เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

น้องอายุ 2.2 เดือน แม่อยู่บ้านเลี้ยงลูกเต็มตัว เวลาของคุณพ่อจะเป็นหลังเลิกงานคะ ก่อนหน้านี้เคยสอนแต่คำศัพท์ วลีง่ายๆ ไม่กี่คำ แล้วก็หยุดไป หนังสือนิทานประมาณห้าสิบเปอร์เซนต์เป็นสองภาษาคะ นานๆที อ่านเป็นภาษาอังกฤษให้ฟัง หนังการ์ตูนที่เคยให้ดูส่วนใหญ่เป็น sound track ไม่ได้ให้ดูบ่อย เค้าไม่รู้เรื่อง สนใจแต่การ์ตูน เช่น nemo, happy feet, the cars ให้นั่งดูเอง แม่ทำงานบ้านไป

อ่านหนังสือไปได้สองวัน เลยเริ่มไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะใช้วิธีไหน บอกสามีว่าขอลองเอง (คิดว่าถนัดมากกว่าสามี) วันแรกพูดภาษาอังกฤษกับลูก สลับภาษาไทย คงจะงงแต่ไม่ได้ปฏิเสธ วันนี้พูดเกือบตลอดเช้าหลุดภาษาไทยได้นิดหน่อย รู้สึกลูกไม่ค่อยยอมพูดคะ จากที่เป็นคนพูดมากๆ เล่นมากๆ ดูเงียบไป (ไม่รู้เราคิดไปเองหรือเปล่า) เค้าเคยพูดว่า แม่พูดภาษาไทย

ลูกเข้าใจความหมาย ความต้องการแม่ คำสั่งบ้าง เช่นถามว่า
do you want some ice, water เค้าจะพยักหน้า เราก็จะบอกเค้าว่า you should say, yes i want some ice
do you like this , that เค้าก็เหมือนจะเข้าใจนะ
go to toilet เข้าใจ วิ่งไปฉี่
get mama the black bucket เค้าจะถามว่าอันไหนแม่
get the blue chair เค้าจะถามว่าอันนี้หรือเปล่า
turn on the fan เค้าทำได้ วิ่งไปทำให้

เราเลยพูดไปเรื่อยๆ การเงียบ จ๋อยๆ แบบนี้คือการต่อต้าน หรือไม่มีความสุขหรือเปล่า เราต้องหยุดก่อน รอลูกอารมณ์ดีแล้วค่อยพูดดีหรือเปล่าคะ

อีกปัญหาคือ บางทีพูดไป เรานึกศัพท์ไม่ออก ก็พูดเป็นไทยไปเลย หรือว่าแม่ควรทำการบ้านก่อนดีคะ หรือว่าจะ set เป็นเวลาเฉพาะช่วงเวลาดีกว่าคะ เช่นช่วงเช้าอังกฤษหลังมื้อเที่ยงเป็นไทย ถ้า OPOL มันจะหนักไปไหมคะสำหรับกรณีลูกหรือปฏิกิริยาแบบนี้ หรือคุยกับสามีเป็นภาษาอังกฤษในช่วงเย็นก็พอ

ถ้ามีปัญหาเรื่องคำศัพท์ต้องเข้าไปในหมวดไหนคะ เช่นจะถามว่า หน้าบ้าน หลังบ้าน ภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่าอย่างไร

สมาชิกท่านไหนที่มีลูกวัยเดียวกัน ขอคำแนะนำด้วยนะคะ จะได้มีเพื่อนร่วมทาง

ขอบคุณนะคะ

Views: 405

Reply to This

Replies to This Discussion

ยินดีด้วยครับ ที่คุณได้เริ่มแล้วผลออกมา ผมถือว่าดีเยี่ยม ที่บอกว่าน้องอายุ 2.2 เดือน คงหมายถึง 2 ขวบ 2 เดือน ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาทองคำพอดี คุณไม่เคยพูดเลยแล้วพูดออกไปเยอะ แน่นอนที่สุดเขาจะงง ปฏิกริยาที่ตอบกลับคือเงียบ ถือว่าใช้ได้ครับ เป็นการตั้งสติ

ท้ายสุด เมื่อคุณทำต่อเนื่องเด็กก็เข้าใจ แต่สิ่งที่คุณควรจะทำเพิ่มก็คือ ช่วยพูดนำให้เด็กด้วย และอย่าใช้ประโยคยาว เด็กเพิ่งฟัง ให้ฟังจากศัพท์ ไปวลี จากวลีเป็นประโยคคำถาม

