เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
แนะนำหน่อยค่ะ น้องเพิ่งจะ 20 เดือน ฟันกรามเริ่มมีรอยดำๆ เหมือนฟันจะผุ
น้องทานนมแม่อย่างเดียวมาตลอด หลังๆ ทานนมกล่องบ้าง วันละกล่อง ตอนกลางวันค่ะ
ก่อนนอนแม่จะแปรงฟันให้ ร้องงอแง บ้างวันก็แปรงได้นาน
แต่บางวัน พ่อทนฟังเสียงร้องไม่ไหว ให้แม่เลิกแปรง
อีกอย่างเวลาที่แม่ทำอาหาร ให้พ่อช่วยดู แล้วลูกร้องไห้แงๆ พ่อจะแอบป้อน m&m
ได้แต่โทษตัวเอง รู้สึกผิดมาก
ทำงัยดีค่ะ
Tags:
เพิ่งพาลูกไปหาหมอฟันมาเหมือนกันค่ะ ลูก 1.11 เดือน คุณหมอแนะนำ 4 อย่าง
1 ให้ลูกทานอาหารให้เป็นเวลา ยิ่งทานหลายๆ มื้อเท่าไหร่ ยิ่งทำให้แบคทีเรียในช่องปากออกมามากจะทำให้ฟันผุยิ่งง่ายขึ้น
2 ไม่ควรให้ลูกติดการกินอาหารหวานค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือขนม คุณหมอบอกขนมและน้ำหวานนี่แหละตัวดีที่ทำให้ฟันผุค่ะ
3 แปรงฟันให้สะอาด ทั้งเช้าและก่อนนอน เมื่อแปรงฟันเสร็จ ให้ใช้ผ้าขาวหรือผ้าก๊อซลองเช็ดฟันดูค่ะ ถ้ามีคราบเหลืองแปลว่าแปรงไม่สะอาดให้แปรงใหม่ค่ะ
4 เคลือบฟลูออไลด์ และ ท่าจำไม่ผิดคุณหมอเรียก เคลือบฟันกรามค่ะ เพราะคุณหมอบอกว่าฟันกรามจะมีร่องลึกกว่าฟันอื่นๆ ทำให้เศษอาหารติดง่าย ตอนไปหาคุณหมอ คุณหมอให้ดูทีฟันกรามของลูกก้อมีเศษอาหารติดอยู่ค่ะ ถ้ามีรอยดำน่าจะต้องไปอุดนะค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ผุลุกลามขึ้นค่ะ
คุณหมอบอกว่าถึงมาหาหมอฟันเพื่อเคลือบฟัน แต่ถ้าไม่ดูแลข้อ 1 - 3 ให้ดี ยังไงก้อฟันผุ 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ จากที่แม่แปรงฟันบ้างบางทีก้อขี้เกียจเพราะลูกไม่ให้ความร่วมมือ ก้อเลยต้องกลับมาฮึดแปรงเช้าเย็นค่ะ
น่าจะพาไปหาหมอฟันนะค่ะ เพราะหมอฟันบอกว่าฟันน้ำนมสำคัญมาก ถ้าฟันน้ำนมมีอันต้องจากไปก่อนเวลาอันควรจะมีผลถึงฟันแท้ที่รอขึ้นอยู่ด้านล่างค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ตอนที่พาไปหาหมอฟัน ลูกกลัวหมอฟันมั้ยค่ะ ถ้าต้องอุด น้องจะนั่งนิ่งๆมั้ยค่ะ กังวลจริง ๆ ไปหาหมอที่ไหนค่ะ แนะนำหน่อยค่ะ
พอดีของก้อยหาหมอประจำที่กรุงเทพคริสเตียนค่ะ คุณหมอประจำเลยแนะนำให้หาคุณหมอที่รพ.เดียวกันค่ะ เค้าแนะนำคุณหมอชื่อ ทพญ หงษ์ รักษากุลเกียรติค่ะ คือตัวเองเป็นคนชอบคุณหมออธิบายเยอะๆและเราก้อชอบถามเยอะๆค่ะ คุณหมอเป็นคุณหมอยังดูเด็กๆอยู่ค่ะ แต่อธิบายรายละเอียดชัดเจนและตรงๆดีค่ะ
