เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

เดือนก.ค. นี้ ครอบครัวดิฉันจะกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทย
และดูบรรยากาศไม่รู้ตอนนี้เมืองไทยน่าอยู่เหมือนสมัยก่อนรึเปล่า
เพราะไม่ได้กลับ 2 ปีละ ซึ่งตั้งใจว่า ปีหน้า 2010 จะกลับไทยถาวรซะที
แต่คิดว่าจะประเมินว่ากลับถาวรชัวร์หรือไม่ชัวร์ในการไปเยี่ยมครอบครัวครั้งนี้แหละ

หากกลับไทยปีหน้าแน่นอน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตั้งใจให้ลูกเรียนที่บ้าน
(ลูกอายุตอนนั้นคง 10 ขวบเต็ม) ทำ Home School เราสองคนสามี+ภรรยา
ไม่มีงานทำค่ะ เหอๆๆ สอนลูกอยู่บ้านดีกว่าไปเสียเงินเข้า ร.ร.แพงๆ
และเรามั่นใจว่าเราสามารถสอนได้ หากวิชาใดๆ ที่เราไม่ถนัดค่อยให้ลูกไปเรียน
เพิ่มเติมตามสถาบันต่างๆ นอกบ้าน


ดิฉันจัดโปรแกรมเรียนให้ลูก แบบเรียนในห้องประมาณวันละไม่เกิน 2 ชั่วโมง
นอกนั้นจะเรียนนอกห้อง หรือนอกสถานที่ เน้นกิจกรรม เรียนปฏิบัติมากกว่าทฤษฎี
เรียนการใช้ชีวิตจริงๆ ให้เขาใช้ความรู้ความสามารถตามที่เขาถนัดและชอบ


ทีนี้กลับเข้ามาที่คำถาม

อยากรู้ว่ามีสมาชิกท่านใดบ้างที่ทำ Home School ให้ลูก (หาเพื่อนๆแฮะๆ)
และหากเพื่อนๆ สมาชิกที่ไม่ได้ทำ มีความคิดเห็นอย่างไร ด้านบวก ด้านลบ
โพสท์กันมาเลยค่ะ ดิฉันก็ได้แต่คิดในตอนนี้ ยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำจริงๆ เลย
ตอนนี้ที่เมืองไทยน่าจะมีคนทำเยอะขึ้นแล้วนะคะ

