เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย
ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนนะคะ ว่ารู้จักเวปนี้มาเกือบปีแล้ว และในตอนนั้นไฟแรงมากค่ะ อยากสอนลูกโดยใช้ระบบ opol แต่แล้วก็เครียดมากกกก......ค่ะ ถึงขนาดเลิกไปเลย แล้วก็ไม่ได้เข้ามาเวปนี้อีก เราไม่เก่งภาษาeng และไม่กล้าพูดกับลูก จะพูดอะไรก็พูดไม่ออก ตอนนั้นน้อง 1 ขวบ 2เดือน จนมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วหลานข้างบ้านเปิดเทอมมาเล่าให้ฟังว่ามีครูสอนภาษา eng มาใหม่พูดไทยไม่ได้เลยแค่นั้นเหละคะ ก็เลยย้อนกลับเข้ามาเวปนี้อีกครั้ง เข้ามาอ่านบล็อกของใครหลายคน ก็เออ...ใครๆเค้าก็ผ่านจุดนี้กันนี่นา ทำไมเราถึงจะผ่านมันไปไม่ได้ ตอนนี้มองย้อนกลับไปเสียดายเวลาค่ะ แต่เริ่มต้นใหม่ตอนนี้ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย จริงมั๊ยคะ??? ตอนนี้เอาใหม่คะ ไม่รู้อะไรบ้างก็เข้ามาที่เวปนี้ อายใช่มั้ยตอนเย็นอาบน้ำปิดห้องนอนเลย เปิด mommy and me บ้าง คายุบ้าง ฟังไปทั้งแม่ทั้งลูก ไม่รู้เรื่องหรอก ค่ะ (แต่สักวันต้องรู้มั่งละน่า) คำไหนที่เราจำได้เราก็พูดengกับลูก คำไหนนึกไม่ออกก็พูดไทย(แต่ก็ไม่ลืมนะคะห้ามแปล) ใช้ระบบ otol เอาแค่ช่วงเวลาก่อนนอน วันแรกน้องไม่ปฏิเสธค่ะยิ้ม วันที่2เริ่มพูดบ้าง ตอนนี้4วันแล้วค่ะคิดว่าจะไม่หยุดอีกแล้ว จะทำให้รู้กันไปข้างนึงว่าเราทำได้หรือไม่ได้ ตอนนี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากคิดว่าจะพูดไปเรื่อยๆนี่แหละ ลูกฟังมั่งไม่ฟังมั่งก็ไม่เป็นไร ไม่อยากกดดันตัวเองอีก คุณพ่อคุณแม่เคยคิดกันมั้ยคะว่าตอนที่ลูกเกิดมาแล้วเราพูดภาษาไทยกับลูกเรา เราก็พูดไปเรื่อยๆไม่ได้คาดหวัง ไม่จดจ่อมากมาย เราเองพูดกับเค้าตั้งนานกว่าเค้าจะสื่อสารภาษาไทยรู้เรื่อง คิดว่าภาษาeng ก็คงเหมือนกัน ทำไปเรื่อยๆสักวันต้องมีวันของเราบ้างละน่า จำไม่ได้ว่าใครเขียนไว้ว่า "ที่นี่ไม่มีสอบวัดผล" ชอบคำนี้มากคะ " มีแต่ทดสอบจิตใจ "ความอดทนของเราที่เป็นพ่อแม่2pasaใช่มั้ยคะ??????????? .........สู้เว้ย...พี่น้อง......
