เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

ขอคำแนะนำค่ะ - อย่างนี้ เริ่มเป็น 2 ภาษาก่อน หรือ 3 ภาษาดีคะ

พอดีมีโอกาสได้ดูรายการตาสว่าง ที่พ่อน้องเพ้ยเพ้ยมาออกรายการ เลยอยากขอคำแนะนำค่ะ ครอบครัวเราตอนนี้อยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ พ่อแม่คนไทยทั้งคู่ เลยพูดกับลูกเป็นภาษาไทย เพราะคิดว่าเขาไปโรงเรียนต้องได้ภาษาญี่ปุ่นอยู่แล้ว ตอนนี้น้อง 1 ขวบ 2 เดือนแล้วค่ะ จะเริ่มคุ้นกับภาษาไทยมากกว่า เพราะยังไม่ได้ไปโรงเรียน แต่ก็มีดูรายการทีวีเด็ก ที่เป็นภาษาญี่ปุ่นบ้างเล็กน้อย

มีใช้ภาษาอังกฤษกับเขาบ้าง เป็นคำๆ แต่ไม่ได้เน้น คือใช้น้อยมากๆ เป็นแนวตอนอาบน้ำ หรืออะไรนิดหน่อยเองค่ะ

หากจะเริ่มเป็นว่า ให้พ่อเขาพูดภาษาไทย แล้ว เราเปลี่ยนไปพูดภาษาอังกฤษกับเขา แล้วตอนเขาไปโรงเรียนให้เขาไปเรียนภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียน แบบนั้นจะดีมั๊ยคะ คืออยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษ แต่ทีแรกห่วงเขาจะไม่ได้ภาษาไทยมากกว่า เพราะยังไง เราก็เป็นคนไทย ตั้งแต่เขาเกิดเลยเน้นแต่ภาษาไทยซะเป็นส่วนใหญ่

หรือเราควรเน้นพูดไทยกับเขาไปเลย ทั้งพ่อและแม่ เพราะเห็นจากเด็กไทยที่นี่ส่วนใหญ่ พอไปโรงเรียนพูดญี่ปุ่นกันแล้ว ภาษาไทยก็ไม่ค่อยเอา แล้วภาษาอังกฤษไปเสริมที่หลัง ให้เขาโตกว่านี้หน่อย สัก 3-4 ขวบ จะช้าไปมั๊ยคะ

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

Views: 254

Reply to This

Replies to This Discussion

ผมอยากให้เน้นภาษาไทยกับญี่ปุ่นครับ ไทยกับญี่ปุ่นจะต้องพูดชัดทั้งคู่ เมื่อโตขึ้นมาหน่อย ก็ค่อยๆเติมภาษาอังกฤษลงไป เหตุที่ยังไม่อยากให้พูดภาษาที่สามเลย เพราะไม่มี Native Speaker ที่พูดอังกฤษอยู่อีกคนครับ ถ้ามีอยู่ในครอบครัว ก็สามทันทีเลยก็ได้

ตอนนี้ให้สองภาษาจนแ่น่นระดับหนึ่งก่อน แล้วค่อยเติมภาษาที่สาม

กรณีผม เน้นไทยกับอังกฤษ พอเพ่ยเพ่ย ใกล้สามขวบก็ค่อยๆเติมภาษาจีนเข้าไป ตอนนี้ก็ถือว่าอยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มทำเอง ไม่ได้โหมมาก
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ อย่างนี้ถ้าเราเน้นให้เขาพูดภาษาไทยที่บ้าน คือพูดกับพ่อ และ แม่ เป็น ภาษาไทย ทั้งคู่ และ ให้เขาฝึกภาษาญี่ปุ่นจากที่โรงเรียน

คือต้องเอาน้องไปฝากเลี้ยงตอนกลางวันค่ะเพราะต้องทำงานทั้งคู่ ยังไม่เริ่มเพราะยังเต็มอยู่ อาจจะได้เข้าประมาณขวบครึ่ง ซึ่งที่โรงเรียนครูเขาจะใช้ภาษาญี่ปุ่นค่ะ ฝากเป็นช่วงครึ่งวันเช้า หรือถึงบ่ายสอง บ่ายสาม

เท่ากับน้องจะได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นตอนกลางวัน และใช้ภาษาไทยที่บ้าน แบบนั้นน่าจะดีกว่าใช่มั๊ยคะ