มีใครสนใจการศึกษาแนวนี้ให้ลูกๆ บ้าง มาคุยกันนะคะ


Views: 13285

Replies to This Discussion

ป่านนี้น้องคงเข้ากับสังคมที่ร.ร.ได้แล้วมั้งคะ ลองดูแล้วร.ร.โอเครึเปล่า
ที่ร.ร.เด็กเยอะ ครูดูแลไม่ทั่วถึงจริงๆ แหละค่ะ แค่ดูแลเด็กซนๆ เวลาก็หมดไปแล้ว
กำลังทำ home school ให้ลูก 2 คนค่ะ สนุกดี ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
รบกวนขอคำแนะนำค่ะ
ชื่อโอ๋นะคะ ลูกชายจะ2ขวบแล้วคิดว่าจะเริ่มสอนแล้วค่ะ แต่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
ไม่รู้จะวางแผนการสอนยังไง
เล่าทางemailก็ได้นะคะ ถ้าสะดวกaoleklek@yahoo.com
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ลองทำดูนะครับจะรู้เอง ปัญหามีแน่ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ค่อยๆหาทางแก้ไปเรื่อยๆ การขอจัดทำหลักสูตรหรือทำโฮมสคูลก็ไม่ยาก ไปคุยกับ สพฐ.ใกล้บ้านเขาจะมีคู่มือให้ ก็ทำแผนส่ง(มีตัวอย่างให้) ที่แนะนำได้เพราะเคยไปติดต่อมาด้วยตนเอง คิดจะทำให้ลูกชายคนโตเรียนป.1 (แต่ไม่ได้ทำ) เขาไปเรียนหลักสูตร E.P ที่โรงเรียนเอกชน อยู่ประจำ
ผมเองลองทำแบบกึ่งโฮมสคูลตอนลูกเรียนอนุบาล คือเวลาเรียนปกติลูกก็เรียนกับเพื่อนในห้องเรียน กลับมาบ้านช่วงเย็น เสาร์อาทิตย์ กับ ปิดเทอมก็เป็นเวลาของเรา แต่ผลที่ได้รับดีกว่าการเรียนที่โรงเรียนมาก..... เพราะเราสามารถดูแล พัฒนาการเขาได้ตลอด และประเมินเขาได้ตลอดเวลา เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนได้ตลอด ไม่มีรูปแบบตายตัว (จุดแข็งของโฮมสคูล) แม้แต่คณิตศาสตร์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษเสมอไป ประยุกต์สิ่งใกล้ตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่นก้อนหิน กิ่งไม้ ก็สามารถสอนพื้นฐานการบวกลบ คูณ หารได้ เรียนและเล่นอยู่ด้วยกันได้ แต่คุณต้องใช้ความอดทนมากๆๆๆ และให้เวลากับเขา รวมทั้งการเตรียมตัวเองให้พร้อมตลอดเวลา อย่าลืม เด็กโฮมสคูลสิ่งแวดล้อมกว้าง เวลาเรียนไม่มีจำกัด คำถามจะมาก (ห้ามตอบไม่รู้เด็ดขาด เมื่อเด็กถาม เพราะเขาจะขาดความเชื่อมั่นในตัวคุณ แต่ต้องบอกว่าเดี๋ยวขอติดค้างไว้ก่อน ขอเวลาค้นคว้าเพิ่มแล้วจะให้คำตอบ แต่อย่าให้นานนัก)
ลองทำดูครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้สู้และอดทน ผลสำเร็จจะตามมา (ตัวอย่าง ลูกชายผม เด็กอนุบาลบ้านนอก สอบเข้า ป.1 E.P ทำคะแนนได้ 98 เปอร์เซนต์ เรียน ป. 1 ได้ 2 สัปดาห์ โรงเรียนให้ pass ชั้นไปเรียน ป. 2 เขาก็เรียนได้ มีความสุขดีด้วย แทบทุกวิชา เขาทำได้ดีกว่า เด็กที่เรียน ป.2 ด้วยกันอีก) ต้องลองครับจะรู้เอง
I have been looking into doing something like what you are about to do......sounds very interesting and the fact that I have been a teacher for 10yrs. I do feel quite confident that I can do the job as well.....I know that I could get most of the "Books" (Work book / Practise books of all of the subjects) ......Thank Heaven for e-bay ..and amazon and a few other sites.......my only concern would be the socializing / "team building" activities through class projects and sports...etc......Ohhhh and in my house hold...there isn't anyone that will be able to teach my kids in Thai ......My Mrs. works ...my mother -law .....lets go there :) ........so it will be an "internation" school's program like, set up ........?

