*** รูปที่เกิดจากพื้นฐานของ Tense แต่ละ Tense จะเรียกว่าเป็นรูป Simple ***
ซึ่งสามารถเขียนเป็นรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้ โดยที่
S แทน Subject หรือ ประธาน นั่นเอง
V แทน Verb โดยจะมีทั้ง ช่องที่ 1, 2, 3 และเติม ing
Present Tense
1. Present Simple Tense (S + V1)
2. Present Continuous Tense (S + is / am / are + V+ing)
3. Present Perfect Tense (S + has/have + V3)
4. Present Perfect Continuous Tense (S + has /have + been + V+ing)
Past Tense
1. Past Simple Tense (S + V2)
2. Past Continuous Tense (S + was /were + Ving)
3. Past Perfect Tense (S + had + V3)
4. Past Perfect Continuous Tense (S + had + been + Ving)
Future Tense
1. Future Simple Tense (S+ will / shall + V1)
2. Future Continuous Tense (S + will / shall + be + Ving)
3. Future Perfect Tense (S + will/shall + have + V3)
4. Future Perfect Continuous Tense (S + will /shall + have + been + Ving)
แสดงการกระทำที่ทำเป็นประจำ มีคำบอกพวก always , often , every , seldom ( บอกว่าไม่บ่อยก็ใช่ )
แสดงความจริงทางวิทยาศาสตร์ สัจธรรม สุภาษิต
แสดงความจริงขณะที่พูดอยู่
เช่น
I watch TV everyday.
The world is round.
Dang and Dam are brothers.
2. Present Continuous
ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ มักมีคำบอกเวลา เช่น now , at the moment , litsen! look!
บอกอนาคตอันใกล้ ( coming soon )
ป.ล. กิริยาที่ใช้บ่งบอกความรู้สึก ความคิด มักไม่ใช้รูป ing เช่น see , hear , feel ,smell , want , agree (และอีกมากมาย)
เช่น
Asukais talking on the phone now.
TheEnd of Evangelionis coming soon to the theater near you.
3. Present Perfect
ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ดำเนินต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน มักมีคำว่า since , for , so far
ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่จบไปแล้ว แต่ผลของการกระทำยังอยู่
แสดงเหตุการณ์ที่เพิ่งจบลงไป มักมีคำว่า just , yet , already , recently , lately , finally , eventually
ใช้กับเหตุการณ์ที่ เคย/ไม่เคยทำ บอกจำนวนครั้งในอดีต มักมีคำว่า ever , never , once , twice ,again and again ...
เช่น
I have likedjapanese animationever since I was a child.
I have turned on the radio.
I have already read this book.
Have you ever been to Neo-Tokyo?
4. Present Perfect Continuous
ใช้เหมือน Present Perfect แต่เน้นความต่อเนื่องของเวลาว่ายาวนาน มักมีคำว่า all week , all day ..
และใช้เน้นว่าจำดำเนินต่อเรื่อยไปในอนาคตด้วย เช่น
I have been sitting here since 6 o'clock ( คือเน้นว่านั่งมานานแล้วแล้วก็จะนั่งต่อไป)
แต่ถ้าเป็น I have sat here since 6 o'clock ( บอกว่านั่งมานานแล้วต่อไปจะเป็นไงไม่รู้)
5. Past Simple
ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่ได้จบลงไปแล้ว มักมีคำบอกเวลาดังนี้ yesterday , in the past , ago , in 1983 (ปีอดีต) , the other day , last (
night , week ... ) คำว่า"used to" ซึ่งเป็นการใช้กับสิ่งที่เคยทำเป็นประจำในอดีต แต่ตอนนี้เลิกทำแล้ว คำว่า "used"ในความหมายนี้ จึงเติม ed เสมอ เช่น
Dang saved my life yesterday.
She used to drink milk every night.
6. Past Perfect
ใช้เป็น Combo กับ Past Simple โดยที่ ใช้กับเหตุการณ์ในอดีต 2 เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน ที่เกิดก่อนใช้ Past Perfect ที่เกิดที่หลังใช้ Past Simple เช่น
She had finished her breakfast before I arrived.
7. Past Continuous
ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในอดีต
ใช้กับ 2 เหตุการณ์ในอดีต ( Combo กับ Past Simple อีกแล้ว )
เหตุการณ์หนึ่งกำลังดำเนินอยู่ ( ใช้ Past Continuous ) แล้วก็มีอีกเหตุการณ์หนึ่งเข้ามาแทรก ( ใช้ Past Simple )
ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่ดำเนินไปพร้อมๆกันในอดีต มักมีคำว่า while , as เชื่อม เช่น
At 8 o'clock last night , she was studying.
While I was walking down the street , it began to rain.
You were running in the park while I was swimming in the pool.
8. Past Perfect Continuous
ใช้เหมือน Past Perfect แต่เน้นว่า มีเหตุการณ์อย่างแรกดำเนินมาเรื่อยจนมีเหตุการณ์หลังเกิดขึ้น เช่น
The police had been looking for the criminal for 2 years before they caught him.
9. Future Simple
แสดงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต มีคำบอกเวลาคือ tomorrow , next (time,month...) , soon , shortly
be going to ต่างกับ will,shall ตรงไหน ??
will shall แสดงความเต็มใจทำให้ (ไม่ได้วางแผน)
be going to แสดงการวางแผนล่วงหน้า
แต่ถ้าคาดการณ์ว่าอาจเกิดในอนาคตใช้ได้ทั้ง2อย่าง
กรณีต่อไปนี้ห้ามใช้ be going to แทน will shall
เช่น
Ask your teacher about it. She will help you.
I'm going to paint my bedroom tomorrow.
Ice will melt in a few minutes.
I will love you forever.
I will buy you a cake if you give me money.
10. Future Continuous
ใช้กับการคาดคะเนว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นๆในเวลาจุดนั้นในอนาคต เช่น
At the same time tomorrow , I will be sitting here.
11. Future Perfect
ใช้คาดการณ์ว่าจะกระทำในอนาคตและจะเสร็จสิ้นเมื่อถึงเวลาใดเวลาหนึ่ง มักมีคำว่า by next week , by tomorrw by 9 o'clock เช่น
I will have finished my homework by the time I go out on a date tonight.
12. Future Perfect Continuous
ใช้คล้ายกับ Future Perfect แต่เน้นว่าอาจมีการดำเนินต่อไป เช่น
I will go to bed at 10 PM. He will get home at midnight.
At midnight, I will be sleeping.
I will have been sleeping for 2 hours by the time he gets home.