เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

หลายอาทิตย์ก่อน มีโอกาสเจอพี่ต่อหวานใจของคุณอรนัย....ที่นั่งจิบน้ำ นัยต์ตาเชื่อมเชียว เลยถาม

พี่ถาม ----> พี่ต่อๆ  ทำไมถึงชอบอ๊อบคะ

พี่ต่อ  -----> ใครบอก...ผมไม่ได้ชอบเขานะ

พี่งง  ------>  อ้าว !!!

พี่ต่อ ----->  ผมรักเขาเลยล่ะ

 

 

ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววว............

 

หามาจากไหนเนี่ย สามีแบบนี้

 

 

ถามทุกๆคนเลยนะเนี่ย ว่าสามีนี้ท่านได้แต่ใดมา

สนุกๆก่อนปิดเทอม อย่าซีเรียสจ้า

Views: 3208

Replies to This Discussion

พอกลับจากต่างจังหวัด ตัดสินใจบอกปะป๊ามะม๊าว่าเบื่อแล้ว อยากบวชมาก เบื่อเศรษฐกิจที่แย่มาก เบื่อรอบข้าง ซังกะตายจริง ๆ นะ แต่ว่าคำว่า "บวช" เนี่ย มะม๊าร้องไห้เลย ปะป๊าก็มาขอว่าไม่บวชได้มั๊ย ตอนนั้นเรียนจบเลขาฯ แล้วไม่คิดจะเรียนต่อ ไม่คิดอะไรทั้งนั้นเลย เราทนมะม๊าร้องไห้ไม่ไหว ก็บอกว่าไม่บวชแล้ว แต่ขอกินเจปีนึงนะ งานนี้ปะป๊ามะม๊าโอเค สนับสนุน ทำกับข้าวให้ด้วย ขออย่างเดียวว่าอย่าบวช ... แล้วจากนั้นโอกาสก็มาถึง เพื่อนชวนไปทำงานที่บริษัทที่ปรึกษาแห่งนึง ทำอยู่นานนนน ได้เจอคนมากมาย เจอคนเก่งเยอะ คนหล่อก็เยอะ มีคนขอแต่งงานด้วย (เป็นฝรั่ง เพื่อนเจ้านาย) แต่ก็ปฏิเสธไป ต่อมานายครบวาระที่เมืองไทย เปลี่ยนฝรั่งมาประจำหลายคน เอาเปรียบคนไทยอย่างเรา ๆ มากมาย ก็เลยคิดหาลู่ทางใหม่ ๆ ตอนนั้นเรียนต่อจนจบตรีแล้ว ... ชั้นจะเตรียมบินละน๊าาาาาา ....
ก็หาทั้งงานผ่านเน็ต กรอก resume online จนมาเห็นบริษัทนึงรับสมัคร PE เอ๊ยยย คุณสมบัติเนี้ย เขียนมาเพื่อชั้นเลยนะเนี่ย สมัครไปเนี่ยต้องได้แน่นอนเลยอะ แต่ไกลจัง สายตาเจ้ากรรมเหลือบไปเห็น ชื่อคนรับสมัคร ... เอ๊ยยย เจ้านายคนไทยนี่หว่า ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวมาใช้เราเยี่ยงทาส ก็เลยไม่ส่งใบสมัครไป จากนั้นไม่นาน ก็มีบริษัทนึงติดต่อมาว่าเจอ resume จากเว็บนึง สนใจอยากให้มาสัมภาษณ์ พอฟังแล้ว ก็ไกลอีก ก็ปัดไป ไม่ไปดีกว่า ฝ่ายบุคคลโทรมาไม่สำเร็จ ทีนี้ ผจก. โทรมาเอง ก็เลยว่าก็โอเคนะ ไปก็ได้ แต่ขอเพือนไปด้วยคนนึง กะลังตกงาน เผื่อว่าคุณไม่รับชั้น คุณอาจจะรับเพื่อนชั้นก็ได้นะ ผจก. ก็โอเคตามนั้น จนแล้วจนรอด ก็ได้สัมภาษณ์งาน ผจก. คนนี้ถามมาได้ resume ที่เขียนมาเนี่ย make มั๊ย ทำได้จริงอะเหรอ (ก็ใครจะไปโกหกฟะ .... เราตบโต๊ะดังมากกกกก) ผจก. โอเค แล้วก็ไปคุยสรุปกะนายใหญ่จากสิงคโปร์ และท้ายสุดก็เลือกเรา และให้เราเสนอเงินเดือน เราก็นะ ... อัดซะเต็มเหนี่ยว กะว่าไม่รับชั้นก็ต้องรับเพื่อนชั้นละว๊า ... แต่ว่าเค้าก็ไม่ปฏิเสธที่จะให้เงินเดือนตามที่เราขอ เราจึงต้องมาทำงานที่นี่ตามสัญญา และต้องมาเซ็นต์สัญญาก่อนด้วย ... ในวันที่เซ็นต์สัญญา รอแล้วรออีก (อุตส่าห์หยุดงานมาครึ่งมาวันนะเนี่ย เราเลยบอกโอเปอร์เรเตอร์ว่าถ้าอีกสิบห้านาทีไม่ได้เซ็นต์ ก็จะกลับแล้วนะ เพราะว่าต้องเข้างานแล้ววว) แล้วก็ได้เซ็นต์สัญญาตามที่นัดไว้
(ต่อ 1) ได้มาทำงานที่ใหม่ก็ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิม คือ ทำงาน ๆ ๆ ๆ เรียนภาษาตอนเย็น ๆ ๆ ๆ กลับบ้าน ๆ ๆ ๆ ๆ แค่นั้นอยู่เป็นปี .. กะอีตา ผจก. คนนี้ก็ไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่ แต่เรามองว่าเค้าน่าจะมีปัญหานะ เงียบได้งัย (ฟะ) ทั้งวัน ทุกวันศุกร์ต้นเดือนก็มี party ก็ไม่เคยร่วม เราตะหากที่ต้องเอาน้ำ เอาขนมมาให้กินประจำ นาน ๆ ก็จะเห็นรอยยิ้มซะทีด้วย (มันก็อยู่โปรเจ็คเดียวกันนะ งานก็เยอะเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยได้คุยกัน นั่งก็ตรงข้ามกันแค่นี้อะ)

