เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
ว่าด้วยเรื่องของ Baby Sign จริงๆ แล้วก็เป็นเรื่องที่หลายๆ คนอาจเคยได้ยิน หรือรู้จักกันแล้ว
แต่ในที่นี้แนนจะขอเล่าและอธิบาย จากประสบการณ์ตรงของตัวเองที่ได้นำมาใช้เพื่อสอนลูกค่ะ
อยากจะบอกว่าชอบวิธีการนี้มากๆ ทำให้แนนได้เห็นถึงศักยภาพของเด็กเล็ก ว่าสมองเล็กๆ เพียงเท่านี้ มีพลังในการเรียนรู้มากมายมหาศาลขนาดไหน
ไม่น่าเชื่อว่า เด็กอายุเพียงขวบกว่าๆ สามารถจำคำศัพท์และ sign ได้มากถึงร้อยคำ ....น่าทึ่งจริงๆ ค่ะ
แนนเริ่มสอน baby sign ให้กับเจติน ตั้งแต่อายุได้ 6 เดือน จนตอนนี้เจตินอายุ 1.11 ขวบแล้ว รู้จักท่า baby sign มากกว่า 150 คำ
และแนนยังได้ใช้โอกาสนี้สอนภาษาอังกฤษให้เค้าควบคู่ไปด้วย เค้าสามารถเข้าได้ใจทั้งสองภาษาค่ะ โดยมีเจ้า baby sign เนี่ยแหละ เป็นตัวเชื่อมโยง
อย่างเช่น sign คำว่า “นม” เค้าสามารถจำได้ทันทีว่า ท่าเดียวกันนี้เรียกอีกอย่างว่า “Milk” ทำให้เค้าเข้าใจได้ว่าของสิ่งนี้ หรือการกระทำแบบนี้ มันคือสิ่งๆ เดียวกัน
อีกอย่างแนนเป็นคนพูดไม่เก่ง เล่นกับเด็กก็ไม่เป็น ก็ได้ baby sign อีกนั่นแหละค่ะ มาช่วยให้มีเรื่องคุยกัน เล่นกันกับลูกมากขึ้น ….มีความสุขมากๆ ที่ได้ทำ สนุกกันทั้งแม่และลูกเลยค่ะ
บางคนยังไม่เคยรู้จักเจ้า baby sign มาก่อน ไม่รู้ว่ามันคืออะไร มาทำความรู้จักกันซักเล็กน้อยค่า......
Baby Sign Language คือ
คือเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสาร โดยการใช้ภาษาทางกายหรือภาษามือ ซึ่งพ่อและแม่สามารถสอนให้กับลูกๆ ก่อนถึงวัยหัดพูด เพื่อที่จะได้รู้ถึงความต้องการลูก โดยไม่ต้องเดาว่าลูกต้องการอะไรกันแน่
ประโยชน์ที่จะได้รับจาก Baby Sign
จากที่กล่าวมาข้างต้นพบว่าการสอน baby sign มีประโยชน์มากมายจริงๆ แต่แนนก็ไม่ได้มองไปถึงตรงนั้นเท่าไหร่นักหรอกค่ะ
คิดเพียงว่า ถ้าเรารู้ว่าลูกต้องการอะไร ก่อนที่เค้าจะพูดเพื่อบอกเราได้ มันจะดีแค่ไหนที่ลูกไม่ต้องร้องไห้โวยวายเวลาอยากได้สิ่งที่ต้องการ แต่เราไม่เข้าใจเค้า เราเองก็ไม่ต้องหงุดหงิดกับเสียงกรีดร้องของลูก จะได้อารมณ์ดีทั้งลูกและแม่
อีกอย่าง แนนมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า การสอนบางสิ่งบางอย่างให้กับเค้า ตั้งแต่เค้ายังเล็กๆ ถือว่าได้เปรียบกว่าเด็กคนอื่นมาก เหมือนเป็นการทำให้สมองเค้าถูกกระตุ้นใช้งานก่อนคนอื่นๆ เซลล์สมองเล็กๆ ก็จะแตกตัวสร้างสายสัมพันธ์ เพื่อใช้ในการจดจำ และเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ
….เปรียบเหมือน ให้ลูกเริ่มลับมีดไว้ก่อน ใครเริ่มต้นลับมีดก่อน มีดของคนนั้นก็จะคมก่อน และพร้อมที่จะนำมาใช้งานได้ก่อน…. ^_____^
เริ่มสอน Baby Sign ให้ลูกอย่างไรดี
