เด็ก อ.1 เรียนมากไปหรือเปล่า?

[Hilight's Mommy]

ตอนนี้จัดตารางให้น้อง Hilight เด็กน้อยวัย 3 ขวบครึ่ง+ 

1.เรียนภาษาอังกฤษ Super English   วันละ 1 ชั่วโมง (จ-พฤ) 

2. เรียนเปียโน อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

3 เรียนบัลเลต์ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

4 เรียนศิลปะ อาทิตย์ละ 1 คร้้้ัง

ก่อนเข้าเรียนต้อง Build อารมณ์กันสุดๆ แต่ก็ต้องรอลุ้นตอนเรียนอีกทีว่า She จะโอเคหรือไม่ หากมีคุณแม่ร่วมห้องด้วย she จะค่อนข้าง ok แต่ใจหนึ่งก็คิดเรียนมากหรือเปล่าเนี้ย หรือเรียนเร็วไปหรือเปล่า อีกใจก็คิดว่าดีกว่าอยู่บ้านแล้วปล่อยให้เวลาผ่านไปใครมีประสบการณ์ช่วย comment หน่อยค่ะ

[มามี้ปิ๋ม]

ขอแชร์ความคิดเห็นจ้า

คิดว่ายึดที่ตัวเด็กเป็นสำคัญค่ะ   หากลูกเรียนแล้วมีความสุข   มากแค่ไหนเค้าก็รับได้

แต่หากว่าเป็นการฝืนใจ แม้จะเรียนไม่เยอะในสายตาพ่อแม่  แต่ก็เยอะเกินไปในความคิดลูกค่ะ

 

สำหรับคลาสภาษาอังกฤษของน้องภูมิ    คือการไปเล่นค่ะ  จะพูดกับลูกตลอดว่า  มามี๊พาน้องไปเล่นกับT.ปีเตอร์  กับโซโล

มีเพื่อนเยอะแยะเลย    

 

สำหรับน้องภูมิ จะหากิจกรรมอะไรให้เค้าทำ  ต้องสร้างเรื่องราวมากมาย  (เหนื่อยเหมือนกันนะ  อิ อิ)   แม้แต่กินผัก  หรือนั่งคาร์ซีท

แต่ถ้ามองให้สนุก  ก็สนุกดีค่ะ  จะได้ลุ้นทุกวันว่าเรื่องของเราจะเข้าตากรรมการหรือเปล่า   แต่ก็มีบางทีสนุกไม่ออก  อยากเช่นตอนนอนค่ะ   เหนื่อยมาก  เพราะเค้าจะพูดมากกกกกก

[นันทิยา (แม่น้องตังเม)]

ใช้ลูกเป็นศูนย์กลางดีกว่าค่ะ ชอบอันไหนก็เรียนกันต่อ ไม่ชอบอันไหนก็ค่อยๆ เลิกไป  ให้ลูกเรียนอย่างมีความสุขดีกว่า  ช่วงนี้เด็กเค้าอยู่ระหว่างการเรียนรู้ เห็นอะไรใหม่ๆ เข้ามา ก็สนใจไปเสียหมด  แต่อีกซักพักก็คงพอจะมองออกว่า เด็กชอบอันไหนจริงๆ

[mamaoun]

ยังไม่มีประสบการณ์  แต่อยากร่วมแชร์ค่ะ  สังเกตของหลาน ๆ ถ้ามีคุณพ่อหรือคุณแม่เล่นด้วยจะเล่นได้นานค่ะ  เช่นกอฟท์ พอคุณพ่อคุณแม่เล่นด้วย  ก็อยากไปทุกอาทิตย์   แต่อย่างเปียโน หรือว่ายน้ำ  คุณแม่ไม่ชอบ  ปรากฎว่าเหนื่อยค่ะ   พอจบคอร์สจะเริ่มคอร์สต่อไป  คุณแม่ก็แอบเสียดายตังค์ด้วย  เพราะเหมือนว่าสนใจแป๊บเดียว  เลยจะเรียนๆ หยุด ๆ  ถ้าเจอคุณครูใจเย็น เรียนเหมือนเล่น ๆ  เด็ก ๆชอบ  ก็คิดว่าไม่เยอะน่ะค่ะ

[แม่ขวัญ]

นี่ก็ใช้เด็กเป็นตัวกลางค่ะ เหมือนคนโต ส่งไปทุกที่ ชอบก็ส่ง ไม่ชอบก็เลิก จนปัจจุบันไม่ให้เรียนอะไรเลย เปียโนก็เลิกแล้ว ตีขิมก็เลิกแล้ว

ลูกคิด บัลเล่ย์ เลิกหมด เลี้ยงเอง ลูกมีความสุขมากขึ้น เรามีความสุขมากขึ้น เสาร์อาทิตย์เลิกคิดที่จะส่งเรียนพิเศษ 

 

   ตัวลูกกลับขอไปเรียนภาษาจีน เรียนได้ แม้จะเลิกดึก แต่ก็ยอมเรียน เค้าบอกเค้าชอบ  ส่วนคนเล็ก ก็ชอบไปเล่นกลับ T .ปีเตอร์ แต่มักจะหลับเวลาไปเรียน  เลยไปแบบผลุบๆโผล่ๆคะ

 

   เอาเด็กเป็นตัววัดดีกว่าค่ะ ถ้าเอาเรา เราก็อยากให้ลูกได้เรียนในสิ่งที่เราสามารถให้โอกาสเค้าได้แต่เด็กมีความสุขหรือป่าวเราไม่รู้จ้า ขวัญก็เคยเคี่ยวเข็ญคนโต  จนรู้สึกว่าเหนื่อย ทำไมลูกเราไม่ได้ดังใจ เงินก็เสียไปแล้ว(อารามเสียดายเงิน) ให้เข้าเรียน เหนื่อยมากกับการเทียวรับเทียวส่ง วันๆไม่เป็นอันทำงาน  จนเดี๋ยวนี้เลิกแล้วค่ะ วิชาใดๆขวัญสอนได้ สอนเองเรียบ

  โดยการเน้นใซ้สื่อ เหมือนตอนนี้ สอนคณิต สอนอังกฤษก็ใช้พวกของเล่น กับเป็นการสนุก คนโตก็ชอบ คนเล็กก็ชอบเล่นกันทุกวัน วันละ 20-30 นาที เท่านี้ก็ได้อะไรเยอะแล้ว คนเล็กตอนนี้เริ่มอ่านหนังสือ หนังสือ อ่านเกือบจบเล่มแล้ว(แต่เป็นจากอ่านด้วยความจำ) ก็ยังดี เพราะยังไม่ถึงวัยที่เค้าจะอ่านเองได้นะค่ะ แค่นี้แม่อย่างขวัญก็ดีใจแล้ว

 คุณลิน่าค่ะ ซึ่งบางเรื่องสามารถเสริมได้ในตอนโต ดนตรี เด็กที่มาเรียนตอนโตก็เยอะแยะ วิชาที่เป็นทักษะฝึกกันได้รับรองค่ะ แต่วัยแห่งความสุข ความสนุก ผ่านแล้วผ่านเลยจ้า  (อันนี้แล้วแต่มุมมองและมาตรฐานของแต่ละบ้านนะคะ ซึ่งไม่เหมือนกันค่ะ ) ^-^