เว็บทั้งหมดจะย้ายไปที่ www.2pasa.com แล้วนะครับ ตามไปที่นั่นได้เลย

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้

หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม

พ่อแม่ เป็นหมอคนแรกของลูก จากรายการครอบครัวเดียวกัน ไม่อยากให้ลูกกินยามาก เชิญอ่านค่า


สวัสดีจ้า เพื่อนๆ คุณแม่และคุณพ่อทั้งหลาย
 
บังเอิญได้ดูรายการนี้จากคลิปย้อนหลัง รู้สึกสนใจและคิดว่าเราน่าจะทำได้ เพราะไม่อยากให้ลูกทานยาเยอะ มีประโยชน์ดีนะคะ ลองดู
 
http://www.thaipbs.or.th/clip/index.asp?content_id=255800&content_category_id=745
 
ใครมีวิธีอื่นๆ ที่เป็นแนวสมุนไพร แนะนำด้วยคะ ได้ผลอย่างไรบอกด้วย
 
Nan

Views: 958

Reply to This

Replies to This Discussion

ดีจังเลยค่ะ คุณแนน ที่เอามาฝากกัน ส่วนตัวเป็นคุณแม่คนหนึ่งที่ไม่ชอบให้ลูกทานยาทันทีที่มีอาการของโรค
ทุกครั้งที่เด็กๆ ป่วยด้วยอาการปกติทั่วไป มีน้ำมูก เปนไข้ มีเสมหะ ไอ ท้องผูก ท้องเสีย เราก็จะรีบพาลูกไปหาคุณหมอกัน และที่สังเกตก็คือ คุณหมอก็ให้ยาเดิม ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยแล้วแต่ความรุนแรงของอาการ เด็กบางคนเป็นหวัดบ่อย ไปหาคุณหมอก็จ่ายตัวเดิม ถ้าตัวเดิมไม่หายก็เปลี่ยนยาใหม่ ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่า ฤทธิ์ของยาก็ต้องเพิ่มมากขึ้น เลยกลายเป็นโรคดื้อยาซะแล้ว ถ้าพ่อแม่มีแนวทางที่จะดูแลรักษาอาการเบื้องต้นเองได้ก่อน ก็เป็นเรื่องดี ลูกๆ ก็จะรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย ทั้งประหยัดเงิน เก็บไว้ใช้ประโยชน์อย่างอื่น ไม่ได้รู้สึกเสียดายเงินสำหรับการรักษาเพราะพ่อแม่ทุกคนก็เต็มใจจ่ายเพื่อรักษาลูกเราให้หาย แต่ภูมิปัญญาแบบนี้ คิดว่าไม่เสียหายที่จะเรียนรู้และนำไปใช้ ประโยชน์ที่ได้เกิดขึ้นกับตัวเรา เป็นแนวทางที่น่าสนใจมากเรื่องหนึ่งค่ะ บางวิธีก็ทราบบ้างอยู่ แต่การเช็ดตัวด้วยน้ำมะนาวนี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับตัวเอง เต้ต้องขอลองนำไปใช้แน่นอนค่ะ
อรุณสวัสดิ์คะ คุณเต้