1.… เริ่มแรกเลย ให้ทำความเข้าใจกับ Baby Sign กันก่อนค่ะ ควรศึกษาเพื่อให้เข้าใจว่า Baby Sign คืออะไร ใช้เพื่ออะไร และมีประโยชน์อย่างไร รวมถึงวิธีการที่จะใช้ในการสอนให้กับลูกๆ ที่สำคัญเตรียมกำลังใจให้พร้อม ที่จะอดทนค่ะ
2.… จากนั้นก็มาเริ่มเรียนรู้ท่า sign ต่างๆ ก่อนที่จะนำมาใช้สอนลูก เริ่มต้นก็ใช้ท่า basic ก่อนเลยค่ะ milk, more, eat ประมาณนี้ นำมาใช้ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ทำท่า sign พร้อมกับพูดคำๆ นั้น ทุกครั้ง เช่น ก่อนจะเอานมให้ลูกกิน ก็พูดกับลูกว่า กินนมนะลูก พร้อมกับ sign ท่า milk ( ขยำมือ เหมือนบีบนมวัว ค่ะ ) ใครจะใช้ภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษก็แล้วแต่ตามถนัดค่ะ
3.… ค้นหา sign ท่าใหม่ๆ เพื่อนำมาสอนลูกอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ซึ่งสามารถหาได้จากเว็บไซต์ต่างๆ เกี่ยวกับ baby sign dictionary หรือ ASL – American Sign Language วิธีการเพิ่มคำศัพท์ และ sign ของแนน ให้กับน้องเจติน ก็จะใช้หนังสือภาพ เช่น ภาพสัตว์ หรือสิ่งของ เปิดให้น้องดู แล้วทำท่าให้ดูไปเรื่อยๆ ค่ะ ช่วงแรกๆ ขอบอกเลยว่า รู้สึกเขินมากค่ะ มาทำท่าอะไรก็ไม่รู้อยู่คนเดียว ลูกก็นั่งนิ่ง ไม่ไหวติง จะเข้าใจรึเปล่าก็ไม่รู้ ...แต่ก็อดทนทำต่อไปค่ะ
4…. ทุกครั้งที่ sign ให้ทำพร้อมกับพูดคำนั้นๆ ให้ลูกดูไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องหวังผลค่ะ อดทน และอย่ายอมแพ้ หลายๆ คนที่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็เพราะ พอสอนลูกไปแล้ว ลูกไม่ตอบสนองกลับมาภายใน 1 สัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ ก็จะยอมแพ้เลิกสอนไปซะก่อน ....ต้องบอกก่อนเลยว่า มันต้องใช้เวลามากพอสมควรค่ะ แล้วแต่ความพร้อมของเด็กแต่ละคน บางคนสามารถ sign โต้ตอบกลับมาภายในไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือน แต่อย่างของน้องเจติน กว่าจะ sign ให้เห็นก็ใช้เวลานานเลยล่ะค่ะ ประมาณ 6 เดือนแน่ะ
ครั้งแรกที่ได้เห็นลูก sign คำแรกออกมา แม้เพิ่งทำได้แค่เพียงคำเดียว ก็ทำเอายิ้มซะแก้มปริ หายเหนื่อยเลยค่ะ
คลิปตัวอย่างการใช้ baby sign ของเจตินค่ะ
ในคลิป เจตินอายุ 1 ขวบ 5 เดือน
https://www.youtube.com/watch?v=JioSAOgYBj4
แนนกำลังรวบรวมประสบการณ์ส่วนตัวการสอน baby sign ให้น้องเจติน เอาไว้ที่ blog ค่ะ แวะมาเป็นกำลังใจ และอ่านข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่นี่ค่ะ ^^
http://jaytinbabysign.wordpress.com
กุญแจสำคัญในการสอน Baby Sign คือ
“ ทำให้เป็นเรื่องสนุก และเป็นส่วนนึงในชีวิตประจำวัน ทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และอย่ายอมแพ้ค่ะ “
