เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

เพ็ญอ่านและได้ยินหมอหลายคนหรือผู้ใหญ่บางคนที่ไม่มีข้อพิสูจน์จริง มาบอกว่าให้นมแม่แค่ 6-12 เดือนก็พอ ไม่งั้นลูกจะขาดสารอาหารโน่นนี่ หรือไม่ก็นมแม่มีภูมิต้านทานเพียงแค่ 15 เดือนเองหรือไม่ก็เด็กจะรับสารอาหารได้เพียงแค่ 10 เดือนจากนมแม่เอง เพ็ญเข้าใจที่ว่าคุณหมอหลายคนมีความรู้นะคะ แต่ก็เป็นความรู้จากตัวหนังสือส่วนใหญ่ แล้วก็ไม่รู้ว่าคุณหมอพิสูจน์มาได้อย่างไรที่ว่านมแม่จะหยุดให้คุณค่าทางอาหารกับภูมิต้านทานหรือขาดธาตุเหล็กในวันที่นี้เดือนนี้

ถ้าพูดถึงภูมิต้านทานและคุณค่าทางอาหารหรือธาตุเหล็กที่เด็กจะได้รับ ดิฉันรบกวนให้คุณแม่หลายคนลองคิดนะคะว่า "การที่เด็กหรือผู้ใหญ่ได้ดื่มนมวัวหรือนมเต้าหู้แล้วได้คุณค่าทางอาหารหรือแคลเซี่ยม ทำไมดื่มแล้วได้คุณค่าไปตลอดชีวิตล่ะคะ ส่วนนมแม่เป็นนมของมนุษย์ที่ขึ้นอยู่กับอาหารที่คุณแม่รับประทานในแต่ละวัน จะต่างกับนมของจำพวกสัตว์ได้อย่างไรคะ สัตว์ทานอะไรบ้างในแต่ละวันล่ะคะ "

เพ็ญบอกตรงๆว่า อย่างน้อยต้องขอบคุณคุณหมอที่สนับสนุนในการให้นมแม่ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ระยะสั้นเท่านั้นเอง

Views: 234

Replies to This Discussion

กันก็ขอขอบคุณคุณหมอที่สนับสนุนการให้นมแม่นะคะ

 

แต่โดยส่วนตัวมองว่านมแม่กับนมทั่วไปมีสารอาหารและมีคุณค่าเหมือนกันค่ะ กันถึงให้น้องเจกินทั้งนมแม่สลับกับนมขวด ... เพราะต้องการให้น้องเจกินได้หลากหลาย ให้ใช้ขวดนมเป็น เวลาเพิ่มอาหารเสริมก็ไม่ยึดติดกับนมแม่แค่อย่างเดียวค่ะ แม่เองได้ดูแลน้องเจตามความสามารถที่มีอย่างดีที่สุด และยังสามารถปลีกตัวทำอย่างอื่นได้ด้วย ลูกติดแม่นะคะ สนิทกันดีค่ะ แต่ไม่ตี๊อให้ลำบากใจ :)

คุณแม่ปั้มนมแม่ใส่ลงในขวดหรือเปล่าล่ะคะ การให้นมแม่นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวและความคิดกับสิ่งดีๆที่คุณแม่ให้กับลูก หนังสือหรือโฆษณาหรือการบอกเล่าของแต่ละคน เราอ่านๆหรือฟังมาแต่เราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่แน่นอน ก็ต้องพิสูจน์กันเองค่ะ ทุกอย่างที่ลูกได้รับจากคุณแม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่ทานอาหารอะไรหรือทานวิตามินเสริมอะไรบ้าง ผู้ผลิตนมหรือตัวของวัวเองนั้นไม่รู้หรอกค่ะว่าทานอะไรลงไปบ้าง คุณแม่ต่างหากจะเป็นผู้รู้อยู่แก่ใจว่าลูกจะได้รับสิ่งดีๆหรือไม่ดีอะไรบ้างจากตัวคุณแม่เอง ไม่ว่าบริษัทผู้ผลิตนมหรือหมอหรือวัวหรือแพะก็ไม่สามารถตอบแทนคุณแม่ได้ค่ะ

ตอนที่น้องเจกินนมแม่ คุณแม่จะเตรียมให้น้องเจมื้อต่อมื้อค่ะ มื้อหลักจะให้ดูดจากนมแม่ แต่ถ้าเป็นมื้อเสริม (และเวลาส่วนใหญ่ที่ลูกนอน) ก็จะให้เป็นนมที่ปั๊มมาใส่ขวดค่ะ ถึงเวลาปุ๊บ ก็ให้กินเลย ไม่เคยรอให้ลูกร้องค่อยให้กิน แต่ถ้าวันไหนเป็นมื้อเสริมแล้วเค้าไม่หลับ จะอุ้มมาดูนมแม่ค่ะ แล้วก็คุยกะเค้าทุกครั้ง จะชอบสังเกตลูกค่ะว่าตอนนี้หน้าตาเป็นยังงัย เปลี่ยนจากเดิมตรงไหน ยิ้มมั๊ย แล้วเวลาที่ลูกดูดนมแม่แล้ว นมแม่พุ่งปรี๊ดดดด ... ลูกจะร้องรึป่าว หรือพยายามดูดต่อ (เท่าที่เคยเห็นคือ เค้าจะหลับตาปี๋ เหมือนหลบน้ำนม แต่ก็จะดูดต่อค่ะ 5555+)

