เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
เดือน พฤษภาคม 2013 เดือนที่เริ่มต้นเด็กสองภาษา เริ่มต้นจากการอ่านหนังสือ เล่ม 1 เล่ม 2 รู้สึกมีกำลังใจ และคอยคิดว่าจะหาวิธีสอนลูกยังไงให้ง่ายทั้งตัวลูกเอง และเราด้วย ตอนนั้นที่บ้านมีโปสเตอร์รณรงค์เกี่ยวกับชีวิตในครอบครัว มีบ้านที่มีพ่อแม่ มีลูก มีแมว มีต้นไม้ มีไก่ มีบ่อปลา เมื่อดิฉันกลับถึงบ้านลูกก็จะขอให้แม่อุ้มเพื่อชี้ให้ดูโปสเตอร์ว่า สิ่งนี้คืออะไร อันนี้พ่อ อันนี้แม่ ลูก ปลา ไก่ ทำแบบนี้ทุกวัน เลยมีความคิดว่างั้นเราก็ใช้จุดนี้เป็นจุดดึงดูดได้ โดยการเปลี่ยนจากการพูดศัพท์ภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษแทน และในพื้นที่โปสเตอร์ยังมีบริเวณที่ว่างอยู่ จึงหารูปสัตว์ทุกประเภท ตั้งแต่ หมา หมู ลิง ม้า วัว นก ฯลฯ มาตัดแปะลงไป และชี้ให้เค้าดูพร้อมกับพูดศัพท์ภาษาอังกฤษ จนเค้าจำได้ว่าตัวไหนคืออะไร และจากการที่ได้อ่านหนังสือเด็กสองภาษาจะมีประโยคที่ยกตัวอย่างไว้ที่พอจะเอามาพูดได้บ้าง คือ wash your hands, brush your teeth และสื่อดีวีดีเป็นสื่อนึงที่ไม่มีวันไหนน้องไม่เปิด น้องเป็นเด็กรักการเต้น รักเสียงเพลง
ณ วันนี้ 11/10/2013 รู้จักกับเด็กสองภาษามา 5 เดือน และที่ผ่านมาได้เข้ารับการฟังแนวคิดเด็กสองภาษา และการออกเสียงโฟนิค มาแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แม่หยุดการสอน เพราะมีอุปสรรค ความวุ่นวายของชีวิต งาน ความอ่อนล้า ที่มันส่งผลให้แม่หมดพลัง หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า ขี้เกียจเข้ามาแทนที่ มันเป็นอุปสรรคที่สำคัญมาก ซึ่งคงไม่มีใครช่วยได้ อุปสรรคเรื่องเวลา ตอนนี้ไม่มีเวลาท่องศัพท์ ไม่มีเวลามานั่งจำประโยค ที่ทำงานไกล รีบตื่น มาทำงาน กลับบ้านดึก ต้องเอาลูกเข้านอน หมดแรงแล้ว T_T หยุดทุกอย่างไว้ไม่ได้ต่อยอด มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังทำอยู่คือ การเปิดดีวีดีดูทุกวัน เต้นทุกวัน
ตอนนี้ลูกอายุ 2 ขวบแล้ว ถ้าไม่เริ่มใหม่วันนี้ ต่อไปมันจะเพิ่มความยากกว่าเดิมในการสอน ซึ่งมันคงทำให้ดิฉันแย่และเหนื่อยกว่าเดิม จะเอาแรงจากไหนดีนะ จะมีอะไรทำให้เราสามารถกระตุ้นความกระตือรือร้นให้กับตัวเองได้บ้าง แม่ขอพลังหน่อยได้ไหมมมม..