Tags:
ขอบคุณ สำหรับทุกกำลังใจ จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด(เท่าที่จะทำได้)ค่ะ
ได้ผ่านความรู้สึกเดียวกันมาเลยค่ะ อ่านแล้วเหมือนตัวเองมาก ตัดใจเลิกมาหลายหน แล้วก็กลับมา ...จนลูกขวบครึ่งตัดสินใจทำ OTOL แบบไม่คาดหวัง ไม่กดดัน คิดว่าดีกว่าอยู่เฉยๆ... เริ่มจากสอนคำศัพท์เป็นคำๆ และวลีสั้นๆ ใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์ง่ายๆ อ่านนิทาน ฟังเพลง และดูการ์ตูนภาษาอังกฤษด้วยกัน... แต่ละวัน...ทั้งแม่และลูกเริ่มค่อยๆ พูดภาษาอังกฤษกันมากขึ้น และรู้สึกสนุกกับมันอย่างไม่รู้ตัว ทั้งที่บางครั้งก็พูดไทยบ่อยๆ เวลานึกคำไม่ออก... มารู้ตัวอีกทีแทบไม่อยากเชื่อว่าลูกสาว 2 ขวบ กำลังพูดภาษาอังกฤษกับเราอยู่จริงๆ ค่ะ ... ดีใจที่ตัวเองผ่านมาได้ แม้ว่ายังจะต้องพัฒนากันต่อไป ...สู้ๆ นะคะ มาเป็นกำลังใจให้คุณแม่น้องรถเมลล์ และเชื่อว่าคุณแม่ทำได้แน่นอนค่ะ
ตอนที่เริ่มสอนใหม่น้องขวบครึ่งใช่มั้ยคะ แล้วพูดเก่งรึยัง สอนอาทิตย์แรกน้องสนใจมั้ย แล้วก็คุณแม่ใช้ช่วงเวลาไหน ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้มั้ยคะเช้เป็นแนวทางค่ะ พอดีเพิ่งจะเริ่ม(อีกครั้ง) ยังหาแรงบันดาลใจให้ลูกยอมพูดด้วยไม่ได้เลยคะ แล้วตอนนี้น้องเขาพูดเก่งแล้วด้วย
เริ่มทำ otol จริงๆ ตอนขวบครึ่ง ซึ่งน้องพูดเก่งแล้วค่ะ ช่วงแรกๆ แม่ค่อยๆ แทรกไประหว่างอาบน้ำ กินข้าว แม้แต่เวลาเล่นค่ะ แต่เป็นการพูดแบบทีละน้อย แค่ไม่กี่ประโยคซ้ำไปซ้ำมาเพราะเราเองก็ยังไม่คล่อง (นึกไม่ออกก็พูดไทย ทำให้สนุกๆ ไม่กดดันตัวเองเหมือนแต่ก่อนเพราะจะพาลอยากจะเลิกเอาค่ะ ^_^) ช่วงเดือนอาทิตย์แรกๆ ยังไม่ค่อยมีสัญญาณตอบรับ แต่น้องฟังค่ะ หลังจากนั้นแม้ว่ายังไม่พูดภาษาอังกฤษ แต่ก็ฟังเข้าใจ ถามอะไรก็ตอบกลับมาเป็นภาษาไทย แต่เราก็ดีใจที่ลูกเข้าใจภาษาที่เราสื่อสาร และทำตามที่บอกได้
การสร้างสิ่งแวดล้อมให้น้องคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษก็ช่วยได้มากค่ะ โดยเฉพาะกับสิ่งที่เค้าชื่นชอบ อย่างการ์ตูน นิทานสำหรับเด็กเล็ก (แนะนำให้ลองอ่านหนังสือของ Eric Carle อย่าง Brown Bear, what do you see ให้น้องฟังนะคะ) และบทเพลง ...เวลาอ่านหนังสือกันแม่ลองชี้ชวนให้ดูนู่นนี่ในหนังสือโดยพูดภาษาอังกฤษ ไม่กี่วันน้องเปิดดูรูปในหนังสือและพูดกับแม่ว่า... "มามี้ What's this?" เป็นประโยคแรกที่ลูกพูดภาษาอังกฤษออกมาเองโดยที่ไม่ได้ถูกแม่ถามหรือกระตุ้นให้พูด