คือตั้งใจว่า ภาษาไทยอย่างไรอยากให้เขาได้ ให้พูดชัด และควรอ่านเขียนได้ด้วย เพราะอย่างไรเราก็คนไทย ก็คงต้องสอนเขาเองที่บ้าน ไม่ทราบว่าคุณพ่อมีคำแนะนำมั๊ยคะ ว่า เราควรค่อยๆสอนเขา ในการอ่าน การเขียน เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ดี

(หรือคุณแม่ท่านอื่นๆ ที่อ่านกระทู้นี้ ก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ)
เน้นให้ฟังพูดก่อนเป็นอันดับแรกครับ เมื่อเด็กโตสัก สามขวบ กล้ามเนื้อมือเริ่มแข็งแรง ก็ให้ท่องก ไก่ ข ไข่ ตามแบบเรียนไทย แต่อยากให้พ่อแม่สร้างแรงบันดาลใจให้เขารักภาษาไทยก่อนนะครับ ไม่งั้น ทุกอย่างก็ไปไม่ได้ เพราะภาษาไทย ถือว่าเป็นภาษาที่ยากภาษาหนึ่งของโลก โดยเฉพาะการเขียน ยากกกก

ผมอยากให้อ่านบทความของแม่น้องพลอยชมพูครับ
http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:6191
คุณ lekjira คะ ลูกคุณขวบกว่าแล้วน่าจะเข้าใจภาษาญี่ปุ่นบ้างนะคะ
ดิฉันหมายถึงก่อนที่เขาจะไปอยู่ร.ร.หรือเนสเซอรี่ น่าจะเข้าใจและสื่อสารก็คนอื่นๆ ได้บ้าง
อย่างเช่น เวลาลูกหิว จะพูดไทย "หิวๆๆๆ" แล้วพี่เลี้ยงคนญี่ปุ่นจะเข้าใจรึเปล่าคะเนี่ย
หากไม่ได้เตรียมพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นเอาไว้บ้าง เด็กขวบครึ่งนี่พูดได้หลายคำแล้วนะคะ
เช่น หิวข้าว หิวน้ำ หิวนม นอน ง่วง ไป มา ฯลฯ

และอีกอย่างหากพี่เลี้ยงหรือครูบอกอะไร แล้วเขาไม่เข้าใจ ภาษาก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ลูกจะรู้สึกแปลกรึเปล่า คนเลี้ยงก็แปลกหน้าและ ภาษายังไม่รู้เรื่องอีก อย่างน้อยเวลางอแง
พี่เลี้ยงมาปลอบ โอ๋อย่างนั้น โอ๋อย่างนี้ เดี๋ยวคุณแม่มานะคะ อะไรแบบนี้ลูกยังเข้าใจและหยุดร้อง

ส่วนตัวแล้วคิดว่า ควรให้คนใดคนหนึ่งพูดญี่ปุ่นกับลูกค่ะ อีกคนพูดไทย หากภาษาญี่ปุ่นแข็งแรง
แล้วค่อยเปลี่ยนไปพูดภาษาอังกฤษค่ะ

ดิฉันเห็นหลายครอบครัวที่เป็นคนต่างชาติทั้งพ่อและแม่ ลูกจะมีปัญหาเรื่องภาษาพื้นเมืองค่ะ
คือพ่อแม่พูดภาษาพื้นเมืองไม่เก่ง หรืออาจจะเก่งแต่ก็ไม่เท่าเจ้าของภาษาโดยตรง
ลูกอาจจะพลอยไม่เก่งไปด้วย จะหวังให้ได้ภาษาพื้นเมืองที่ถูกต้องจากทางโรงเรียน ก็ไม่ผิดที่คิดแบบนั้น
แต่คิดดูนะคะ เด็กคนอื่นๆ เขาพัฒนาภาษาญี่ปุ่นตามวัย เพราะพ่อแม่เป็นเจ้าของภาษา
แต่ลูกคุณจะตกภาษาญี่ปุ่นค่ะ คือจะพัฒนาช้ากว่าเด็กทั่วไปที่พ่อแม่เป็นเจ้าของภาษา

ดิฉันเลยอยากแนะนำว่าให้ช่วยกันพัฒนาภาษาที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตประจำวันก่อนค่ะ คือภาษาญี่ปุ่น
ลองคิดดูว่าหากขวบครึ่งลูกคุณมีภาษาญี่ปุ่นไม่ถึง 10 คำ ในสมอง แต่ขณะที่เด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน
อาจจะมีคำ และประโยคเป็นร้อยแล้วก็ได้ค่ะ สอนให้ลูกพูดญี่ปุ่นสักระยะดูว่าเขาสามารถพูดได้
เท่ากับเด็กวัยเดียวกันได้เมื่อไหร่ ค่อยเปลี่ยนมาพูดอังกฤษในภายหลังค่ะ (อันนี้เห็นด้วยกับคุณพ่อมือใหม่นะคะ)



