยากๆ
Nurse : พูดกะแฟนรู้เรื่องหรอ ทุกคำพูดเลยมั้ย
Me : ก็ไม่ได้มีปัญหาหนิค่ะ (ฉันไม่ได้ใช้ BODY LANGUAGE อย่างเดียวนะจ๊ะ)
พอมาถึงตรงนี้ เอ๊ะ นังนี่ยุ่งเรื่องส่วนตัวจังว่ะ เริ่มมีน้ำโหค่ะ
Nurse : พี่ว่าเธอพุดได้ เพราะเธอมีสามีฝรั่งเนี่ยแหละ ไม่ใช่เพราะเธอเรียนเองหรอก
Me : โห พี่ ไม่งั้นถ้าอยากพูดภาษาอังกฤษได้ก็แต่งงานกับฝรั่งเลยดิ ไม่ต้องเรียนแมร่งหรอก หาผัวฝรั่งเลย จบ
Nurse : หน้าซีด ดูท่าทาง she อึ้ง & ช๊อก
นี่คือส่วนหนึ่งนะค่ะ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกะแพรบ่อยมาก และคิดว่าคงจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า อยากจะบอกแม่ๆว่าสู้ๆนะค่ะ ไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้นค่ะ สวยไม่แคร์สื่อค่ะ 555+ เกี่ยวไรกัน
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้