Tags:
ขอบคุณครับ ที่แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์มากๆ
ขอแชร์พัฒนาการของน้องนัสนะครับ ตอนนี้อายุ 1ปี 1 เดือน
***ด้าน baby Sign***
6เดือน: เริ่มสอน baby Sign ให้กับน้องนัสตั้งแต่ 6 เดือน เริ่มจากคำง่ายๆ เช่น eat, milk, sleep, water
1ปี 1เดือน: น้องนัสยังไม่โชว์ sign เลยที่สอนไปเลยสักอย่าง ก้อเลยทดลองหยิบห่อ mamypoko มาให้เค้าดู แล้วชี้ที่รูปเด็ก พร้อมกับสอนให้เค้าเรียก baby แล้วอุ้มห่อ mamypoko เหมือนอุ้มเด็กทารกพร้อมโยกแขนไปมา ทำให้น้องนัสดู 2 รอบ ปรากฎว่าน้องนัสทำตามได้ Daddy งงเลยครับ... เย็นวันถัดมา กลับเลิกงาน ยายของนัองนัสบอกว่า น้องนัสอุ้มแพมเพิร์สโยกไปมาแล้วพูดเบบี้ทั้งวันเลย .../o\... แต่ก้อยังไม่โชว์ sign อื่นเหมือนเดิม
***ด้านการพูด***
1 ปี: เวลาเห็นวัวที่บ้าน จะเรียก "โบ้" Daddy สอนให้เรียก bull แต่ยังพูดไม่ชัด เรียก cat ได้เวลาที่เห็นแมว และเรียก bird ได้เวลาที่เห็นนก
1ปี 1เดือน: เริ่มถามได้แล้ว โดยจะชี้แล้วถาม This (ยังไม่ชัดเท่าไหร่) และพยายามพูดตามได้แต่คำง่ายๆ เช่น fish เมื่อ Daddy ลองถามกลับ Where is the flower? น้องนัสก้อชี้ไปที่ดอกไม้ได้ พอลองเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นเค้าก้อชี้ถูกต้อง
ปัจจุบันก้อสอนน้องนัสไปเรื่อยๆ ครับ ไม่รีบร้อนเหมือนก่อน คิดว่าเค้าคงอยู่ในช่วงเก็บข้อมูลอยู่อ่ะ เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนนะ ครับ
ขอบคุณมากค่ะ แม่นิกับน้องแทนคุณนะคะ สมาชิกใหม่ค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ น้องแทนคุณพึ่งได้3เดือนเศษๆค่ะคุณแม่กำลังเข้ามาเก็บกำลังใจและรวบรวมข้อมูลจากเวปนี้อยู่ค่ะ
เคยสอน baby sign ให้ลูกเหมือนกันค่ะ แต่ลูกไม่ทำ แม่ก็เลยปล่อยไปเลย ไม่ได้สอนต่อ
พอได้อ่านประสบการณ์ที่หลายๆ ท่าน มาแชร์ แล้ว มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ จะลองเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ตอนนี้ลูกอายุได้ 1 ขวบ 5 เดือนค่ะ พูดเป็นคำๆ ได้ แต่ยังไม่เยอะเท่าไหร่ เช่น bird, cat, dog, bear, goat
เวลาแม่พูดเป็นประโยคน้องจะเข้าใจและทำตามได้ แต่เวลาที่น้องจะเอาอะไร น้องจะยื่นแขนทั้งสองข้างออกมาแล้วพูดว่า bird bird ตลอด ไม่รู้เป็นเพราะว่า น้องพูดคำว่า bird ได้คำแรกรึเปล่าถึงติดแต่คำนี้มา (น้องพูดคำนี้ได้ ตั้งแต่ 6 เดือนค่ะ) ตอนนี้มีก็พยายามแก้ไขอยู่ โดยการพูดคำที่ถูกต้องให้ลูก
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำนะคะ จะลองนำมาใช้สอนลูกอีกครั้งค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by