ให้ลูกเริ่มกินข้าวบดตอนกี่เดือนคะ

[แม่น้องเอิงเอย]

จากที่เคยอ่านมาเค้าให้กินตอนห้าหรือหกเดือนใช่มั้ยคะ โดยเริ่มจากหนึ่งช้อนชา

คือนกสงสัยน่ะค่ะ

ตอนนี้น้องเอิงเอยอยู่ที่หนองคายกับตายาย จะกลับมาอยู่รังสิตกับนกวันอังคารที่จะถึง ห่างกันมาอาทิตย์นึงคิดถึงลูกมากๆ ร้องไห้ทุกวัน แต่จำเป็นต้องกลับมาทำงาน

แล้วช่วงที่นกไม่อยู่ ลูกนอนดึก ร้องงอแงกลางคืน ตอนนี้สามเดือนกับอาทิตย์นึงค่ะ แล้วเพื่อนบ้านเค้าบอกว่าให้กินข้าวได้แล้ว ที่ร้องตอนกลางคืนเพราะกินไม่อิ่ม แต่เอิงเอยเค้ากินนมเยอะนะคะกลางคืน ตอนนกอยู่ประมาณสี่ทุ่มก็หลับ แล้วอาจจะตื่นมาอีกทีตีสามหรือสี่ ส่วนมากนอนไม่เกินเที่ยงคืน แล้วหลับยาวเลย

ยายก็จะให้กินข้าวบดแล้วน่ะค่ะ ยาย(แม่นกเอง) บอกว่าคนอีสานน่ะให้ลูกกินข้าวตั้งแต่เกิดเลย เค้าจะเคี้ยวข้าวให้ละเอียดๆแล้วป้อนลูกน่ะค่ะ สมัยนี้อาจจะไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังมีอยู่ทำแบบนี้น่ะค่ะ

เดี๋ยวลูกต้องกลับมาอยู่กับนกแล้ว นกควรให้ลูกเริ่มกินหรือเปล่าคะ ลูกคนแรกค่ะ

[อรนัย รักในหลวง]

ดร.เอ๊กซ์ค่ะ อ๊อบจะออกแนวโหด คือไม่กินก็ไม่ง้อ เด็กมีพลังงานสะสมค่ะ ให้ข้ามไปซักมื้อก็ได้ เค้าจะเรียนรู้ว่าถ้าเค้าไม่กิน เค้าจะหิว เพราะฉะนั้นถึงเวลากินต้องกิน(โหดไปมั้ยค่ะ 555)

[Monrudee Loha]

ไม่โหดเลยค่ะคุณอ๊อบ! 555

[Wikky]