น้องสปายยังไม่ตื่นเลย แนนเลยมีโอกาสได้มานั่งเช็คเมลเช็คเนทซะหน่อย ปกติเช็คเดือนละครั้งตอนที่พ่อน้องสปายลงมาเยี่ยมที่สุราษฏร์ที่บ้านไม่มีคอม แนนได้ดูรายการนี้ทางทีวีแค่ตอนที่เค๊าบอกว่าใช้มะนาวลดไข้แต่ไม่ได้ดูรายละเอียดในตอนแรกเพราะเจ้า สปายก็ร้องจะดูการ์ตูน เลยอดได้รู้กัน โชคดีได้คุยกับน้องสาวเค๊าได้ดูเต็มๆ เลยเล่าให้เราฟังเพิ่มเติม เราก็ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่ พอแฟนเอาโน๊ตบุ๊คมาเลย เข้าไปเสิร์ชในเว็บ ถึงได้เจอคลิปย้อนหลังคะ มะนาวก็เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยได้ยินเหมือนกันว่ามันทำได้ขนาดนี้ ตอนฟังแขกรับเชิญที่ชื่อคุณฝนที่ลูกเค๊าชัก ก็เห็นภาพตัวเองอย่างแรง เราก็เหมือนเค๊าเลยพึ่งแต่หมอและยาของหมอทั้งๆ ที่รู้ว่ายาปฎิชีวนะมันไม่ดี แต่ก็ไม่รู้ทางเลือกอื่นเพราะเราก็ดูแลตัวเองประมาณนี้ ประจวบเหมาะกับสปายเพิ่งเป็นหวัดมาราธอน สามอาทิตย์ที่ผ่านมา แม่แปลงร่างเป็นหมีแพนด้าเรียบร้อย นี่เพิ่งดีขึ้น มีน้ำมูกหนะคะ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกกับน้ำมูกของลูก ก่อนหน้านี้สปายไม่เคยเป็นหวัดแบบมีน้ำมูกเลยตั้งแต่เกิดจนนี่แหละ 1 ขวบ 10 เดือนคะ คงเพราะยังกินนมแม่อยู่แต่ตอนนี้ลดลงเหลือแค่ก่อนนอนมื้อเดียว สปายเคยเป็นไข้สูงแค่สองสามครั้ง เป็นหวัด 2009 ไปทีนึง ก็กินแค่ยาลดไข้ ยาฆ่าเชื้อ มาคราวนี้ ลูกนอนไม่หลับหายใจไม่สะดวกร้องไห้ทุก 2 ชมเพราะจมูกตัน เพิ่งเห็นภาพที่ ลูกพะงาบๆๆ หายใจทางปากเกือบทั้งคืน หาวตลอดเพราะออกซิเจนไม่พอก็ว่าได้ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี โทรไปถามแฟนที่กทมตอนตีหนึ่ง เพราะเราก็สติแตกนอนไม่หลับ สงสัยว่าลูกจะหาวไปจนเช้ารึ ปล่อยไว้แบบนี้ได้รึ จะหยุดหายใจรึป่าว วิตกจริตสารพัด แฟนบอกใจเย็น คอยดูไป ได้แต่นั่งมอง และอุ้มๆ กล่อมเอาเป็นชั่วโมงเลยค่ะ ที่ช่วยได้คือหยอดน้ำเกลือที่จมูกกับใช้จุกยางแดงๆ ดูดน้ำมูกลูกและ เอาวิกวาโปรับทา หน้าอกหลังคอฝ่าเท้า แล้วก็กินยาลดน้ำมูก เพิ่งมารู้ทีหลังว่ายาลดน้ำมูกนี้ไม่ได้ช่วยให้น้ำมูกแห้งไป แต่จะทำให้มันข้นเหนียวคาอยู่ให้นั้นเพียงแค่ไม่ไหลออกมา โพรงจมูกลูกเลยบวม มารู้ตอนเปลี่ยนหมอๆ ใหม่บอกว่าต้องใช้ยาแก้ภูมิแพ้ทานถึงจะลดอาการคัดจมูกได้ เฮ้อ แล้วคนไม่จบหมอจะรู้มั้ย ก็เข้าใจว่ายาลดน้ำมูก ควรทำได้ตามชื่อมัน ช่างเถอะคะ บ่นมาเยอะแยะเลย ขอบคุณนะคะที่เข้าไปดูคลิป เมื่อคืนลองเอาหัวหอมแดงทุบแล้ววางข้าวหัวนอนลูก เพราะสปายเริ่มจะทำเสียงหายใจฟืดฟาดนอนไม่หลับอีกละ ก็ดีขึ้นนะคะ หลับได้นานขึ้นถึงจะตื่นบ้างแต่ไม่ได้ยินเสียงครืดคราดจนเช้า จริงๆ หัวหอมแดงนี่เคยได้ยินมานานแต่ไม่เคยคิดจะทำเพราะไม่เชื่อก็ว่าได้ หลังจากดูรายการนี้เปลี่ยนคะ คิดใหม่ทำเลย นี่ก็กะว่าคราวหน้าจะลองเช็ดตัวด้วยน้ำมะนาวถ้าลูกเป็นไข้คะ อ้อ เคยอ่านเจอคุณแม่ท่านอื่นเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ลูกทานพวกยา antibiotic หมดแล้วให้เอาโยเกิร์ตให้ลูกทานซักระยะเป็นการเพิ่มจุลินทรีย์ดีดีในลำไส้ที่โดนยาฆ่าเชื้อฆ่าไปหนะคะ โชคไม่ดีที่สปายแพ้นมวัว เลยทานโยเกิร์ตไม่ได้ พูดแล้วก็ไม่ใช่แค่นมวัวคะ ไข่และแป้งสาลี ด้วย อดทานของไปหลายอย่างเลย

โทษนะคะ ปกติคุณเต้พาน้องไปหมอที่ไหนคะ คลีนิคหรือ รพ ตอนอยู่กทมช่วงสปาย 6 เดือนแรกมีหมอประจำชื่อหมอมาลีคะ ที่พญาไท 2 คุณหมอน่ารักและใจดีมากคะ ให้ข้อมูลละเอียดและไม่เน้นใช้ยาแรง หรือไม่ใช้ยากับเด็กมากนักคะ ตอนนี้แนนย้ายมาอยู่สุราษฏร์เลี้ยงลูกที่นี่ บอกตามตรงว่า คุณหมอที่นี่คนไข้เยอะและไม่ค่อยให้มีเวลาคุยกับเรามากนัก แถมให้ยาแรงถ้าไม่ทักท้วงก็ไม่เปลี่ยนให้ซะงั้น แถมวินิจฉัยผิดอีกหนะบางทีขนาดเป็นรพ เอกชนนะนี่ พวกคลินิคยิ่งแล้วใหญ่ถูกแต่ไปครั้งเดียวไม่เคยหายเลย
เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่เลยค่ะ ถ่องแท้ ยิ่งกว่าทองนพคุณ ช่วงน้องแทนขวบปีแรก สามีก็ไปทำงานต่างจังหวัดเหมือนกันค่ะไปๆมาๆ 2-3 อาทิตย์กว่าจะได้กลับบ้าน เป็นใครก็สติแตกค่ะถ้าอยู่ในสถานการณ์รุมเร้าแบบนี้

