ขอคำแนะนำจากคุณบิ๊ก และเพื่อนๆด้วยนะครับ

[พ่อน้องKen]

ขอคำแนะนำจากคุณบิ๊ก และเพื่อนๆด้วยนะครับ

น้องเคน อายุ 2 ขวบ 1 เดือน...ผมเริ่มพูดภาษาที่สอง(eng)มาได้ประมาณ 4 เดือนกว่าๆ
(เริ่มตอน 1 ขวบ 9 เดือน)...พูดสัก 80% ได้ครับ ส่วนคุณแม่เค้าก็พูด eng สัก 20%...

ผมก็สะสมคำศัพท์ในชีวิตประจำวันให้แกได้พอสมควรครับ
ส่วนการเข้าใจคำสั่ง หรือประโยคบอกเล่า น้องเคนก็เข้าใจได้หลายคำสั่งครับ เช่น put it on the table,
pick it up, take a bath first then..., เป็นต้น

ส่วนประโยคคำถาม...ถามแล้ว ยังไม่มีการตอบสนองเลย ไม่รู้ว่าเข้าใจหรือเปล่า หรือว่าเข้าใจ แต่ไม่พูด
หรือว่าผมพูดไม่รู้เรื่องก็ไม่รู้ 555

ปัญหา คือ น้องเคนจะพูดตามเฉพาะคำลงท้ายครับ(เป็นส่วนใหญ่) เช่น airplane เค้าก็จะพูดเพียง plane
,Hippo เค้าก็จะพูดเพียง po..po , Giraffe แกก็จะพูด raffe ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนี้ครับ
มีอยู่คำเดียวครับที่น้องเคนพูดเฉพาะคำหน้าคือคำว่า Flower(ฟาวเวอร์) แกก็พูดว่า Flow(ฟาว)
หรือผมอาจออกเสียงไม่ชัดในครั้งแรกหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

(มีอยู่สองคำครับ ที่แกพูดได้ทั้งคำ คือ Turtle กับ Hello เมื่อเช้านี้ตอนตื่นนอนครับ ได้ยิน Hello เต็มๆเลย
ผมพูดกับแกทุกเช้า Hello ken good morning)

ผมรบกวนขอคำแนะนำว่า...

๑.จะมีเทคนิคอย่างไรให้น้องเคนพูดแบบเต็มคำครับ คือสองพยางค์ขึ้นไป (หรือผมใจร้อนไปเองครับ)
๒.ทำอย่างไรให้แกตอบสนองกับคำถามของเราครับ
๓.และขั้นต่อไป ทำอย่างไรให้แกพูดเป็นประโยคครับ

ไม่รู้ถามมากไปมั้ยครับ ...(อย่าบอกว่าอยู่ในหนังสือหมดแล้วนะครับ 555 )

ขอขอบคุณคุณบิ๊กครับที่ได้จุดประกายเรื่องเด็กสองภาษานี้ขึ้นมา...ทำให้ผมย้อนนึกถึงตอนเด็กๆ

ผมเองก็เป็นลูกคนจีน ยังเสียดายเลยครับที่ไม่ได้เรียนต่อยอดภาษาจีนตั้งแต่เล็ก
ได้แต่พูดและฟัง(แต้จิ๋ว)กันในครอบครัวมาตั้งแต่เกิดจนโต
ส่วนภาษา eng นั้น ก็เรียนมา 10 กว่าปี แต่จะพูดทีก้อต้องนึกแล้วนึกอีก จะพูดยังไงดี
แต่เมื่อมีภารกิจเพื่อลูก อันนี้ขึ้นมา เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้นครับ กลับรู้สึกว่าภาษาของเราดีขึ้น
...มั่นใจขึ้น ก็แปลกดีนะครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับ..ภารกิจ..เพื่อลูกที่เรารัก