สี่เดือนก็เริ่มให้ได้แล้วนะคะ แต่ก็ต้องแล้วแต่เด็กแต่ละคนด้วยนะคะ ว่าเด็กมีความพร้อมรึยัง อย่างน้องทับทิม ลูกวิเองลองให้อาหารเสริม ซีรีแล็คตอนน้องอายุได้ สีเดือนเต็ม เป็นซีรีแล็คสูตรข้าวกล้องผสมกล้วยบด โดยใช้น้ำนมวิผสมแทนน้ำต้มสุก ให้น้องทาน ลอง 1 ช้อนก่อนให้เด็กได้ลิ้มลองรสชาด แล้วคั้นน้ำส้มให้ลูกจิบๆๆ หลังจากนั้นสักประมาณสัปดาห์เอากล้วยสุกครูดผสมเล็กน้อย ตอนนี้ทำซุปกระดูก แล้วกรองให้ลูกทานแล้วค่ะ หลังจากที่ลูกได้ทานข้าว หนึ่งมื้อเช้า เพียงมื้อเดียวสังเกตว่าน้องทับทิมขับถ่ายทุกวันค่ะ คือวิว่าคุณแม่ใกล้ชิดกับลูกลองสังเกตลูกดูนะคะว่าลูกมีปฏิกิริยากับอาหารยังไงบ้าง ตอนนี้น้องทับทิมสี่เดือนครึ่ง ให้หัดกัด ผลไม้เช่นมะละกอสุกพอห่ามๆ ฝรั่ง แครอท แล้วค่ะ อิๆๆ
แล้ววิขอเพิ่มความรู้จากข้อควรระวังในการให้อาหารเสริม จากข้อมูลหนังสือ EnfaA+
- ในช่วง สามเดือนแรก ลูกควรได้รับแต่นมแม่เท่านั้น ไม่ควรให้อาหารอื่นใด เพราะระบบการย่อยยังไม่พร้อมจะรับอาหารอื่นนอกจากนม เด็กอาจท้องอืด อาหารไม่ย่อยลูกดูดนมได้น้อยลง
- ควรเริ่มให้อาหารเสริมทีละอย่าง เพราะหากลูกแพ้จะได้ตรวจสอบได้ง่ายว่าเป็นเพราะอาหารชนิดใด
- เมื่อจะเริ่มให้อาหารชนิดใหม่ควรเว้นระยะห่างกัน หนึ่ง ถึง สองสัปดาห์เพื่อสังเกตการตอบสนองร่างกายของลูก
- เริ่มให้ทีละน้อย เช่นเริ่มที่ หนึ่งช้อนชา แล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณ
- ในช่วงหกเดือนแรก ควรให้อาหารเสริมวันละครั้งเท่านั้น เมื่อครบหกเดือนจึงให้อาหารเสริมเป็นอาหารมื้อหลักหนึ่งมื้อ
- ต้องระวังเรื่องความสะอาดอย่างเต็มที่ อาหารทุกชนิดต้องใหม่ สด ล้าง อย่างสะอาด และควรแยกจากของผู้ใหญ่ ผู้ปรุงต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
- อย่าให้อาหารรสจัดแก่เด็ก ควรปรุงจืดไว้ก่อน และไม่ควรใส่ผงชูรส ควรให้เด็กได้ลิ้มลองรสธรรมชาติ ความหวานจากน้ำต้มกระดูกหรือน้ำต้มผักก็เพียงพอและเอร็ดอร่อยสำหรับลูกแล้ว
- อาหารของลูกควรพัฒนาไปตามวัย เช่น สี่ถึงห้าเดือน ควรบดละเอียดมาก ห้าถึงหกเดือนละเอียดปานกลาง หกถึงเจ็ดเดือนหยาบขึ้น เก้าถึงสิบเดือนหยาบขึ้น เมื่อลูกเริ่มมีฟันขึ้นอาจให้อาหารอ่อนนิ่มธรรมดา
- ไม่ควรให้อาหารชนิดใหม่ขณะที่ลูกยังอิ่ม ควรรอให้ลูกหิวเต็มที่ ความหิวจะช่วยให้ลูกเรียนรู้เร็วขึ้น เด็กบางคนมีพัฒนาการด้านการกินอาหารช้า ถ้าคุณแม่ไม่เข้าใจพยายามป้อนอาหารเสริมก่อนที่ลูกจะมีความพร้อม ลูกจะปฏิเสธตลอดเวลา ในที่สุดแม่จะยอมแพ้ลูก และไม่ป้อนอาหารให้ลูกอีกเลย ลูกอาจจะผ่านพ้นวัยเรียนรู้การกินอาหาร จึงไม่ยอมกินอาหารเสริมอื่น นอกจากนม ทำให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และอาจจะมีปัญหาด้านการกิน เมื่ออายุมากกว่าหนึ่งปี
หวังว่าคงจะเป็นข้อแนะนำได้บ้างสำหรับคุณแม่มือใหม่ทุกท่านนะคะ

[Daddyปันดี]

สำหรับน้องปันดี แกเริ่มทานตามที่คุณหมอบอกพอดีเลย คือ 4 เดือน เพราะก่อนหน้านั้น น้องปันดีไม่ยอมทานอะไรนอกจากนมคุณแม่ ปัจจุบัน 9 เดือนเต็ม ทานวันละ 2 มื้อ ดื่มนมขวด และดื่มนมแม่ตอนกลางคืนครับ ...

[Daddyปันดี]

เห็นด้วยกับคุณอ๊อบครับ ... เด็กก็คือมนุษย์ หิวก็ส่งสัญาณบอกเราเอง ... ที่สำคัญคืออย่ารีบไปให้ของหวานเด็กมากเกิน ของน้องปันดีดื่มนมคุณแม่อย่างเดียวเลยครับจนถึง 4 เดือน ตอนนี้ตัวก็ยังไม่โตมาก อยู่เกือบตกเกณฑ์ แต่ว่าสุขภาพแข็งแรงมากครับ แรงเยอะมากๆ คิดดูว่ามือน้อยๆเหมือนมือตุ๊กตามือเดียวขยับพวงมาลัยมอร์เตอร์ไซค์ที่จอดอยู่จนเกือบล้ม สองมือพลิกโต๊ะทานข้าวมาแล้วครับ ไม่น่าเชื่อ