3 อันดับการสอนอังกฤษทั่วไป ที่ไม่ตรงกับแนวคิดการสอนแบบเด็กสองภาษา

Comment

Comment by Supachai on August 21, 2009 at 12:50pm

คิดว่าเจอกับเรื่องที่หนักพอสมควรเพราะผมไม่ได้อยู่กับลูกตลอด จะเจอลูกแค่เสาร์-อาทิตย์ แต่ก็ยังมีความรู้สึกว่าเขารู้เรื่องเวลาผมพูดถึงสิ่งใดๆ เขาน่าจะฟังรู้เรื่องแต่จะพูดได้หรือเปล่าต้องคอยดูต่อไป ก็ต้องพยายามต่อไป สู้ๆนะครับพ่อแม่เด็กสองภาษา

Comment by น้องบริพัตร เอโย่ on August 21, 2009 at 12:21pm

ที่บ้านสอนเอาไว้ว่า ฟิช ..ปลา ทุกครั้งที่เอโย่เห็นปลา จะบอกว่า ฟิชปลา กลายเป็นว่าเป็นคำสองพยางค์ไปเลย
ต้องพยายามใหม่ โดยเฉพาะคำใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ทางแก้ก็คือ คนที่พูดภาษาไทยกับเค้า ไม่ต้องช่วยสอนภาษาอังกฤษ ให้พูดภาษาไทยอย่างเดียวไปเลยดีกว่าค่ะ
แม่น้องเอโย่

Comment by มาม๊า น้อง Beau on August 21, 2009 at 12:04pm

ก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะเพราะตัวดิฉันเองเรียนภาษาอังกฤษแทบตายแต่พูดไม่ได้สักที(เป็น NURSE ) ส่วนคุณป๊าเป็นหมอแต่ก็พูดไม่เก่ง เราจึงมาคิดถึงลูกที่ต้องการให้เด็กเรียนรู้แบบธรรมชาติไม่ต้องมานั่งแปลแล้วค่อยนึกศัพท์แบบรุ่นเรา น้องBeau เลยเริมไปเรียนภาษาตั้งแต่อายุ 9 เดือน แต่เสียดายที่ไม่ได้เริ่มสองภาษาแบบ opal เพราะรู้ช้าไปหน่อย เลยรู้มาแบบขาดๆเกินๆ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะคงไม่แปลกถ้าไม่ใช่ 1 คน 1 ภาษา แต่เราจะทำให้เขาเรียนรู้แบบสลับโมทไปเอง

Comment by Samita Srimachaporm on August 21, 2009 at 10:52am

เห็นด้วยค่ะ เพราะดิฉันก็เริ่มสอนลูกคนแรกแบบธรรมชาติค่ะเริ่มตอนเขาอายุ 3 ขวบ คือจะเริ่มสอนจากสิ่งใกล้ตัวภายในบ้านของเราก่อนตอนนี้ก็อายุ 11 ขวบแล้วสามารถพูดโต้ตอบกับอาจารย์ต่างชาติได้สบายเลยและตอนนี้ก็เริ่มสอนลูกชายคนเล็กอยู่ค่ะ อายุ 2.6 ขวบ เริ่มเรียนเตรียมอนุบาลกับอาจารย์ชาวต่างชาติเป็นการเรียนแบบ Phonic ค่ะ พอกลับมาบ้านคุณแม่ก็จะสอนสอนแบบธรรมชาติตามแบบฉบับของเด็กสองภาษาพ่อแม่สร้างได้ค่ะ

