เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
เผื่อว่าจะได้แนะนำวิธีการสอน การเรียนกันได้บ้างครับ และถ้ามีห้อง home school เลยยิ่งดี ผมคิดว่ากำลังได้รับความสนใจเพิ่มขี้นอย่างมาก
ตอนแรกก็จะให้ลูกสาวเรียนอนุบาลปีหน้า แต่คิดไปคิดมา สอนกันเองน่าจะดีกว่า แม่น้องก็เลี้ยงเองตลอดอยู่แล้วด้วย
ประการแรก ได้ความสัมพันธ์ใกล้ชิด
สอง สอนได้เต็มที่ 2 ต่อ 1
สาม ประหยัดค่าใช้จ่ายแพงๆ (สำคัญสุดหุหุ เพราะรายได้น้อย เสียค่าเทอมแพงๆ แล้วยังต้องกวดวิชาอีก
สี่ หลักสูตรไทย มีแต่การแข่งขันมากเกินไป เด็กนะ ไม่ใช่หุ่นยนต์ เผลอๆล้าสมัย มีแต่สอนให้ท่องจำ ไม่สอนให้คิด ใช้ในชีวิตจริงไม่ได้
ห้า หากเกิดย้ายที่อยู่ไปต่างจังหวัดหรือไกลจากสถานที่เรียนก็ต้องปรับตัวใหม่อีก
ใครคิดเห็นอย่างไร ช่วยแนะนำ แสดงความคิดเห็นให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
แป๊ปๆ ก็ผ่านไป 2 ปี ( ขาดอีก 1 เดือน ) สำหรับกระทู้นี้ ลูกสาวผมก็ 4 ปี แล้ว ลองผิดลองถูกกันไป แต่ก็ได้ผลดีในระดับหนึ่ง ตำรา สื่อการสอนต่างๆ ส่วนใหญ่ก็หาเอาจากอินเตอร์เน็ต แต่......ผมว่าเราจะสอนได้ดีไม่น่าจะเกิน 6 ปี หลังจากนั้นวิชาความรู้ต่างๆ ที่จะสอนต่อนั้น เรามีความถนัดแค่ไหน นั่นแหล่ะ..ที่ผมคิดว่าเป็นปัญหาที่จะต้องแก้ไข พ่อแม่ถนัดอะไรก็จะเน้นสอนอย่างนั้น แต่ถ้าเกิดเด็กไม่ถนัดในสิ่งที่พ่อแม่พยายามสอนหรือถนัดล่ะจะทำอย่างไร เราจะเสียพรสวรรค์ของเด็กไปหรือเปล่า แบบนี้........ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้มีการรวมกลุ่มพ่อแม่ที่ถนัดกันแต่ละอย่าง มาสอนลูกๆรวมๆกัน วิชาไหนใครถนัดก็ช่วยสอนให้หน่อย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปก็ได้ หรือหากไม่สะดวก ก็ติดต่อกันในกลุ่มโดยการส่งข้อมูลเนื้อหาการสอน รวมทั้งสื่อการสอนแต่ละวันหรือสัปดาห์ในสิ่งที่ตนเองถนัดแต่ละคนให้กันภายในกลุ่ม Home School เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกัน เด็กๆก็จะได้เรียนรู้ครบทุกสาขาวิชาด้วย น่าจะดีไหมครับ
หากใครเห็นด้วยก็ช่วยกันโหวต แจ้ง e-mail หรือ ส่งข้อความมาที่ผมก็ได้ เมื่อรวบรวมได้ ก็จะแจ้งผ่านทางกระทู้นี้เป็นระยะๆ ว่ามีจำนวนกี่ครอบครัวแล้ว มีสาขาวิชาใดบ้าง
ขอบคุณอีกครั้ง
Tags:
เห็นด้วยอย่างมากที่สุดเลยคะ
รู้สึกว่ากระทู้นี้อยู่ได้ยาวมากเลยนะคะ แล้วก็มีุคนตอบมาอย่างต่อเนื่อง แสดงว่าบ้านเรานี้มีคุณพ่อคุณแม่ที่อยากจัดการศึกษาให้ลูกตัวเองไม่น้อยเลย คือกำลังคิดว่า เราน่าจะลองหาโอกาสมาพบปะกันดีไหมคะ อย่างน้อยได้มาแลกเปลี่ยนพูดคุยและรู้จักกัน ก็น่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อยนะคะ เคยเห็นมีคนเสนอแล้ว แต่ไม่ได้รับเสียงตอบรับ และพี่ธี แม่น้องกาหน่าฉายเคยจะจัดมีทติ้งครั้งหนึ่ง แต่ก็ล้มไป ความจริงตอนนี้ ตัวเองก็กำลังคิดเรื่องที่เรียนของลูกเหมือนกันคะ ยังสองจิตสองใจอยู่ว่าจะส่งเรียนดีหรือว่าจัดโฮมสกูลดี แต่เงื่อนไขของตัวเองคิดว่าถ้ามีกลุ่มก็คงจะสนุกกว่า
