หมู่บ้านเด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้ - สองภาษาดอทคอม
ขอคำแนะนำหน่อยครับ จากคุณพ่อมือใหม่ ตัวอยู่ไกลถึงอินโดนีเซีย แต่หัวใจอยู่กับน้องริวและภรรยาคุณเก๋ ที่เมืองไทย
สวัสดีครับคุณพงษ์ระพี
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมความพยายามของคุณพงษ์ระพีมากๆเลยครับ ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของระบบการศึกษา ซึ่งผมก็มีความเชื่อเหมือนกับคุณพงษ์ระพี
ผมเรียนภาษาอังกฤษผ่านในระบบการศึกษาของไทย เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรี ก็ยังพูดไม่ได้ บางครั้งยังอดสงสัยไม่ได้เลยว่า เอ้..ครูภาษาอังกฤษเราพูดได้รึป่าวน๊า
ผมเพิ่งมาพูดอังกฤษได้ก็ตอนทำงานผ่านมาได้ 6 ปี เนื่องจากเจ้านายเป็นออสเตรเลีย เลยไม่มีทางเลือก ก็พูดไปเรื่อย แต่สิ่งที่จุดประกายผม คือ ผมได้อ่านหนังสือของครูเคทที่บอกว่า ไม่ต้องไปสนใจ tense พูดไปเลย ฝรั่งมันไม่สน tense หรอก (เหมือนกะที่คุณพงษ์พูดไว้ในหนังสือเปี๊ยบเลย)
กล่าวสารยายมาตั้งนาน..เข้าเรื่องกันดีกว่า
ตอนนี้บริษัทส่งผมทำงานที่ประเทศอินโดนีเซีย น้องริวอายุ 4 เดือน แต่ภรรยาและน้องริวไม่ได้ตามมาด้วย ผมจะกลับบ้านทุกๆ เดือน อยู่ประเทศไทยได้ครั้งละประมาณ 3-4 วัน
ผมได้เห็นบทความของคุณพงษ์ครั้งแรกใน website ผู้จัดการ และได้เห็นหนังสือของคุณพงษ์ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่สนามบิน เลยตัดสินใจซื้อทันที ไม่น่าเชื่อว่า หนังสือของคุณพงษ์เป็นหนังสือเล่มแรกที่สามารถบังคับให้ผมอ่านรวดเดียวจบ โดยไม่มีการหยุดพัก..สุดยอดครับ
ผมตัดสินใจจะใช้ระบบ OPOL โดยผมจะเป็นคนพูดภาษาัอังกฤษ ส่วนภรรยาจะพูดภาษาไทย
ผมมีคำถามที่จะขอคำแนะนำดังนี้ครับ
1) เวลาผมพูดกะภรรยา ต้องพูดภาษาอังกฤษด้วยมั๊ยครับ ไม่แน่ใจว่า ถ้าน้องริวได้ยิน แกจะงงรึป่าว
2) คาดว่า ประมาณเดือน เมย.ปีหน้า (น้องริว 9 เดือน) ทั้งครอบครัวจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นประเทศไหน ดังนั้น น้องริว คงต้องเข้าเรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่ประเทศนั้น หากเป็นแบบนี้ แสดงว่าน้องริว ก็ต้องสามารถพูดอังกฤษได้โดยปริยาย เนื่องจากระบบการเรียนบังคับ ผมยังต้องใช้ระบบ OPOL อีกหรือป่าวครับ (โดยส่วนตัว คิดว่าอยากจะใช้ น้องริวจะได้มีเพื่อนคุย และอยากใ้ห้น้องริวสามารถพูดไ้ด้ก่อนเข้าโรงเรียน)
3) ปัญหาที่เริ่มหนักอกหนักใจ มากขึ้น คือ ผมคาดคะเนว่า ผมและครอบครัวจะยังไม่ได้กลับเมืองไทยเลย ในอีก 10 ปี ครั้งหน้า สถานการณ์จะกลับกลายเป็นว่า น้องริว คล่องภาษาอังกฤษกว่าภาษาไทยรึป่าวครับ
และที่กังวลมากขึ้นไปอีกคือ น้องริว อาจจะไม่ได้เรียนเรื่องประวัติศาสตร์, วัฒนธรรม, อื่นๆ ซึ่งถ้า ในอีก 10 ปีน้องริวกลับมา ตอนนั้นน่าจะ ต้องเข้าโรงเรียน ป.5 (คิดตามเกณฑ์อนุบาล 3 ขวบ) กังวลมากๆ ว่าจะไม่ได้สามารถปรับตัว
เข้ากับระบบการเรียนของเมืองไทยได้ ส่วนตัวก็ไม่อยากให้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ต่อที่เมืองไทย อยากให้น้องริวได้คลุกคลีกับสังคมไทยมากกว่า คุณพงษ์มีคำแนะนำอย่างไรบ้างครับ
เอกสิทธิ์ (เอก)
คุณพ่อมือใหม่ ตัวอยู่ไกลถึงอินโดนีเซีย แต่หัวใจอยู่กับน้องริวและภรรยาคุณเก๋ ที่เมืองไทย
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมความพยายามของคุณพงษ์ระพีมากๆเลยครับ ที่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ของระบบการศึกษา ซึ่งผมก็มีความเชื่อเหมือนกับคุณพงษ์ระพี