I think for those that are interested in this issue need to have a "get together" talk or Lunch or Dinner and see what we could come up with...?
I agree with you, let's get together.
I also think that the only one problem of home school is the social problem. Finding the best location for doing activities together may be a little hard, cause a traffic in Bangkok is poor. But for me, 1 or 2 days a week for joining a group is enough. ......May be we'll find that a lot of people here want to join and we don't have to cross a city to join a group, we can make a group near each other home.
Great idea.........when and where would be a good time and place for everyone to have our 1st meeting??
เห็นด้วยมากๆค่ะ เพราะศึกษามาตั้งแต่ปี๔๑ ตอนเรียนปริญญาตรี ค้นคว้าและทำรายงานเรื่องนี้พอสมควร ตอนนี้มีลูกแล้ว ๒.๙ ขวบ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจและหน้าที่การงาน คุณพ่อน้องเป็นตำรวจ คุณแม่ทำงานองค์กรของรัฐ ทำให้ที่ฝันไว้สมัยวัยรุ่นไม่อาจทำได้จริง เลยต้องเอาน้องเข้าโรงเรียนวอลดอร์ฟที่บ้าน จ.ระยอง
ตอนแรกน้องมีปัญหาการปรับตัวในการเล่นกับเพื่อนมากค่ะ เพราะไม่รู้กำลังตัวเอง ตัวใหญ่และแรงเยอะกว่าวัยเดียวกัน ประกอบกับใจร้อน ทำให้มีปัญหาการเล่นกับเพื่อนอยู่บ่อยๆในช่วงแรก แต่ก็พยายามฝึกเขาแล้วคุยกับครูให้เข้าใจ เพราะผู้ปกครองท่านอื่นไม่เข้าใจเด็กของเรา และครูก็มองว่าลูกเราเป็นเด็กเกเร ตอนแรกคุณพ่อกลุ้มใจมากๆค่ะ เคยเห็นมั๊ยคะ ที่ตอนลูกหลับแล้วเขานั่งจ้องหน้าลูกนิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรเป็นชั่วโมงๆ เราเห็นแล้วเครียดกว่าอีกค่ะ แต่พยายามไม่แสดงออก
ตอนหลังโรงเรียนเขาเรียกคุย กับครู กับเรา เลยคุยกัน เราบอกเขาไปว่าเท่าที่เรารู้จัก ลูกเราไม่ใช่เด็กที่จิตใจไม่ดี ไม่ใช่เด็กเกเร แต่เขายังไม่เคยเข้าสังคมกับรุ่นเดียวกันแบบนี้(ยังไม่เคยเข้าเนอสเซอรี่ที่ไหน คุณยายเลี้ยงอยู่ที่บ้านตลอด) เลยยังไม่รู้จักการเล่น แต่เขาเป็นเด็กที่อ่อนไหว และมีน้ำใจนะ เพียงแต่ต้องแสดงให้เขารู้ว่ารักเขา เขาก็จะอ่อนโยนและแสดงความรักตอบ
ตอนนี้เราคุยกับครูใหญ่ และครูประจำชั้นเขาบ่อยๆ เพื่อดูว่าพฤติกรรมเป็นยังไง ก็ปรากฎว่าดีขึ้นมากค่ะ ครูรักและชื่นชมเขาที่มีน้ำใจ ช่วยครูโดยไม่ต้องบอก เช่น เวลาน้ำหก ก็จะเอาผ้าไปเช็ดพื้นให้ เอาถังขยะมาให้ครู เวลาปอกผลไม้เสร็จ...
ก็เลยโอเคกับโรงเรียนวอลดอร์ฟที่นี่ โดยที่ตอนเย็น, วันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำคล้ายๆพ่อน้องอิ่ม ที่สอนลูกเอง เช่น จัดที่บ้านให้เป็นห้องเรียน มีมุมหนังสือ โต๊ะหนังสือ มีทั้งนิทาน แบบเรียนอนุบาล หนังสือภาพ พจนานุกรมภาพสำหรับเด็ก แล้วสอนเขาเองก่อนนอน ให้เขาหยิบหนังสือมาให้เราอ่าน อยากอ่านเล่มไหนก็จะอ่านให้ฟัง