ตอนนี้ลูกสาวมีน้ำมูกและไอมีเสมหะ มาร่วมอาทิตย์แล้วค่ะ เพิ่งเป็นตอนหลังเปิดเทอมได้แค่สองวีค ก็รับเชื้อมาแล้ว กลุ้มจริงๆ ค่ะ
นี่ก็เอาน้ำผสมเกลือให้ลูกทานได้สองครั้งเองค่ะ ยังไม่เห็นผล ฝานมะนาวเป็นแว่นใส่ผ้าพันคอ ลูกสาวก็ไม่เอา ถามแม่อีกว่า แม่ทำไรอ่ะ ลูกงงค่ะ ก็พยายามอธิบาย ว่าจะเปิดคลิปให้ลูกดูด้วย จะได้หายสงสัยและอธิบายได้ง่ายขึ้น (หวังว่า)
ไอ้เรื่องมะนาวนี่ ใหม่มากยิ่งต้องหั่นกันในน้ำอุ่นนี่ ยิ่งแปลกใจค่ะ แต่ก็เชื่อนะคะ และจะลองใช้เมื่อมีโอกาส

ประสบการณ์ตอนลูกเป็นหวัดเรื้อรังเกินสองอาทิตย์นี่ ย่ำแย่จริงๆ ค่ะ คุณแนน ตอนนั้นน้องแทนประมาณเก้าเดือนได้มั้งค่ะ รักษากับคุณหมอประจำตัวตั้งแต่เกิด ปรากฎว่ายาที่ให้มาทานไม่สามารถบรรเทาอาการได้เลย แถมพาให้ลูกเป็นมากขึ้นเพราะผ่านมาหลายวีคแล้ว กลุ้มใจมาก ปรึกษาพี่ที่ทำงาน เค้าแนะนำให้หาหมอสมศักดิ์ ที่รพ.เกษมราษฏร์ฯ ประชาชื่น ก็ไปค่ะ สุดๆ ค่ะ ลูกต้องเจ็บตัวจากการสอดท่อดูดเสมหะทั้งทางจมูกและคอ ลูกกรีดร้อง สายตาที่มองมาทางเรา ขอความช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง ทั้งร้องทั้งดิ้น เต้เองกะสามีก็อดทนค่ะ ทั้งที่น้ำตาแทบจะทะลักออกมา ทำได้แค่จับลูกไว้แล้วก็มองลูกให้ลูกรู้ว่าเราอยู่ข้างๆ และปากก็พูดปลอบลูกไป ทุกวันนี้ยังจำภาพนั้นได้ติดตา คุณหมอแนะนำวิธีดูแลลูกยามไม่สบายได้ถ่องแท้มากค่ะ พูดอาการแต่ละอย่าง ตรงหมด สอนพ่อแม่ให้รู้จักดูแลลูกยามป่วย ว่าต้องทำยังไง ละเอียดมาก ประทับใจมาก ถือคำแนะนำของตาหมอสมศักดิ์เป็นคัมภีร์ประจำตัวเลยค่ะ ลูกสาวก็ดีขึ้นและหายปกติ จากครั้งนั้น ถ้าไม่ได้พาลูกมารักษาต้องเสียใจเป็นที่สุดค่ะ ถึงจะเจ็บตัวแต่ก็หาย ถ้าไม่ช่วยดูดออกมาเด็กจะหายใจลำบากมากและคั่งค้างอยู่ในปอด อันตรายมาก

แต่สิ่งหนึ่งที่เต้ยึดถือ และคอยเตือนสติตัวเองเสมอคือ เราอยู่กับลูกตลอดเวลา ใกล้ชิดเค้า เวลาลูกเจ็บไข้ เราจะคอยสังเกตลูกให้ดี สัญชาตญาณเรานี่แหละ ถูกต้องที่สุดและเชื่อถือได้ ประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นสิ่งยืนยันได้ดี ยิ่งตอนนี้เต้ย้ายมาสารคามเหมือนคนตาบอดค่ะ ไม่รู้จะพึ่งหมอคนไหนดี งงกับคนต่างจังหวัดมากเลยค่ะ คนที่คลีนิคนี่ทะลักทะล้นออกมาถึงถนน ไม่รู้ว่าอะไรกันเยอะแยะขนาดนั้น เวลาเข้าไปพบคุณหมอ นั่งเรียงกัน5-6คนในห้องหมอ งงค่ะ มาทราบทีหลังว่าคุณหมอเจ้าของคลีนิคมีตำแหน่งเป็นหมอดังของรพ.ประจำจังหวัด ลูกแพ้ยาที่คุณหมอท่านนี้จัดให้ พาไปอีกคลีนิคหนึ่งอันนี้ก็มีตำแหน่งพว่งเหมือนกัน แพ้ยาอีกเช่นเคย กลุ้มค่ะ ลองไปหมด จนมาเจอคลีนิคหนึ่งเป็นหมอน้อยไม่มีตำแหน่งพ่วง รู้สึกดีกว่าหมอสองคนดังนั้นมากเลยค่ะ พบหมอส่วนตัวมีแค่หมอกับพ่อแม่และลูก คงเป็นเพราะเราเคยชินกับการรักษาดูแลที่กรุงเทพเลยเอามาเปรียบกัน และคุณหมอมีคนไข้ไม่ล้นหลาม แต่ก็ยังไม่วายถ้ามีเรื่องร้อนใจฮอตไลน์สายตรงหาตาหมอสมศักดิ์ทันทีค่ะ เป็นขนาดว่าต้องดับเบิ้ลเช็คอ่ะค่ะหาหมอสารคามเสร็จจะโทรหาหมอสมศักดิ์เช็คอีกทีว่า วินิจฉัยเหมือนหรือแตกต่างอย่างไร
นี่ก็เลยสนใจวิธีดูแลลูกแบบธรรมชาติ ต้องขอบคุึณ คุณแนนมากที่เอามาแบ่งกัน เต้ไม่ชอบให้ลูกทานยาเยอะ และก็ใช้แนวๆ นี้ดูแลลูกเบื้องต้นอยู่