ผมเรียนภาษาอังกฤษผ่านในระบบการศึกษาของไทย เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรี ก็ยังพูดไม่ได้ บางครั้งยังอดสงสัยไม่ได้เลยว่า เอ้..ครูภาษาอังกฤษเราพูดได้รึป่าวน๊า
ผมเพิ่งมาพูดอังกฤษได้ก็ตอนทำงานผ่านมาได้ 6 ปี เนื่องจากเจ้านายเป็นออสเตรเลีย เลยไม่มีทางเลือก ก็พูดไปเรื่อย แต่สิ่งที่จุดประกายผม คือ ผมได้อ่านหนังสือของครูเคทที่บอกว่า ไม่ต้องไปสนใจ tense พูดไปเลย ฝรั่งมันไม่สน tense หรอก (เหมือนกะที่คุณพงษ์พูดไว้ในหนังสือเปี๊ยบเลย)
กล่าวสารยายมาตั้งนาน..เข้าเรื่องกันดีกว่า
ตอนนี้บริษัทส่งผมทำงานที่ประเทศอินโดนีเซีย น้องริวอายุ 4 เดือน แต่ภรรยาและน้องริวไม่ได้ตามมาด้วย ผมจะกลับบ้านทุกๆ เดือน อยู่ประเทศไทยได้ครั้งละประมาณ 3-4 วัน
ผมได้เห็นบทความของคุณพงษ์ครั้งแรกใน website ผู้จัดการ และได้เห็นหนังสือของคุณพงษ์ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วที่สนามบิน เลยตัดสินใจซื้อทันที ไม่น่าเชื่อว่า หนังสือของคุณพงษ์เป็นหนังสือเล่มแรกที่สามารถบังคับให้ผมอ่านรวดเดียวจบ โดยไม่มีการหยุดพัก..สุดยอดครับ
ผมตัดสินใจจะใช้ระบบ OPOL โดยผมจะเป็นคนพูดภาษาัอังกฤษ ส่วนภรรยาจะพูดภาษาไทย
ผมมีคำถามที่จะขอคำแนะนำดังนี้ครับ
1) เวลาผมพูดกะภรรยา ต้องพูดภาษาอังกฤษด้วยมั๊ยครับ ไม่แน่ใจว่า ถ้าน้องริวได้ยิน แกจะงงรึป่าว
2) คาดว่า ประมาณเดือน เมย.ปีหน้า (น้องริว 9 เดือน) ทั้งครอบครัวจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นประเทศไหน ดังนั้น น้องริว คงต้องเข้าเรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่ประเทศนั้น หากเป็นแบบนี้ แสดงว่าน้องริว ก็ต้องสามารถพูดอังกฤษได้โดยปริยาย เนื่องจากระบบการเรียนบังคับ ผมยังต้องใช้ระบบ OPOL อีกหรือป่าวครับ (โดยส่วนตัว คิดว่าอยากจะใช้ น้องริวจะได้มีเพื่อนคุย และอยากใ้ห้น้องริวสามารถพูดไ้ด้ก่อนเข้าโรงเรียน)
3) ปัญหาที่เริ่มหนักอกหนักใจ มากขึ้น คือ ผมคาดคะเนว่า ผมและครอบครัวจะยังไม่ได้กลับเมืองไทยเลย ในอีก 10 ปี ครั้งหน้า สถานการณ์จะกลับกลายเป็นว่า น้องริว คล่องภาษาอังกฤษกว่าภาษาไทยรึป่าวครับ
และที่กังวลมากขึ้นไปอีกคือ น้องริว อาจจะไม่ได้เรียนเรื่องประวัติศาสตร์, วัฒนธรรม, อื่นๆ ซึ่งถ้า ในอีก 10 ปีน้องริวกลับมา ตอนนั้นน่าจะ ต้องเข้าโรงเรียน ป.5 (คิดตามเกณฑ์อนุบาล 3 ขวบ) กังวลมากๆ ว่าจะไม่ได้สามารถปรับตัว
เข้ากับระบบการเรียนของเมืองไทยได้ ส่วนตัวก็ไม่อยากให้เรียนโรงเรียนอินเตอร์ต่อที่เมืองไทย อยากให้น้องริวได้คลุกคลีกับสังคมไทยมากกว่า คุณพงษ์มีคำแนะนำอย่างไรบ้างครับ
เอกสิทธิ์ (เอก)
คุณพ่อมือใหม่ ตัวอยู่ไกลถึงอินโดนีเซีย แต่หัวใจอยู่กับน้องริวและภรรยาคุณเก๋ ที่เมืองไทย
Views: 108
Replies to This Discussion
-
Permalink Reply by ผู้ใหญ่บิ๊ก on
-
ขอบคุณครับสำหรับคำติชม
1. ดูคลิปนี้นะครับ http://go2pasa.ning.com/video/2456660:Video:27965
2.-3. เนื่องจากเด็กจะอยู่สภาพแวดล้อมในต่างประเทศเป็นสิบปี ผมมองว่าภาษาที่ต้องเน้นคือภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาแม่ ต้องรักษาให้อยู่ไม่อย่างนั้นลูกจะไม่พูดภาษาไทย ผมแนะนำใ้ห้อ่านบทความนี้ครับ http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:6191
ลองอ่านให้จบซีรีย์ได้จะดีมากเลยครับ
© 2024 Created by ผู้ใหญ่บิ๊ก.
Powered by
