ทำอย่างไรภาษาอังกฤษจะเก่งขึ้น

[อรดา พงศ์สุธนะ]

อยากจะเอาเทคนิคและประสบการณ์จากการสอนลูกเป็นเด็กสองภาษา ซึ่งก็ทำให้ภาษาอังกฤษของแม่เองดีวันดีคืนด้วย เพราะเคทนั้นเองล่ะ ทำให้แม่มีแรงบันดาลใจได้เพียงนี้

หลังจากตัดสินใจสอนเคทให้เป็นเด็ก2ภาษา การบ้านและงานยักษ์ก็มาตกที่แม่ แต่จะทำอย่างไรในเมื่อเราเลือกทางเดินแบบนี้แล้ว เอาหน่า สู้ๆนะ (บอกกับตัวเองทุกวัน)

จากนั้นก็ต้องมาเรียนใหม่โดยหาหนังสือของครูดังๆที่เข้าใจหัวอกคนไทย เช่น ครูเคท เนตรปรียา ครูคริส ดิลิเวอร์รี่ นีน่า และอีกหลายๆท่านในเวปต่างประเทศ เพื่อที่จะมาศึกษาว่า เราควรพัฒนาภาษาอย่างไร โดยที่ไม่ต้องไปเรียนเมืองนอก(ซึ่งคงไม่มีโอกาสแล้ว) หรือไปเรียนกับครูฝรั่ง(จะเอาเวลาไหนไปเรียนเนี่ย ทั้งงาน ทั้งลูก หมดเวลาละ) และก็ไม่มีฝรั่งที่ไหนจะมาให้ถามหรือพูดด้วย

ดังนั้นก็สรุปได้คร่าวๆจากหลายๆสำนักดังนี้นะคะ สำหรับผู้ที่อยากพัฒนาภาษาอังกฤษตัวเองให้เก่งขึ้น

1. ขั้นแรก เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณและลูกให้เป็นภาษาอังกฤษก่อน สร้างบรรยากาศแบบว่า..เราอยู่เมืองนอกนะ (แต่อากาศมันร้อนน่ะ ไม่เหมือนเมืองนอกเลย..ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ หลอกตัวเองไปก่อนค่ะ) เช่น หนังสือ ทีวี นิทาน ซีดีเพลง ดีวีดี วิทยุ ทุกอย่าง พยายามรับฟัง รับรู้ โดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อ

2. สะสมคลังศัพท์ ฟังแล้วดูน่ากลัวจัง แต่เราไม่ควรเริ่มจากไกลตัวค่ะ เอาจากชีวิตประจำวันรอบๆตัว ที่เราจะได้ใช้จริงๆ ง่ายๆก่อน จะได้เป็นกำลังใจสำหรับผู้เริ่มต้น อย่าไปท่องศัพท์ยากๆที่เอาไว้ไปสอบเอนทรานซ์ไม่มีประโยชน์+ปวดสมองด้วย ให้มองไปรอบๆตัว เวลาไปตามสถานที่ต่างๆค่อยๆมองและสังเกตว่า ถ้าเป็นภาษาอังกฤษมันจะเรียกว่าอะไรน้า

3.มีประโยคสำเร็จรูปไว้มากๆ อันนี้ครูคริส บอกไว้นะคะ เช่น Can I have.....? What is it?...Do you like....?และอีกมากมายนะคะ เอาประโยคที่มีอยู่มาแปลงๆๆๆ โดยใช้รากเดิมค่ะ (อันนี้ช่วยมือใหม่ได้มากๆเลย)

4.ฟังและเลียนแบบ อันนี้เป็นเทคนิคของครูเคท เนตรปรียานะคะ ขอให้ฟังให้มากๆๆๆ เท่าที่จะทำได้ จากนั้นเริ่มเลียนแบบจากฝรั่ง เป็นหนัง เป็นข่าวก็ได้ เลียนแบบ ทำเสียงเออๆ ออๆ ไปตาม และฟังไปเรื่อยๆ หัดทำเสียง ทำปาก ทำหน้าทำตา จากนั้นออกเสียงตามเขาพูด