ยาวไปหน่อยนะคะ คุณแนน นึกถึงเรื่องนี้ทีไร เป็นต้องอินทุกครั้งเลยค่ะ (ไม่รู้ใครยาวกว่าใครแต่พิมพ์เสร็จแล้วก็ตกใจเหมือนกัน)
:D ยาวไม่ยาวไม่รู้ อ่านแล้วก็อินคะ คนเป็นแม่นี่เก็บรายละเอียดได้ทุกเม็ดเลย มันติดตานะคะกับเวลาภาพลูกเจ็บปวดสายส่งตาวิงวอนว่าช่วยหนูด้วย เคยเห็นสายตาแบบนี้ของสปายตอนเค๊าโดนเจาะเลือดแทงเข็มให้น้ำเกลือ admit รพ ครั้งแรกตอนเป็น 2009 เพียงเห็นเลือดหยดออกจากมือลูกสองหยด เพราะเค๊าจะเอาไปตรวจเชื้อก่อน แม่ใจเสาะอย่างเรามีอันหน้ามืดจะอาเจียนพุ่งทันที ดีที่พ่อเค๊าเป็นคนจับมือลูกไว้ แนนเป็นคนแพ้เลือดเห็นแล้วจะเป็นลมทุกที ขนาดเวลาตัวเองโดนเจาะเลือดยังเป็นเลย

เห็นด้วยคะ สัญชาติญาณแม่ เชื่อถือได้ดีที่สุด อย่างตอนเป็น 2009 เรารู้สึกว่าคราวนี้ลูกเป็นไข้ไม่ธรรมดา 2 วันกินยาลดไข้แล้วไม่ดีขึ้นเลย ไข้ 39-40 ตลอด เป็นหลังจากพาลูกไปเที่ยวสมุย ฝรั่งเยอะมั้งแล้วโดนฝนนิดหน่อยคะ พ่อแม่แนนและญาติๆ ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นเลย กระทั่งผลตรวจออกมาแน่ชัดว่าเป็นก็ยังบอกว่าหมอสมัยนี้เอะอะอะไรก็บอกว่าเป็น 2009 จะเอาตังค์ท่าเดียว พูดยากเหมือนกันกับผู้ใหญ่ รู้ผลตรวจช้า เพราะต้องส่งผลไปตรวจที่ รพประจำจังหวัด กว่าจะรู้ก็ให้ยาต้านไวรัส 2009 ไป สองสามวันแล้ว รู้เอาวันที่หมอบอกกลับบ้านได้นะคะ งง กับหมอและขั้นตอนการรักษามาก พ่อเค๊าเองยังอึ้ง ว่าลูกเป็นได้งัย แต่เรานี่ไม่สงสัยเลย พอรู้ว่าลูกเป็นแนนรีบให้หมอตรวจของแนนทันที ว่าเป็นไหมเพราะใกล้ชิดมาก เพราะถ้าพ่อเค๊ากลับไปแล้วเราดันเป็นต่อ คงไม่มีใครดูแลลูกได้ พวกญาติที่มาเยี่ยมก็ไม่มีใครใส่หน้ากากซักคนทั้งที่บอกแล้วว่าอาจจะเป็นได้นะ รอผลอยู่ใส่เถอะเพื่อความปลอดภัย ก็ไม่ใส่