สัญญ์ / พ่อน้องเคน

ปล. จะหาโอกาสถ่าย vdo โพสให้ดูครับ ...น้องเคน ขี้อายครับ เห็นถ่ายปุ๊บวิ่งมาป่วนปั้บเลย

[แม่โบว์]

คุณพ่อน้องเคนต้องไม่ลืมว่ากว่าน้องจะพูดไทยได้เป็นประโยคนั้น น้องต้องผ่านการฟังและมีประสบการณ์กับภาษาไทยมาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี เมื่อนับตั้งแต่เกิดใช่มั้ยคะ ดังนั้น คุณพ่อใจเย็นได้อีกนิดค่ะ อีกไม่นานภาษาอังกฤษของน้องจะพัฒนาขึ้น:)

1. เทคนิคให้น้องพูดเต็มคำ คือ ทุกครั้งที่น้องพูดไม่เต็มคำ ให้คุณพ่อพูดย้ำแบบเต็มคำให้ฟังหนึ่งหรือสองครั้ง แต่อย่าทำให้น้องรู้สึกว่าเราต้องการสอนนะคะ ให้ทำน้ำเสียงเหมือนเวลาเราพูดย้ำเพื่อเป็นการตอบรับ แสดงว่าเราได้ยินเค้านั่นแหละค่ะ ทำอย่างนี้ซ้ำไปเรื่อยๆ น้องจะจำ คุ้นและพูดเต็มคำได้เอง

2. เทคนิคการทำให้น้องตอบสนองต่อคำถามของคุณพ่อ ก็ใช้หลักการคล้ายข้อหนึ่งค่ะ คือถ้าคอยสักครู่แล้วน้องไม่ตอบ คุณพ่ออาจสังเกตเอาจากสีหน้าท่าทางว่าคำตอบน่าจะเป็นอะไร แล้วคุณพ่อก็พูดตอบให้เอง น้องจะค่อยๆคุ้นเคยกับpatternการถามตอบในภาษาอังกฤษ แต่ในขณะเดียวกันก็ตอบเป็นความคิดของตัวเองได้(หากสิ่งที่คุณพ่อเดาส่วนใหญ่เป็นสิ่งทีน้องคิด) เมื่อใช้วิธีนี้ไปสักพัก คุณพ่อต้องสังเกตว่ามีคำถามแบบไหนที่คุณพ่อตอบให้บ่อยแล้ว น้องน่าจะเริ่มจำได้และเริ่มมั่นใจที่จะคิดคำตอบเองค่ะ ถึงตอนนี้คุณพ่อต้องระวัง ไม่ตอบแทนให้น้องมากไป ไม่งั้นเดี๋ยวจะชินคิดว่าคุณพ่อเดาใจได้ทุกเรื่อง เลยไม่ต้องพูดกัน

3. คำถามเรื่องทำอย่างไรให้น้องพูดเป็นประโยค ข้อนี้ต้องตอบยาวนิดนึง ขอมาต่อวันหลังนะคะ

อยากรู้ว่าน้องเคนพูดภาษาไทยได้เป็นประโยคคล่องหรือยังคะ เพราะถ้าคล่องแล้วคุณพ่อเดินตามรอยเดิมมาประยุกต์ใช้กับภาษาอังกฤษได้เลยค่ะ แต่ถ้ายัง เดี๋ยวจะมาตอบต่อนะคะ

คำตอบข้างบนนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ อันที่จริงคงมีวิธีอื่นๆอีกที่เพื่อนๆอาจมาโพสต์เพิ่ม
ตอนนี้นีโออายุครบสองขวบพอดี พูดเป็นประโยค (และเป็นเรื่องคือหลายประโยคต่อกัน) คล่องและชัดทั้งภาษาไทยและอังกฤษค่ะ นีโอเริ่มพูดเป็นประโยคตอนขวบสองเดือน ไว้จะมาเล่าขั้นตอนให้ฟังค่ะ
วันนี้ขอไปนอนก่อนนะคะ