ส่วนคุณพ่อมือใหม่ ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณคุณพ่อมือใหม่ที่แนะนำ บทความของคุณแม่น้องพลอยชมพูนะคะ เขียนได้ดีมากเลยค่ะ

และขอบคุณคุณแม่น้องพลอยชมพูสำหรับคำแนะนำนะคะ ได้ข้อคิดดีๆเพิ่มที่จะลองนำไปใช้ค่ะ

อาจจะเพราะความที่เห็นจากตัวอย่างครอบครัวอื่นๆที่นี่ และจากเด็กไทยบางคน ที่เขาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เล็ก แต่เพราะครอบครัวมาทำงานที่ญี่ปุ่น เลยตามครอบครัวมาเรียนที่นี่ด้วย ไม่นับตัวอย่างที่เห็นตอนมาโตๆแล้ว แต่จากเด็กที่เห็น คนนึงมาตอนหกขวบ ทีแรกก็ไปเข้าชั้นเรียนกับเพื่อนแบบไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น แต่เพราะความเป็นเด็ก เขาก็พัฒนาได้ไวมากๆ เรียนไปได้ไม่กี่ปี ภาษาญี่ปุ่นตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้ว แต่ฟังจากพ่อแม่เด็กว่า เด็กเริ่มไม่ค่อยจะยอมพูดไทยแล้ว และอีกคนมาตอนจบประถมต้นที่ไทย เรียนๆไปก็เริ่มจะไม่ยอมพูดไทยแล้วเหมือนกัน กลายเป็นไม่มั่นใจในการใช้ภาษาไทยกันไป ทั้งๆที่ที่บ้านพูดไทยด้วยกับเด็ก (แต่เรื่องแบบนี้มันก็ละเอียดอ่อน ซึ่งอาจจะมีปัจจัยบางประการที่เราไม่ทราบละเอียดทั้งหมด ที่ทำให้ผลเป็นแบบนั้น)

และจากตัวอย่างของบางครอบครัวที่เด็กเกิดที่ญี่ปุ่น แต่เป็นพ่อแม่คนไทยทั้งคู่เหมือนกัน แต่เด็กจะพูด เขียน ญี่ปุ่นกันได้เจื้อยแจ้ว ในขณะที่พูดไทยไม่ค่อยแข็งแรง พูดแล้วสำเนียงเหมือนคนต่างชาติพูดไทยมากกว่า ซึ่งเขาก็ฝากเด็กไว้กับที่โรงเรียน ที่เป็นคนญี่ปุ่นแต่เล็กเหมือนกัน

อาจจะเพราะสิ่งที่เห็นหลายๆอย่าง ที่ทำให้ตัวเอง มัวแต่กลัวลูกจะไมได้ภาษาไทยมากกว่า จะไม่ได้ภาษาญี่ปุ่น เลยเน้นเขาแต่ภาษาไทยอย่างเดียว แต่ปัจจัยที่เปลี่ยนไปคือตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้แม่บ้านทั้งหลายเอาลูกไปฝากเลี้ยงกันมากขึ้น เพราะต้องทำงานตอนกลางวันกัน เลยทำให้โรงเรียนที่สมัครไว้เต็มตลอด รอมาเรื่อยๆตั้งแต่น้องได้ 6 เดือน จนตอนนี้ ขวบสองเดือนแล้วค่ะ (ถ้าเลือกได้ก็อยากเลี้ยงเองมากกว่าค่ะ แต่เพราะต้องทำงาน และห่วงเรื่องภาษาของน้องด้วย เลยคิดว่าไปฝากเลี้ยงด้วย น่าจะได้ประโยชน์กับน้องมากกว่า เพราะไม่มีเจ้าของภาษาอยู่ที่บ้านด้วย)