ถามว่าลูกกลัวมั๊ย เค้าก้อคงกลัวค่ะ ก้อต้องจับล๊อกไว้ตอนที่ขัดฟันกับเคลือบฟลูออไรด์ค่ะ ลูกก้อร้องไห้และดิ้นค่ะ แต่ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที แต่ถ้าจะเคลือบฟันกรามหรือต้องอุด คุณหมอบอกว่าจะต้องจับล๊อกอยู่ในแผ่นไม้ที่มีผ้าผูกตัวเอาไว้ไม่ให้ดิ้นค่ะ คุณหมอบอกว่าลูกเล็กยังไงเค้าก้อไม่ยอมนอนเฉยๆให้ทำอยู่ดี ยังไงก้อต้องบังคับค่ะ คุณหมอก้อจะให้เราเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำค่ะ สำหรับเราวันแรกเลยตัดสินใจทำเลยค่ะ เพราะคิดว่ามันเป็นผลดีกับลูกในระยะยาว คุณหมอเลยบอกว่าให้ทำแค่ขัดฟันกับเคลือบฟลูออไรด์ เพราะน้องเพิ่งกินนมก่อนเข้าไปหาหมอค่ะ หมอกลัวอาเจียน แล้วนัดมาเคลือบฟันกรามอีกทีค่ะ (ฟันกรามจะเคลือบได้จะต้องให้ฟันขึ้นเต็มซีกแล้วค่ะ) ที่นี่ก้อเสียค่าใช้จ่ายของลูกคนละ 500 บาทรวมค่าหมอค่าขัดฟันและเคลือบฟลูออไรด์ค่ะ
เขียนมาซะยาว หวังว่าคงไม่เบื่ออ่านนะค่ะ อ้อ ลืมบอกไปค่ะตอนที่ทำเค้าก้อร้องไห้นะค่ะ แต่พอทำเสร็จอุ้มดูอะไรเพลินๆ แป๊ปเดียวก้อลืมค่ะ คุณหมอบอกว่าพาลูกมาดูแลฟันตั้งแต่เล็กก้อจะทำให้พ่อแม่ดูแลลูกได้ถูกวิธีค่ะ ไม่ทราบให้ลูกใช้ยาสีฟันอยู่มั๊ยค่ะ คุณหมอบอกว่าถ้าใช้ยาสีฟันต้องเป็นยาสีฟันเด็ก และ ห้ามใช้แบบมีฟลูออไรด์นะค่ะ (ความรู้ใหม่ของคุณแม่เหมือนกัน)
ก้อย
พบทัตแพทย์ดีที่สุดค่ะ และลองฟังคำแนะนำของคุณหมอดู
เรื่องลูกทานขนมหวาน นุ้ยว่าเป็นเรื่องปกตินะคะ เด็กกับขนมเป็นของคู่กัน ยิ่งหากเราห้าม เค้ายิ่งอยากลอง
บ้านนี้ไม่ห้ามค่ะ ให้ทานหมด ไอศรีม ลูกอม ช๊อคโคแล๊ต ไอซ์ป๊อป เค้ก ของหวานต่างๆ แต่เน้นการแปรงฟันอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งคือ เช้าและก่อนนอน ช่วงเล็กๆ เค้ามีบ้างที่งอแงกับการแปรงฟัน แต่แม่ใช้วิธี ไม่เน้นเช้า หรือก่อนนอนค่ะ คือ เวลาไหนที่สามารถทำให้ลูกแปรงได้ แม่จัดทันทีค่ะ และใช้การหลอกล่อโดยที่บ้านจะมีแปรงฟันเยอะมาก ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ยาสีฟันหลากรส และเน้นสำหรับฟันน้ำนม ที่บ้านมีทั้งแปรงไฟฟ้า แปรงฟันร้องเพลงได้ แปรงฟันที่สามารถติดพื้นกระเบื้องได้ แปรงฟันแฟชั่น( คิตตี้ คาร์ส โทมัส ฯลฯ) คือฟูลอ๊อปชั่นเลยค่ะ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เค้าได้แปรงฟัน พอโตมาหน่อย ก็ให้เค้าเลือกลายเอง และจำกัดจำนวนแปรงฟันน้อยลงค่ะ ^^ ลองดูนะคะ ให้เค้าสนุกกับการแปรงฟัน มากกว่า คิดว่า การแปรงฟันน่าเบื่อ
คุณหมอบอกว่า วิธีแปรงฟันของเด็กวัยนี้ ดีที่สุดคือจับนอนหงายค่ะ เพราะเราสามารถเห็นฟันทุกซี่ที่อยู่ด้านใน และสามารถแปรงได้ทั่วถึง อย่างบ้านเรา ยาสีฟันสำหรับฟันน้ำนม มีไม่หลากหลายยี่ห้อ คุณหมอบอกว่า ให้ใช้น้ำอุ่นละลายกับเกลือ ใช้แทนยาสีฟัน .... แม่ๆ ต้องหลอกล่อหน่อย นุ้ยเคยใช้วิธี ร้องเพลงหน้ากระจกกับลูก แปรงฟันแบบสนุกสนานกับลูก แปรงพร้อมกับลูกไปเลยค่ะ เหนื่อยระยะหนึ่ง แต่ขอแค่จูงใจให้เค้าไม่ขี้เกียจแปรงฟันก็เป็นพอ....