[พ่อน้องKen]

ขอบคุณครับ คุณแม่โบว์...ที่ให้คำแนะนำดีๆ..
สำหรับการพูดภาษาไทยของน้องเคน..ที่คุณโบว์ถามมา..ต้องยอมรับว่าน้องเคน ยังพูดไม่ค่อยได้เท่าไหร่เลยครับ
...กำลังหัดภาษาไทยอยู่เหมือนกันครับ ... หากคุณโบว์มีเทคนิคดีๆ ยินดีน้อมรับเลยครับ

น้อง neo เก่งจังครับ..พูดได้เป็นประโยคตั้งแต่ขวบสองเดือน..เร็วมากเลยครับ..

[แม่เพ่ยขอแจม]

คุณพ่อน้องเคนคะ ใจเย็นๆนะคะคิดว่าน้องเคนคงกำลังสะสมคลังศัพท์อยู่ อีกไม่นานเกินรอคงจะปล่อยออกมาแบบพายุบุกเลยล่ะค่ะ เด็กๆมักมีอะไรที่เราคาดคิดไม่ถึงเสมอไงคะ สู้ๆนะคะ (ปล,อยากเห็นคลิปน้องเคนค่ะ)

[พ่อน้องKen]

ขอบคุณครับแม่เพ่ย...บางครั้งเจออุปสรรคบางอย่างเข้า ก็ต้องยอมรับว่ามีลูกท้อเหมือนกัน
...แต่ยังไงผมสู้อยู่แล้วครับ..ภารกิจนี้อีกยาวไกล
เดี๋ยวได้จังหวะดีๆจะส่งคลิปน้องเคนมาให้ดูแน่นอนครับแม่เพ่ย

[NongNim]

ลูกสาวสองขวบเหมือนกัน ยังไม่ค่อยพูดเลยค่ะ ปลื้มใจแทนคุณสัญญ์พ่อน้องเคนจัง

[แม่โบว์]

กลับมาตามสัญญาค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกว่าอย่าเพิ่งท้อนะคะ เด็กผู้ชายส่วนใหญ่จะพูดไม่เร็วหรอกค่ะ (ผู้ชายโตๆแล้วยังพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง โดนภรรยาบ่นก็มีเยอะไป จริงมั้ยคะ:D)

ก่อนที่นีโอจะพูดเป็นประโยคได้ แม่ปูพื้นฐานด้วยเทคนิคเหล่านี้ค่ะ

1. รู้จักคำศัพท์จนมั่นใจที่จะพูด (แม่นศัพท์):
ข้อนี้เริ่มจากศัพท์ใกล้ตัว และสิ่งที่น้องสนใจ เวลาคุณพ่อจะหยิบอะไรให้น้อง หรือน้องจะเอาอะไร ให้เราพูดคำนั้นๆ “อย่างชัดเจน” ถ้าใส่อารมณ์ให้มีสีสันสักนิดได้ยิ่งดีค่ะ เช่น เวลาจะหยิบหนังสือมาอ่านกัน ก็พูดว่า “เรามาอ่าน “หนังสือ” กันดีกว่า” (ใส่อารมณ์ร่าเริงตรงคำว่าหนังสือเยอะๆ) แล้วก็พูดย้ำอีกก่อนเปิดว่า “นี่ “หนังสือ” ของหนูนะครับ.. “หนังสือ” เล่มใหญ่จัง” เป็นต้น (ใช้ประโยคให้หลากหลาย แต่เน้นคำที่เราอยากสอน) หรือถ้าเป็นเด็กเล็กๆ เวลาเราหยิบขวดนมมาให้เค้า ก็ลองทำเสียงตื่นเต้นๆ พูดคำว่า “ขวดนม ขวดนม” แล้วก็โชว์ขวดนมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อย่าลืมสบตาลูกด้วยนะคะเราจะได้ปรับตัวถูก เวลาพาเดินเล่นก็ชี้สิ่งต่างๆแล้วพูดคำศัพท์ให้ชัดๆ (ใช้เสียงสูงต่ำของวรรณยุกต์ไทยให้เป็นประโยชน์ในการใส่อารมณ์ อย่า Monotone เดี๋ยวลูกหลับค่ะ)

2. ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกถึง “อำนาจ” ของการพูดได้:
ข้อนี้ฟังแล้วอาจขำนะคะ แต่สิ่งที่แม่โบว์ทำตอนนีโอเพิ่งเริ่มพูดก็คือ ไม่ว่าลูกจะพูดอะไร ต้องได้รับการตอบสนองอย่างทันที เรียกว่าช่วงหนึ่งขวบนั้น นีโอเอ่ยปากขออะไรแม่ให้หมด จะไปทางซ้ายทางขวา จะขออะไรแม่ส่งให้ถึงมือทันที หรือพูดตอบทันที ให้เค้ารู้ว่าเราฟังรู้เรื่อง เหมือนตอนนั้นนีโอจะรู้สึกถึง “อำนาจ” ที่ได้มาจากการพูดค่ะ เลยมีกำลังใจพูดใหญ่เลย (แต่พอลูกพูดเก่งแล้วก็ไม่ได้ตามใจเท่าเดิมแล้วค่ะ แต่การตอบสนองด้วยการพูดและสีหน้าท่าทางสนใจสุดๆยังต้องดำเนินต่อไปค่ะ)

คราวนี้ก็อย่าลืมต่อยอดค่ะ (อันที่จริงทุกข้อควรทำไปพร้อมกันได้เลย)

3. บรรยายทุกอย่างเสมือนเราเป็นคนพากย์หนังสารคดี:
ตอนที่ลูกยังไม่พูดหรือเพิ่งเริ่มพูด เวลาเราไปไหนทำอะไรกับลูกในบ้าน ก็บรรยายให้หมด เช่น เวลาจะอาบน้ำนะคะ ก็บรรยายไปว่าเรากำลังทำอะไร แม่ถอดเสื้อให้นีโอ ถอดแพมเพอร์ส แม่เปิดฝักบัว น้ำไหลลงมาแล้ว ฟอกสบู่กันดีกว่า ฯลฯ สามารถเน้นศัพท์ที่ลูกยังไม่รู้ด้วยการหยิบของประกอบการบรรยายค่ะ แม้แต่เวลาจะลงไปข้างล่าง ก็บรรยายไปค่ะ “แม่เปิดประตู แม่อุ้มนีโอเดินลงบันได ฯลฯ” เหมือนเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ลูกจะรู้ว่าเราพูดถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ทั้งคำศัพท์และประโยคก็จะเป็นที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น อีกไม่นานเค้าก็พูดได้เอง

4. อ่านหนังสือด้วยกันทุกวัน:
อันนี้โบว์เริ่มมาตั้งแต่นีโออายุสองเดือน พอจับนั่งตักได้ เราก็ดูหนังสือด้วยกันทุกวันไม่เคยเว้นค่ะ ต้องเลือกหนังสือให้เหมาะกับวัยและความสนใจของน้องนะคะ หนังสือช่วยได้มากเลย เพราะแต่ละเล่มจะถูกอ่านหลายครั้ง ทำให้น้องจำศัพท์ได้เร็วค่ะ ใช้หนังสือหลายเล่มหน่อยนะคะ จะได้ไม่เกิดอาการปฏิเสธหนังสือเล่มใหม่ๆค่ะ ถึงแม้จะมีเล่มโปรดที่ต้องอ่านบ่อยกว่าเล่มอื่นก็ตาม เวลาอ่านไม่ต้องตามตัวหนังสือนะคะ ทำให้เป็นธรรมชาติ พอเค้ารู้เรื่องแล้วก็ทำให้การอ่านเป็นแบบ interactiveมีถามตอบกันบ้าง เดี๋ยวเค้าก็จะช่วยเราเล่าได้ เริ่มจากหนังสือที่เน้นศัพท์คำนามต่างๆ แต่วัยสองขวบนี้เลือกหนังสือเป็นเรื่องสนุกๆได้แล้วค่ะ ไม่งั้นเค้าจะเบื่อ (แต่ก็เลือกไม่ง่ายนะคะ ไม่รู้ทำไม หนังสือใหม่ๆเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเรื่องที่ผูกเรื่องสนุกๆเลย) *ที่สำคัญ เวลาเล่าต้องเหมือนเล่นละครเลยค่ะ เหนื่อยหน่อยแต่สนุกค่ะ…