แต่ช่วงนี้ก็ต้องทำกันเป็นปีแล้วครับ

สำหรับระบบ OPOL ถ้าหนักไป ก็ผ่อนลงมาเหลือแค่พูดสลับก็ได้ครับ มีเวลาเหลือเฟือ สำหรับประโยคที่นึกไม่ออก ให้ดูท้ายบทในหนังสือ ผมว่าผมรวบรวมไว้เยอะพอสมควร ถ้าไม่ได้อย่างไรให้ค้นด้วยกูเกิลดูก่อน แต่ถ้ามีจังหวะ ได้ถามเจ้าของภาษา หรือมาโพสไว้ที่นี่ก็ได้ครับ

ที่นี่ผมว่ามีผู้รู้เริ่มเยอะขึ้นแล้ว

ต้องขอขอบคุณนะครับ ที่มาปันประสบการณ์ ทั้งที่เพิ่งทำไม่นานนัก
หน้าบ้าน front yard
หลังบ้าน back yard

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
ขอบคุณคะคุณพ่อมื่อใหม่ และคุณ pat สำหรับการตอบกลับ และกำลังใจ

ช่วงนี้แม่ต้องเปิด Net & Dic ตลอดเวลา เพื่อหาคำศัพท์ที่ถูกพูดกับลูก จริงอย่างที่คุณพ่อมือใหม่พูด ศัพท์บางตัวเราพูดผิดจากของจริงไปมากกกกกกกกก คิดว่าเริ่มแรกแม่นั่นแหละที่ต้องสะสมคลังศัพท์ก่อน

นิทานก่อนนอนก็ใช้เล่มเดิม แต่เป็น version ภาษาอังกฤษไปเลย เค้าไม่บ่น เราเลยเล่าไปเรื่อย
นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจ เลยลองก่อน ได้ผลเล็กน้อย ตอนเย็นยอมพูดตามเป็นภาษาอังกฤษหลายครั้ง สงสัยคงรู้แล้วว่าทำไมแม่ต้องให้ฝึกพูดภาษาอังกฤษ
คุณแม่ขึ้อายคะ (สำเนียงไม่ดีคะ ห่างไกลกับของจริงมาก) ไม่กล้าพูดต่อหน้าคนอื่น (สายตาคนนอกบ้านก็ไม่เป็นมิตรเสียเล้ย) แต่คงต้องแก้นิสัยนี้เสียก่อน ไม่งั้นลูกจับได้

ถ้าลูกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในทางดีหรือร้ายอย่างไร จะเข้ามารายงานตัวนะคะ
ยินดีด้วยอีกคนค่ะ น้องก็เหมือนกับคุณแม่แหละค่ะ กำลังสะสมคำศัพท์อยู่เหมือนกัน แอ๊ดเองก็ใช่จะสำเนียงภาษาอังกฤษได้เรื่อง แถมภาษานอร์เวย์นี่ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ แต่ก็อาศัยความพยายามเอาค่ะ พูด ๆ ๆทำเหมือนกับว่าเป็นเรื่องปรกติประจำวันไป ตอนนี้ทีนะ(ลูกสาว) เริ่มตอบได้ทั้งไทยและอังกฤษแล้วค่ะ ไม่ได้เป็นประโยคอะไรหรอก แค่เราถามเขาเป็นภาษาไทยแล้วเขาตอบ"ใช่ค่ะ" "ไม่ใช่ค่ะ" แม่ก็ปลื้มสุดๆแล้วค่ะ

ภาษานอร์เวย์กับอังกฤษนี่เขาเข้าใจในระดับดีมาก ๆเท่าๆกันเลย ที่แม่ต้องพยายามมากขึ้นคือภาษาไทย แอ๊ดก็ใช้เทคนิคแบ่งเวลาค่ะ.....กะเข้ามาแสดงความยินดีด้วย ดันเล่าเองซะนี่แหะ แหะ
เยี่ยมมาก ๆ ค่ะ แม่น้องนน..นับถือ ๆ
กำลังพยายามอยู่ค่ะ
ตอนนี้ลูกชาย 1.8+ ขวบ ยังไม่ค่อยพูดเท่าไหร่แต่เราก็ใส่ภาษาอังกฤษเข้าไป
ไม่รู้ว่าผลจะเป็นยังไงเหมือนกันค่ะ
ขอแชร์นิดนึงครับ จากความรู้สึกส่วนตัวบอกกับตัวเองก็เป็นเด็กสองภาษา (ไทยจีน) มาก่อน คือตอนเด็กๆ จะเข้าใจโดยอัตโนมัติอยู่แล้วจากความคุ้นเคยกับที่ผู้ใหญ่พูดแล้วทำให้ดูว่าที่พูดหมายถึงอะไร แต่บางอย่างก็ไม่เข้าใจและบางทีอาจจไม่อยากทำความเข้าใจก็เลยเงียบๆ ไป ลูกชายผมเองก็เป็นครับ ในช่วงแรกๆ ที่ให้พูดภาษาอังกฤษตอบ เค้าก็จะไม่ยอมตอบ ทำเป็นเงียบๆ ไป หรือตอบเป็นภาษาไทยมา เพราะว่าเค้าไม่มั่นใจว่าควรจะพูดอย่างไร แต่ดูแล้วไม่ถือว่าต่อต้านนะครับ ถ้าต่อต้านอาจจะไม่ทำอย่างที่เราบอกเลยครับช่วงแรกอาจจะต้อง guide เค้านิดนึงว่าควรจะตอบอย่างนี้ เหมือนที่คุณแม่ทำถูกต้องแล้ว อาศัยความพยายาม และต่อเนื่อง หากจะให้ได้ผลจริง คุณแม่อาจจะต้องจริงจังพูดภาษาอังกฤษตลอดเวลา entire english และ เริ่มจากสิ่งที่เป็น routine เช่น กิจวัตรประจำวันครับ ลองนึกถึงตอนเราเรียนภาษาอังกฤษช่วงแรกๆ เราเองก็ไม่กล้าที่จะพูด เพราะกลัวพูดแล้วจะผิด หรือตลก เมื่อเรามั่นใจได้พูดออกไปแล้วถูก เราก็จะกล้าพูดมากขึ้น เชื่อเถอะครับว่ายิ่งเราพูดให้เค้าฟังมากเท่าไหร่ คำพูดนั้นเค้าจะจดจำและจะถูกนำออกมาใช้เองในวันนึง

