วันนี้เอาลูกไป ecc มาค่ะ

[หนึ่งค่ะ*-*]

สวัสดี แม่ๆและเพื่อนๆสมาชิกทุกคนค่ะ หนึ่งเข้ามาไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่นะคะ อาจไม่คุ้นหน้ากัน แต่ถ้ามีเวลาก็จะชะแว๊บแวะมาเลยค่ะ รู้สึกอบอุ่นมากๆ กับ ห้องEnglish club นี้ และต้องขอบคุณแม่บ้านประจำห้องคนสวยและเก่งคุณ แพทด้วยค่ะ *-* ที่มาตอบทุกคำถามให้พวกเราได้หายข้องใจกัน รวมทั้งสมาชิกทุกๆคนที่ช่วยกันด้วยนะคะ
ขอฝากตัวด้วยนะคะ

วันนี้มีเรื่องมาเล่า เล็กน้อยค่ะ

..........ด้วยความอยากรู้ว่าหลักสูตรภาษาของ ecc เป็นไงมั่ง เลยลองเข้าไปถามดู คุยไปคุยมาก็ไปตามปะป๊า มาด้วย ช่วยกันคุยดู เราก็แจ้งความจำนงว่า อยากให้ลูกเรียนแบบไม่ต้องแปลเป็นไทย อ่ะนะ เค้าเลยให้ เนม และนนท์ ไปทดสอบดู กับ คุณครู มาติน หนุ่มน้อย อายุ 63 เอ๊ง *-*
แล้วเราก็ไปแอบลุ้นที่ข้างประตู อืม..เนมพูดตามครู แต่ตอบคำถามครูไม่ได้ เพราะครูพูดเป็น ภาษาอังกฤษทั้งหมด ส่วนคนน้องยืนเอานิ้วยัดใส่ปากอย่างเดียว เขินแหลก ครูฝรั่งบอก Big shine
ซักพัก ครูก็ปล่อยลูกก็ออกมา เราก็ออกมาเจรจา กับครูมาร์ติน ข้างนอกอีกครั้ง แจ้ง จุดประสงค์ว่าเราอยากให้ครูสอนลูกเราแบบไหน ประมาณนั้น
ซักพักเจ้านนท์เห็นตัวอะไรไม่รู้ นนท์เลยเดินมาเรียกครูมาร์ติน what's that ........ what's that ....
โอ้พระเจ้า หูชั้นไม่ฝาดไช่มั๊ยเนี่ย ( แม่เอามือ ปิดปากเหมือนตอนนางสาวไทยได้มงกุฏ ปากสั่นระริก น้ำตาไหลพราก เว่อร์ไป แหะ..แหะ.. ขออภัย) ครูมาตินก็ตอบว่า the fly พร้อมทำท่าแมลงวันกระพือปีกให้ลูกเราดู อืม..พอได้ แฮะ แสดงว่าที่เราพูดกับลูกทุกๆวันเนี่ย ถึงแม้ลูกจะพูดมั่ง ไม่พูดมั่ง มันก็ซึมเข้าสมองเค้ามั่งแหละเนาะ
วันนั้นเลยเผลอตัวลงเรียนไป 1 คอร์ส เป็นแบบ 1 แถม1 ตัวแถมก็จ่ายเพิ่มอีกหน่อยอ่ะนะ ......แล้วจะคอยดูว่าจะเป็นไงบ้าง แล้วจะมาเล่าให้ฟังเรื่อยๆ นะคะ

หนึ่ง

[อรนัย รักในหลวง]

ผมเขิลล์อ่ะครับ ขอเวลาผมปรับตัวจิ๊ดนึง เดี๋ยวผมจาพ่นไฟให้แม่ดู หุหุหุ

[Pat]

[อรดา พงศ์สุธนะ]

น้องเก่งจัง เขาสามารถแยกได้ว่าควรพูดภาษาอะไรกับใคร awesome++

[แม่น้องเนย]

