เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

home-school meeting tomorrow? จากกระทู้แม่น้องพลอยชมพู

จากในกระทู้ของแม่น้องพลอยชมพู เรื่อง Home school มีคนสนใจจะทำโฮมสคูลให้น้องวัยก่อนอนุบาลหลายคนอยู่   แล้วเราก็คุยๆกันว่าจะจัด meeting คุยกันสักครั้ง ว่ามีโอกาสเป็นไปได้ไหม ที่จะมาแจมกันบ้าง เพื่อให้เด็กที่สอนอยู่กับบ้านไม่ขาดทักษะด้านสังคม คือ มีสังคม เพื่อน ......แต่กระทู้ไปไหนไม่รู้แล้วค่ะ และพรุ่งนี้ก็เป็นเวลานัดแล้ว อยากทราบว่ามีคนจะมาแจมอยู่อีกไหม กี่คนคะ อยากนับจำนวณค่ะ แล้วก็อยากนัดเวลา สถานที่ด้วย

Simon: I don't know if you can read Thai. Tomorrow is a meeting appointment but at this moment, it's still unclear about attendants, place and time. So what do you think?

For me , I think that most of Thai people aren't use to this manner. I mean even people live in the same condominium, they don't allow their kids to play with other kids. May be they're too busy to take care their kids when playing outside a home, so they don't let their kids going out. It's the same reason that no body wants to bring her/his kid to play with other kids to solve the social problem. They are likely to take kids to a nursery to meet friends. It's easy.   >> I mean most of people, not all.

Views: 1933

Replies to This Discussion

สนใจคะเพิ่งมาเข้าร่วมนะคะแต่ว่าสอนน้องสองภาษาเองมาระยะหนึ่งเเล้วตอนนี้เริ่มได้บ้างแตว่าสนใจเรื่องhomeschoolจัง
สนคะ แต่ว่าแถวไหน
ยุวดี 0815979837
ขอตอบยาวหน่อยนะคะ ไม่ได้เข้ามาถี่ค่ะ พอมีเวลาเลยเขียนทียาวเลย
เราต้องนัดกันอีกทีแล้วค่ะ เพราะจริงๆ คุณไซมอนกับมิ้น(ตัวเอง)นัดกันไว้เมื่อวาน แต่ไม่มีการคอนเฟิร์มกันเลยไม่ได้ไปตามนัดค่ะ สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุด ถ้าใครพาครอบครัวไปเที่ยวคงยังเหนือยกันมาก คงเป็นเหตุผลที่เราหากระทู้เก่าที่นัดกันไม่เจอ เพราะไม่มีใครไปอัพเดทเลย ถ้าสนใจเดี๋ยวเรานัดกันอีกทีนะคะ ตอนนี้ขอความเห็นก่อนค่ะ

แนะนำตัวนิดค่ะ มิ้นเป็นสถาปนิก และเคยเป็นนักออกแบบของเล่นเด็ก แต่ตอนนี้พักงานเป็นคุณแม่เต็มตัว เลี้ยงลูกและทำงานบ้านค่ะ ตั้งใจจะทำ Home school ให้ลูกก่อนเข้าประถม ตอนนี้ก็สอนอยู่กับบ้าน หาหนังสือพวกพัฒนาการเด็กตามอายุ และแนวทางการสอนแบบมอนเตสเซอรี่ มาเป็นแนวทางสอนลูกค่ะ เพราะให้คิดเองก็คิดไม่ทัน อิ อิ ทำงานบ้านยุ่งจนไม่มีความคิดสร้างสรรค์มาคิดพวกนี้ ต้องอ่านหนังสือช่วยเป็นระยะๆค่ะ

ทีนี้พบว่า สอนอะไรครั้งแรก ลูกจะสนใจ ทำได้นานประมาณ 30-50 นาที (ตามทฤษฎีเลย) แต่พอครั้งที่ 2-3-4 เด็กชักเบื่อ เล่นทีละ 20 - 15 - 5 นาที แล้วก็มองหาของใหม่ๆ ทั้งที่ skill ยังไม่พัฒนา เป็นเพราะว่าเด็กไม่มีเพื่อนเล่นด้วยค่ะ