แถวถนนเจริญนคร เขตคลองสาน มีสถานที่ที่พอจะจัดประชุมกันได้ คือ ที่สวนเงินมีมา พี่ธีเคยจะนัดเจอที่นั่นอยู่ บ้านจินอยู่แถวนั้น สามารถช่วยติดต่อให้ได้คะ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ที่ทำโฮมสกูลอยู่แล้วอย่างหลายๆท่านที่ตอบมาในกระทู้นี้ อาจจะรบกวนให้ช่วยมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง แล้วก็มีเวลาสำหรับการพูดคุยกันเอง อาจจะนัดกันหลังปีใหม่ สักสัปดาห์ที่สองหรือสาม วันเสาร์ แบบนี้ จะมีใครสนใจไหมคะ อันนี้ลองเสนอเป็นตุ๊กตาดูคะ หรือจะมีคุณพ่อคุณแม่เสนอเป็นอย่างอื่น
ไปเจอมาคะ จาก facebook พ่อแม่ Homeschool
http://www.facebook.com/groups/homeschoolnetwork/doc/235118713225476/
ช่วง นี้ใน เวบบอร์ด Homeschool Network ของเรา มีเพื่อนๆผปค.น้องเล็กๆ วัยก่อนอนุบาล และอนุบาล หลายท่าน ที่ต้องการเริ่มต้น ทำโฮมสคูลให้กับลูก แต่ไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ดิฉันจึงไปรื้อค้นข้อมูลเดิมที่เคยเขียนใน เวบบล็อก www.5Qkids.blogspot.com ซึ่งเป็นข้อมูลที่เขียนไว้ตั้งแต่ ปี 2008 ในยามนั้นลูกทั้งสองคน เรียนอยู่ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และดิฉันก็ำำทำโฮมสคูลลูกในวันหยุด และหลังเลิกเรียน เรื่องราวที่เขียนนี้ ค้นคว้ามาจากหลายข้อมูลทั้งไทย และอังกฤษ ซึ่งดิฉันได้กล่าวไว้ในเวบบล็อกนั้น
ก่อนอื่น ก่อนที่พ่อแม่จะตัดสินใจทำโฮมสคูลให้น้องๆหนูๆ ดิฉันอยากเล่าคร่าวๆ ว่า Homeschool ที่เค้าว่าๆกันนั้น มีหลายแบบค่ะ เท่าที่ศึกษาดูทั้งไทย และตปท. คือ
Unschool คือ ไม่สอน ไม่มีตารางแน่ชัด สอนเมื่อมีโอกาส มีจังหวะ หรือเห็นว่า ลูกพร้อม พ่อแม่พร้อม เท่าที่สังเกตดู เด็กๆที่เรียนแบบนี้ ลูกก็อาจจะเทียบกับการเรียนในระบบได้ยาก คือ ในวัย ๖ ขวบ ป.๑ เด็กก็อาจจะอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ในขณะที่เด็กในระบบ อ่านได้ เขียนได้แล้ว หากจะเอาเกณฑ์สังคม คือ การอ่านออก เขียนได้ การทำข้อสอบได้ ก็อาจจะวัดผลน้องๆที่เรียนในระบบแบบนี้ได้ยาก
อีกแบบ คือ เรียนในระบบไปด้วย ทำ Homeschool ไปด้วย แบบนี้ เป็นที่นิยมในปัจจุบัน โรงเรียนแนวทางเลือกหลายๆแบบ ก็ใช้วิธีนี้ เช่น ดรุณสิขาลัย รุ่งอรุณ เป็นต้น คือ พ่อแม่ผปค. ต้องมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกับทางโรงเรียนอย่างใกล้ชิด ต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับลูกที่บ้าน ดิฉันเองก็ใช้วิธีนี้ในการสอนลูกที่บ้าน ด้วยการติดตาม ว่าลูกเรียนอะไรบ้างที่โรงเรียน และจัดกิจกรรมที่บ้านให้สอดคล้องไปด้วย และอาจจะเสริมในส่วนที่ขาด หรือ เสริมในส่วนที่ลูกสามารถไปได้มากกว่าที่โรงเรียนให้ ตามศักยภาพของลูก