 

ยกเว้นว่าวันไหนต้องไป รพ. จะปั๊มไว้กินในรถ อีกส่วนคือเป็นนมชงค่ะ เพราะคุณแม่ไม่เคยพาลูกดูดนมตัวเองในที่รโหฐานค่ะ 5555+ ไม่เกี่ยวกับอายไม่อายนะคะ แต่เกี่ยวกับว่าเราอยู่ที่ไหน แล้วเราจะรับมือกับสถานการณ์และสถานที่นั้นยังงัยมากกว่า

 

สนุกดีค่ะ เลี้ยงน้องเจตอนเด็ก ๆ เลี้ยงง่าย ไม่งอแง ไม่กวน :) ส่วนตอนนี้จะว่าไปแล้ว ก็น่ารักดี มีกวน มียียวน เป็นไปตามวัยที่เราก็ต้องงัดหาเทคนิคออกมารับมือทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง 5555+

 

วันนี้น้องเจจะขึ้น อ.2 แล้วนะคะ น้องเจทานอาหารมื้อหลักหนักมากค่ะ (ไม่อ้วนนะคะ แต่สูง ตอนนี้น่าจะซักประมาณ 115 ซม. หรือเลยกว่านิดนึง หนักประมาณ 20 กก.ค่ะ) วันนึงน้องเจจะกินนมประมาณ 4 - 7 กล่องเล็ก (เช้าตื่นนอน 2 / เอาไป รร. 3 / ก่อนนอน 2-3 -- วันไหนที่อยู่บ้าน ก็จะกินนมแค่เช้าตื่นนอน กะ กลางคืนก่อนนอนค่ะ) น้องเจไม่ค่อยทานจุกจิก ไม่ทานอะไรที่หวาน น้องเจกินน้ำหวานไม่เป็น ขนมหวาน ๆ ไม่กินค่ะ อาจจะมีของกินเล่นบ้างนิดนึง เช่น ขนมปัง พวกเบเกอร์รี่ ข้าวเกรียบบ้าง แต่ก็น้อยมากค่ะ (คุณครูที่ รร. จะทราบว่าน้องเจไม่ทานขนมหวานเลยค่ะ เวลาชั่วโมง Cooking ทำเสร็จ น้องเจก็แจกเพื่อนหมด ยกเว้นวันไหนทำอาหารคาว ทำแกงจืด อย่างนี้น้องเจกินค่ะ) 555+ อาหารการกินที่บ้านก็ทั่วไป จะพยายามสอนน้องเจกินผักด้วย น้องเจก็กินได้หลากหลายดีค่ะ ผักไหนที่กินยากสำหรับเด็กก็เว้นวรรคไว้ อันไหนกินง่าย ก็ทำให้ลองกิน แล้วกินไปพร้อมกันค่ะ คุณแม่ออกแนวโอเว่อร์แอคติ้งว่าผักอร่อยมากกกก น้องเจต้องลอง แล้วก็ยอมลองค่ะ 555+

ขอบคุณคุณหมอที่สนับสนุนนมแม่คะ  การรับข้อมูลวิชาการต่างๆ บางครั้งมีข้อมูลต่างสนับนุนมาก บางอย่างอาจไม่ชัดเจน  แต่ก็ควรรับไว้พิจารณา บวกกับข้อมูลของตนเอง ณ ขณะนี้  เพราะข้อมูล การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอด  ขณะนี้ไช่  เมื่อกาลเปลี่ยนอาจไม่ใช่  อย่ายึดติดอย่างเดียวคะ  ต้องผสมผสานกันไป   แต่การวิเคราะห์ของคุณเพ็ญ ก็ดีนะคะ เรื่องนมแม่ กะ นมสัตว์  น่าคิด น่าคิด

ไม่มีอะไรจะพูดเพราะว่าไม่รู้สิ่งที่รู้คือนมแม่ดีที่สุดปลอดภัยที่สุดสารอาหารที่ลูกได้รับครบหรือไม่ขึ้อยู่กับนิสัยการกินของแม่ และที่รับรู้ได้ลูกไม่ค่อยป่วยคะและไม่เป็นภูมิแพ้ ที่สำคัญเวลาให้นมลูกเราได้กอดลูก ได้มองตากัน มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษไม่สามารถบรรยายได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้น้องโตแล้ว

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service