เราก็ชอบเนิสเซอรี่ ตรงที่เด็กมีเพื่อนทำกิจกรรมแบบเดียวกัน เด็กจะสนุก แล้วยิ่งเป็นเนิสแบบที่เอาเด็กโตมารวมกับเด็กเล็ก พี่คอยสอนน้อง เด็กยิ่งสนุก เด็กชอบเรียนจากเด็กด้วยกัน แล้วเด็กก็ชอบสอนเด็กด้วยกัน เขาจะจัดกลุ่มกันแบบ 1.5-3 ขวบ กับ 3-6 ขวบค่ะ เพราะเด็ก 3 ขวบขึ้นไปจะเล่นแรงกว่าเด็กเล็กแล้ว พัฒนาการเขาไปไกลแล้ว แต่ก็มีกิจกรรมบางอย่างที่เด็กสองกลุ่มนี้ทำด้วยกันได้ (นี่อ่านมานะคะ) และจากการสังเกตชีวิตจริง ลูกไปเล่นกับเด็ก 5 ขวบ 9 ขวบ ก็เล่นด้วยกันได้ แต่เป็นบางอย่างค่ะ เช่น พวกเชิงกีฬา(สกูทเตอร์ จักรยาน) เด็กโตสอนเด็กเล็กได้ แต่เล่นด้วยกันแบบเพื่อนเล่นไม่ได้

ขอเล่ากลับมาที่เรื่องลูกตัวเองหน่อยค่ะ

คือ ลูก 2 ขวบ ช่วงนี้เพื่อนเล่นเขาเข้าโรงเรียนกันหมด เหลือแต่เด็กเล็กรุ่นเดียวกันที่พ่อแม่เขาก็ไม่ส่งเสริมให้เล่นและเรียนทำนองที่เราทำ คือ ส่วนใหญ่ให้ตายายเลี้ยงแทน จ้างคนเลี้ยงบ้าง ป้าๆยายๆ เขาก็แค่พาเด็กกินข้าว ล้างก้น ให้ขี่จักรยานเล่น แต่ไม่สอนนั่นนี่ พอเราไปชวนเด็กคนอื่นมาเล่นกับลูกเรา มันก็เล่นด้วยกันไม่ได้ แบบคนเลี้ยงก็คอยห้าม "น้อง...อย่าเอานั่นตี.... อย่าทุบ...สิคะ เสียงดัง / อย่าเอาสีระบายตรงนั้นสิ ระบายในกระดาษสิ / โห น้อง...วาดอะไรไม่รู้ ไม่ได้เรื่องเลย เละเทะ นี่ไงป้าเลยไม่อยากให้เล่น" แต่ว่าเราเองปล่อยให้ลูกทำหมด เพราะถึงเด็กจะเล่นของเล่นไม่เหมือนที่เราคาดหวัง แต่เขาก็เรียนรู้บางอย่างอยู่ พอเรามาคนละแนวกับป้า เรา open ป้าเขาปิดการเรียนรู้เด็ก มันก็เล่นกันไม่สนุก แล้วเราก็พูดกับลูกภาษาอังกฤษ "put it in this room" (เอาดินน้ำมันใส่ช่องนี้สิคะ) ป้าเขาไม่รู้ภาษาอังกฤษ เขาก็เก้อๆ

ที่เราไม่อยากเอาลูกเข้าเนิส ก็เพราะกลัวว่าบางเนิสเซอรี่ จะขี้เกียจเก็บกวาด แล้วก็มาลงเอยกับการจำกัดการเล่นของเด็กให้อยู่ในกรอบมากๆ ด้วย พอมาเจอแบบเดียวกันกับเด็กที่คอนโด ก็เลยขี้เกียจจะชวนมาเล่นด้วยกัน เราคิดว่ามันจะเล่นด้วยกันสนุก พ่อแม่หรือคนเลี้ยงเด็กต้องมีแนวคิดแบบเดียวกันก่อน

ตอนนี้พิพิธภัณฑ์เด็กปิดปรับปรุงยาว เราเลยไม่ได้เอาลูกไปเล่นที่นั่นมานานแล้ว เลยครึ่งปีแล้ว น่าเสียดายมาก ที่นั่นมีทั้งของเล่นแบบ pretend play และแบบ physical play แถมยังมีห้องสมุดเด็กด้วย ตอนนี้เราเข้าขั้นเดือดร้อนเลย ต้องไปสมัครสมาชิก Funarium มันก็คล้ายๆพิพิธภัณฑ์เด็กนะคะ แต่มีแค่ของเล่นฝึกร่างกาย (คล้ายๆบ้านบอล) กับมุมทำงานศิลปะที่ไม่ค่อยเวิร์ค สอนอะไรลูกไม่ค่อยได้ (เทียบกับพิพิธภัณฑ์) แต่เด็กได้ออกกำลังกายจนเหนื่อย เด็กมีความสุข หลับสบาย