เอาใจช่วยครับ

พ่อจุ้ยจุ้ย
ขอบคุณคะสำหรับทุก comment

ขอ update ต่อนะคะ
ลูกเริ่มปรับตัวได้มากพอสมควร ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแปลกสำหรับลูกอีกต่อไป เห็นผลเร็วกว่าที่แม่คิด (ก่อนหน้านี้มีคนเคยแนะนำ ให้เริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูกแต่เล็ก แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อ หรือขี้เกียจมั้ง เลยไม่สนใจ ปล่อยเวลาผ่านไปเฉยๆ ) ตอนนี้เชื่อแล้วว่ามันทำได้จริงๆ ลูก

ส่วนแม่ก็เริ่มหาจุดสมดุลได้ว่าจะใช้ภาษาอังกฤษแบบไหนแค่ไหน opol อยากทำ แต่ติดขัดหลายอย่าง หลักๆอยู่ตรงที่แม่เลี้ยงลูกเต็มตัวอยู่กับลูกตลอดเวลา ในหนึ่งวันต้องทำหลายอย่าง กิจกรรมบางอย่างเราอยากทำเป้นภาษาไทยเพราะถนัดเป็นภาษาไทยกว่า ภาษาไทยที่พูดบางทียังไม่ถูกก็ต้องคอยตามแก้อยู่ เอาไว้ให้ลูกคล่องแล้วแม่คล่องกว่านี้ อาจจะขยิบเป็น opol ในที่สุด
ยินดีด้วยครับ ไม่ต้องรีบนะครับ ค่อยๆทำทีละขั้น เรามีเวลาสอนลูกเรื่องนี้เป็นสิบปี
เห็นด้วยกะแม่น้องนนทุกประการเลยค่ะ
ตอนนี้กำลังพยายามไม่ขี้เกียจ เพื่อลูกๆค่ะ :)

แม่น้องนน said:
ขอบคุณคะสำหรับทุก comment

ขอ update ต่อนะคะ
ลูกเริ่มปรับตัวได้มากพอสมควร ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแปลกสำหรับลูกอีกต่อไป เห็นผลเร็วกว่าที่แม่คิด (ก่อนหน้านี้มีคนเคยแนะนำ ให้เริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูกแต่เล็ก แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อ หรือขี้เกียจมั้ง เลยไม่สนใจ ปล่อยเวลาผ่านไปเฉยๆ ) ตอนนี้เชื่อแล้วว่ามันทำได้จริงๆ ลูก

ส่วนแม่ก็เริ่มหาจุดสมดุลได้ว่าจะใช้ภาษาอังกฤษแบบไหนแค่ไหน opol อยากทำ แต่ติดขัดหลายอย่าง หลักๆอยู่ตรงที่แม่เลี้ยงลูกเต็มตัวอยู่กับลูกตลอดเวลา ในหนึ่งวันต้องทำหลายอย่าง กิจกรรมบางอย่างเราอยากทำเป้นภาษาไทยเพราะถนัดเป็นภาษาไทยกว่า ภาษาไทยที่พูดบางทียังไม่ถูกก็ต้องคอยตามแก้อยู่ เอาไว้ให้ลูกคล่องแล้วแม่คล่องกว่านี้ อาจจะขยิบเป็น opol ในที่สุด

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service