แล้วในที่สุดสัญญาจ้างงานเราก็กำลังจะหมดลง เลยเข้าไปถามว่าจ้างต่อมั๊ย ถ้าไม่จ้างให้บอกก่อน จะได้หางานใหม่ เราถือสัญญาเข้าไปคุยว่าผลงานเป็นยังงัย ถ้าโอเค อย่าลืมจ้างต่อแล้วขึ้นเงินให้ด้วยนะ 555+ ตอนนั้นโชคดีสิงคโปร์มีโควต้าให้ปรับเป็น permanent 2 ตำแหน่ง เราได้ด้วย ได้เงินเพิ่ม และได้โบนัส ดีใจมาก ๆ แล้ววันนึงเราก็ได้รู้จริง ๆ ว่า ผจก. มีปัญหาที่แก้ไม่ตก ตอนนั้นเรานับว่าเป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิตเลยนะ ช่วงเวลาตรงนั้นเราไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น ก็ให้คำปรึกษาไปเรื่อย เพื่อน ๆ ก็เริ่มจับสังเกต (แต่เราไม่ได้จับสังเกตอะไร) แต่ก็สงสัยโทรหาทำไมทุกวัน เวลาเดิม ไม่ว่าจะขึ้นรถ ต่อ BTS ที่สยาม จนถึงบ้าน เป๊ะทุกวัน เราเป็นที่ปรึกษาให้จนทุกปัญหาเคลียร์ ผจก. คนนี้ก็ตีซี้เรื่อย ๆ จนให้เราพาไปกินข้าวที่ร้านเจ (บอกว่าอยากลอง เพราะในชีวิตนี้ไม่เคยกินเจเลย) ก็พาไป สายตาคนในครอบครัวเราวันนั้น มองตาไม่กระพริบ เราจะพูดยังงัย จะบอกว่าไม่มีอะไร ก็ไม่มีใครเชื่อ ................
(ต่อ 2) ผ่านไปแค่เดือนเดียว .... ผจก. คนนี้อยู่ ๆ มาขอแต่งงานเฉยเลย อ้าววว ทำไงล่ะทีนี้ งงเลย ... เราเป็นลูกน้องอยู่ตั้งปีสองปี เป็นที่ปรึกษาแค่ไม่กี่เดือน คบสนิทจริงก็แค่เดือนสองเดือนเท่านั้นอะ ขอแต่งงานละ ..... จะรอดมั๊ยเนี่ย!!! ตัดสินใจอยู่อาทิตย์เดียวเท่านั้นแหละ แล้วก็มายักยอกเอาเอกสารส่วนตัวเราแล้วก็พาไปจดทะเบียนเฉยเลย จากนั้นก็ไปคุยกะปะป๊ามะม๊า ขอแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว .... ขอเดือนตุลานะ แต่ได้ฤกษ์นู่นนนนนน พฤษภาอีกปี 5555+

ตอนนี้ผ่านมาเข้าหนาวที่ 7 แล้วนะ ขาเตียงยังแน่นอยู่เหมือนเดิม ผจก.คนนี้ก็คือคุณพ่อน้องเจงัยล่ะ ...

