สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

สวัสดีค่ะ ยินดีเช่นกันค่ะ ตอนนี้ยังอ่านหนังสือไม่จบเลย กำลังเริ่มพูดกับลูกอยู่แต่แย่ตรงที่แม่พูดก็ไม่เก่ง อ่านก็ไม่ค่อยออก ยากเหมือนกันนะค่ะ กว่าแม่จะนึกคำศัพท์ออกบางทีก็ไม่ทันแล้ว
ตอนนี้น้องนุ่น3ขวบแล้วพูดรู้เรื่องแล้วด้วย แถมพูดเก่งมากเลย (ภาษาไทย) ทำงัยดี

ลองแกล้งถามลูกสิค่ะwhere is your nose?ถ้าเค้าชี้จมูกถูกก็จุ๊บจมูกลูกเลยค่ะไล่ถามหลายๆที่ถูกปุ๊บจุ๊บตรงนั้นค่ะถ้าผิดก็ฟัดแรงๆค่ะสนุกอบอุ่นดี

เรื่องไม่ยอมพูดนี่ต้องอดทนค่ะลูกชายก็ช้าต้องพยายามค่ะที่สำคัญถ้ารู้สึกว่าลูกเข้าใจสิ่งที่เราสื่อถือว่าไปในทางบวกค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

Mamy Nong Om อยากทราบว่า คุณแม่เปิดเพลง ABC (ออกเสียง phonetic), เพลง Head & Shoulder...เพลง clamp your hand ฯลฯ ซื้อจากไหน หรือมี web ให้เข้าไปชมตัวอย่างสินค้า
ไหม สนใจอยากให้ลูกลองฟังบ้าง ตลอดนี้ลูกอายุ 1.7 ปี ยังไม่เคยให้ฟังภาษาอังกฤษเลยค่ะ

อ้อ Mamy Nong Om ทานนมยี่ห้ออะไรอยู่ค่ะ ดูอิ่มเอิบดีค่ะ เผื่อจะเปลี่ยนนมให้ลูกชายทานบ้าง ลูกชายไม่ค่อยมีเนื้อ จับแล้วรู้สึกไม่เต็มไม้เต็มมือ ข้าวก็ไม่ค่อยทาน สงสัยแม่จะทำกับข้าวไม่อร่อยนะคะ
r_rungrat@hotmail.com

Thank you นะค่ะ nice to meet you too.

Thank you khaa

สวัสดีครับ...
น่าจะรุ่นเดียวกัน กับ แดนนี่ น้องเกิดเดือนไหนครับ
แดนนี่ เกิด มกรา 52
ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

ว้าวว...วันValentine พอดีเลยนะครับ....เทพแห่งความรัก....

ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ ได้อ่านบลอกของแม่น้องโอมแล้ว ชื่นชมมากๆค่ะ อีกหน่อยน้องต้องเก่งแน่ๆเลย ของน้องแพรมาเริ่มตอนอายุเยอะแล้ว เลยเหนื่อยหน่อยค่ะ
ยินดีที่รู้จัก + เป็นกำลังใจให้นะคะ

สวสัดีค่ะ คุณแม่น้องโอม ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณแม่ชื่อเล่นชื่ออะไรคะ
เอ่อ จริงๆชื่อบอมบ์น่ะ เป็นชื่อดิฉันเองค่ะ ส่วนตัวลูกน่ะ ชื่อน้องโบนัสจ้า ^_^
บอมบ์เองต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอคำแนะนำค่ะ น้องโอมเก่งแบบนี้ วิธีการที่คุณแม่สอนน้องก็เหมือนของเบบี้จีเนียสเลยค่ะ บอมบ์เองเพิ่งพาโบนัสไปเรียนเหมือนกัน แต่ก็คิดว่า จริงๆเราก็ทำเองที่บ้านก็ได้ เพียงแต่ว่าไปเล่นที่คลาสข้างนอกมันก็ดีหน่อยตรงที่โบนัสได้ไปเจอเด็กๆคนอื่นๆ
ตอนนี้โบนัสเจ็ดเดือนค่ะ จ้ำม่ำลดลงกว่าในรูปหน่อย เพราะตอนนี้ห่วงเล่นมากกว่าห่วงกิน อิอิ บอมบ์เองพูดอังกฤษกะเค้ามาสี่เดือนแล้ว ก็คิดว่าเค้าคงอยู่ในช่วงเก็บข้อมูล บอมบ์ก็รอเค้าตอบกลับซักวันค่ะ แต่จะว่าไปบอมบ์ก็ไม่ได้พูดอังกฤษกะเค้าตลอดนะคะ เพราะเวลาอยู่ต่อหน้าญาติๆคนอื่นๆบอมบ์ก็ยังพูดไทยค่ะ ยังไม่สามารถขจัดความอายออกไปได้ บางทีก็คิดว่า ทำไมต้องอายด้วยนะ ก็เราอยากจะสอนภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติให้ลูกเรานี่นา แต่ว่าไป ก็ยังอายอยู่ดี เหอะเหอะ แล้วคุณแม่น้องโอมเป็นยังไงบ้างคะ