จากข้อคิดเห็นของคุณแม่น้องพลอยชมพู และความรู้จากทางคุณพ่อมือใหม่ ทำให้ได้สะกิดใจ เหมือนกันค่ะว่า หากต้องรอโรงเรียนไปเรื่อยๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้เมื่อไหร่ เพราะที่นี่เขาต้องเข้าตามเขต น้องก็จะโตไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเราไม่เริ่มภาษาให้เขาแต่ตอนนี้ เขาก็อาจจะพบปัญหาเวลาไปอยู่กับคนอื่นที่โรงเรียนได้เหมือนกัน เพราะที่บ้านไม่มีใครพูดญี่ปุ่นกับเขาเลย มีพูดแค่คำๆนิดๆหน่อย กับเวลาดูรายการเด็กบ้าง

ตอนนี้เวลาพูดไทยกับเขา เขาจะเข้าใจนะคะ แต่ยังไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง แต่ทดสอบเวลาให้ไปหยิบอะไรมา หรือเอาของให้ไปวางตรงไหน หรือเอาไปให้ใคร เขาก็เข้าใจ ต่อไปก็คงต้องเพิ่มภาษาญี่ปุ่นเข้าไปทีละนิดๆ น่าจะช่วยได้นะคะ
ที่คุณพูดมาถูกต้องค่ะที่เยอรมนีก็มีแบบนี้เยอะค่ะ เคสที่เป็นแบบว่าเด็กบางคนเรียนจนอ่านออก
เขียนได้จากไทยเป็นแล้วพอมาอยู่เยอรมนี อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ก็มีค่ะ แต่พูดได้อยู่บ้าง
แต่ไม่เข้าใจมากเท่าเยอรมันหรือบางคนมาตอนเล็กๆ 4-5ขวบ ทุกวันนี้ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องแล้ว
ก็มีค่ะ หรือ บางคนอาจจะฟังรู้เรื่องแต่ตอบเป็นเยอรมันก็มีค่ะ สรุปง่ายๆ คือ เกิดไทย พ่อแม่ไทย
แต่ภาษาไทยไม่กระดิกแล้ว

มัมมีที่มาที่ไปค่ะ ยกตัวอย่างให้ฟังนะคะ
- พ่อแม่กลัวลูกไม่ได้ภาษาเยอรมัน กลัวเรียนไม่ทันเพื่อนก็กระหน่ำภาษาเยอรมันตั้งแต่เช้า
ยันเข้านอนเลยค่ะ แม่ที่พูดไทยก็พูดแต่เยอรมัน เป็นแบบนี้สัก 6เดือนนะคะ เด็กเล็กๆ
จะลืมภาษาไทยไปเลยค่ะ เพราะเด็กเนี่ยจำง่าย และลืมง่ายเช่นกันค่ะ ลูกสาวดิฉันไม่ได้ยู่
กับพ่อเพียง 30 วัน พอเจอพ่อพูดเยอรมันก็เอ๋อเลยค่ะ เด็กเล็กลืมง่ายจริงๆ นะคะขอบอก
หากทิ้งระยะหยุดพูดภาษาหนึ่ง ไปพูดแต่ภาษาหนึ่งนานๆ หลายเดือน

- เด็กที่อ่านออกเขียนได้แล้วมาอยู่เยอรมัน เข้าร.ร. ในแต่ละวันแม่ไม่เคยสนับสนุน
การอ่านเขียนภาษาไทย ไม่เคยนั่งสอนลูกให้ทบทวนสิ่งที่เคยเรียนมาจากไทย
จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนสุดท้ายเด็กลืมหมดค่ะ อันนี้จะโทษใคร ...
บางทีก็การอวดลูก...แบบว่าลูกเก่งภาษา ซึ่งเด็กเก่งจริงๆ เราก็ชมนะคะ ทึ่งในความสามารถ
แต่เก่งภาษาหนึ่งกลับลืมอีกภาษาหนึ่ง เสียดายแทนค่ะ หากเก่งจริงๆ คือต้องได้ทั้งสอง
หากได้และเก่งเพียงภาษาเดียว ก็ถือว่าธรรมดา ไม่ตื่นเต้นค่ะ

- บางครอบครัวไม่พูดภาษาไทยกับลูกเป็นหลัก พอลูกไปร.ร.ลูกก็จะติดภาษาพื้นเมืองมาพูดที่บ้าน
บางทีพ่อแม่ไม่ว่าอะไร ถามไทยตอบเยอรมัน ก็ไม่ว่า พ่อแม่ก็พูดปนๆ กัน แล้วแต่อารมณ์
เด็กก็เลยไม่พูดไทยตั้งแต่บัดนั้น เพราะทางบ้านไม่ซีเรียสกัน ภาษาอะไรก็รู้เรื่อง เด็กเลยเลือก
ภาษาหลักคือภาษาพื้นบ้านมาใช้เพราะมันง่ายกว่า