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยค่ะ
**มีบางกรณีที่คนเลี้ยงพูดมากเกินไปจนเด็กไม่พูดก็มีนะคะ คือพ่อแม่บางคนพยายามพูดเยอะๆเพราะกลัวลูกไม่พูด จนลืมเว้นจังหวะให้ลูกพูดบ้าง การสื่อสารสองทางก็เลยไม่เกิดสักที เราต้องเป็นผู้ฟังที่ดีที่สุดของลูกค่ะ

**ถ้าลูกพูดไม่ชัด ลองสังเกตดูว่าเวลาที่เราพูดนั้น เค้ามองเห็นปากเราหรือเปล่า การมองหน้ากันเวลาพูดช่วยได้คะ เพราะเค้าจะเห็นว่าเราทำปากอย่างไรในแต่ละพยางค์ที่พูด พอคล่องแล้วก็ไม่ต้องดูกันตลอดก็ได้ค่ะ แต่การสบตากันเวลาฟังลูกพูด ก็ยังเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆค่ะ

**คงเคยได้ยินว่าเด็กเล็กไม่ควรดูทีวีนะคะ วัยนี้ถึงจะดูวีดีโอสำหรับเด็ก แต่ถ้าเกินครึ่งชั่วโมงต่อวัน ก็อาจจะมากไปค่ะ

**สำหรับเด็กที่ไม่ได้มีแนวโน้มเป็นเด็กพูดเร็ว การใช้สองภาษาในช่วงนี้อาจทำให้น้องยังเริ่มพูดช้า เนื่องจากต้องการเวลาในการสร้างความแม่น ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจในการพูดนะคะ แต่การใช้สองภาษาไม่ได้มีผลเสียกับน้องค่ะ เค้าเพียงต้องการเวลาในการคุ้นเคยกับpatternของภาษาและสั่งสมประสบการณ์ คุณพ่อคุณแม่อาจต้องทำใจนิดนึง แต่ถ้ารู้สึกกดดันมากที่ลูกยังไม่พูดสักที อาจต้องใช้ภาษาเดียวเป็นหลักก่อน เพื่อให้ลูกพูดให้เราอุ่นใจก่อนนะคะ อันนี้แล้วแต่จุดประสงค์ของแต่ละคนค่ะ

โชคดีนะคะคุณพ่อสัญญ์ จะคอยฟังข่าวดีค่ะ :)

[พ่อน้องKen]

ขอบคุณมาก..มาก.เลยครับ..คุณโบว์
เป็นคำแนะนำที่สุดยอดจริงๆครับ..ครบถ้วนและละเอียดอ่อนมาก
ไม่สงสัยเลยครับว่าทำไมน้อง Neo ถึงพูดได้เป็นประโยคตั้งแต่ขวบสองเดือน

แล้วผมจะมาโพสความคืบหน้าของน้องเคนแน่นอนครับ
ขอบคุณนะครับ

[ผู้ใหญ่บิ๊ก]

แม่โบว์ ตอบได้ละเอียดครับ เห็นด้วยครับ

[อรดา พงศ์สุธนะ]