อย่างตอนนี้ลูกสาววัย จะห้าขวบ วันก่อน ดูทีวี เค้าเห็นโฆษณา เด็กที่มีปัญหา ปากแหว่งเพดานโหว่....ลูกสาวถามว่า...ทำไมเบบี้ ถึงเป็นแบบนั้น....แม่ก็มั่วให้ไปโยงกับเรื่องแปรงฟันค่ะ บอกว่า.... น้องเค้าไม่ชอบแปรงฟัน แบคทีเรีย(มอนส์เตอร์)เลยกัดกินปากน้องเค้า....
ลูกสาว....เพราะเค้าเป็นเบบี้ เลยไม่รู้จะแปรงฟันอย่างไรเหรอค่ะคุณแม่
นุ้ย......... ใช่ค่ะลูก แล้วลูกชอบแปรงฟันไหม๊ค่ะ
ลูกสาว.... แองเจิ้ลชอบแปรงฟันค่ะ
หลังจากนั้นก็จะถามเค้าว่า แปรงฟันหรือยังลูก วันก่อนจำได้ไหม เด็กไม่ยอมแปรงฟัน จะเป็นแบบไหน เค้าก็รีบไปแปรงฟันโดยดีค่ะ (แต่แม่ก็ไปซ้ำให้ เพราะห้าขวบ แปรงยังไม่ทั่วถึง แม่ต้องย้ำอีกทีค่ะ)
วิธีการ ก็ต้องสรรหาเป็น 108 พันอย่าง สลับกันไป แต่สิ่งที่เด็กๆไม่ชอบที่สุดคือ....วิธีบังคับ เพราะเค้าจะฝังใจไปอีกนาน แม่ต้องทำทุกอย่าง ถึงแม้บางครั้ง ดูเหมือนตัวเองทำตัวไร้สาระ หรือตลกบริโภคก็ตาม แต่ต้องพยายามให้เค้าสนุกกับการแปรงฟัน มากกว่า จำใจต้องแปรงฟัน คาดว่า คุณแม่ต้องหาวิธีที่ได้แน่นอนจ้า ^^ ลองดูหลายๆอย่างนะคะ
ลูกเราไปอุดฟันมาแล้วสามซี่ สามรอบค่ะ ไม่ร้องไห้เลย อุดแปปเดียว ไม่เจ็บค่ะ ไปครั้งแรกก็ตอนขวบกว่าๆ
เราว่ารีบไปก่อนที่จะเริ่มมีอาการปวดดีกว่านะคะ เพราะถึงตอนนั้นเจ็บแน่ๆ
ตอนเราไปหาคุณหมอ เค้าให้ลูกนอนหนุนตักเราค่ะ แล้วคุณหมอก็ทำฟันให้
ถ้าไปหาหมอฟัน เค้าจะเคลือบหลุมร่องฟันที่ฟันกรามซี่อื่นให้ด้วย
ฟันกรามเศษอาหารเข้าไปติดแล้วมันเอาออกยาก
ลูกเรากับเรื่องแปรงฟันนี่ก็รบรากันมากๆ ตอนนี้สามขวกว่า ค่อยพูดรู้เรื่องหน่อย
เอาใจช่วยค่ะ
ทำสนุกก็แล้ว เค้าก้อยังงอแง ก้อเลยล๊อกตัวลูก แปรงฟันให้แบบทรมานทุกวัน ต้องไปอุดแล้วค่ะ แนะนำหน่อยค่ะ บ้านอยู่ สาธุ 12 ไปทำที่ไหนดีค่ะ ลูกค่อนข้างงอแง ติดแม่มากด้วย
คงต้องพาไปหาคุณหมอจะดีมากเลยค่ะ แต่ครั้งแรกอาจจะคุยกับคุณหมอไว้ก่อนว่า
ขอมาให้คุณหมอดูก่อนแบบยังไม่ต้องทำอะไร ซัก ครั้งสองครั้ง ให้น้องรู้จักคุณหมอก่อน
แล้วถึงเวลาเอาจริงก็มีช้อยส์บังคับว่า หนูต้องเลือกหล่ะค่ะ ว่าหนูจะให้คุณหมอทำฟันให้