5. สำเนียง เรื่องนี้โต้เถียงกันมามากเหลือเกิน แต่เราก็ได้คำตอบที่พอใจมากๆจากเวปสอนภาษาอังกฤษต่างประเทศคือ ให้คุณรู้สึกสบายกับสำเนียงที่คุณเป็น พัฒนาตามศักยภาพของเรา อย่าเป็นกังวลกับเรื่องสำเนียง ขอเพียงแค่ฝรั่งฟังเราเข้าใจ และอธิบายให้คนฟังเข้าใจได้ ก็ถือว่าประสบผลแล้วค่ะ สิ่งที่สำคัญน่าจะอยู่ที่ accent มากกว่านะคะ ให้เราออกเสียงให้ถูกต้องก็พอ เช่น Island อ่านว่า ไอแลนด์ ไม่ใช่ ไอซะแลนด์ แปลว่าเกาะ หรือคำนี้ sword อ่านว่า ซอดดึ ไม่ใช่สวอดดึ แปลว่าดาบ หรือคำว่า Juice อ่านว่า จู๊ช ไม่ใช่ จุ่ยหรือจุ๊ย แปลว่าน้ำผลไม้ และยังมีอีกหลายคำนะคะ ที่คนไทยชอบอ่านผิด

6. กล้าพูดนะคะ ตอนนี้เรามีคู่ซ้อมพูดทุกวัน คือลูกสุดที่รักของเราคะ ตั้งแต่สอนลูกมาไม่เคยกลัวพูดผิดกับลูกเลย อันไหนไม่รู้ก็ค่อยไปหาคำตอบ และนำมาพูดกับลูกอีกทีค่ะ

7.ภาษาอังกฤษที่ครูคริสบอกว่าจะประสบผลเชิงปฎิบัติ มีตามลำดับดังนี้นะคะ
7.1 Fluency
7.2 ความเข้าใจ
7.3 Happiness & Confident
7.4 Correctness

เท่าที่ดูนะคะ ความถูกผิดมาเป็นอันดับ 4 เลยนะคะ ฉนั้นที่เรากำลังสอนลูกเนี่ยก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ เพราะข้อ 7.1-7.3 ผ่านหมด ส่วนข้อ 4 ตามมาทีหลังค่ะ แก้ไขได้ ไม่เป็นไร


ขอให้เชื่อว่า ของดีๆ ไม่ได้มาง่ายๆนะคะ เรื่องภาษาเป็นเรื่องของการสะสม เราต้องมานะพยายามหน่อยนะคะ สร้างให้เป็นเรื่องสนุก ตื่นเต้นในชีวิตเรา

ขออวยพรให้ทุกท่านมีภาษาอังกฤษที่ก้าวหน้าขึ้นทุกๆวันนะคะ เพื่อลูกสุดที่เราของเราค่ะ

[แม่อ้อม น้องภูเล]

ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับคำแนะนำ ตอนนี้ภูเล 1 ขวบ 1 เดือน ที่ผ่านมาแม่ก็ลุกบ้าง ล้มเลิกบ้าง พยายามเข้ามาอ่านกำลังใจ
เยอะๆ ได้กำลังใจไปสอนลูกต่อแล้วล่ะ

[คุณแม่โน้ต]

คุณดาแนะนำดีมากๆเลย อธิบายได้ชัดเจนเป็นสเตปขั้นตอนดีเห็นภาพเลยค่ะ น่าจะไปเขียนหนังสือการเลี้ยงลูก2ภาษาแข่งกับเค้าได้นะเนี้ย

[เพชรรัตน์ พูลสวัสดิ์]

จะพยายามต่อไป เพื่อลูก บางทีพูดไปพูดผิดพูดถูกก็ตลกตัวเองเหมือนกัน แต่ก็สนุกดี คุยกับลูกได้เป็นคำๆ อยากพูดประโยคยาวๆ แต่นึกไม่ออก บางอย่างจดเอาไว้แล้วแต่ลืม ต้องกลับมาดูใหม่เรื่อยๆ เข้ามาอ่านเป็นกำลังใจ จะได้สู้ต่อไป เพราะภาษาไม่เอาไหนเลยจริง ๆ

[Khaohom]

ขอบคุณมากค่ะคุณอรดา วีเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่เว็บนี้ พอเข้ามาที่เว็บนี้ก็สะดุดภาพวิดีโอคลิป read the colsed book เข้าไปดูก็เกิดจินตนาการว่าอยากให้ลูกเราพูดเก่งเป็นธรรมชาติเหมือนเด็กคนนี้จัง น่ารักจังเลย เลยตามมาอ่านประสบการณ์ของคุณอรดา และอีกหลายๆ คน คุณอรนัย คุณเคท แม่น้องเนย .... ทำให้รู้สึกดีมากค่ะ เพราะตอนนี้กำลังเริ่มต้นและสับสนว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาถูกทางรึยัง etc.