หวัดดีค่าคุณแก้ว

ดีจังเลยจะไปเที่ยวกัน เที่ยวให้สนุกนะคะ
บอมบ์เองก็กะว่าถ้าโบนัสโตอีกหน่อย อาจจะซัก 1 ขวบ บอมบ์ก็อาจจะลุยพูดอังกฤษล้วนๆ กะคนนอกบ้านบอมบ์ไม่เขินเท่าไหร่ เพราะไม่ได้รู้จักกัน ผ่านแล้วผ่านเลย จะเขินก็ญาติๆกันเองนี่หล่ะค่ะ
แต่บางทีเวลาบอมบ์ไปเดินห้าง เวลาพาโบนัสไปเปลี่ยนผ้าอ้อมในห้องเปลี่ยน ก็จะมีได้ยินแม่บางคนพูดอังกฤษกะลูกนะคะ บอมบ์ก็ชวนเค้าคุยก็เห็นว่าเป็นครอบครัวสองภาษาเหมือนกันค่ะ
เที่ยวให้สนุกนะคะ น้องโอมต้องได้ศัพท์ใหม่เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย แถมยังสนุกด้วยที่ได้ไปเที่ยวกะพ่อแม่ :)

ขอบคุณค่ะคุณแก้ว พอดีพาน้องเป้ยเป้ยไปเที่ยวทะเลเห็นม้าเดินผ่านเลยไปขอถ่ายรูปให้เจ้าของม้านั้นแหละถ่ายให้
และจะถามคุณแก้วว่ามีเคล็ดอะไรไหมสำหรับคุณแม่ที่ไม่เก่งภาษาที่สองเลยจะเริ่มตั้งยังไงดี และเรื่องการผูกประโยคยิ่งอยากเข้าไปใหญ่เลย เอ้ย!!ยิ่งคิดก็ยิ่งเหนื่อยแล้ว!!!

ดีจังเลยค่า :) น้องโอมได้ศัพท์ใหม่ๆเพียบเลยด้วย คุณแก้วเรียกบอมบ์เฉยๆก็ได้ค่ะ
จริงๆอยากพาโบนัสไปเที่ยวพัทยา ใกล้ๆนะคะ แต่เคยพาไปค้างบ้านพี่สาวครั้งนึง แล้วตกกลางคืนดูโบนัสกระสับกระส่าย แบบไม่คุ้นห้องนอนที่ไม่ใช่ห้องตัวเองน่ะค่ะ ก็เลยกะว่าเดี๋ยวรอให้เค้าโตอีกนิดค่อยพาเที่ยวทะเล เผื่อจะได้มีโอกาสเจอคุณแก้วกะน้องโอมค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ ที่เป็นกำลังใจให้ค่ะ ต่อไปจะสู้สู้ๆต่อไปค่ะ

Hi K. Kaew,

Good questions. Your English is very impressive. I have only changed a few things.

1. Please wait for me on the bed. Don't move around. I am going to (get a towel / pick up the towel) and then I will be right back.