หนูวันไหน ระหว่างเย็นวันเสาร์หรือเช้าวันอาทิตย์นี้ แรกๆอาจมีร้องแบบสุดๆ แต่หลายๆครั้ง
บ่อยๆเข้าก็จะดีขึ้นเองค่ะ
มาเสริมนะคะ อย่าลืมเลือกคุณหมอนิดนึงคะ ควรเป็นหมอที่มีจิตวิทยากับเด็ก คุณหมอจะสามารถพูดโน้มน้าวอย่างใจเย็น เด็กจะลดความกลัวลงไปเยอะเลยค่ะ หมอบางคนไปถึงจะลงมือเลย เด็กจะกลัวนะคะและฝังใจไปอีกนานเลย
คุณนุ้ยกล้าหาญมาก..ให้ลูกทานของหวานได้ทุกอย่าง แต่พี่ขออนุญาตเสริมนิดนะคะ จากคุณหมอฟันของเพ่ยเพ่ยแนะนำมาค่ะว่าขนมหวานอาจจะทำให้ฟันผุ แต่เรายังรับมือได้ด้วยการรักษาความสะอาดฟันหลังจากทานเสร็จ หรือถ้ามันผุ เราก็อุด แต่ภัยจากขนมหวานที่เราจะรักษาไม่ได้ก็คือการทำให้เกิดโรคเบาหวานนะคะ เด็กยุดใหม่ฟันไม่ผุแต่เป็นเบาหวานเยอะมากกกกกกก...
ใช่ค่ะ ให้ทานทุกอย่างเลยค่ะ ยิ่งไปบ้านคุณย่า หลังอาหารต้องมีเค้กมีพาย มีช็อคโกแล็ตอยู่ในบ้านตามจุดต่างๆ ห้ามเค้าไม่ได้ค่ะ เลยไม่เคยห้ามลูก แต่บอกเค้าว่า ก่อนทาน บอกคุณแม่ก่อนนะคะ เผื่อชิ้นไหนนู๋ทานไม่ได้ คุณแม่จะได้บอก ....แต่โชคดีที่เค้าเป็นเด็กที่ทานขนมหวานได้ไม่มาก อย่างขนมเบื้องไทย ครีมด้านหน้า เค้าไม่ทานเลยค่ะ หากขนมหวานไป เค้าก็ไม่ทานเลย เช่นขนมปุยฝ้ายที่ปั่นเป็นใย เหมือนนุ่น สี่ต่างๆ ที่ทำจากท๊อฟฟี่ ขายตามงานวัดหรืองานต่างๆ เค้าชิมนะคะ แต่ทานไปแค่คำเดียวก็ไม่เอาแล้ว เค้าจะชอบพวกสาหร่ายทะเล เมล็ดธัญญาพืชต่างๆเสียมากกว่านะคะ ส่วนขนมหวานอื่นๆ แค่ลองชิม ชอบลอง เพราะสีสันล่อตา ที่บ้านยังทานขนมหวาน อาหารหวานๆกันอยู่ สมัยเด็กๆเคยห้ามเค้าต่อหน้าคุณย่า สมัยเค้าได้ขวบนิดๆ คุณย่าบอกว่า อย่าไปห้าม ให้เค้าทำเอง ลองเอง เพราะเดี๋ยวเค้าจะทำลับหลังเรา แต่บ้านนี้มีกฏเหล็กอย่างหนึ่งคือ หลัง 1 ทุ่ม ห้ามทานของหวานไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม นมก็ต้องเป็นนมจืดเท่านั้น เพราะพ่อเค้ากลัวว่า พลังงานมาก จะนอนไม่หลับ ^___^
อ่านกระทู้นี้แล้ว...น้องรีบนัดหมอฟันให้เจคอบมั่งซะแล้วค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by