เดี๋ยวนี้พ่อน้องเจกินเจเป็นแล้วนะ แล้วก็มาทำหน้าที่พนักงานจดออเดอร์ พนักงานเก็บเงิน เก็บจาน ล้างจาน ล้างแก้ว ในวันที่หยุดงานประจำด้วย .... รวมถึงเป็นสารถึพาเรากะน้องเจไปตะลอน ๆ ๆ ๆ อีกตะหาก

ถามว่าพ่อน้องเจรู้อดีตเก่า ๆ ของเรามั๊ย ................... รู้ทุกเรื่อง แอบหึงด้วย รูปกิ๊กเก่าไม่ว่ากี่คน เอาทิ้งขยะหมด ของจุ๊กจิ๊กที่ได้มาก็จับทิ้งหมด (บอกว่า "รก") แต่ถามว่าทำไมเค้าถึงรับเราได้ทั้งเรื่องหนี้สินที่บ้าน อุปนิสัยส่วนตัว หรือแม้กระทั่งเรื่องอดีตกิ๊กของเรา .... เค้าบอกว่าเรื่องหนี้สินไม่ใช่ปัญหา อาจจะไม่มีทางแก้ที่ง่ายนัก แต่ชีวิตปูมหลังคล้ายกัน ที่เราเจอปัญหาเหล่านี้มา เค้าก็เจอมาคล้ายกัน เค้าบอกว่าเค้ารู้สึกดีที่เราเป็นผู้หญิงแกร่ง สู้ ทำหน้าที่พี่สาว และ ลูกสาวได้ดี (พ่อน้องเจเคยพูดถึงความในใจให้เราฟังว่า ถ้าเราไม่เล่าเรื่องพวกนี้ให้เค้าฟัง เค้าก็ไม่คิดว่าเราผ่านอะไรมาเยอะ เห็นยิ้มตลอด ไม่เคยแสดงความทุกข์ให้เห็น ไม่บอกก็ไม่รู้ว่าทำอะไรได้อีกหลายอย่าง เราไม่ต้องรวยหรอก มาช่วยกันสร้าง ส่วนเรื่องอื่น ๆ เล็กน้อยมาก จะเปิดหัวใจให้ใหม่ และสัญญาว่าจะไม่ทำให้เสียใจเหมือนที่เคยผ่านมาแล้วกัน ... โอ้วววว ซึ้งมากมาย ผ่านมาจนถึงวันนี้ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านทุกข์ และ สุขมาเยอะมาก แต่ก็ยังคงอยู่ข้าง ๆ กัน .... ยังทำหน้าที่สามีภรรยา เพื่อน และพ่อแม่ร่วมกันอยู่ ทะเลาะกันน้อยลง เสียงหัวเราะมากขึ้น ... มองทุกอย่างแบบกลาง ๆ ก็มีความสุขไปอีกแบบล่ะ :)
(ต่อ 3) จริง ๆ เรื่องของเราก่อนที่จะแต่งงาน ถูกตัดออกไปเยอะมาก มีเวลานิดเดียวก็เล่าแบบนิดเดียว ... และสิ่งที่เราสงสัยจนวันนี้ว่าบรรพบุรุษทางพ่อของน้องเจ ดอง อะไรกะฝั่งอาม่าเรารึป่าวเนี่ย ... มาจากเมืองจีนเมืองเดียวกัน แซ่ก็เดียวกัน ส่วนเราสองคนตอนที่ยังไม่มีน้องเจ ใครเห็นก็เป็นทักนะว่าพี่น้องกันรึป่าว หน้าเหมือนกันมากกกกก ... บางคนก็นึกว่าพี่น้องนะ แล้วจะทักบ่อยว่าพี่น้องคู่นี้เค้ารักกันดี พี่ชายจูงน้องสาว เวลาไปห้าง ไปซื้อของ พนักงานก็จะนึกว่าเป็นพี่น้องทุกทีไป ถึงตอนนี้มีน้องเจแล้ว ... เราสามคน หน้ายิ่งเหมือนกันเข้าไปใหญ่ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าใครเห็นน้องเจตอนนี้แล้ว copy certified เลยจริง ๆ :)

วันนี้สถานการณ์ที่ครอบครัวเราคลี่คลาย จากหน้านิ่วคิ้วขมวด กลายเป็นสนุกสนานเฮฮา ผู้ใหญ่ใจดีเป็นของเล่นสนุก ๆ ให้กับน้องเจทุกคนทุกวันเลยยยย ...
ว้าว!! แอบมาอ่าน แค่ intro เหมือนในนิยายเลยค่ะ อยากฟังด้วย อิอิ
ตั้งกระทู้ให้มาเล่าด้วยอ่ะ ห้ามอ่านอย่างเดียวค่ะ
อายอ่ะค่ะ อิอิ ที่จริงก็ปูนนี้แล้วไม่รู้จะอายทำไม 5555
พี่ตุ๊กตา...ทำกันได้นะๆ...ฮึ่มมๆๆๆ

แล้วพี่รู้มั้ยว่าตอนที่พี่ไปเข้าห้องน้ำ อ๊อบก็ถามคุณบิ๊ก...แบบเดียวกันกับที่พี่ถามพี่ต่อเลย...
.
.
.
.....
...........
อยากรู้มั้ยคุณบิ๊กตอบว่าไร....ฮ่าๆๆๆๆๆ
โกหกน่ะ ผิดศีลข้อห้านะเฟ้ย
เฮ้ยๆๆ...ผิดศีลห้า ข้อที่สอง ขอแก้
ลืมคำว่า "ค่ะ" มาขอเติม เดี๋ยวหาว่าพูดไม่เพราะ ฮ่าๆๆ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service