และเหตุผลอื่นๆ อีกมากมายค่ะ ล้วนแล้วเป็นความบกพร่องของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกทั้งสิ้นค่ะ
แต่พ่อแม่มักบอกว่า "ลูกไม่พูดเอง ไม่รู้เหมือนกันไม่พูดเอง" มักจะไม่พูดว่าเป็นความบกพร่องของตนเอง
ที่เอาใจใส่ลูกน้อยไป

ดิฉันอยากบอกว่า เด็กไทยที่อยู่ต่างแดนจะรักการพูดภาษาไทยเมื่อโตหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ
พ่อแม่ที่จะสอนลูกให้รักในความเป็นไทย ความภูมิใจในภาษาไทยในตัวลูกมีแค่ไหน
หากไม่มีเลยเขาก็จะไม่ชอบพูดไทยค่ะ และจะไม่พูดในที่สุด

สิ่งดีๆ ของไทย ความรักของ ปู่ย่าตายาย พี่ป้าน้าอาที่เมืองไทย ดิฉันให้ลูกสนิทกับทุกๆ คน
สร้างสายใยให้แน่นแฟ้น ลูกอยากคุยกับป้า อยากคุยกับยาย โทรไปได้ทันทีค่ะ เขาคิดถึง
เขาอยากคุย ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกต้องพยายามรักษาภาษาไทยเอาไว้ มันจำเป็นต่อเขามาก
และอีกอย่างดิฉันสอนลูกจนภาษาไทยคือส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาไปแล้ว ดังนั้นเขารัก
และชอบที่จะพูดไทยทุกๆ ที่ และทุกๆ เวลา เขาไม่เคยอายเลยค่ะ สร้างความภูมิใจใน
ความเป็นไทยให้ลูกเยอะๆ แล้วเขาจะภูมิใจทุกครั้งที่พูดไทยค่ะ
ดีใจที่ได้มีโอกาสรู้จักคุณแม่น้องพลอยชมพูนะคะ ต้องขอบคุณคุณพ่อมือใหม่มากๆเลยที่่ช่วยแนะนำ

ได้ข้อคิดดีๆ และแรงบันดาลใจในการสอนลูกให้ได้ภาษาไทยมากๆเลย เพราะแต่ต้นก็ตั้งใจไม่ใช่แค่เพียงให้ลูกพูดไทยได้เท่านั้น แต่หวังให้เขาอ่านออกเขียนได้ด้วย โดยส่วนตัวไม่ค่อยห่วงว่าน้องจะพูดไทยไม่ได้ เพราะสิ่งแวดล้อมที่ทำงาน มีคนไทยเยอะมาก และจากตัวอย่างที่เห็นจากลูกของพี่ที่ทำงาน เขาก็พูดไทยกันได้ (แต่สำเนียงอาจจะแปลกๆไปบ้าง) แต่ที่ห่วงคงเป็นอ่านออกเขียนได้มากกว่า ที่ตั้งใจว่ายังไงก็จะสอนเขาให้ได้ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ซึ่งอ่านบทความของคุณแม่น้องพลอยชมพูแล้ว ทำให้มีกำลังใจว่ามันไม่ยากเกินความพยายามของเราไปได้ เป็นธรรมดา ทุกอย่างอาจจะต้องพบอุปสรรคบ้าง แต่ถ้าเราผ่านมันไปได้ ผลที่ได้ก็คุ้มเกินคุ้มจริงๆนะคะ

ดิฉันย้อนกลับไปอ่านบทความของคุณแม่น้องพลอยอีกหลายๆครั้ง เพื่อขอนำวิธีต่างๆไปลองใช้บ้าง อ่านไปก็ยิ้มไป เวลาได้เห็นความเก่งและความน่ารักของน้องพลอยนะคะ เป็นผลงานของคุณแม่ที่น่าชื่นชมจริงๆ ขอบคุณคุณแม่ที่เขียนประสบการณ์ดีๆ แบ่งปัน เพราะคงเป็นประโยชน์กับอีกหลายครอบครัวมากๆเลยค่ะ
พลอยชมพูใกล้ 10 ขวบละอีกไม่นานดิฉันก็ไม่เหนื่อยแล้ว
ให้ลูกไปต่อยอดภาษาเอาเอง เพราะพื้นฐานแน่นแล้ว

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service