ยังไม่ทันได้เรียนก็เก่งซะแล้ว สงสัยลงเรียนซักคอร์สคงพูดไม่หยุดแน่ๆเลยค่ะ

[ศศรส บุญศิริ]

so cool ค่ะ คุณแม่! เห็นด้วยว่าสมองเค้าซึมซับสิ่งที่แม่พูดอยู่ตลอดเวลา รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้มั่งล่ะนะ ตอนนี้เริ่มสอนคำศัพท์ให้ลูกสาวไปเรื่อยๆ เมื่อวานได้นิ้วครบทั้ง 5 นิ้วเลยร้องเป็นเพลงภาษาอังกฤษ จำกันได้เลยค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่าเด็กจะใช้เวลาปรับตัวไม่นานค่ะ ยิ่งถ้ามีโอกาสให้เค้าพบและได้พูดกับชาวต่างประเทศอยู่บ้างก็จะเสริมความกล้าพูด (กับคนอื่นเป็นภาษาอังกฤษนอกจากแม่) ได้มากๆ เลย มีตัวอย่างก็คือลูกสาวนี่ล่ะค่ะ หลังจากเริ่มต้นตามแนวพ่อมือใหม่ได้ 2 สัปดาห์ ตอนนี้เค้าเจอชาวต่างชาติที่อยู่บ้านใกล้ๆ กันค่ะชื่อลุงไมเคิล ลูกสาวก็ทักทายเค้าก่อนเลย (แต่ก่อนฝรั่งทักก็เขินอายม้วนไม่พูดอะไรซักคำ) แล้วดูเค้ามั่นใจในการเริ่มต้นพูดภาษาอังกฤษกับคนอื่นก่อนด้วยค่ะ เดี๋ยวนี้ก็พัฒนาเปHนการกล้าตอบเวลาลุงไมค์ถามง่ายๆ ค่ะ เช่น You fine? เค้าก็ตอบ Fine. ลุงไมค์ยื่นขนมให้ Take this! เค้าก็ตอบ thank you แบบเขินนิดหน่อย แต่อยากกินขนมอ่ะนะ

[อรดา พงศ์สุธนะ]

ยินดีด้วยนะคะ คุณศศรส

[ubonsruang]

ดีจัยด้วยน่ะค่ะ
สู้ๆค่ะเป็นกำลังใจหั้ยค่ะ

[แม่น้องป๋อ]

น้องอายุเท่าไรค่ะ ฟังดูน่ารัดดีนะ หน่อยเองก็จะดีใจมากที่ภาษาที่สองหลุดออกจากปากลูกแต่ละคำ

[หนึ่งค่ะ*-*]

สวัสดีทุกท่านค่ะ*-*

คุณอรนัย....ก้อ..ผม เขิลนี่นา เอานิ้วยัดปากเข้าไปทั้ง 5 นิ้วเลยค่า เอิ๊กกก
คุณPAT....Good day HOW R U?
คุณอรดา พงศ์สุธนะ....แม่ก็ กะลังลุ้นตัวโก่ง เหมือนกันค่า*-*
คุณแม่น้องเนย...เก่งไม่กลัว กลัวพูดไม่ได้อ่ะค่ะ 5555
คุณ ศศรส...ลูกสาวเก่งจังเลยนะคะ ยิ่งมีลุงไมค์อยู่ข้างๆบ้านด้วยยิ่งดีใหญ่เลยนะคะ
คุณ ubonsruang...ขอบคุณค่ะ
คุณแม่น้องป๋อ....น้องเนมอายุ 6 นนท์ 4 ค่ะ

แม่ค่อยมีแรงขึ้นอีกตี๊ดนึง..สู้.สู้.ต่อไปนะคะ ทุกท่าน เพื่อลูก เพื่อลูก

[ratana]

รู้สึกเดียวกันเลย เพราะก็พูดกับลูก แต่ลูกไม่ค่อยตอบเป็นอังกฤษ
มีวันหนึ่ง น้องน้ำตาล ก็พูดออกมา แม่กับพ่อดีใจสุดๆ ถึงจะไม่พูดเป็นประโยค พูดเป็นคำๆ ก็ OK แล้ว พยายามต่อไป สู้สู้