Comment
อย่าเครียดนะคะ เด็กบางคน บางวัย ขนาดภาษาไทยเขายังพูดยังไม่ค่อยเก่ง (แต่เขาเข้าใจเรานะ แค่ยังพูดไม่ได้) ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน อย่าเอาลูกเราไปเทียบกับลูกคนอื่นนะคะ จะทำให้เครียดเปล่า ๆ เป็นการกดดันด้วย เด็กทุกคนมีความแตกต่างกัน
เหมือนกันเลย.ปัญหาอยู่ที่แม่ ไม่ใช่ที่ลูก...
เอาสนุกค่ะ .. 2 ขวบ ยังไม่ออกดอกออกผลให้เราเห็นเพราะเด็กวัยนี้เป็นวัยที่จำอยู่ฟังอยู่ แม่ทำได้ ที่เป็นอยู่ก็พอแล้ว อย่าเครียดจนทำให้ท้อนะคะ ดีกว่าคนที่เริ่มช้า เช่นเราเริ่มประมาณ 3 ขวบ ครึ่ง หนังสือก็ช่วยได้มาก ๆ ค่ะ เด็กเค้าได้มาจากภาพช่วยทำให้เราไม่ต้องจำศัพท์มาก ได้ไปพร้อมกับลูก เลือกเอาหน่อยที่สอดแทรกเรื่องราวชีวิตประจำวัน หรือ ประโยคง่าย ๆ ที่เกี่ยวโยงกับชีวิตประจำวัน มีมากมาย ใช้ได้ ผล และถ้าลูกรักการอ่านมีสมาธิ เดี๋ยว ปีหน้าคุณแม่ยิ่งจะสบายขึ้น กับการเรียนรู้ด้านอื่น ๆ ได้นิสัยรักการอ่าน เด็กจะมีสมาธิด้วยนะคะ
ใช้ความรักลูกเป็นพลังค่ะ เื่พื่อลูก เพื่อลูก เพื่อลูก
ตัวช่วยครับ ต้องมีตัวช่วย
แนะนำนะครับ(ถ้ามีแล้วก็อภัยนะครับ) สำหรับสองขวบ..
น้องชอบเต้น ต้องนี่ Zippy and me ครับ
Mickey mouse club house (ตัวนี้จะทำให้เรารู้ระดับพัฒนาการเรื่องการฟังของลูก เพราะมันมีจังหวะเว้นช่วงให้เด็กโต้ตอบด้วย)
Baby signing time ก็ไม่ถือว่าสายนะครับสำหรับสองขวบ
ช่วงนี้เน้นๆเอาสามตัวนี้ครับ ไม่ต้องตัวอื่นนะ มันเยอะเกิน แต่ถ้าเด็กเริ่มสนใจเขาจะรบเร้าเราเองครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
ใช่ค่ะท้อได้แต่อย่าถอย ก่อนหน้านี้บ่อยครั้งที่ดิฉันท้อมาก แต่ก็ยังไม่เคยถอยนะค่ะ มีปัญหาเรื่องจำประโยคที่จะใช้พูดกับลูกไม่ทัน มันยิบยับไปหมดรายละเอียดในการพูดเยอะมาก ๆ เยอะจริง ๆ เครียดมากค่ะ
แต่ช่วงนี้หายเครียดค่ะพบเคล็ดลับ คือไม่กดดันตนเองในการเรียนรู้ ท่องวันนึงไม่เกินห้าประโยค บางวันก็ได้แค่สามประโยคก็ยังดี ท่องประโยคที่จะใช้พูดกับลูกจนคล่อง ถ้ายังจำไม่ได้ดิฉันก็หันมาท่องใหม่เหมือนที่คุณบิ๊กบอก ท่องจนจำขึ้นใจ จำได้แล้วนำไปพูดกับลูก คำไหนยังจำไม่ได้ก็พูดไทยไปก่อน จนตอนนี้ดิฉันได้ประโยคใหม่ ๆ ในการที่จะใช้พูดกับลูกทุกวัน เข้าห้องกระทู้ภาษาอังกฤษบ่อยมาก
สู้ๆๆเหมือนกันค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by
You need to be a member of หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ to add comments!
Join หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้