เป็นกำลังใจให้นะคะ พ่อน้องเคน ขอตอบคำถามนะคะ

1 เทคนิคการพูดแบบเต็มคำ คือเริ่มจากคุณพ่อเน้นๆกับเขาว่าต้องมี 2-3 คำไปเรื่อยๆนะคะ อย่าไปลดคำตามน้องนะคะ เช่น airplane เค้าก็จะพูดเพียง plane ก็เติมให้เขาทุกครั้งกลับว่าairplane พอน้องเริ่มโตหน่อยพูดประโยคยาวๆได้นะคะ น้องจะพูดเต็มเองค่ะ รับรอง (ขึ้นอยู่กับเราฝึกลูก ไว้แต่เนิ่นๆค่ะ)

2. ต้องมีของล่อเด็กค่ะ เช่นก่อนให้นม ให้ขนม แกะซองขนม ต้องขออะไรจากเขาก่อน เช่นขอให้เขาตอบเรา คิดว่าเทคนิคนี้ช่วยได้มากนะคะ สร้างเงื่อนไขกับเด็ก เพราะพ่อแม่ เหนือกว่าอยู่แล้วค่ะ อิอิ

3. ตามหนังสือคุณบิ๊กนะคะ แล้วโดยส่วนตัวก็ทำตามหนังสือ คือสอนศัพท์ วลี (สั้นๆ) ผูกเป็นประโยค อีกหน่อยน้องได้เองนะคะ ทำจากซ้ำๆ และง่ายๆ รอบตัวก่อนค่ะ

คุณพ่ออย่าลืมให้เวลาน้องปรับตัวด้วยนะคะ คิดในแง่ดีว่า คุณพ่อโชคดีมากๆที่ได้สอนน้องตั้งแต่ขวบกว่าๆ น้องยังเล็กมาก ทำให้เขาเรียนรู้ได้เนียนค่ะ

เรื่องภาษาจีน แนะนำว่า ฟื้นได้นะคะ เรายังมีห้องภาษาจีน คุณพ่อลองแวะเข้าไปดูนะคะ อบอุ่นไม่แพ้ห้องอังกฤษเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

[พ่อน้องKen]

ขอบคุณครับ คุณดา...ที่ให้คำแนะนำ+กำลังใจ
น้องเคนต้องพูดได้เก่งเหมือนน้องเคท แน่เลยครับ..55

สำหรับภาษาจีน...ต้องมีสักวันที่ตามไปเข้าห้องเรียนแน่ครับ แต่ตอนนี้ขอเป็น.ภาษา.eng ก่อนคร้าบ
ขอบคุณนะครับ

[อรนัย รักในหลวง]

สวัสดีค่ะคุณสัญญ์
เห็นกระทู้คุณสัญญ์ตั้งแต่คืนที่โพสต์แล้ว กลับไปทบทวนว่าเราทำยังไงให้ลูกเราพูด.........
ได้คำตอบแบบคุณแม่โบว์คะ เราต้องเป็นตัวอย่าง พูดนำ ตอบนำ ไม่ว่าเค้าจะพูดไม่ครบคำ ไม่ครบประโยคแต่เราก็ยังทำเหมือนเดิม พูดแบบเดิม อีกอย่างการพูดเป็นไปตามพัฒนการของเด็กแต่ละคนด้วยอ่ะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

[พ่อน้องKen]

ขอบคุณครับ คุณอ๊อบ ที่ตามมาให้กำลังใจ
...ใช่อย่างที่คุณอ๊อบว่าล่ะครับ เราต้องเป็นตัวอย่าง เป็นต้นแบบ ต้องพูดนำ ถามนำ ตอบนำ
...ถ้าต้นแบบเบลอ..ลูกแบบก็เบลอ เน๊อะ..55...โทษใครไม่ได้
...เอาไว้จะส่งคลิปน้องเคนไปอวดน้อง JJ กะพี่ต้นกล้า คนเก่งนะคร้าบ