2. Please come here so I can dress you.
You can also say: Please come here so you can get dressed.

I hope this helps,

Peter

สวัสดีค่ะ น้องโอม....เป็นเด็กดี Good boy ให้แม่แก้วได้ชื้นใจไวๆนะ นู๋ทำได้!

ดีค่ะๆๆ พูดอังกฤษกะน้องโอมไปเรื่อยๆ บอมบ์เองก็พูดกะโบนัสไปเรื่อยๆเหมือนกัน หวังว่าเค้าคงจะตอบกลับให้เราชื่นใจซักวัน
วันนี้โบนัสฟันขึ้นน่ะค่ะ มิน่า งอแงมา 4-5 วัน คงจะคันๆเหงือก กลางคืนเค้าก็หลับไม่ค่อยสนิท แม่ก็เลยเหนื่อยหน่อย ง่วงเลย หาวววว
มีอะไรก็อัพเดทกันได้นะคะ

ช่วงนี้ พี่กำลัง PRE ORDER ชุดฝึกอ่านภาษาอังกฤษ, นิทาน 2 ภาษาอังกฤษ จีน , Wee Sing, Berenstain Bears, อื่นๆ อีกเพียบ ถ้าสนใจแวะที่นี้ได้นะคะ

http://www.pantown.com/board.php?id=47413&area=3&name=board...

ิยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

สวัสดีจ้าคุณแก้ว น้องเจยังเรียนที่ อ.ร่มไม้ค่ะ น้องเจเข้าเรียนตอนเตรียมอนุบาล ประมาณ 2.8 ขวบ (อายุน้อยกว่าเกณฑ์ ก็เลยโดนปัดลงมา น้องเตรียม แต่ก็ถือว่าโอเค ดีกว่าที่เรา pass น้องเจไปเลย) ตอนนี้อยู่ อ.1 ตอนนี้ที่ รร. มีหลักสูตรเตรียมอนุบาล Bilingual ปีนี้แล้วนะคะ สมัยที่น้องเจเข้ายังเป็นแบบ Mini English Program ซึ่งทางโรงเรียนมานำร่อง Bilingual ห้องที่น้องเจเรียนเมื่อตอนเทอมสอง และเด็ก ๆ ก็เข้าใจภาษาได้ดี (กันคิดว่างั้นนะคะ) เค้าถึงเปิดแบบนี้ในปีนี้ค่ะ ถ้าเลือกแบบ Bilingual จะมีครูต่างชาติเป็นครูประจำชั้น 1 คน ครูไทย 1 คน แล้วก็ครูผู้ช่วย 1 คน สอนดี ใจดี เทคนิคดี ;) กันก็ค่อนข้างประทับใจโรงเรียน ครู และระบบการเรียนการสอนของที่นี่ค่ะ :)

ป.1 ก็จะมีภาษาจีนกลางด้วย แต่ก็ขอดูแนวโน้มน้องเจก่อนว่าจะเรียนประถมที่นี่หรือที่กรุงเทพฯ แต่รู้สึกว่าตอนนี้โรงเรียนขยายพื้นที่เพิ่มอีก 4 ไร่ แต่ขอบอกว่าบรรยากาศในโรงเรียนดีมาก สมชื่อร่มไม้เลย ตัวกันเนี่ยชอบตรงที่บ้านกะโรงเรียนมีความสัมพันธ์ใกล้กันดี พ่อแม่ลูกได้มีกิจกรรมร่วมกันหลายอย่าง เรียนแล้วไม่เครียดมาก สนุกไปกะสิ่งที่เรียน มีความสุขในสิ่งที่ทำ (คนอื่นเป็นงัยไม่รู้ แต่ดูน้องเจเป็นอย่างงี้ค่ะ) แล้วก็เขียนแบบ Freehand เลยนะ ยังงัยก็ได้ ไม่ต้องจับมือ ตอนนี้น้องเจเขียนได้หมดเลย กขค ABC 123 ชื่อจริง ชื่อเล่น ทั้งไทยและอังกฤษ ไม่รู้เด็กคนอื่นเขียนได้ยัง แต่น้องเจจะมีความสุขมากที่ได้เรียนหนังสือ และตัดสินใจไม่ผิดที่เข้าที่นี่ค่ะ :) เค้าจะเน้นให้เด็กเรียนอย่างมีความสุจจริง ๆ