อีกแบบคือ ทำ Homeschool แบบ Homeschool แท้ๆ มีหลักสูตรตายตัว ที่พ่อแม่กำหนดเอง วิธีนี้ พ่อแม่ต้องทำการบ้านเยอะค่ะ ต้องศึกษาว่าในวัยของลูกแต่ละวัย มีพัฒนาการทั่วๆไปเป็นอย่างไร และเราต้องสอนอะไรบ้าง เรียนวิชาอะไรบ้าง หัวข้ออะไรบ้าง กี่ชม. ทำแบบฝึกหัด เรียนออนไลน์ เรียกว่า เด็กเรียนที่บ้าน แต่ตารางเรียน เริ่มเรียน 9 โมงเช้า ถึง เที่ยง ช่วงบ่าย เป็นการฝึกและเรียนรู้นอกห้องเรียน และเมื่อถึงเวลาก็สอบตามกำหนด ที่ต่างประเทศ จะมีการเรียนในระบบนี้ ค่ะ โดยเฉพาะในออสเตรเลีย ในสหรัฐอเมริกา ประชาชนที่อยู่ห่างไกลโรงเรียน ก็จะใช้วิธีนี้ โดยเจ้าของหลักสูตร ออนไลน์ก็จะมีการเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อแนะนำพ่อแม่ เรื่องวิธีใช้หลักสูตร วิธีสอน และเปิดโอกาสให้เด็กๆและผปค.ที่อยู่ในละแวกเดียวกันได้พบปะกัน และเป็นเพื่อนกัน อาจจะจัดทำ โฮมสคูลร่วมกัน
การทำ Homeschool แบบ Homeschool แท้ๆ นั้น หลายๆแห่งที่ประสบความสำเร็จ พ่อแม่ควรรวมกลุ่มกัน แบ่งงานกันสอนเด็กๆในกลุ่มของตัวเอง อาจจะกลุ่มละ ๕ ครอบครัว แต่ละครอบครัว รับผิดชอบคนละวิชา และมาสอนเด็กๆด้วยกัน เด็กๆก็มีเพื่อน สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ เรียนรู้ด้วยกัน โดยเด็กที่เรียนด้วยกัน อาจจะมีอายุไม่เท่ากัน แต่ใกล้เคียงกัน ก็ได้
จะเห็นว่า ความสำเร็จของเด็กที่เรียนโฮมสคูลนั้น สำคัญที่วินัยของพ่อแม่ และความอึด ความอดทน และความพยายามเรียนรู้ของพ่อแม่ด้วย
ในความคิดเห็นของดิฉัน สิ่งที่พ่อแม่ต้องตั้งคำถามกับตัวเอง ก่อนที่จะตัดสินใจทำโฮมสคูล หรือนำพาลูกเรียนแบบ โฮมสคูล คือ
- คุณพร้อมแค่ไหนที่จะรักษาสัจจะวาจาของคุณ รับผิดชอบกับตารางเวลา และหลักสูตรที่คุณกำหนดไว้ให้ลูก
- คุณพร้อมแค่ไหนที่จะปรับพฤติกรรมส่วนตัว เืพื่อให้เป็นแม่แบบที่ดีของลูก
- คุณมีเวลามากแค่ไหน ที่จะศึกษาไปพร้อมกับลูกในทุกๆด้าน คือคุณต้องศึกษาก่อน ทำความเข้าใจ จัดอุปกรณ์ และ ทำกิจกรรมกับลูก
- ความสามารถในการเรียนรู้ และการถ่ายทอดของคุณ มีความพร้อมหรือไม่ที่จะเป็นครูฝึกให้ลูก หากคุณเป็นคนขี้หงุดหงิด หรือใจร้อน ก็อาจจะไม่เหมาะ
- คุณพร้อมแค่ไหนที่จะปล่อยวาง ให้ลูกฝึกฝน ทำอะไรด้วยตนเอง เรียนรู้จากความผิดพลาด เจ็บตัว
ยอมให้เลอะฝุ่น เลอะดิน และยอมรับที่บ้านอาจจะมีสกปรกเลอะเทะได้
หากข้อใดข้อหนึ่งใน 4 คำถามนี้ เราทำไม่ได้ ก็อาจจะต้องหาวิธีอื่นด้วย เพราะในฐานะครูของลูก เรายังมีศักยภาพไม่พอค่ะ ซึ่งหากดื้อดึงสอนไป อาจจะเป็นการทำลายอนาคตและโอกาสทางการศึกษาของลูกมากกว่า
เดี๋ยวจะมาเขียนต่อค่ะ เป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้พ่อแม่ลูกเล็ก ลูกอนุบาล สามารถเริ่มต้นทำกิจกรรมโฮมสคูลกับลูกที่บ้านได้ เพราะมันไม่ยากเกินไป และเป็นการเปิดโอกาสพัฒนา การรักการเรียนรู้ ความเป็น Self Learner ในตัวลูกด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเด็กๆในการเรียนชั้นประถม มัธยมต่อไป
เข้าไปที่เว็บของ สกศ. ชื่อเต็มจำไม่ได้คะ สำนักงานการศึกษาอะไรสักอย่าง มีข้อมูลงานวิจัยที่น่าสนใจเกี่ยวกับ homeschool คะ ลองดูนะคะเผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่คิดจะทำ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by