อีกนิดเดียวค่ะ
เมื่อวานได้คุยกับคุณแม่ที่ทำ Home school ให้ลูกตั้งแต่ลูก 5 ขวบ -12 ขวบ ที่อยู่ตึกเดียวกัน บังเอิญไปเจอที่สวนรถไฟ ลูกเราเลยแล่นด้วยกัน คุณแม่เขาบอกว่า เขารู้ว่ามันมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมกัน แต่เขาไม่ได้รวมกลุ่มกะใคร เพราะเขาพาลูกไปนอกบ้านบ่อยมาก จนจัดเวลาตรงกะใครไม่ได้ เช่น พาไปห้องสมุดแดวดุสิต ไปร่วมกิจกรรมกับพ่อเด็ก (พ่อเด็กเป็นกรรมการฟุตบอลค่ะ มีกิจกรรมทั่วประเทศประจำ) เรียกว่าไปเรียนนอกบ้าน แต่คุยไปคุยมา พอเห็นว่าลูกๆเราเข้ากันได้ดี เราก็นัดกันว่า กุมภานี้จะขึ้นไปเที่ยวเชียงใหม่ พาลูกๆ ไปเก็บสตรอเบอรี่ด้วยกัน เพราะบังเอิญคุณแม่เขา กับ ดิฉัน มีบ้าน(พ่อแม่)อยู่เชียงใหม่เหมือนกัน แชร์รถกัน ประหยัดค่ะ คือ เรื่องของเรื่องคือการหาเพื่อนทำกิจกรรมให้ลูกแหละค่ะ

มิ้นคิดว่า เราจะแจมกันได้ ต้องมีแนวคิดทำนองเดียวกันก่อน มีการสอนลูก ปฎิบัติกับลูกคล้ายๆกัน คือ เด็กเป็นตัวของตัวเองได้ ไม่มีความรู้สึกเหลื่อมล้ำกัน ส่วนเรื่องเวลาที่จะแจม อย่างมิ้นอยากทำเป็น routine เหมือนๆกันทุกอาทิตย์ มันง่ายค่ะ เราจะได้กำหนดวันพักผ่อน วันออกจากบ้านได้ คุมรายจ่ายได้ แต่มิ้นก็สามารถแจมกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาอย่างคุณแม่เพื่อนบ้านได้ และคิดว่าสำหรับคุณแม่ที่อยากเอาลูกมาแจมแบบนานๆที ถ้าเราสามารถรวมเด็กได้สักกลุ่มนึง มีจำนวนหน่อย เด็กๆจะไปกันได้เอง แม้จะไม่คุ้นกัน
สนใจอยากทำ home school มากคะ ตอนนี้น้องอายุ 2.2 ขวบแล้วยังไมได้ดู รร เพราะตั้งใจว่าจะให้เข้า รร ตอนประมาณ 5 ขวบ ได้แนวร่วมมาเป็นเพื่อนคนหนึ่ง อยู่แถวคลองประปาคะ ยังสนใจอยู่หรือเปล่าคะ ขอร่วมด้วยคนคะ
ใจเดียวกับเลยค่ะ ตอนนี้ลูกอายุ 2 ขวบ คิดว่าจะรอให้ลูกเข้าเรียนประมาณ4-5 ขวบ เพราะคิดว่าเราน่าจะดูแลลูกได้ดีกว่าเนิส และค่าใช้จ่ายเนิสดีๆ ก็ค่อนข้างสูง แต่คุณสามีก็กลัวเรื่องลูกจะไม่มีเพื่อนเล่นวัยเดียวกัน อาจทำให้ลูกมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมกับเด็กวัยเดียวกันได้ แถมมีเพื่อนบางคนเสริมว่าถ้าไม่ส่งลูกไปเนิสรอจนโต ลูกจะยิ่งติดบ้านติดแม่เพิ่มเข้าไปอีก เลยทำให้ลังเลเล็กๆค่ะ
สนใจไอเดีย ว่าแต่ว่าอยู่แถวไหนคะ หน่อย 0818040914
สนใจค่ะ ตอนนี้ลูกสาวอายุ2ขวบค่ะ แต่ว่าอยู่แถวไหนคะ เล็ก 086-6658643
หลังจากที่มาโพสไว้ (3 เดือนมาแล้ว) ได้ลองเอาลูกไปเข้าเนิสเซอรี่ดู (2 วัน) แล้วก็ได้เอาลูกไปเล่นกับลูกของลูกค้า ไปเข้ากลุ่ม Playgroup ภาษาญี่ปุ่นกับเพื่อน(ในเวบสองภาษานี่แหละค่ะ) วันนี้ก็เพิ่งไปมา ยังเหนื่อยมากๆ จนอยากขอพักการนัดมิตติ้งไว้ก่อน ขอพักสมองก่อน แต่อยากเล่าให้เพื่อนๆฟังว่า วันที่ไม่ได้เอาลูกไปเจอเพื่อนที่ไหน เราทำอะไรบ้างที่มันได้ผล เผื่อเป็นไอเดียให้คุณพ่อคุณแม่บ้างค่ะ