-ตอนเช้าวันหยุดก็จะเปิดแผ่นซีดีเสริมพัฒนาการให้ มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เบบี้ไอสไตน์ ลิตเติ้ลไอสไตน์ บาร์นีย์ มัมมี่แอนด์มี LEAPFROG Backyardigans ฯลฯ ก็แล้วแต่เขาว่าอยากดูเรื่องอะไร แต่เราว่าพวกนี้ได้ผลนะคะ เพราะเขาเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากซีดีพวกนี้ โดยเฉพาะเรื่องการออกเสียงได้จากLEAPFROG เต็มๆเลย
-เสร็จแล้วพาไปกินข้าว แล้วก็จะพาไปเที่ยวสวนสัตว์เขาเขียว หรืออควาเรียม หรือไปทำกิจกรรมอื่น เช่นทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ตอนนี้เราก็จะถามเขาไปเรื่อยๆ ว่านี่สีอะไร รู้จักไหม โน่นอะไร หรือร้องเพลงเด็กๆกันไปในรถ เห็นอะไรข้างทางก็ถามและก็สอนเขานับเลข เรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมรอบตัว
-บ่ายกลับมานอน ตื่นมาตอนเย็นก็จะเอาไปสวนสาธารณะ ซึ่งจะมีเครื่องเล่นสนาม และมุมให้ระบายสีภาพ ให้เขาเล่นจนพอใจ มืดก็กลับบ้าน คุณพ่อก็ได้วิ่งออกกำลังกาย คุณแม่ก็คอยดูน้อง ก็เหนื่อยดีเหมือนกันค่ะ
-ช่วงเวลาอาบน้ำ ก็สอนเรื่องร่างกายของเรา สอนความแตกต่างระหว่างหญิง-ชาย สอนเรื่องการแปรงฟันโดยร้องเพลงประกอบท่าทางให้เขาสนุกค่ะ
-ก่อนนอน ก็จะให้สวดมนต์ไหว้พระ ร้องเพลงสั้นๆ ท่องบทอาขยานเก่าๆ ร้องเพลงA B C นับเลขเป็นภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆ กล่อมเขาจนหลับ
เคยบอกครูใหญ่ที่โรงเรียนน้องไว้ค่ะ ว่าเราเชื่อในวอลดอร์ฟ ไม่ต้องการให้ลูกไปนั่งเรียนวิชาการตั้งแต่เล็กอยู่แล้ว เพราะวิชาการเราจะสอนเอง ให้เรียนเป็นเล่น แล้วที่บ้านจะทำให้เรื่องเล่นเป็นเรื่องเรียนเอง เพราะเราจะดูตามความสนใจของเด็ก ไม่บังคับ ไม่ยัดเยียด เด็กจะเรียนรู้ได้อย่างมีความสุขมากกว่า
อ่านกระทู้นี้แล้วดีใจที่มีหลายคนมีความคิดในแนวทางเดียวกัน ถึงแม้มันจะสุดโต่งกับการศึกษาปัจจุบัน แต่เพราะพ่อแม่คงเห็นสภาพปัญหาของการศึกษาปัจจุบัน และเข้าใจจิตวิทยาเด็กมากขึ้น อยากให้ผลลัพธ์เป็นคล้ายๆกับพ่อน้องอิ่ม คงจะปลื้มใจมาก......
จริงๆแล้วยังอยากทำโฮมสคูลอยู่นะคะ อย่างที่บอก เป็นความฝันตั้งแต่สมัยวัยรุ่นว่าถ้ามีลูก เราจะสอนลูกเอง เลี้ยงลูกเอง หนังสือหนังหาเกี่ยวกับการศึกษา ทฤษฎีการศึกษา จิตวิทยามีเต็มบ้าน แต่ในสภาพความเป็นจริง พ่อและแม่ต้องเป็นมนุษย์ทำงาน กินเงินเดือนหลวง ซึ่งก็ไม่มากมายอะไร จึงทำให้ต้องเอาความฝัน+ความจริง เป็นครึ่งๆอย่างที่เห็นค่ะ
จะเข้ามาแอบอ่านทู้นี้บ่อยๆนะคะ ชอบค่ะที่เห็นการแบ่งปันและช่วยเหลือกัน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนนะคะ
Anyone free this weekend or so......if too soon...lets make it 1st weekend of August ..?
สวัสดีค่ะ คุณ mon phuri แอบถามนิดหนึ่งค่ะ ว่าโรงเรียนวอลดอร์ฟที่ จ.ระยอง
ร.ร. อะไรคะ
http://www.karn.tv/c_school/com_002.html

I have just heard of this school na krupps.......each school has it's own "Concept" and Ideas of how "Teaching" should be like ......feels like this school "Concept" is to use "Art" and self Expression to "stimulate" the Students ....
Thank you very much ka Khun Simons . Wanna join a meeting with you but we live in Sriracha -Chonburi.

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service