4 ไร่ใช่เลยตรงซอยเมรี่ค่ะ หลักสูตร Bilingual ครูต่างชาติ 1 คนตลอดทั้งวันค่ะ ถ้าเป็น Mini English Program จะสอนวันละครึ่งชั่วโมง แต่ถ้าได้อยู่ห้องครูแคลร์ จะมีครูแคลร์ครูไทยที่พูดอังกฤษกะเด็กตลอดอยู่แล้วค่ะ ครูบอกว่าเป็นการปูพื้นคำสั่งง่าย ๆ สำหรับการเรียนใน อ. ชั้นโต ๆ ต่อไปค่ะ ;)

ส่วนเรื่องวิชาการ ... ก็เป็นไปตามวัย ไม่เน้นให้เด็กเครียด เน้นเรียนผ่านการทำกิจกรรม ผ่านการเล่น Gym, Cooking, Swimming ฯลฯ ที่โรงเรียนจะมีสมุดสื่อสารฯ แจ้งพัฒนาการทุกวันสำหรับน้องเตรียม และทุกอาทิตย์สำหรับ อ.1 ขึ้นไป ในสมุดจะแจ้งหน่วยการเรียน แนวทางการสอนของโรงเรียน ข้อเสนอแนะที่ทางบ้านร่วมสอนควบคู่กะทางโรงเรียน เช่น สมมติ สัปดาห์แรก "โรงเรียนของหนู" ทั้งอาทิตย์จะเรียนเกี่ยวกับโรงเรียน เพื่อน ครู แนะนำตัว กฎระเบียบ กติกาสังคม แล้วก็จะมีสอดแทรกภาษาไทยอังกฤษคู่กัน โดยครูไทยสอน แล้วจะสอนอีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษโดยครูต่างชาติ สอนให้ช่วยเหลือตัวเองง่าย ๆ เช่น เก็บจาน เก็บแก้วน้ำ ก็จะมีการสอนคำสั่งง่าย ๆ ควบคู่กันไปตลอดทั้งวัน

เน้นพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดเล็ก การสังเกต การทดลองลงมือทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่ได้นั่งอ่านหนังสือ เขียนหนังสือทั้งวัน มีการทำงานฝีมือ ร้องเพลง เต้น ท่องคำคล้องจอง สอนตัวอักษร เล่นเกมส์ เล่นของเล่น ฯลฯ อีกมากมายหลายกิจกรรม มีเข้าเคารพธงชาติ สวดมนต์ นั่งสมาธิ สอนใส่เสื้อผ้า เก็บที่นอน ซึ่งก็จะเพิ่มไปตามวัยและหน่วยการเรียนค่ะ ;)

น้องเจเพิ่งจะมาเริ่มเขียนจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนเทอมนี้ค่ะ แต่ก็ไม่เยอะมาก เน้นจินตนาการ วาดลายเส้นค่ะ รู้สึกตอนนี้ครูยังไม่สอนเขียนไทยนะคะ สอนแต่ภาษาอังกฤษ สอนถีงตัว N แล้วค่ะ ;) แบบเรียนภาษาอังกฤษเป็นของประเทศมาเลเซียนะ ไม่ใช่ของไทย แบบเรียนความรู้รอบตัว ก็จะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด เทอมนี้เรียนเกี่ยวกับ Water, Electricity, Magnet, Light, Shadow .... อาทิตย์ละเรื่อง เรียนแบบง่าย ๆ ปูพื้นฐาน ให้ระบายสีบอกความแตกต่าง ความเหมือน ฯลฯ ส่วนภาษาไทยกะคณิตศาสตร์ก็เป็นไปตามกระทรวงศึกษาธิการค่ะ ;)