- หัดขี่จักรยาน (ไม่ใช่สามล้อ) เด็กวัยนี้เริ่มขี่จักรยานได้แล้ว ถ้าใครชอบรถมากๆหน่อยก็ขี่ได้เร็ว ถ้าไม่ค่อยชอบรถก็อาจจะประมาณ 2 ขวบครึ่ง
- ไปพิพิธภัณฑ์ผีเสื้อ สวนรถไฟ พาลูกไปรู้จักสัตว์ใหม่ๆค่ะ เด็กๆตื่นเต้นมาก พิพิธภัณฑ์ปิดบ่ายสามนะคะ แนะนำว่าอย่าไปวันที่ฝนจะตก อากาศอ้าวมาก เด็กจะไม่สนุก
- หัดว่ายน้ำ หน้าฝนหาที่ว่ายน้ำยากหน่อย ต้องเสาะหากัน เราพาลูกไปที่สโมสรทหารบก เพราะสระกับห้องน้ำสะอาด แถมมีร้านอาหารด้วย สะดวก ใกล้บ้าน
- โหลดเพลงnursery song มาเปิดให้ลูกดู เราเริ่มจาก  a wheel on a bus/ head shoulder knee and toe/ if we're happy/ five little monkey พวกนี้เป็นเพลงที่มีท่าเต้น หลังจากให้ดูในทีวีแล้ว เราก็แปลงไฟล์เป็น mp3 มาเปิดวิทยุให้ฟังก่อนนอน กลายเป็นก่อนนอนเราจะมีกิจกรรมเต้นเข้าจังหวะกัน แล้วลูกก็ได้เรียนรู้ศัพท์พวก wheel/ head/ eye/ mouth/nose/ clap your hand/ shake your hands/ turn around (ศัพท์จากเพลง)
- พาไปหอศิลป์ เราตั้งใจจะให้ลูกซึมซับงานศิลปะแบบธรรมชาติ เลยวางแผนจะพาลูกไปหอศิลป์สักสัปดาห์ละวัน เปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ ตอนนี้พึ่งพาไปที่เดียวคือ หอศิลป์สมเด้กพระนางเจ้าสิริกิติย์ ผ่านฟ้า ลูกได้ดูอะไรใหม่ๆ ก็สนุกตามเรื่องตามราว เราก็พยายามชี้อธิบายภาพตามที่เราเข้าใจว่า นี่ปลานะ นี่คนนะ ภาพนี้เศร้านะ ภาพนี้รถไฟฟ้าที่หนูเคยไปไง ภาพนี้แม่ว่าตลกนะ ฮะ ฮะ
- วาดรูปให้ลูกดู ดูเหมือนเด็กจะยังวาดรูปเองไม่ได้ บางทีเราก็ให้เขาลองระบายสีเอง เขาก็ป้ายๆเป็นแถบ เป็นเส้น เขาสนุกกับการผสมสีมากกว่า แต่บางวันเราก็เป็นคนวาดรูปให้เขาดู วาดไปก็แต่งเรื่องราวประกอบภาพไป เป็นการชวนลูกคุยแล้วก็สอนศัพท์ สอนพูด
เรามีหนังสือสติ๊กเกอร์ด้วย เราทำกิจกรรมนี้แล้วลูกสนุกมาก ถึงกับสามารถพูดคำว่า play ได้ (เพื่อชวนเรามาเล่น) (ลูกพูดไม่ค่อยได้ค่ะ เป็นเด็กไม่พูด) แต่มีข้อแม้ว่า เราห้ามคาดหวังนะ ว่าเด็กสองขวบจะระบายสีได้ หรือ แปะสติกเกอร์เป็น ไม่งั้นจะปวดหัว