[สุจิรา]

จะสู้ ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ (แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้เรื่องก็ตาม)

[อรดา พงศ์สุธนะ]

คุณกรรณิการ์คะ ทำแบบสบายๆนะคะ อย่าไปเครียดหรือเป็นกังวลนะคะ เรามีเวลาเท่าไรเราก็สอนเขาเท่านั้นค่ะ ที่สำคัญคุณแม่ต้องพยายามพัฒนาตนเพื่อนำไปสอนลูกนะคะ ซึ่งดิฉันคิดว่า คนเป็นแม่เนี่ย ทำได้ทุกอย่างจริงๆค่ะ
ฉนั้น เอาแค่เวลาหลังเลิกงานก็ได้ค่ะ หรือก่อนนอนเล่นนิทาน ยิ่งมีความถี่มาก ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้ลูกรับภาษามากขึ้นค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณด้วยนะคะ คุณนานา นิโน่ เราเรียนไปพร้อมกันกับลูกได้เลยค่ะ

[กรรณิการ์ ชำนาญยา]

ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยแนะนำ จะลองเข้า เว๊ป ดูนะค่า คุณอรดา ดิฉันต้องทำงานตอนกลางวัน จะมีเวลากับลูกตั้งแต่ตอนเย็นไปต้นไป เราควรใช้เวลากี่ชั่วโมงค่ะที่จะสอนน้อง เพราะตอนกลางวันอยู่กับคุณยายที่บ้าน

[nana-nino]

เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ
ความคิดนี้ดีมาก ๆ เลย ค่ะ
แต่แบบว่าแอบอายตัวเองเล็กน้อยค่ะ เพราะเราไม่ชินกับการใช้ภาษาอังกฤษ คือคุณแม่ไม่ค่อยเก่งภาษาค่ะ ไปได้แบบงูงูปลาปลาค่ะ

แต่จะท่องเอาไว้ค่ะ เพื่อลูกเพื่อลูก สู้ ๆ นะค่ะคุณแม่ทุกคน ^_^

[อรดา พงศ์สุธนะ]

ขอบคุณนะคะ ที่แวะมาอ่านบล็อคนี้ค่ะ
คุณวจีพร ทำตามหนังสือคุณพงษ์ระพีนะคะ มีไกด์ไลน์ที่ดีมากๆค่ะ
คุณแม่น้องข้าวปั้น supaporn_s ด้วยความยินดีนะคะ
คุณกรรณิการ์ ทำตามหนังสือคุณงพงษ์ระพีนะคะ แล้วเข้าห้องอิงลิชคลับแล้วเติมความรู้ภาษาอังกฤษนะคะ
คุณchaiwat คะ แนะนำว่าใครถนัดอะไรกว่ากัน ให้คนนั้นสอนภาษานั้นๆดีไหมคะ จะได้สบายใจทั้งคนสอนด้วยและก็เป็นธรรมชาติดีค่ะ เหมาะกับเด็กค่ะ
แม่น้องข้าวหอมคะ น้องยังเล็ก ลุยไปเลยนะคะ คุณแม่ทำได้อยู่แล้วค่ะ
คุณศรุดา ทำตามหนังสือเลยนะคะ ทำได้ค่ะ แรกๆอาจงงนิดหน่อย เด้วเขาที่ก็สบายนะคะ
คุณอรุโณทัย ตอบให้ในหน้าบล็อคของคุณนะคะ ทุกคนทำได้ค่ะ ขอให้ใช้ความพยายามหน่อยนะคะ สู้ๆค่ะ

[อรุโณทัย วิสมิตะนันทน์]

เดิมจะเริ่มพูดเป็นคำๆ แต่ตอนนี้กะว่าจะเริ่มเป็นประโยคแล้วค่ะ อยากให้แนะนำหนังสือที่ช่วยคุณแม่เรื่องนี้ค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