คุณแก้วลองไปดูโรงเรียนและสอบถามรายละเอียดก่อนว่าแนวนี้เหมาะกะน้องโอมมั๊ยจะดีที่สุดค่ะ แต่ถ้าชอบแนววิชาการ คงต้องเป็นโรงเรียนสุอารี หรือที่อื่นค่ะ ตอนแรกเคยจะให้เข้า อ.1 แต่ติดที่อายุขาดไป แต่เรามั่นใจวิชาการ ซึ่งครูบอกว่าที่นี่เน้นพัฒนาการ การช่วยเหลือตัวเอง การเข้าสังคม การปลูกฝังให้เด็กกล้าแสดงออก เคารพตัวเองและผู้อื่น ทำนองนี้ค่ะ แต่ครูก็ไม่ได้ปฏิเสธค่ะว่าวิชาการน้องเจแม่น กันฟังครูแนะนำเยอะ ก็เลยตามครูคือให้เรียนเตรียมอนุบาล อย่างน้อยปูพื้นเรื่องสังคมหรือไร ก็น่าจะดีกว่า จริง ๆ ผ่านไปครึ่งเทอมครูประจำชั้นก็ถามนะว่าจะขอไป อ.1 มั๊ย แต่เราไม่เอาแล้ว เพราะว่าน้องเจไปได้ดีกะเพื่อน ๆ แล้ว ;)

น้องเจพูดทั้งไทยและอังกฤษ โดยเราไม่ได้กะเกณฑ์ว่าจะต้องพูดกะใคร ยังงัย แต่เราจัดเวลาเช้าก่อนไปโรงเรียนและก่อนเข้านอนเป็นแบบ OTOL บางทีน้องเจก็พูดอังกฤษกะคนอื่นด้วย แนว ๆ ลองภูมิ บางทีนึกอยากพูดอังกฤษก็จะพูดออกมา ภาษาอังกฤษปนไทย ภาษอังกฤษปนต่างดาว แต่เราผู้ใหญ่ก็พอเข้าใจ ก็ทำให้หลายคนอึ้งเหมือนกัน เหมือนกะน้องเจก็เช็ค Rating พวกผู้ใหญ่ (อย่างเรา) เหมือนที่เราเคยทำกะเค้า 555+

ตอนที่เริ่มกะน้องเจ ... เราก็เริ่มอย่างง่าย ๆ This is .. , That is .., It's green. It's red อะไรง่าย ๆ น้องเจก็จะฟัง ตอนที่เริ่มสองภาษานั้นเริ่มเลย ไม่ได้ให้น้องเจตั้งตัว เพราะตื่นเช้ามาชวนไปอาบน้ำ ก่อนหน้านั้นเป็นภาษาไทย พอเริ่มก็ปลุกเลย Jay.... wake up! It's time to take a bath now. เห็นน้องเจหน้างง ๆ เหมือนกัน 555+ เราก็พูดไปเรื่อย พูดทุกวัน ชี้นกพูดนก ชี้ไม้พูดไม้ ปกติน้องเจเนี่ยถอดเสื้อต้องเก็บใส่ตะกร้าเอง (ตะก่อนสั่งภาษาไทย) กันก็เปลี่ยนคำสั่งเป็นภาษาอังกฤษไม่ผ่านไทย Take off your pyjamas and put them in the white basket. ก็จะจับเค้าถอดเสื้อ หยิบใส่มือ แล้วพาไปที่ตะกร้า ทุกขั้นตอนก็จะเน้นศัพท์ให้ ย้ำทุกวันทุกครั้ง จนทำเองได้

แล้ววันนึงน้องเจเดินไปที่เครื่องซักผ้าถามกันว่า What's this? เราก็รีบตอบเลย Washing machine. หลัง ๆ เค้าก็ประยุกต์เอาว่า I want to put in washing machine. พอได้ยินอย่างงี้ต้องรีบสนับสนุน ก็รีบตอบน้องเจไปว่า OK. แล้วก็คุยไปเรื่อย เล่นไปเรื่อย ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย เพราะเคยสอนเยอะเกินจนเป็นปัญหาว่าน้องเจไม่ไปโรงเรียน ก็เลยเริ่มถอย หยุด แล้วกลับมาสอนให้น้องเจไปหาคำตอบที่โรงเรียนบ้าง .. ตอนนี้เข้าที่แล้ว .. น้องเจเอง ก็พูดบ้างอะไรบ้าง ก็ตามวัย ;)