คลีนิคตาม ต่างจังหวัดมักมีเรื่องคาดไม่ถึงเสมอ ที่คุณเต้เจอก็ฮาดีนะคะ แนนเคยไปตรวจคลีนิคแห่งนึง ที่สุราษ เป็นหวัดเองลูกไม่ได้เป็น เข้าห้องตรวจปั๊ด อ๊ะ หมอชื่อทรงศักดิ์ แต่ดันเป็น ผู้หญิง นั่งอยู่ที่โต๊ะหมอ แกบอกว่า วันนี้หมอไม่อยู่ เป็นอะไรมาคะ ก็เป็นหวัดน้ำมูกไหล ไอ .... ทันใดนั้นมีเสียงกุ๊กๆ กั๊ก ด้านหลังเรา หันไปดูมีคนนอนอยู่บนเตียงตรวจ กำลังเอื้อมมือมาปิดม่าน ดูแล้วคงเป็นลูกชายวัยรุ่นของหมอที่แว๊บมานอนพัก ดูไม่เหมือนคนไข้เลย ส่วนตัวมากๆเลยนะเนียะ ถามอาการเสร็จผู้หญิงคนนี้ก็จ่ายยาให้เรา ทำหน้าที่รับคนไข้ตรวจเองและจ่ายยา มารู้ทีหลังจากพ่อของแนนว่าแกเป็นเมียหมอไม่ได้เป็นหมอแต่เป็นลูกสาวร้านขายยา และก็ไม่ได้เป็นเภสัชเช่นกัน อึ้งไปเหมือนกัน เล่นกับแบบนี้เลยเหรอ หมอไม่อยู่ให้เมียรักษาแทน จะมีที่ไหนในโลกทำกันแบบนี้บ้าง ไม่คิดจะไปอีกเลย

คุณเต้เลี้ยงลูกอย่างเดียวหรือทำงานไปด้วยคะ แนนลาออกมาเลี้ยงลูกอย่างเดียวตอนแรกกะแค่ให้นม 6 เดือน จน 1 ขวบ จะ 2 ขวบอยู่แล้ว นี่กะว่าจะเลี้ยงเองจนน้องเข้าอนุบาลคะ ได้อ่านหนังสือเล่มนึงดีมากๆ ไม่รู้คุณเต้เคยอ่านหรือยัง คุณคือครูคนแรกของลูก แนะนำนะคะ หนาแต่มีสาระและข้อคิดดีๆ ตอนนี้เหลือเล่มละ 199 มีที่ซีเอ็ดบุ๊คคะ
คุณแนน ไม่อยากจะเซดเรื่องคลีนิคที่คุณแนนไปหา ถ้าเป็นเต้นะมีได้เฮกันแน่ เคยมาแล้วเหมือนกันพวกประเภทเมียหมอ แถมเมียหมอก็เป็นหมอด้วย เต้ไปหาหมอสิวแถวถนนพระอาทิตย์นานหลายปีแล้ว ร้านนี้ดังใครก็รู้จัก ไปหาหมอทำเลเซอร์กระเนื้อ มันขึ้นใกล้หัวตาก็เกรงว่าจะขยายลามแล้วอันตราย ก็ไปทำ ปรากฏว่าไงรู้มั้ยคุณแนน
คุณหมอแกเลเซอร์เสร็จ แกถามผู้ช่วยว่า "ช่วยดูหน่อยสิเธอ ออกหมดรึยัง"
คุณผู้ช่วยก็ว่า "เรียบร้อย่ค่ะหมอ"
เอาสิเกิดความคิดขึ้นในใจทันที ตกลงใครมันเป็นหมอกันแน่ (นี้ดนึงนะคุณแนน ตอนนั้นโมโหจิงๆๆ) เท่านั้นไม่พอ คุณแนน พอทำเสร็จคุณหมอเธอก็ออกไปห้องอื่นต่อ ปล่อยให้ผู้ช่วยปิดแผล ตาเหลือบไปเห็นมีกระจกให้ดู เต้ก็เลยขอกระจกจากผู้ช่วย มาดูแผลหน่อย ปรากฎว่า
เต้ "ขอดูกระจกหน่อยค่ะ"
ผู้ช่วย "ไม่ต้องดูหรอกค่ะ ปิดแผลเรียบร้อยแล้ว" (งงๆ มั้ย)
เต้ "ขอกระจกได้มั้ยค่ะ" (เริ่มเข้ม)
ผู้ช่วย "ดูไปก็ไม่มีอะไร ก็ปิดแผลไปแล้ว" แต่หยิบให้ (แบบรำคาญ)
เต้แกะผ้าปิดแผลออก ตรวจดูสภาพแผลและความเรียบร้อย แล้วก็เก็บความไม่พอใจไว้ คราวนี้ไปเลยค่ะ ถามเคานเตอร์จ่ายเงิน ขอพบคุณหมอเจ้าของคลีนิคมีเรื่องจะคอมเพลน
คุณหมอสามีซึ่งเป็นเจ้าของคลีนิค "มีอะไรไม่พอใจในการบริการหรือครับ"
เต้ "มีค่ะ (เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ต้นจนจบ) ไม่สบายใจและ
กังวลในการรักษาไม่ทราบว่าใครเป็นหมอกัน
แน่ค่ะ ทำไมคุณหมอต้องไปถามผู้ช่วยขอความคิดเห็น?
แล้วเรามีสิทธิที่จะตรวจดูแผลได้ถูกต้องใช่มั้ยค่ะ
หมอตอบว่าไงรู้มั้ย "อ๋อ คือคุณหมอแกมองไม่ค่อยชัด สายตาแกไม่ค่อยดี"
โอ้โฮ หน้าฉันจะเปนไรมั้ยเนี่ย ตลกมั้ยคุณแนน ตาไม่ดีแต่มารักษาเลเซอร์ให้ จี้ผิดจี้ถูก ใครจะรู้มั้ย
เต้ "แล้วทำมัยคุณหมอไม่ไปรักษาตาให้เรียบร้อยเสียก่อน จะตัดแว่น
ทำเลซิคก็แล้วแต่"
คุณหมอสามีตัดบท บอกว่าต้องขออภัยในเรื่องที่เกิดขึ้น และจะให้บริการคุณเป็นพิเศษ หึหึ
ถ้าเต้เจอแบบคุณแนนนะ ไม่จบ คุณแนนใจเย็นกว่าเต้มาก ตอนนี้เต้เลี้ยงลูกอย่างเดียว ลาออกจากงานตั้งแต่คลอดลูก อยากเลี้ยงลูกเอง เลี้ยงดีไม่ดี ก็โทษตัวเอง ไม่ต้องโทษคนอื่น ไม่ต้องหาใครมาช่วยเลี้ยง(ความคิดส่วนตัว) ส่วนหนังสือขอบคุณมากค่ะที่แนะนำ เคยเห็นอยู่เหมือนกัน แต่มันหนามาก เลยยังไม่ซื้อ ที่มีอยู่ก็อ่านยังไม่จบเลยสักเล่ม ทยอยอ่านไปเรื่อยๆ ไม่แน่ถ้าที่นี่ลดราคาก็จะไปสอยมาอ่านค่ะ มีประโยชน์ทั้งน้าน ชอบค่ะ คุยยาวเลยเนอะคุณแนน ไม่รู้ รู้สึกไปเองหรือเปล่า ว่าคุยถูกคอ ยินดีรู้จักคุณแนนในหมู่บ้านนี่นะคะ ไปแล้วค่ะ
คุณเต้นี่บู๊เหมือนกันนะคะ :P ตอนออกจากร้านหมอวันนั้นก็โกรธมากคะ คิดอยากจะโทรไปแจ้งพวกรายการที่แฉหรือตามล่ามิจฉาชีพเหมือนกัน ประเภทภัยรายวัน อย่าปล่อยให้ลอยนวล สุดท้ายก็ไม่ได้ทำคะ