- ไปสวนสัตว์เขาดิน ดูแมวน้ำโชว์ เด็กๆจะได้รู้จักสัตว์เพิ่มขึ้นอีกชนิด ได้รู้ว่าสัตว์เล่นอะไรเป็นบ้าง เขาจะแปลกใจนะที่แมวน้ำเล่นลูกบอลเก่งกว่าเขา แถมกระโดดสู้งสูง ลอดห่วงได้อีก พูดกะคนรู้เรื่องอีก แล้วได้ฝึกสายตาด้วยเพราะแมวน้ำนี่ไวมาก
- หัดทำกับข้าว จับลูกมากวนแป้งแพนเค้กด้วยกัน (วันที่ลูกตื่นเช้า แล้วเราไม่มีเวลาทำอาหารตามลำพัง ก็จับมาช่วย) สอนเขาปอกเปลือกผัก (จับมือทำ) สอนพร้อมๆกับพูดด้วยว่ากำลังทำอะไร มีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ วันหลังจะได้สั่งให้ช่วยแม่ได้ อิ อิ

ลูกไปเนิสเซอรี่มาสองวัน ความเห็นของเราคือ เราสามารถสอนลูกได้ดีกว่าที่โรงเรียนสอน แม้เราจะไม่ได้สอนลูกเต็มวันแบบโรงเรียน แต่ถ้าเทียบกับเด็กอื่นๆที่เจอที่โรงเรียนแล้ว เราว่าพัฒนาการก็ไม่แตกต่างกันก้าวกระโดดมาก แต่เราก็พบว่าเด็กวัยสองขวบเนี่ย เป็นวัยที่เริ่มซนแบบสุดๆ จะรื้อของทั้งวัน หานั่นหานี่ เราตามเก็บจนเหนื่อยบางทีก็ท้อใจอยากจะเอาเข้าเนิสเซอรี่จริงๆ แต่เราก้เปรียบเทียบปัจจัยหลายๆอย่างแล้ว สำหรับกรณีเรา การส่งเข้าโรงเรียนมันไม่คุ้ม เช่น เราเหนื่อยกับการรีบต้อนให้ลูกกินข้าวเร็วๆ อาบน้ำเร็วๆ แปรงฟันเร็วๆ เพื่อให้ไปโรงเรียนทันมากๆ -- ถ้าคนที่ต้องไปทำงานอยู่แล้วคงชิน

ตอนนี้เรากำลังมีปัญหาเรื่องการ balance ชีวิตด้านต่างๆเข้าด้วยกัน เรื่องที่ต้องสอนลูกก็เยอะ ต้องมาลำดับก่อนว่าอะไรก่อนหลัง งานบ้านก็ต้องทำ ภาษาก็กำลังเริ่มสอนสามภาษา อึมมม ... เรากำลังทำเป้าเป็นรายเดือนอยู่ว่า ในแต่ละเดือนลูกควรได้รู้เรื่องอะไรบ้าง เป็นหัวข้อที่ไม่แน่นเกินไป เป็น memo ช่วยจำน่ะค่ะ ถ้ามันได้ผลเราจะมาเล่าต่อ แต่ตอนนี้ขอ work out ก่อน

เรื่องมีตติ้งเดี๋ยวมาว่าอีกทีค่า
ได้ยินพี่ๆที่ทำงานบอกว่าระบบhome school ทางรัฐยอมรับแล้วนะคะ เพียงแต่เราต้องไปแจ้งความจำนงค์กับโรงเรียนที่สังกัด
แล้วจะมีการวัดประเมินกับทางโรงเรียน โดยที่ลูกไม่ต้องไปโรงเรียนทุกวัน

ดิฉันมีเอกสารหลักการอยู่ แนบไว้ให้ค่ะ ปรึกษากับสามีคาดว่าในระดับอนุบาลก็คงจะให้เข้าเรียนกับเพื่อน แต่ไม่น่าจะเกิน 2 ปี
ระดับประถม อาจใช้วิธีการที่ไปเรียนในวิชาที่เราไม่สามารถสอนได้ เช่น พละ ประวัติศาสตร์