Comment by Jija on August 21, 2009 at 10:26am

เห็นด้วยค่ะ ตัวอย่างที่บ้านนี่ชัดเลยค่ะ น้องกันต์เริ่มภาษาอังกฤษแบบครอบครัวสองภาษาตั้งแต่แปดเดือน ตอนนี้หนึ่งขวบเข้าใจทั้งสองภาษาเท่ากัน ในขณะที่หลานสาวห้าขวบแล้ว ทุกครั้งที่พูดภาษาอังกฤษด้วยเค้าจะกังวลว่าแปลว่าอะไร ถ้าบอกศัพท์ด้วยการชีสิ่งของแล้วพูด เค้าจะแปลทันที ซึ่งทำให้ขัดขวางศักยภาพการเรียนรู้ของเค้ามาก เด็กเมื่อโตจะเริ่มยึดติดกับสิ่งที่เคยเรียนรู้มา อาจจะยากขึ้น แต่เด็กก็ยังเป็นไม้อ่อนอยู่ดีค่ะ พอดัดได้

Comment by Bhoom (and papa) on August 21, 2009 at 10:02am

พ่อแม่รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ถูกจับสร้างชั้นแปลไปแบบเต็มๆ ทำให้ทุกวันนี้เราต้องเหนื่อยกับการคิดก่อนจะใช้ภาษา
ขอบคุณที่คุณบิ๊กที่จุดประกายและให้แนวทางใหม่ๆ จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย (ภาษาไทยเราก็ได้ยินได้พูดก่อนได้เรียน)
แต่ถ้าคุณบิ๊กไม่เอาประสบการ์ณจริงมาแบ่งปัน ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่บ้านเราจะปรับเปลี่ยนวิธีการสอนภาษาที่สองกัน

ตอนนี้แค่หนักใจกับเวลาที่ลูกต้องเข้าโรงเรียน คงต้องคิดให้มาก ไม่งั้นลูกเราก็จะโดนจับให้นั่งท่อง A ant = มด อีกเหมือนเดิม หวังว่าสิ่งที่หมู่บ้านเราเริ่มทำ จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นเตือนผู้รับผิดชอบระบบการศึกษาให้หันมาวางรากฐานเรื่องนี้กันใหม่ซะที

โอมเพี้ยง​!..

//เล็ก-แม่น้องภูมิ

Comment by nattaya bamrungwuth on August 21, 2009 at 9:56am

ในโรงเรียนก็ใช้วิธีที่ตรงกันข้ามกับวิธีสอนของเด็กสองภาษา เมื่อสมัยเราเรียนชั้นประถมมาอย่างไรพอมาถึงลูกชายเรียนก็ยังคงเป็นเช่นนั้น แต่ที่ชอบใจอยู่อย่างหนึ่งก็คือ สมัยที่คุณแม่เรียนหนังสือภาษาอังกฤษเป็นภาษาอังกฤษล้วนมีรูปภาพน้อยมากแต่สมัยนี้หนังสือเรียนภาษาอังกฤษเป็นในรูปข้อความแบบการ์ตูน และมีสีสันสวยงาม ทำให้จูงใจเด็กในการอยากอ่าน อยากเรียนรู้มากขึ้น

Comment by Nong Seya on August 21, 2009 at 9:52am

เห็นด้วยค่ะ กำลังพยายามอยู่เหมือนกันค่ะ ขอบคุณค่ะ

Comment by Beena M. on August 21, 2009 at 9:25am

ขอบคุณมากขะ ที่แนะนำ
ดูแล้วเห็นจริงตามนั้น

Comment by อรดา พงศ์สุธนะ on August 21, 2009 at 9:22am

ขอบคุณมากๆค่ะ คุณบิ๊กผู้สร้างไอเดียของภาษาที่2ด้วยความรู้สึก ไม่ใช่เกิดจากการท่องจำ ถ้าเลือกได้ขอเป็นแบบแนวทางที่คุณบิ๊กกำลังสอนน้องเพ่ย เพ่ยอยู่นะคะ การเรียนรู้แบบธรรมชาติไม่เคยทำร้ายเรา

อย่าปล่อยให้ลูกเรา เป็นแบบเราเลย ผ่านระบบแปลไปตลอด ..

• ‹ Previous
• 1
• 2
• 3
• 4
• 5
• Next ›
• Page