แล้วแผลที่ตาโอเคมั้ยคะหลังจากทำแล้ว แนนก็เป็นเม็ดตุ่มเล็กๆ ที่เปลือกตาเหมือนกัน( บังเอิญจัง) ไม่รู้เรียกกระเนื้อหรือเม็ดไขมันว่าจะไปทำอยู่ แต่ไม่รีบ เลยยังไม่ได้ทำ มีหมอคลินิกที่นี่ดังมากแพงมากคนไข้เยอะ แต่หลายๆ อย่างบอกว่า อย่าเลยอย่าเสี่ยง ขอไปทำที่กทม แบบมีเพื่อนแนะนำว่าทำมาแล้วดีกว่า

ขอเม้าหมอน่ากลัวอีกซักคน คราวนี้เป็นจักษุแพทย์ที่สุราษฎร์นี่แหละ ก่อนหน้านี้ แนนใส่คอนแทคเลน ใส่มาตั้งแต่เริ่มทำงาน ซัก 20 ปีได้แล้วมั้ง ช่วงมาเลี้ยงลูกที่นี่วันนึงรู้สึกคันตามาก มากขึ้นเรื่อย เลยไปหาหมอคนนี้ เค๊าก็จับเราแหกตาถ่ายรูปตาเราด้วยกล้องถ่ายรูปดิจิตอล แล้วเปิดภาพขยายตาในคอมให้ดู ทีแรกรู้สึกไฮเทคดี แกอวดเล็กน้อยว่าเป็นเทคโนโลยี่ที่แกค้นพบเป็นคนแรก กรุงเทพยังไม่มีใครทำ แกบอกเราเป็นต้อลม ตาอักเสบ แพ้แสงและภูมิแพ้ขึ้นตา (สองอย่างหลังนี่มาได้งัยฟะ) ทางแก้คือ ห้ามใส่คอนแทคเลนตลอดชีวิต แกบอกว่าทางรักษาพอมีคือ ต้องหยอดยารักษาต้อลมเป็นเวลา 2 ปี ในใจนี่ชั้นเป็นหนักขนาดนี้เลยนะ แค่คันตา โห เรานี่ไม่เคยพบจักษุแพทย์เลยซะด้วย เข้าแต่ร้านแว่นทอปเจริญ กินยาหยอดยาไปซัก 2 อาทิตย์ก็ดีขึ้นคราวนี้ก็นัดทุกเดือน แล้วตัดแว่นใหม่ ทีแรกกะตัดแค่เลนเพราะกรอบแว่นอันเก่าก็ยังใช้ได้ เค๊าบอกไม่ได้ต้องตัดใหม่เดี๋ยวกรอบอัดเลนใหม่จะแตกได้ งง รอบทีสอง เหรอคะ ดีที่ร้านนี้มีแต่กรอบแพงๆ 3-4 พันทั้งนั้น เลยง่ายที่จะบอกปัดว่ามีร้านญาติขายอยู่ขอไปดูก่อนกรอบที่นี่มีแต่ไม่ถูกใจเลย พอไปที่ร้านขายแว่นเค๊าก็ถามว่าไม่ตัดเลนส์ด้วยหละ บอกมีแล้วค่ะตัดกับหมอ เลยได้คุยว่าหมอไหน พอเค๊ารู้ว่าเป็นหมอคนนี้เลยบอกว่า เคยมีลูกค้าที่มาซื้อแว่นบอกว่าไปรักษากับหมอคนนี้บอกว่า หมอบอกตาเป็นอะไรซักอย่างต้องรักษากินยาไปตลอดชีวิต เค๊าเลยไปหาหมอที่รัตนิน ที่นั่นบอกให้เอายาทิ้งไปเลยไม่ต้องกินรักษาเพียงไม่กี่ครั้งตาก็หายดี ได้ฟังแค่นั้นแหละเลยเอ๊ะใจ ซวยหละสิเรา ร้านก็เลยแนะนำหมออีกคนให้ เป็นหมอจรรยาบรรณสูง เก่งและคิวยาว แนนเลยลองไปหาหมอคนใหม่นี้เพื่อ double check ปรากฏหมอบอกว่า ตาคุณไม่ได้เป็นอะไรมากนะ จะให้ยาหยอดไว้ขวดนึงถ้าเคืองตาค่อยหยอดถ้าไม่ก็ไม่ต้องครับ แอบดีใจว่า ตาปกติ แต่อีกใจนึง หมออีกคนนี่แย่มากเลยทำกับเราอย่างนี้ได้งัย และกับคนไข้อีกหลายคน