อยู่ในวงการการศึกษาเลยได้รู้เห็นอะไรๆพอสมควร เลยไม่อยากปล่อยให้ลูกลอยไปตามกระแสค่ะ
เรามาสร้างเรือให้ลูกเราขับเคลื่อนไปในทางที่ดี ตามศักยภาพของเขาดีกว่า
Attachments:
เริ่มมีสมาชิกที่สนใจหลายคนแล้ว เรามาร่วมกลุ่มแล้วเริ่มกันเลยไหมคะ มารววมความคิดความเห็นกันว่าเราควรสอนไรลูกดี ตอนนี้ที่สนใจให้ลูกไปเรียนเพิ่มเติมคือ ดนตรี ว่ายน้ำและศิลปะคะ เพราะไม่รู้ว่าจะสอนลูกอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะสอนตามความเข้าใจเองว่าเค้าน่าจะมีศักยภาพในการเรียนรู้ได้คะ และก็ศึกษาเพิ่มเติมแต่ก็ไม่แม่นคะ อยากให้น้องได้มีเพื่อนด้วย ไม่ได้ไปเรียนตามสถาับันใดๆเลย เคยไปลองเรียนที่จูโน่มาหนึี่งครั้ง เท่าที่เห็นไม่ยากเลยคะ ตอนนี้เลยกำลังเริ่มขยับขยายจัดบ้านให้มีสถานที่และที่เหมาะสมกับการเรียนคะ คุณแม่ท่านอื่นมีคำแนะนำอะไรเพิ่มไหมคะ ยินดีรับฟังทุกเรื่องเลยคะ
ถึงลูกไม่เข้าอนุบาล ก็ไม่ทำให้มีปัญหาเรื่องการเข้ากลุ่มกับคนอื่นแน่ รับรองได้ค่ะ (ถ้าเราเลี้ยงลูกดี ให้มีมารยาทนะคะ)
ลูกมิ้นก็ไม่ได้เข้าพวกเนิสเซอรี่เลย แต่พอเจอเพื่อนใหม่ก็เข้ากับพวกเขาได้เรื่อยๆ อันนี้ไม่ได้อวดนะคะ แค่อยากให้คุณแม่ที่ไม่มีเวลาพาลูกไปเล่นกับเด็กอื่นสบายใจค่ะ แค่ให้ลูกเล่นกับเด็กในละแวกบ้าน คอนโด ก็เพียงพอแล้ว

จากที่เห็นมาหลายๆเคส เด็กที่เข้ากับเด็กอื่นไม่ได้ มีปัญหาเรื่องเข้ากับคนอื่น จะเป็นเด็กที่ ชอบรังแกคนอื่น (ชอบตี หยิกเพื่อน) พูดไม่เพราะ ชอบด่า ดุ สอนเด็กอื่น ชอบแย่งของคนอื่น

แล้วเด็กที่ชอบตีเด็กคนอื่น ก็คือ เด็กที่แม่ชอบตีทำโทษเป็นประจำ แบบอะไรก็ตี ดะไปหมด ทีนี้พอเด็กเห็นเด็กคนอื่นทำไรไม่ถูกใจเขา ก็หาเรื่องต่อว่าแล้วก็ตีค่ะ ไม่มีเหตุผล

เด็กที่ชอบแย่งของคนอื่น ก็คือ เด็กที่แม่ชอบแย่งของออกมาจากมือเขาค่ะ เช่น "เอามานี่ แบ่งเพื่อนเล่นสิ"

เด็กที่พูดไม่เพราะ ก็คือ เด็กที่พ่อแม่ชอบด่า ดุ เวลาเขามาอยู่กับเด็กอื่นก็จะเอาแต่บ่นๆๆๆ ด่าๆๆๆ สิ่งรอบตัว ไม่เคยชมอะไรเลย เห็นอะไร เห็นใครทำไร ก็ด่าเขาไปหมด เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา อย่างนี้ใครๆก็รำคาญค่ะ

แล้วทั้งหมดก็คือ พ่อแม่ทำกับลูกยังไง ลูกก็ทำอย่างนั้นกับเพื่อน อยากให้เขาเข้าสังคมกับคนอื่นได้ ก็ต้องทำกับเขาดีๆค่ะ การเอาลูกไปให้เล่นกับเด็กอื่นเฉยๆ ไม่ได้ช่วยอะไรค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service