ส่วนตัวสังเกตุว่าการใช้ภาษาอังกฤษกับลูกเวลาเล่านิทานก่อนนอน หรือดูการ์ตูนด้วยกัน เค้าจะตอบสนองดีมากค่ะ ลูกเริ่มจำประโยคจากในหนังสือ หรือการ์ตูนที่ดูซ้ำๆ มาพูด ซึ่งเราเองก็เอามาพูดต่อกับลูกในสถานการณ์ต่างๆ ด้วยเป็นการย้ำให้เข้าใจ... ช่วงแรกๆ การ์ตูนดีๆ อย่าง Peppa pig, Calliou ที่หนังสือเด็กสองภาษาฯ แนะนำ น้องไม่สนใจเลยค่ะ จนไปเจอชุด Zippy & Me และ Play Along ที่ลูกชอบมาก คงเป็นเพราะฟังง่าย และมีเพลงสอดแทรกไปพร้อมกับเรื่องราวตลอด ไม่นานก็เริ่มเอาประโยคพวกนี้มาใช้กับแม่ ร้องเป็นเพลงบ้าง สนุกๆ กันไป ...ทุกอย่างเราทำกันเบบเรื่อยๆ เปื่อยๆ ^_^ ไม่เร่งไม่รีบ แต่สม่ำเสมอค่ะ คิดว่าลูกจะพูดภาษาอังกฤษได้เมื่อไหร่ก็ไม่สำคัญ ขอแค่ให้เค้าคุ้นเคย และสนุกกับมัน ... จนมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อมาสังเกตุว่าลูกตอบคำถามของเรากลับมาเป็นภาษาอังกฤษทุกครั้ง และตัวเราเองก็เริ่มใช้ภาษาอังกฤษกับลูกบ่อยขึ้น และเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ได้ เหนื่อยๆ เกร็งๆ เหมือนแต่ก่อน ...คงเพราะได้พัฒนาไปพร้อมๆ กับลูกค่ะ
ตอนนี้ 2.2 ขวบ พอแม่พูดอังกฤษ ลูกก็เข้าโหมดภาษาอังกฤษทันที บ่อยๆ ที่ลูกเองเป็นคนเริ่มพูด โดยเฉพาะเวลาที่อ่านหนังสือ ดูการ์ตูน เล่นกับแม่ แม้แต่นั่งพูดภาษาอังกฤษกับตุ๊กตาอยู่คนเดียว (มีมั่วๆ บ้าง) ก็ทำให้เห็นบ่อยๆ ... การ์ตูนอย่าง Calliou, Blue's Clue, Peppa Pig ที่เคยไม่สนใจตอนนี้ก็เริ่มชอบดู ทำให้เก็บประโยคมาใช้ได้เยอะขึ้น สำหรับตัวเอง สื่อเหล่านี้นับว่าเป็นตัวช่วยมากเลยค่ะ
มองย้อนกลับไปถึงวันที่เริ่มต้น วันที่มีความรู้สึกท้อแท้สับสน ไม่ค่อยมีความหวัง ...ยิ่งทำให้วันนี้รู้สึกดีใจที่ไม่หยุดทำไปก่อน... ทุกวันนี้แม่เองก็ยังมีพูดผิดบ้าง ยังมีปัญหาเรื่องการออกเสียง ก็คงต้องพยายามแก้ไข และปรับปรุงตัวเองต่อไปค่ะ เลยอยากเป็นกำลังใจให้เช่นกัน และอยากบอกว่าลูกจะพูดภาษาอังกฤษได้เมื่อไหร่ไม่สำคัญค่ะ ขอเพียงแต่ให้เราทำไปเรื่อยๆ สม่ำเสมอ ไม่นานคุณแม่จะได้ยินสาวน้อยพูดภาษาอังกฤษให้ชื่นใจแน่นอน ถ้าเหนื่อยวันไหน ...ที่นี่มีกำลังใจให้เยอะเลยค่ะ ^_^
ใช่เลยค่ะตอนนี้เปิดCalliou ให้ดูไม่ดูเลยคะ mommy & me ก็ฟังบ้าง ดูบ้าง นิดหน่อย แต่ก็ดีที่เค้าไม่ปฏิเสธ มุขขอนมก้อใช้คะ Mommy ,I want some milk.pleas เค้าก็พูดคะ แต่ก็มีบ้างที่เขาบอก ไม่ I want หรอก ไม่some milk หรอก ประมาณเถียงน่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับแนวทางคะ แล้วจะนำไปใช้ค่ะ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก. Powered by