รู้สึกว่าคุยถูกคอเหมือนกันคะ :D ยินดีที่ได้เพื่อนใหม่นะคะ คุณเต้มีอีเมล์หรือ facebook ไหมคะ แนนไม่ค่อยจะได้เช็คเว็บ 2 pasa ถ้าแฟนไม่กลับมาเดือนละครั้งเองที่ได้เล่นเนท แต่เช็ค facebook ทางมือถือได้เรื่อยๆ คะ นี่อีเมล์ค่ะ somkidsamer@hotmail.com ชื่อให้ facebook Nan phawanan phurungrit

แนนอยากเลี้ยงลูกเอง แม้จะลำบากมากกว่าที่คิดไว้ แต่ก็คิดไว้ว่าทุกๆ วันของลูกผ่านไปแล้วมันจะไม่ย้อนกลับมาอีก เราอยู่ข้างๆ เค๊าช่วงนี้เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีของแม่และลูก ไม่ได้เป็นแม่ที่ดีและเลี้ยงเก่งเท่าไหรนัก ปิ๊ดแตกบ้างบางวัน ไม่จ้างพี่เลี้ยง รู้แต่ว่า ความรักที่เรามีให้ลูกจะทำให้เราผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดี และไม่มีใครเข้าใจ เห็นใจ และอภัยให้ลูกได้เท่าเราอีกแล้ว เวลาลูกกอดตอบเราหรือหอมเรา จะรู้สึกอบอุ่นมากๆ คะ ตอนลาออกท่ามกลางเสียงคัดค้านของพ่อแม่ตัวเองและที่บ้านแฟนเพราะเค๊าเสียดายเงินเดือน เราบอกคิดดีแล้วนะ อย่าห้ามเลย เราไม่เสียดายเงินหรอก ค่อยหาเอาใหม่ได้เนอะ เงินเดือนไม่ได้มากมายอะไรสำหรับคนทำงานที่กทม แต่มันมากถ้าเทียบกับที่ต่างจังหวัด
แนนทำงานวิจัยตลาดหนะคะใหกับบริษัทนมโฟร์โมสต์เป็นงานสุดท้าย (น้องแทนกินนมอะไรคะ)


ไว้ว่างๆ คุยกันใหม่นะคะ คุณเต้

แนน
สวัสดีค่ะคุณแนน ต้องขอบคุณมากคุ่ะ ที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆ แบบนี้ เจี๊ยบเป็นคนชอบพวกสมุนไพรไทย ยาโบราณอยู่แล้ว ได้ดูึคลิปนี้ทำให้นึกถึงตอนเด็ก ๆ นะค่ะ พอไม่สบายคุณแม่ก็ให้กินยาเขียว ยาขม จำได้ว่ามันมีรสขมมากจนติดลิ้นเลยค่ะ แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็หาย และดีขึ้นคะตอนเราหัวโน ก็ใช้มะนาวกับดินสอพอง มาพอกเอาไว้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ดูตามรายการบอกเลยค่ะ ยังมีอีกมากมาย แต่คนรุ่นเราคงจะไม่มีใครจำได้ว่าใช้สมุนไพรอะไรบ้าง จำได้ว่าแม่คนหนึ่งในหมู่บ้านนี้ละค่ะที่เคยให้ข้อมูลเรื่องนี้ แต่เป็นข้อความในหนังสือคุณคือหมอคนแรกของลูก อ่านแล้วสนใจมากจนไปหาซื้อหนังสือแต่ยังจำไม่ได้ว่าที่บีทูเอส หรือ ซีเอ๊คบุ๊ค เขาบอกว่าไม่มี มีแต่คุณคือครูคนแรกของลูก เราบอกว่าต้องการหนังสือคุณคือหมอคนแรกของลูก พนักงานเขาก็คีย์ชื่อหนังสือเข้าไปในคอมฯ แล้วบอกว่าไม่มีคะ ไม่ทราบว่าคุณแนนพอจะทราบหรือไม่ค่ะว่าจะหาซื้อหนังสือได้ที่ไหนบ้าง อยากได้มาติดบ้านเอาไว้ค่ะ เพราะว่าจะได้เอามาศึกษาเพื่อจะเป็นหมอคนแรกของลูกไงค่ะ

จะว่าไปแล้วคนเป็นแม่เนี่ยต้องทำทุกอย่างเพื่อลูกจริง ๆ นะคะตัวเจี๊ยบเองไม่เก่งภาษา E แต่พอมีลูกอยากให้เขาเป็นเด็กสองภาษาก็ต้องมานั่งเรียนและอ่านตำราเพิ่มเพื่อมาเป็นครูคนแรกของลูก ตอนนี้ก็คงต้องเพิ่มมาเป็นหมอคนแรกของลูกอืีก คุณแนนเห็นด้วยหรือเปล่าคะเพื่อลูก ศรีทำได้ค่ะ
ยังไงต้องขอรบกวนช่วยแจ้งด้วยค่ะว่าหาซื้อหนังสือได้ที่ไหน พอดีตอนนี้น้องวินกำลังไม่สบาย ไอ และมีเสมหะอยู่พอดี เดี๋ยวจะลองเอามะนาวมาฝานและพันรอบคอดูค่ะว่าจะช่วยให้หายไอได้จริง ๆ มัย ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ
หวัดดี่ค่ะ คุณเจี๊ยบ เพิ่งทราบจากคุณเจี๊ยบนี่แหละว่ามีหนังสือหมอคนแรกของลูก จะได้ไปหาซื้อดูคะ แนนเคยแต่อ่านคุณคือครูคนแรกของลูกค่ะ ดีมากๆ แนะนำเลย

เมื่อวานสปายตัวรุมๆ เลยได้โอกาสลองเอามะนาวเช็ดตัวพันขา ปรากฏว่า พักเดียวดึขึ้น ไม่ต้องกินยาลดไข้เลย เวิร์คจริงๆ แต่ติดนิดนึงตรงเอาผ้าขนหนูพันขา เพราะสปายเป็นลิงไม่อยู่นิ่งให้ถึง 10 นาที เลยให้พ่อจับมัดไว้กับตัว กำลังหาทางออกใหม่คือไปหาซื้อถุงเท้าฟุตบอลของเด็กที่หนาๆ มาให้ใส่แทนจะได้เดินได้ด้วย มันยาวดี่ค่ะ ขึ้นมาถึงเข่าเลยแทนผ้าขนหนูได้

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
ได้เลยคุณแนน เดวเต้จะแอดในฮอตเมล์
จะให้น้องสปายใส่ถุงเท้า คุณแนนก็ระวังน้องจะวิ่งแล้วล้ม ถุงเท้ามันน่าจะลื่นนะคุณแนน ถ้าแบบมีปุ่มที่พื้นใตถุงเท้าก็จะเวิร์คมาก ส่วนกระเนื้อ เต้เป็นเหมือนติ่งเล็กๆ ตรงใต้หัวตา เวลาเราขยี้ตาจะรู้สึกเหมือนมีขี้ตาติดอยู่ มันรำคาญนิดๆ เหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจไปเลเซอร์
คุณแนนคิดเหมือนเต้เลยว่าช่วงเวลาตั้งแต่ลูกเกิดจนเข้าช่วงปฐมวัย เป็นเวลาที่สำคัญมาก ไม่อยากให้พรากห่างกัน โชคดีที่วันนั้นตัดสินใจไม่ผิดลาออกมาเลี้ยงลูกเอง น้อยคนจะมีโอกาสอย่างนี้เพราะติดภาระหลายอย่าง ใครๆ ก็คงอยากเลี้ยงลูกเองกันทั้งนั้นเนอะคุณแนน อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ยิ่งเวลาลูกบอกว่า "คุณแม่ หนูรักคุณแม่จังเลย" สุดยอดมากค่ะ เป็นอะไรที่ซาบซึ้งเต็มใจ
คิดว่าเป็นซีเอ็ดบุ๊คนะคะ คุณแม่ เหมือนเคยผ่านๆ ตาเลยค่ะ

RSS

--oO--

สแกนโค้ด แอดไลน์ @2pasa แล้วลุ้นของรางวัลรวมคลิปเวิร์กช็อปทั้งหมด

Events

หนังสือในชุดเด็กสองภาษา



© 2024   Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.   Powered by

Badges  |  Report an Issue  |  Terms of Service